เรื่องอาจจะยาวไปหน่อยนะคะ

ข้างบ้านเราเป็นร้านอาหารค่ะ เจ้าของร้านแกเป็นผู้หญิงอายุสัก 50  กว่าๆ แล้วค่ะ แกมีเชื้อสายจีน เรากับพ่อเลยชอบเรียกแกว่า 'อาซิ้ม' แกเปิดร้านอาหารหน้าบ้าน และบ้านของแกแยกไปปลูกด้านหลังร้านอาหารค่ะ

ความจริงแล้วแกเป็นคนดีนะคะ ช่วงเทศกาลก็จะมีของฝากให้ตลอด แต่ติดอยู่ปัญหานิดๆ หน่อยๆ ที่เราอยากจะมาปรึกษาทุกคนน่ะค่ะ เริ่มเลยนะคะ

บ้านเราเลี้ยงน้องแมวไทย 1 ตัว น้องหมา 1 ตัว น้องแมวเนี่ยอายุได้ 4 เดือนอยู่เลยค่ะ ส่วนน้องหมาเป็นพันธุ์ใหญ่ อยู่กับเรามา 7-8 ปีแล้ว (แก่ละ)

อาซิ้มแกขายข้าวขาหมูค่ะ แล้วแกจะชอบเอาเศษกระดูกของขาหมูมาเทข้ามรั้วให้น้องหมาเรากินประจำ เราจะชอบปล่อยหมาตอนเช้ากับตอนเย็นค่ะให้มันวิ่งเล่นไปอึไปฉี่ ทุกๆ เช้าอาซิ้มแกก็จะเริ่มปฏิบัติการเทกระดูกให้หมาเรา ทั้งน้ำขาหมู เนื้อขาหมูนี่เต็มข้างรั้วค่ะ แรกๆ เราไม่ซีเรียสค่ะ เราเก็บเศษกระดูกตลอด เพราะเราเข้าใจว่าแกเป็นคนใจดีรักสัตว์อะไรเทือกนี้ (บ้านแกก็เลี้ยงแมวค่ะ แกชอบคุยมุ้งมิ้งกับแมวประจำ)

จนวันหนึ่งน้องหมาเราโดนรถชน ม้ามแตก ตอนนั้นผ่าตัดครั้งใหญ่เสียเงินเป็นหมื่นเลยค่ะ พอน้องหายดีเราก็เอากลับบ้านมา อาซิ้มก็ยังคงเทกระดูกให้เป็นกิจวัตร แต่หมาเราเริ่มมีอาการไม่ดี อ้วก ท้องผูก (อึไม่ออก) แถมยังเป็นเกี่ยวกับโรคผิวหนัง เราไปปรึกษาหมอ หมอแกก็บอกว่าควรให้งดทานอาหารที่ผสมน้ำแกง ปรุงรส กระดูก อาหารหมาก็ห้ามกิน ให้กินได้เฉพาะหมูต้มน้ำเปล่าๆ ถ้ากินที่ปรุงรสก็จะคัน ถ้ากินกระดูกก็จะไม่ย่อยทำให้อ้วกได้

พ่อเราเลยจัดการไปบอกอาซิ้มให้ช่วยงดเอากระดูกให้หมา เพราะขาหมูมันก็ปรุงรสทำให้หมาเราป่วยอีก แกก็โอเคไม่ให้ได้ประมาณสองสามวัน เราก็กลับมาได้ยินเสียงเทกระดูกลงข้างรั้วอีกครั้ง แถมมีการบอกเราด้วยว่า " ถ้ามันกินเสร็จแล้วอย่าลืมเก็บกระดูกนะหนู เดี๋ยวพ่อด่า " แน่ะ!!! แล้วซิ้มจะให้เพื่ออออออ???

นี่เราไม่ได้เตือนรอบเดียวนะคะ หลายรอบด้วย บางทีเราไม่เก็บกระดูก แกก็ให้ลูกจ้างแกปีนมาเก็บให้ (คือดี)

ไม่ใช่แค่น้องหมาค่ะ แมวอีก5555555 เราเลี้ยงแมวระแบบเปิด (ปิดไม่ได้นางมุดออกได้ทุกที่ จนทุกวันนี้ไม่รู้จะปิดรูไหน) แมวเราชอบไปแวะเวียนบ้านอาซิ้มเพราะมีแมวด้วยกันอยู่ด้วย อาซิ้มแกจะซื้อปลาทูมาให้แมวเรากับแมวซิ้มกินทุกวัน วันละตัว (ใจดีจัง) เราก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่า เอออ คงจะเอาไปทอดเอาไปนึ่งเสร็จละค่อยให้แมว

จนเรามาเห็นแกให้ปลาทูแมวเราวันก่อน แกแกะห่อมาวางปลาทูแหมะลงตรงหน้าแมวเรา แม่เจ้าาาา ไม่ผ่านกระบวนการอะไรเลยหรือ? และวันหนึ่งแมวเราก็ป่วยจนได้ เอาไปหาหมอ หมอแกก็บอกว่าเพราะกินของดิบหรือปลา ก้างมันเลยทิ่มลำไส้ อาหารไม่ย่อย เอาสิเฮ้ยย หน้าซิ้มลอยมา พอกลับบ้านมาพ่อเราก็จัดการบอกซิ้มแกอีกครั้ง ซิ้มแกก็แสดงความสงสารแมวเรา แต่เราก็ยังคงเห็นแกหย่อนปลาทูให้แมวเราอีกตามเคย

อีกเรื่องคือเรื่องระบบกำจัดน้ำเสีย อาหารเสียของร้านซิ้มแก ข้างร้านแกจะมีร่องน้ำระบายเวลาแกล้างจาน แต่มันขังอยู่ทำให้มันส่งกลิ่นเหม็นๆ มา และบางทีมันชอบซึมไหลเข้ามาบ้านเรา ซึ่งพ่อเราก็เคยบอกซิ้มแก แกก็บอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ ก็เหมือนเดิม บางทีเราเดินไปเก็บผ้าที่ตากไว้ข้างรั้ว เราเจอคราบผักชี คราบน้ำจิ้มติดตามเสื้อผ้า เฮ้ยยยยย (อันนี้เราไม่รู้ว่าซิ้มหรือลูกจ้างเป็นคนสาดเข้ามา แต่มันมีบ่อยมากกกก) เราเลยต้องย้ายที่ตากผ้าไปเลย

เรื่องเสียงด้วยค่ะ แกเป็นคนเสียงดัง เวลาด่าลูกจ้างนี่โหยยยยยย กลัวแทนลูกจ้างเลยค่ะ เสียงดังด่าพ่องประมาณนี้เลย แถมยังชอบเปิดทีวีดัง คือเราว่าบ้านเรากำแพงไม่ได้บางนะ แต่เสียงทีวีสามารถเล็ดลอดเข้ามา บางวันมีคาราโอเกะเดี่ยวในบ้านด้วยนะคะ สเตอราวแปดบ้านเลยค่ะ บุหรี่ด้วยค่ะ แกชอบดูดบุหรี่ข้างรั้ว บางทีก้นบุหรี่ปลิวมาด้วยนะเออ (บางทีนะคะบางที)

เราควรทำยังไงดีคะกับกรณีนี้ เรื่องน้องแมวเราพอแก้ได้ เพราะตอนนี้เราเลี้ยงระบบปิดแล้วไม่ให้ออกแรดไปหาผู้แล้ว แต่เรื่องน้องหมานี่เราไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ต้องปล่อยให้มันวิ่งเล่นบ้างเพราะมันเป็นพันธุ์ใหญ่ อยู่แต่ในกรงก็เครียดตาย (เคยยืนเฝ้าน้องหมาวิ่งเล่นด้วยค่ะ แต่ซิ้มแกก็ยังคงเทกระดูกเหมือนเดิมเหมือนเราไม่ได้อยู่ตรงนั้น) บางทีน้ำขาหมูที่มากับกระดูกจะส่งปัญหาให้มีแมลงหวี่แมลงวันบินว่อน แถมยังมีกลิ่นหน่อยๆ ด้วยเฮ้อออ

ถ้าถามว่าทำไมเราไม่ไปพูด? เราเด็กกว่าน่ะค่ะ ขนาดพ่อเราไปพูดแกยังไม่ฟังเลย
ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ