TOP 10 MOVIES OF 2014 BY PAGE | โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้
10.The Lunchbox
-หลายๆคนที่ดูคงจะรู้สึกเหมือนๆกันคือ หิว (เพราะหนังถ่ายทอดภาพอาหารอินเดียได้น่ากินมาก) แต่แปลกที่หลังจากดูจบ เรากลับรู้สึกอิ่มขึ้นมาซะงั้น / ไม่ได้อิ่มท้อง แต่อิ่มความรู้สึกดีๆ
9.The Wind Rises
-แอนนิเมชั่นจาก Studio Ghibli ที่เล่าเรื่องราวของความฝัน ความหวัง ความรัก ท่ามกลางฉากหลังคือประเทศญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 / ในอีกแง่หนึ่ง มันก็ได้สะท้อนชีวิตของฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้กำกับ ที่ใช้หนังเรื่องนี้-ซึ่งเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของตน ในการบอกต่อให้คนรุ่นหลัง ว่าอย่าย่อท้อต่ออุปสรรคดั่งเช่นเครื่องบินที่ไม่เคยหวั่นเกรงต่อแรงลม
8.Enemy
-ฉากจบ... (ขอไม่พูดอะไรมาก)
7.Whiplash
-หลังจากหนังจบ (หมายถึงหนังทั่วๆไป) สิ่งที่คนเรามักจะจดจำได้จากการดูหนังเรื่องนั้นๆ อาจจะเป็นภาพ ตัวละคร หรือความรู้สึก / แต่สำหรับ Whiplash เรากลับสามารถจดจำ 'เสียง' ได้แม่นยำมากกว่า / ในที่นี้ผมหมายถึงเสียงกลองและเสียงด่าตะคอกของครูเฟลทเชอร์
6.Under the Skin
-นอกจากทรวดทรงองค์เอวของแม่สาวสกาเล็ตแล้ว ความดีงามของหนังคือมันถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ ผ่านตัวมนุษย์ต่างดาวได้อย่างแยบยล และชวนให้คิดต่อ
5.The Grand Budapest Hotel
-เวส แอนเดอร์สัน(ผู้กำกับ) พาเราเข้าไปผจญภัยในโลกแฟนตาซีที่เขาสร้างขึ้น, โลกแฟนตาซีที่ยัดทุกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเอาไว้ / น่าทึ่งที่โลกใบนี้ถูกจำลองให้มีขนาดเล็กได้เทียบเท่าโรงแรมหรูแห่งหนึ่งเท่านั้น
4.Gone Girl
-ครึ่งแรกคือหนังสืบสวน ครึ่งหลังคือหนังที่ว่ากันด้วยเรื่องตัวตน สื่อ ตีแผ่ความล้มเหลวของชีวิตคู่ในปัจจุบัน(ของสังคมตะวันตก) / ดูแล้วคุณผู้ชายอาจต้องระวังคุณผู้หญิงข้างกายของคุณให้ดีๆนะครับ อย่าทำให้เธอโกรธ !
3.The Lego Movie
-ใครจะไปเชื่อว่าตัวต่อของเล่นที่เราโตมากับมัน จะสามารถเอามาทำเป็นหนังที่สะท้อนสังคมภายใต้ระบอบเผด็จการ, อำนาจของสื่อ, อำนาจของชนชั้นปกครอง และพลังของชนชั้นใต้การปกครอง ได้อย่างเจ็บแสบ -ดัน และที่สำคัญคือโคตรจะตลก
2.Her
-หนังประจำชาติชาวเหงาเรื่องใหม่ (เคียงคู่ Lost in Translation) / ถ่ายทอดมุมมองความรักที่เจ็บปวดได้ไม่ฟูมฟาย กลับลึกซึ้งและอบอุ่น / สะท้อนสังคมที่คนเราเลือกที่จะมีตัวตนอยู่แค่ในโลกเสมือนจริง ส่วนในโลกแห่งความจริง สถานะการมีตัวตนอยู่ของเรากลับไม่ต่างจากภาพมายา
1.Boyhood
-น่าแปลกที่ว่าภาพยนตร์ที่สร้างความประทับใจให้กับเรามากที่สุด กลับเป็นภาพยนตร์ที่ให้ความรู้สึกว่า มันมีความเป็นภาพยนตร์น้อยที่สุด / และคำว่า Boyhood อาจจะไม่เหมาะสมกับเนื้อความของหนังเท่ากับคำว่า Lifehood เพราะนี่มันคือชีวิตจริงชัดๆ / โคตรจะอิน
อยากพูดคุยเรื่องหนัง หรือจะอ่านบทความ ข่าวสาร รีวิวหนังใหม่หนังเก่า เข้ามากดไลค์และติดตามได้ที่
PAGE |
โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้
www.facebook.com/tohlaew
ขอบคุณครับ
----- TOP 10 MOVIES OF 2014 ของเพจ โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้ -----
10.The Lunchbox
-หลายๆคนที่ดูคงจะรู้สึกเหมือนๆกันคือ หิว (เพราะหนังถ่ายทอดภาพอาหารอินเดียได้น่ากินมาก) แต่แปลกที่หลังจากดูจบ เรากลับรู้สึกอิ่มขึ้นมาซะงั้น / ไม่ได้อิ่มท้อง แต่อิ่มความรู้สึกดีๆ
9.The Wind Rises
-แอนนิเมชั่นจาก Studio Ghibli ที่เล่าเรื่องราวของความฝัน ความหวัง ความรัก ท่ามกลางฉากหลังคือประเทศญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 / ในอีกแง่หนึ่ง มันก็ได้สะท้อนชีวิตของฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้กำกับ ที่ใช้หนังเรื่องนี้-ซึ่งเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของตน ในการบอกต่อให้คนรุ่นหลัง ว่าอย่าย่อท้อต่ออุปสรรคดั่งเช่นเครื่องบินที่ไม่เคยหวั่นเกรงต่อแรงลม
8.Enemy
-ฉากจบ... (ขอไม่พูดอะไรมาก)
7.Whiplash
-หลังจากหนังจบ (หมายถึงหนังทั่วๆไป) สิ่งที่คนเรามักจะจดจำได้จากการดูหนังเรื่องนั้นๆ อาจจะเป็นภาพ ตัวละคร หรือความรู้สึก / แต่สำหรับ Whiplash เรากลับสามารถจดจำ 'เสียง' ได้แม่นยำมากกว่า / ในที่นี้ผมหมายถึงเสียงกลองและเสียงด่าตะคอกของครูเฟลทเชอร์
6.Under the Skin
-นอกจากทรวดทรงองค์เอวของแม่สาวสกาเล็ตแล้ว ความดีงามของหนังคือมันถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ ผ่านตัวมนุษย์ต่างดาวได้อย่างแยบยล และชวนให้คิดต่อ
5.The Grand Budapest Hotel
-เวส แอนเดอร์สัน(ผู้กำกับ) พาเราเข้าไปผจญภัยในโลกแฟนตาซีที่เขาสร้างขึ้น, โลกแฟนตาซีที่ยัดทุกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเอาไว้ / น่าทึ่งที่โลกใบนี้ถูกจำลองให้มีขนาดเล็กได้เทียบเท่าโรงแรมหรูแห่งหนึ่งเท่านั้น
4.Gone Girl
-ครึ่งแรกคือหนังสืบสวน ครึ่งหลังคือหนังที่ว่ากันด้วยเรื่องตัวตน สื่อ ตีแผ่ความล้มเหลวของชีวิตคู่ในปัจจุบัน(ของสังคมตะวันตก) / ดูแล้วคุณผู้ชายอาจต้องระวังคุณผู้หญิงข้างกายของคุณให้ดีๆนะครับ อย่าทำให้เธอโกรธ !
3.The Lego Movie
-ใครจะไปเชื่อว่าตัวต่อของเล่นที่เราโตมากับมัน จะสามารถเอามาทำเป็นหนังที่สะท้อนสังคมภายใต้ระบอบเผด็จการ, อำนาจของสื่อ, อำนาจของชนชั้นปกครอง และพลังของชนชั้นใต้การปกครอง ได้อย่างเจ็บแสบ -ดัน และที่สำคัญคือโคตรจะตลก
2.Her
-หนังประจำชาติชาวเหงาเรื่องใหม่ (เคียงคู่ Lost in Translation) / ถ่ายทอดมุมมองความรักที่เจ็บปวดได้ไม่ฟูมฟาย กลับลึกซึ้งและอบอุ่น / สะท้อนสังคมที่คนเราเลือกที่จะมีตัวตนอยู่แค่ในโลกเสมือนจริง ส่วนในโลกแห่งความจริง สถานะการมีตัวตนอยู่ของเรากลับไม่ต่างจากภาพมายา
1.Boyhood
-น่าแปลกที่ว่าภาพยนตร์ที่สร้างความประทับใจให้กับเรามากที่สุด กลับเป็นภาพยนตร์ที่ให้ความรู้สึกว่า มันมีความเป็นภาพยนตร์น้อยที่สุด / และคำว่า Boyhood อาจจะไม่เหมาะสมกับเนื้อความของหนังเท่ากับคำว่า Lifehood เพราะนี่มันคือชีวิตจริงชัดๆ / โคตรจะอิน
อยากพูดคุยเรื่องหนัง หรือจะอ่านบทความ ข่าวสาร รีวิวหนังใหม่หนังเก่า เข้ามากดไลค์และติดตามได้ที่
PAGE | โตแล้ว จะดูหนังเรื่องอะไรก็ได้
www.facebook.com/tohlaew
ขอบคุณครับ