คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ดีมากๆค่ะ ถือว่าเป็นกุศลที่ให้ข้อมูลแก่คนที่ไม่รู้
และจะได้มีสติคิดได้ ก่อนที่จะรูดซื้อ
ดอกเบี้ยมันมาทันที ที่เรารูด
มันเป็นการเอาเงินในอนาคตมาใช้
สำหรับคนที่ไม่มีเงินสด ก็ต้องใช้วิธีนี้มาเพื่อสนองความต้องการ
ให้คนเป็นหนี้ง่ายๆ ดีแล้วล่ะค่ะ ที่คุณ ได้มาแชร์
จะได้ให้คนที่ไม่เข้าใจเรื่องดอกเบี้ย
ได้ คิด และ ไตร่ตรองได้ ว่า ควรจะเป็นหนี้หรือไม่
และจะได้มีสติคิดได้ ก่อนที่จะรูดซื้อ
ดอกเบี้ยมันมาทันที ที่เรารูด
มันเป็นการเอาเงินในอนาคตมาใช้
สำหรับคนที่ไม่มีเงินสด ก็ต้องใช้วิธีนี้มาเพื่อสนองความต้องการ
ให้คนเป็นหนี้ง่ายๆ ดีแล้วล่ะค่ะ ที่คุณ ได้มาแชร์
จะได้ให้คนที่ไม่เข้าใจเรื่องดอกเบี้ย
ได้ คิด และ ไตร่ตรองได้ ว่า ควรจะเป็นหนี้หรือไม่
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 59
ผมทำตารางผ่อนมาให้ดู ผมไม่ได้บอกว่ามันดีหรือไม่ดีนะ ตัดสินใจกันเอาเองครับ
โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ จขกท ให้มานะครับ
1. สมมุติให้กดเงินสดออกมา 10,000 บาท
2. ใช้ดอกเบี้ย 28% ต่อปีในการคิดคำนวณ
3. สมมุติว่าผ่อน 3% เป็นยอดขั้นต่ำ
4. ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพิ่มเติมตามข้อกำหนดนะครับ
สรุป
1. ในงวดแรก จะเห็นได้ว่าจ่ายขั้นต่ำ 300 บาท ต้องเสียค่าธรรมเนียม 230 บาท เข้าเงินต้นไป 70 บาท
2. ในงวดถัดไป ค่าธรรมเนียมจะลดลงเรื่อยๆ กว่าจะผ่อนหมดก็นู้น 65 งวด (5 ปี 5 เดือน)
โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ จขกท ให้มานะครับ
1. สมมุติให้กดเงินสดออกมา 10,000 บาท
2. ใช้ดอกเบี้ย 28% ต่อปีในการคิดคำนวณ
3. สมมุติว่าผ่อน 3% เป็นยอดขั้นต่ำ
4. ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพิ่มเติมตามข้อกำหนดนะครับ
สรุป
1. ในงวดแรก จะเห็นได้ว่าจ่ายขั้นต่ำ 300 บาท ต้องเสียค่าธรรมเนียม 230 บาท เข้าเงินต้นไป 70 บาท
2. ในงวดถัดไป ค่าธรรมเนียมจะลดลงเรื่อยๆ กว่าจะผ่อนหมดก็นู้น 65 งวด (5 ปี 5 เดือน)
ความคิดเห็นที่ 6
บริษัทเคยจัดอบรมบรรยายข้อเสียของการกู้หนี้นอกระบบ การผ่อนชำระบัตรต่างๆ
สอนวิธีคิดดอกเบี้ยให้พนง.ทุกระดับ
คำนวนให้เห็นความต่างระหว่างเก็บเงินก่อนซื้อ vs ผ่อนซื้อ กู้มาซื้อ ว่าคุณจ่ายแพงกว่ากันแค่ไหน
แล้วก็อธิบายให้ฟังตัวต่อตัวกับพนง.ที่กำลังประสบปัญหา
พนง.ตอบกลับมาว่า ก็คุณมีของเหล่านี้ใช้ ระดับคุณอยากได้อะไรก็ไปซื้อได้เลย
แต่ผมไม่มี คุณไม่รู้หรอกว่าความอยากได้แล้วไม่ได้ทันทีเดี๋ยวนั้นมันเป็นอย่างไร
เราก็ไม่รู้จะบอกยังไงต่อค่ะ พยายามให้ความรู้เค้าเท่าที่เราจะให้ได้ หวังว่าจะช่วยอะไรพวกเค้าได้บ้างซักวัน
สอนวิธีคิดดอกเบี้ยให้พนง.ทุกระดับ
คำนวนให้เห็นความต่างระหว่างเก็บเงินก่อนซื้อ vs ผ่อนซื้อ กู้มาซื้อ ว่าคุณจ่ายแพงกว่ากันแค่ไหน
แล้วก็อธิบายให้ฟังตัวต่อตัวกับพนง.ที่กำลังประสบปัญหา
พนง.ตอบกลับมาว่า ก็คุณมีของเหล่านี้ใช้ ระดับคุณอยากได้อะไรก็ไปซื้อได้เลย
แต่ผมไม่มี คุณไม่รู้หรอกว่าความอยากได้แล้วไม่ได้ทันทีเดี๋ยวนั้นมันเป็นอย่างไร
เราก็ไม่รู้จะบอกยังไงต่อค่ะ พยายามให้ความรู้เค้าเท่าที่เราจะให้ได้ หวังว่าจะช่วยอะไรพวกเค้าได้บ้างซักวัน
ความคิดเห็นที่ 11
มันเป็นธุรกิจที่มีกลอุบายอยู่เยอะ อาศัยช่องโห่วทางกฎหมาย
แต่จริงๆ อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ค่าเรียกเก็บ การตัดเงินต้น
ถ้าพอบวกลบคูณหารเลขได้บ้างก็จะรู้ว่า มันแพงมาก
อีกอย่างคนที่เป็นหนี้ประเภทนี้ ไม่หาความรู้ ไม่ใส่ใจ คิดว่าเดือนๆนึงจ่ายได้ ก็ OK แล้ว
ไม่ได้สนใจว่าจะไปตัดต้นเท่าไหร่หรือเป็นหนี้ยาวนานอีกเท่าไหร่
ธุรกิจพวกเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะลูกค้าไม่ค่อยหาความรู้ และไม่มีวินัย
แต่จริงๆ อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ค่าเรียกเก็บ การตัดเงินต้น
ถ้าพอบวกลบคูณหารเลขได้บ้างก็จะรู้ว่า มันแพงมาก
อีกอย่างคนที่เป็นหนี้ประเภทนี้ ไม่หาความรู้ ไม่ใส่ใจ คิดว่าเดือนๆนึงจ่ายได้ ก็ OK แล้ว
ไม่ได้สนใจว่าจะไปตัดต้นเท่าไหร่หรือเป็นหนี้ยาวนานอีกเท่าไหร่
ธุรกิจพวกเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะลูกค้าไม่ค่อยหาความรู้ และไม่มีวินัย
ความคิดเห็นที่ 13
เรื่องที่คุณเล่ามานั้น ไม่ได้เป็นความลับใดๆครับ ไม่ต้องกลัวครับ เพียงแต่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ ไม่เคยศึกษาเงื่อนไขต่างๆให้ดี มันจึงเป็นสิ่งที่พอเจอที่หลัง ก็มาบอกว่าธนาคารโหด เอาเปรียบ ทั้งๆที่เขาไม่ได้บังคับให้มากดเงินออกไปใช้ซักหน่อย
บัตรกดเงินสด คิดดอกเบี้ยโหดสุดแล้วในบรรดาผลิตภัณฑ์บัตร (สูงสุด 28% เทียบกับบัตรเครดิตคิดราวๆ 20% พูดเฉพาะดอกเบี้ย ไม่พูดถึงค่าธรรมเนียมการกดเงิน และภาษีนะครับ) แต่ขณะเดียวกันก็สามารถจ่ายยอดคืนขั้นต่ำต่องวดน้อยมาก (ราวๆ 3 - 5% ของยอดหนี้ที่เหลือ) ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็อาจจะหนุนเงินได้สะดวกกว่าผลิตภัณฑ์อื่นนิดนึง แต่ก็ต้องแลกกับการเป็นหนี้นานขึ้น + เสียดอกเบี้ยโดยรวมให้ธนาคารมากขึ้น และถ้าใช้บัตรกดเงินสด แล้วยังจ่ายขั้นต่ำไม่ไหวต้องจ่ายเป็น "ยอดพิเศษ" อย่างที่คุณบอก อันนั้นก็แน่นอนล่ะครับว่าระยะเวลาการเป็นหนี้ ก็ต้องยืดออกไปอีกนานมากๆๆๆๆๆๆๆ
การกดเงินจากบัตรกดเงินสด หรือบัตรเครดิต ควรจะทำเป็นระยะเวลาสั้น กรณีต้องการเงินสดด่วนเป็นพิเศษและอีกไม่นานก็หาเงินมาจ่ายคืนทั้งหมดได้ ถ้าใช้แบบนี้ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมที่เกิดโดยภาพรวมก็จะไม่เลวร้ายมากนัก แต่หากต้องการชำระเงินคืน เป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ไปขอสินเชื่อส่วนบุคคล/refinance ที่มีระยะเวลาคืนแน่นอน (เช่น 24 - 60 เดือน) ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยไม่ถึง 20% บางที่มีโปรพิเศษ คิดดอกเบี้ยปีแรกไม่ถึง 10% จะเหมาะสมกว่า
บัตรกดเงินสด คิดดอกเบี้ยโหดสุดแล้วในบรรดาผลิตภัณฑ์บัตร (สูงสุด 28% เทียบกับบัตรเครดิตคิดราวๆ 20% พูดเฉพาะดอกเบี้ย ไม่พูดถึงค่าธรรมเนียมการกดเงิน และภาษีนะครับ) แต่ขณะเดียวกันก็สามารถจ่ายยอดคืนขั้นต่ำต่องวดน้อยมาก (ราวๆ 3 - 5% ของยอดหนี้ที่เหลือ) ดังนั้นถ้ามีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็อาจจะหนุนเงินได้สะดวกกว่าผลิตภัณฑ์อื่นนิดนึง แต่ก็ต้องแลกกับการเป็นหนี้นานขึ้น + เสียดอกเบี้ยโดยรวมให้ธนาคารมากขึ้น และถ้าใช้บัตรกดเงินสด แล้วยังจ่ายขั้นต่ำไม่ไหวต้องจ่ายเป็น "ยอดพิเศษ" อย่างที่คุณบอก อันนั้นก็แน่นอนล่ะครับว่าระยะเวลาการเป็นหนี้ ก็ต้องยืดออกไปอีกนานมากๆๆๆๆๆๆๆ
การกดเงินจากบัตรกดเงินสด หรือบัตรเครดิต ควรจะทำเป็นระยะเวลาสั้น กรณีต้องการเงินสดด่วนเป็นพิเศษและอีกไม่นานก็หาเงินมาจ่ายคืนทั้งหมดได้ ถ้าใช้แบบนี้ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมที่เกิดโดยภาพรวมก็จะไม่เลวร้ายมากนัก แต่หากต้องการชำระเงินคืน เป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ไปขอสินเชื่อส่วนบุคคล/refinance ที่มีระยะเวลาคืนแน่นอน (เช่น 24 - 60 เดือน) ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยไม่ถึง 20% บางที่มีโปรพิเศษ คิดดอกเบี้ยปีแรกไม่ถึง 10% จะเหมาะสมกว่า
ความคิดเห็นที่ 5
เราว่ามีทั้งรู้และไม่รู้ ที่รู้ก็รู้ครึ่งๆ กลางๆ คือคิดเอาง่ายๆ ว่าคิดดอกก็คิดไป แต่ผ่อนไปเรื่อยๆ ก็หมด
และคนเหล่านี้ไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้ได้ซื้อได้ผ่อน พอเป็นหนี้หนักๆ เข้า ผ่อนไม่ไหว
ก็ทิ้งไม่ผ่อน ซึ่งมันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
เราสังเกตว่าไม่เกี่ยวกับระดับการศึกษา บางคนจบปริญญาตรี อายุ 30-40 เป็นหัวหน้าคนแล้วก็ยังทำแบบนี้
และคนเหล่านี้ไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้ได้ซื้อได้ผ่อน พอเป็นหนี้หนักๆ เข้า ผ่อนไม่ไหว
ก็ทิ้งไม่ผ่อน ซึ่งมันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
เราสังเกตว่าไม่เกี่ยวกับระดับการศึกษา บางคนจบปริญญาตรี อายุ 30-40 เป็นหัวหน้าคนแล้วก็ยังทำแบบนี้
แสดงความคิดเห็น
เคยทำงานบริษัทบัตรกดเงิน ผ่อนสินค้าชนิดนึง แล้วสงสารลูกค้ามาก อยากแชร์ข้อมูลตามข้อเท็จจริง จะถูกฟ้องได้มั้ย?
เมื่อก่อนเคยสมัครบัตรผ่อนสินค้าของสีม่วงๆ สมัครไว้เผื่อช็อตเงิน แต่ไม่ได้ใช้เอง พี่สาวมาขอยืมไปผ่อนมือถือ วงเงิน15000 หลังจากนั้นก็มีใบแจ้งหนี้ส่งมาให้ ไอเราก็ไม่รู้ข้อมูลใดๆ ว่าดอกเบี้ยยังไง ผ่อนเท่าไหร่ถึงจะหมด ก็จ่ายไปตามใบแจ้งหนี้ ผ่อนเกือบ 2 ปีกว่าจะหมด แปลกใจว่าทำไมผ่อนนานจัง แต่ก้อแค่คิดว่าดอกเบี้ยมันแพง
ผ่านมาได้มาทำงานบริษัทบัตรผ่อนสินค้าคล้ายๆกันของยี่ห้อนึง ทำให้เข้าใจเลย ว่ากลไลมันเป็นยังไง เราจบปริญญาตรี แต่ข้อมูลการผ่อน การคิดดอกเบี้ย การตัดเงินต้นตามเงื่อนไขของบริษัทพวกนี้เราก็ไม่ได้สนใจมากนักและก็ไม่ค่อยเข้าใจ อาจจะมีคนที่ใช้งานพวกบัตรเครติดเข้าใจเงื่อนไขต่างๆเป็นอย่างดี แต่ร้อยละ80%ของลูกค้าที่เราติมตามหนี้มา เรามั่นใจพวกเค้าไม่รู้และไม่เข้าใจอะไรเลย เราตกใจอยู่บ่อยครั้งที่เห็นลูกค้าวงเงิน แค่หลักหมื่น สองหมื่น ผ่อนม3-4 ปี ตัดเงินต้นยังไม่หมด แต่ดอกเบี้ยจะมากกว่าวงเงินที่กดมาใช้สะอีก บางคนวงเงินประมาณ5หมื่น ผ่อนจ่ายมาเกือบ 80งวดยังไม่หมด!!!
บริษัทนี้กำหนดฐานเงินเดือนลูกค้า แค่7000 ก็สามารถเป็นหนี้ได้ ในส่วนของการอนุมัติวงเงินจะได้เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่การเรียกเก็บค่างวด เก็บแค่3%จากเงินต้น เงินต้น10000 ค่างวดจะเรียกเก็บอยูที่300 ตัดดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม เหลือตัดเงินต้น ไม่ถึง100 ต้องจ่ายกี่งวดกว่าจะตัดเงินต้นหมด !! ดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ28%ต่อปี แต่ส่วนใหญ่ก็คิดอยูที่28% จ่ายเกินกำหนด มีค่าติดตาม ลูกค้าส่วนมากที่โทรตามหนี้ คือลูกค้าที่มีปัญหาเรื่องยอดชำระ ทางบริษัทจะให้นำเสนอยอดช่วยเหลือแต่ถ้าจะเรียกให้ถูก มันคือดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมนั่นเอง ถ้าจ่ายยอดนี้ก็คือไม่ตัดเงินต้น ซึ่งตรงนี้เรามองว่ามันเป็นผลเสียมากๆ
มีลูกค้าเยอะมากที่ไม่รู้ข้อมูลพวกนี้ จ่ายแค่ขั้นต่ำ 3% ตามใบแจ้งหนี้เรียกเก็บ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะจ่ายแล้วตัดเงินต้นหมด นั่นหมายถึงจะต้องเสียดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม ในระยะเวลาที่นานหลายงวดเช่นเดียวกัน แล้วลูกค้าหลายๆคนก็ไม่รู้ว่ายอดพิเศษที่นำเสนอนั้นตัดเงินต้นไม่ถึง100 หรือแทบไม่ตัดเลย บางคนจ่ายยอดพิเศษนี้เกือบทุกเดือน เสียค่าติดตามเกือบทุกเดือน หนี้บายปลาย จ่ายเท่าไหร่ก็ไม่หมด>< หนี้แค่4-5หมื่น ผ่อน7-8ปี !! เห็นแล้วสงสาร อยากแชร์ให้คนที่ไม่รู้ ได้รู้บ้าง จะได้บริหารการใช้หนี้ของตนเองถูก
นี่เราเล่ามาสะเยอะเลย กะแค่ว่าจะถามว่าเราสามารถแชร์ได้มั้ย แต่อดใจไม่ไหว จะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยอ่า ><" แอบหวั่น
นี่เป็นกระทู้แรกของเรา รีบพิมพ์ เนตช้า พิมพ์ในไอแพดไม่ค่อยสะใจ เนื้อหาอาจจะไม่ค่อยละเอียด ยังไงต้องขออภัยด้วย หากสงสัยหรือว่ามีคนสนใจแล้วเราสามารถแชร์ได้โดยไม่ผิดอะไร จะมาเรียบเรียงใหม่นะ ☺️ สมัครพันทิปเพราะเรื่องนี้เลย เราคิดว่ามันมีประโยชน์ต่อคนที่ไม่รุ้มากๆ ฝากเพื่อนๆด้วยน้า🙏