โตแล้ว จะรีวิวยังไงก็ได้ 09 | The Lego Movie | วัยเด็กที่ถูกประกอบขึ้นจากตัวต่อของเล่น

PAGE | โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้ | www.facebook.com/tohlaew

โตแล้ว จะรีวิวยังไงก็ได้ 09

The Lego Movie | วัยเด็กที่ถูกประกอบขึ้นจากตัวต่อของเล่น




พล็อตเรื่องเชยๆ บวกกับหน้าหนังที่ไม่ดึงดูดความสนใจเลยแม้แต่น้อย อาจทำให้เราๆท่านๆส่ายหัว และดูถูก The Lego Movie ว่าเป็นหนังเกรดบีตั้งแต่แรกรู้จัก

ที่ไหนได้, นี่คือหนังตลกร้ายที่-ดันประเด็นทางการเมืองได้อย่างเจ็บแสบ ตีแผ่แนวคิดในเชิงเสรีนิยม และยังเป็นหนังที่ทำให้เราหวนย้อนคิดถึงตัวต่อของเล่นที่เราเคยนั่งต่อสร้างนู่นสร้างนี่ -ทำให้เราคิดถึงวัยเด็กของเราเอง

THE LEGO MOVIE เล่าเรื่องราวของ เอ็มเมต (คริส แพตต์) ช่างก่อสร้างผู้มีวิถีชีวิตที่แสนธรรมดา ทุกๆวันเขาจะตื่นเช้าขึ้นมาทำกิจวัตรซ้ำๆเดิมๆตามคู่มือการดำเนินชีวิต แต่แล้ววันหนึ่ง เอ็มเมตดันถูกเข้าใจผิดว่าเป็นบุคคลที่จะช่วยยับยั้งแผนการร้ายของ ลอร์ดบิสสิเนส (วิลล์ เฟอร์เรลล์) ได้ เขาจึงต้องร่วมผจญภัยไปกับ ไวด์สไตล์ (อลิซาเบธ แบงค์) ฮีโร่สาวสุดเท่, วิทรูเวียส (มอร์แกน ฟรีแมน) พ่อมดชราที่ก้าวเข้ามาเพื่อทำนายชีวิตของเอ็มเมต, แบทแมน (วิลล์ อาร์เน็ตต์) ซุปเปอร์ฮีโร่มาดขรึม เพื่อกอบกู้โลกเลโก้จากวายร้ายผู้มีกาวเป็นอาวุธ

โลกของเลโก้ซึ่งถูกปกครองโดยลอร์ดบิซิเนส เป็นรูปแบบการปกครองที่เรียกว่า เผด็จการอำนาจนิยม คือ การปกครองแบบเผด็จการที่ยึดหลักว่า อำนาจทั้งหลายในรัฐจะต้องรวมอยู่ในมือของคนกลุ่มน้อยหรือคนกลุ่มเดียวซึ่งมีอำนาจ – ในที่นี้คือลอร์ดบิซิเนส - โดยประชาชนจะต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจอย่างไม่มีข้อสงสัย ที่สำคัญคือห้ามคิดต่อต้าน

ในการปกครองรูปแบบนี้ จะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ‘เครื่องมือทางการเมือง’ – เครื่องมือที่ว่าก็เช่น สิทธิในการใช้ความรุนแรง (ผ่านตัวตำรวจ) , การใช้สื่อในเชิงล้างสมองให้คนคิดและเชื่อไปในทางเดียวกัน (รายการโทรทัศน์, เพลง Everything is Awesome) รวมไปถึงการออกกฎให้ทุกคนต้องทำงาน ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด

นั่นจึงทำให้ประชาชนไม่สามารถคิดและสร้างสิ่งที่นอกเหนือไปจากคำสั่งและหน้าที่ได้เลย – สะท้อนผ่านเอ็มเมต ซึ่งไม่มีความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ไม่สามารถสร้างสิ่งของเองใดตามใจนึกคิด (แตกต่างจากพวกมาสเตอร์บิลเดอร์ ซึ่งอยู่นอกเหนือการปกครองของรัฐเผด็จการ)

เอ็มเมต, จะว่าไปแล้วก็มีสถานะที่คล้ายคลึงกับตัวละครนำในเรื่อง The Hunger Games อย่างแคนนิส เอเวอร์ดีน มิใช่น้อย – คือการที่ประชาชนที่ไม่ยอมรับการปกครองที่กดขี่ข่มเหงโดยรัฐจะรวมตัวกันต่อต้าน จำเป็นต้องมีผู้นำ และผู้นำต้องเป็นคนที่พิเศษ หรือทุกคนเห็นว่าพิเศษ และเอ็มเมตคือคนๆนั้น หากจะบอกว่า เขาคือม็อคกิ้งเจย์ของชาวเลโก้ก็คงจะไม่ผิดนัก

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ถูกถ่ายทอดผ่านตัวต่อของเล่นจริงๆนะครับ (ฮ่าๆๆ) จะเห็นได้ว่า มันไปไกลมากๆ ไปไกลกว่าการ์ตูนแอนนิเมชั่นทั่วไปในท้องตลาดชนิดไม่เห็นฝุ่น – ที่สำคัญคือโคตรจะตลก แถมฉากแอ็คชั่น และเทคนิคพิเศษก็สุดตระการตา จึงทำให้แม้ว่าหนังจะตั้งใจแฝงประเด็นหนักๆซีเรียสๆ เรากลับไม่รู้สึกว่ามันหนักเกินจะเสพหรือยากเกินที่จะเข้าใจมัน

ไม่น่าเชื่อว่าตัวต่อของเล่นที่เราคุ้นเคยจะสร้างสรรค์อะไรแบบนี้ได้ – เชื่อว่าหลายคนสงสัยเช่นนี้

เราอาจจะลืมนึกไปว่า ในขณะที่วันเวลาพาเราให้เติบโตและเข้าใจโลกมากขึ้น ตัวเรามีความเป็นเด็กน้อยลง มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น, เลโก้ก็อาจจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน วันเวลาก็พาให้ตัวต่อของเล่นเติบโตขึ้นเช่นกัน

แต่ก็ใช่ว่าเราจะหยิบมันมาต่อเล่นไม่ได้

The Lego Movie ทำให้เราเห็นว่า ขนาดเรื่องการเมืองซีเรียสๆยังสามารถสะท้อนผ่านตัวต่อของเล่นของเด็กๆได้เลย ฉะนั้นแล้วไม่ว่าเราจะพยายามวิ่งหนีจากความเป็นเด็กให้ไกลแค่ไหน สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นอยู่ดี

ไม่ว่าจะเราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นสักเท่าไหร่ สุดท้ายแล้ววัยเด็กก็ยังอยู่กับเราเสมอ

อยู่ในตัวเรานี่แหละ



PAGE | โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้ | www.facebook.com/tohlaew

ยิ้มยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่