เป็นกระทู้รีวิว ที่สาม ของ จขกท เอง ทีเเรกก็เห็นว่า โห เลยฤดูฝนมาหลายเดือนเเล้ว จนเข้าฤดูหนาวอันเเสนหนาว(น้อย) กะว่าจะตั้งกระทู้รีวิวใกล้ๆช่วงฤดูฝน เพื่อเป็นกระทู้ดึงดูด นักเที่ยวเเบบลุยๆๆ เหนื่อยๆ ซะหน่อย เเต่อดใจไม่ไหว เนื่องจากช่วงนี้ 55555 ด้วยสภาพอากาสที่พายุเข้าช่วงนี้ ทำให้ฝนตกหลายภาคของประเทศ ทุกท่านคนเเปลกใจไม่ต่างจาก จขกท เอง เฮ้ย นี่มันหน้าหนาวนะ มกราคม ย้ำกับตัวเองว่า มกราจริงๆ ไหนฝนตกมาสองสามวันเเล้วซะงั้น งั้นบรรยากาศชุ่มฉ่ำก็มาละ ตั้งกระทู้เลยละกัน "ปิ๊ตุ๊โกร" ชื่อที่หลายๆคนคงคุ้น หรือสงสัย มันคือชื่อของอะไร ต้องบอกว่ามันคือชื่อของน้ำตกรูปหัวใจ ที่ตั้งอยู่บนดอยสามหมื่น ซึ่งสันเขาด้านบนน้ำตกคือเส้นเเบ่งชายเเดนไทย-พม่านั่นเอง น้ำตกปิ๊ตุ๊โกรมีสองชื่อครับ หลายคนคงคุ้นกับอีกชื่อนึงคือ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู ครับ กระทู้นี่ จะรีวิวคร่าวๆถึงการเดินทาง ของเหล่าเพื่อนๆเเละน้องๆ ซึ่งเรียนที่มหาลัยของรัฐเเห่งหนึ่งย่านบางเขน เมื่อเรียนจบ เเล้วบ้างก็เรียนต่อ บ้างก็ทำงาน จนหาเวลาว่างตรงกันเเละชวนๆกันมา จากหนึ่งเป็นสองสามสี่ห้า จนถึงสิบคน ส่วนจขกท เองนั้นทำงานอยู่ดินเเดนอุ้มผาง อันเเสนห่างไกล อยู่เเล้วครับ เลยมีหน้าที่ หารีวิว เเจ่มๆภาพสวยๆ โพสเเละเเชร์ อย่างสม่ำเสมอเพื่อ ยั่ว เเละล่อตาล่อใจให้เพื่อนๆมาเที่ยวหา 555พูดง่ายๆคือหลอกให้เพื่อนมาเยี่ยมนั่นเอง ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นภาพของน้องไก่ ซึ่งถอยกล้องมาใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ ฮ่าๆๆ
การเที่ยวน้ำตกครั้งนี้ ทุกคนต่างเล็งหาเวลาที่มีวันหยุดยาว การท่องเที่ยวในหน้าฝนนั้นไม่เป็นที่นิยมนัก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการ มาเที่ยวน้ำตกปิ๊ตุ๊โกรนั้น หน้าฝนเท่านั้นถึงจะมีน้ำตกให้เห็น เมื่อรวมเเก๊งนัดหมายกันได้เเล้วนั้น เหล่าบรรดาเดอะเเก๊ง ก็พากันจองรถทัวว์จาก กทม มาลง สถานีเเม่สอด ดินเเดนเเห่ง AEC ฮ่าๆๆ ประชากรบนรถร้อยละเก้าสิบในเเต่ละคันจะเป็นเเรงงานพม่าซะส่วนใหญ่ ซึ่ง เเก๊งนี้เลือกมาช่วงวันเเม่ ฮ่าๆๆ หนีเเม่เที่ยวซะงั้น เเนะนำตัว สมาชิกเเก๊งคร่าวๆ เสื้อสีเหลือง คือน้องกุ้ง หนุ่มปอโท ผู้ซึ่งกำลังทำวิทยานิพนธ์เรื่องปรับปรุงพันธุ์มันสัมปะหลัง อาการไม่ค่อยปกติ ฮ่าๆๆ คนต่อมา เจ๊ฝ้าย เมื่อก่อนเพื่อนๆจะเรียกเจ๊ฝ้าย ปตท เพราะเธอเคยทำงานทีปตท แต่ตอนนี้ เปลี่ยนมาอยู่ที่ใหม่เเล้ว แต่หัวใจยังรักการท่องเที่ยวเสมอ คนต่อมาโพสท่าไม่น้อยไปหน้ากัน เจ๊แอ้ม ปอโท สิ่งเเวดล้อม เรียนไปหนีเเม่เที่ยวไปฮ่าๆ คนต่อมาเจ๊เฟิร์น ผู้จัดการทริป เรียนโทอยู่อีกเช่นกัน คนต่อมา สาวที่สูงที่สุด ในเเก๊ง นามว่าช่า พึ่งจบโท มาจากออสเตรีย เเละโดนหลอกให้มาร่วมทริป55555 ท่านสุภาพบุรุต่อมา จขกท ขอเรียกว่าไอ้ห้อย ตามลักษณะทางกายภาพ ส่วนคนเตี้ยสุดคือน้องเเซม สุดหล่อประจำทริป ส่วนคนสุดท้ายในภาพ ชายที่หน้าตาละม้ายคล้ายฝรั่งเเละมีความสูงที่สุดในทริป ชื่อไซม่อน กำลังเรียนโทอยู่ที่เดียวกัน กับคนอื่นๆ ในรุปนี้ขาดสองคน คือน้องไก่ ตากล้องประจำทริป และน้องอ้อม สาวสวยประจำเเก๊ง ทั้งหมดสิบคนเลือกที่จะ เหมารถ โดยสารจากแม่สอด มาอุ้มผาง เพราะว่าได้ยินกิตติศัพย์ ของการบรรทุกผู้โดยสารของรถสองเเถวเเละ เส้นทางอันทรหดโหดร้าย 1,219 โค้ง ในระยะทาง 164 กิโลเมตรนั้น ทำให้หลายคนถอดใจ เลยก็มี
เมื่อมาถึงอุ้มผาง ก็เช็คว่าทุกคนยังครบ สามสิบสองประการ จขกท ก็ดีจัย พร้อมนำรถมารับ ทั้งเเก๊ง ไปทานอาหารเที่ยง ซึ่งเตรียมเมนูขึ้นชื่อของร้านไว้ต้อนรับเพื่อนๆ แล้ว
มาถึงเเล้ว ขอเเนะนำร้านครัวป้านีครับ ใครมาอุ้มผางเชิญได้ อาหารราคาไม่เเพง เนื่องจากวันนี้ เจ้าถิ่นเป็นเจ้ามือเพื่อไม่ให้เกินกำลังทรัพย์อันมีน้อยนิดเลยจัดเลี้ยงเเขกผู้มาเยือน จาก กทม ด้วยเมนู ผัดไทยลอยฟ้า55555ผัดไทยห่อไข่นั่นเองครับ ร้านนี้ถือว่าทำผัดไทยได้อร่อยมาก ให้เยอะเเละจัดจานได้สวยงามในราคา35 บาท ด้วยเวลาบ่ายโมงกว่าเเล้ว คงทำให้ทุกคนหิวมาก พอผัดไทยมาถึงตรงหน้าทุกคนก็จัดการกันอย่างเต็มที่ไม่มีใครยอมใครเลย
เมื่อทุกคนอิ่มหนำสำราญกันเเล้ว ก็ใส่เสื้อกันฝนพร้อมออกเดินทาง ไปสู่ที่พักคืนเเรก เราเเวะที่ตลาดเพื่อซื้อเสบียงไปหุงหาประกอบอาหารกันในตอนเย็น ซึ่งทั้งเเก๊งนี้จะนอนพักกันที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ที่ตั้งของน้ำตกทีลอซูนั่นเอง เมื่อมาถึงบ้านพักทุกคนก็จัดเเจงกระเป๋าเเละหาที่พักผ่อนกายา เมื่อถึงเวลา ก็มาช่วยกันเตรียมอาหารเย็น เเละเตรียมเสบียงในวันพรุ่งนี้เช้า
เจ๊ฝ้าย ลีลานางไม่เเพ้ เเม่ค้าเขียงหมุเลย หั่นไปหั่นมา นางก็ร้องอุทาน วิ่งไปหลบอยู่หลังเพื่อน เนื่องจากหมู่ที่หั่นเป็นหมูสามชั้น เเล้วพึ่ง
ชำเเหละมาสดๆ หั่นไปหั่นมา หนังหมูนั้นมี นมหมูติดมาด้วย กลัวเฉยเลยไม่ยอมหั่นต่อ 555555
พ่อครัวเเม่ครัวจำเป็น ขยันขันเเข็งในการทำกับข้าวมื้อเย็นกันอย่างมาก ด้วยจำนวนคนที่เยอะปริมาณกับข้าวจึงเยอะตามไปด้วย
ดูจากภาพเเล้วรู้สึกถึงความอร่อยของอาหาร มาป่าทั้งทีก็พากินกันเเบบง่ายๆด้วยหน่อไม้ต้ม ยำวุ้นเส้น ผัดผักรวม ต้มจืดตำลึง เเละปิดท้ายด้วยน้ำพริกสูตรคุรเเม่ จขกท การทำอาหารมื้อนี้ก็ทำไปบ่นไปชิมไป เเละเเล้วทุกคนก็ได้อิ่มหนำ กับอาหารมื้อเย็มในบรรยากาศฝนโปรย ปรายตลอดทั้งวัน อุ้มผางนั้นเมื่อเข้าสู่หน้าฝนเเล้ว สภาพอากาศจะครึ้มทั้งวัน ฝนตกประมาณ 25 วันต่อเดือน ปริมาณน้ำฝนสูงมากเพราะอยู่ไม่ไกลจากทะเลอันดามันจึงทำให้ได้รับลมมรสุมก่อน เมื่อทานข้าวเย็นเรียบร้อยก็ อาบน้ำพักผ่อนกายาเเละเเพคกระเป๋า ใหม่เอาเฉพาะที่จำเป็นไปเท่านั้น เพราะระยะทางในการเดินนั้นเหนื่อยพอสมควร
[CR] รีวิวย้อนหลัง สะพายเป้ใบใหญ่ ด้วยหัวใจพองโตเที่ยวน้ำตกปิ๊ตุ๊โกร แห่งดินเเดนอุ้มผาง
เป็นกระทู้รีวิว ที่สาม ของ จขกท เอง ทีเเรกก็เห็นว่า โห เลยฤดูฝนมาหลายเดือนเเล้ว จนเข้าฤดูหนาวอันเเสนหนาว(น้อย) กะว่าจะตั้งกระทู้รีวิวใกล้ๆช่วงฤดูฝน เพื่อเป็นกระทู้ดึงดูด นักเที่ยวเเบบลุยๆๆ เหนื่อยๆ ซะหน่อย เเต่อดใจไม่ไหว เนื่องจากช่วงนี้ 55555 ด้วยสภาพอากาสที่พายุเข้าช่วงนี้ ทำให้ฝนตกหลายภาคของประเทศ ทุกท่านคนเเปลกใจไม่ต่างจาก จขกท เอง เฮ้ย นี่มันหน้าหนาวนะ มกราคม ย้ำกับตัวเองว่า มกราจริงๆ ไหนฝนตกมาสองสามวันเเล้วซะงั้น งั้นบรรยากาศชุ่มฉ่ำก็มาละ ตั้งกระทู้เลยละกัน "ปิ๊ตุ๊โกร" ชื่อที่หลายๆคนคงคุ้น หรือสงสัย มันคือชื่อของอะไร ต้องบอกว่ามันคือชื่อของน้ำตกรูปหัวใจ ที่ตั้งอยู่บนดอยสามหมื่น ซึ่งสันเขาด้านบนน้ำตกคือเส้นเเบ่งชายเเดนไทย-พม่านั่นเอง น้ำตกปิ๊ตุ๊โกรมีสองชื่อครับ หลายคนคงคุ้นกับอีกชื่อนึงคือ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู ครับ กระทู้นี่ จะรีวิวคร่าวๆถึงการเดินทาง ของเหล่าเพื่อนๆเเละน้องๆ ซึ่งเรียนที่มหาลัยของรัฐเเห่งหนึ่งย่านบางเขน เมื่อเรียนจบ เเล้วบ้างก็เรียนต่อ บ้างก็ทำงาน จนหาเวลาว่างตรงกันเเละชวนๆกันมา จากหนึ่งเป็นสองสามสี่ห้า จนถึงสิบคน ส่วนจขกท เองนั้นทำงานอยู่ดินเเดนอุ้มผาง อันเเสนห่างไกล อยู่เเล้วครับ เลยมีหน้าที่ หารีวิว เเจ่มๆภาพสวยๆ โพสเเละเเชร์ อย่างสม่ำเสมอเพื่อ ยั่ว เเละล่อตาล่อใจให้เพื่อนๆมาเที่ยวหา 555พูดง่ายๆคือหลอกให้เพื่อนมาเยี่ยมนั่นเอง ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นภาพของน้องไก่ ซึ่งถอยกล้องมาใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ ฮ่าๆๆ
การเที่ยวน้ำตกครั้งนี้ ทุกคนต่างเล็งหาเวลาที่มีวันหยุดยาว การท่องเที่ยวในหน้าฝนนั้นไม่เป็นที่นิยมนัก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการ มาเที่ยวน้ำตกปิ๊ตุ๊โกรนั้น หน้าฝนเท่านั้นถึงจะมีน้ำตกให้เห็น เมื่อรวมเเก๊งนัดหมายกันได้เเล้วนั้น เหล่าบรรดาเดอะเเก๊ง ก็พากันจองรถทัวว์จาก กทม มาลง สถานีเเม่สอด ดินเเดนเเห่ง AEC ฮ่าๆๆ ประชากรบนรถร้อยละเก้าสิบในเเต่ละคันจะเป็นเเรงงานพม่าซะส่วนใหญ่ ซึ่ง เเก๊งนี้เลือกมาช่วงวันเเม่ ฮ่าๆๆ หนีเเม่เที่ยวซะงั้น เเนะนำตัว สมาชิกเเก๊งคร่าวๆ เสื้อสีเหลือง คือน้องกุ้ง หนุ่มปอโท ผู้ซึ่งกำลังทำวิทยานิพนธ์เรื่องปรับปรุงพันธุ์มันสัมปะหลัง อาการไม่ค่อยปกติ ฮ่าๆๆ คนต่อมา เจ๊ฝ้าย เมื่อก่อนเพื่อนๆจะเรียกเจ๊ฝ้าย ปตท เพราะเธอเคยทำงานทีปตท แต่ตอนนี้ เปลี่ยนมาอยู่ที่ใหม่เเล้ว แต่หัวใจยังรักการท่องเที่ยวเสมอ คนต่อมาโพสท่าไม่น้อยไปหน้ากัน เจ๊แอ้ม ปอโท สิ่งเเวดล้อม เรียนไปหนีเเม่เที่ยวไปฮ่าๆ คนต่อมาเจ๊เฟิร์น ผู้จัดการทริป เรียนโทอยู่อีกเช่นกัน คนต่อมา สาวที่สูงที่สุด ในเเก๊ง นามว่าช่า พึ่งจบโท มาจากออสเตรีย เเละโดนหลอกให้มาร่วมทริป55555 ท่านสุภาพบุรุต่อมา จขกท ขอเรียกว่าไอ้ห้อย ตามลักษณะทางกายภาพ ส่วนคนเตี้ยสุดคือน้องเเซม สุดหล่อประจำทริป ส่วนคนสุดท้ายในภาพ ชายที่หน้าตาละม้ายคล้ายฝรั่งเเละมีความสูงที่สุดในทริป ชื่อไซม่อน กำลังเรียนโทอยู่ที่เดียวกัน กับคนอื่นๆ ในรุปนี้ขาดสองคน คือน้องไก่ ตากล้องประจำทริป และน้องอ้อม สาวสวยประจำเเก๊ง ทั้งหมดสิบคนเลือกที่จะ เหมารถ โดยสารจากแม่สอด มาอุ้มผาง เพราะว่าได้ยินกิตติศัพย์ ของการบรรทุกผู้โดยสารของรถสองเเถวเเละ เส้นทางอันทรหดโหดร้าย 1,219 โค้ง ในระยะทาง 164 กิโลเมตรนั้น ทำให้หลายคนถอดใจ เลยก็มี
เมื่อมาถึงอุ้มผาง ก็เช็คว่าทุกคนยังครบ สามสิบสองประการ จขกท ก็ดีจัย พร้อมนำรถมารับ ทั้งเเก๊ง ไปทานอาหารเที่ยง ซึ่งเตรียมเมนูขึ้นชื่อของร้านไว้ต้อนรับเพื่อนๆ แล้ว
มาถึงเเล้ว ขอเเนะนำร้านครัวป้านีครับ ใครมาอุ้มผางเชิญได้ อาหารราคาไม่เเพง เนื่องจากวันนี้ เจ้าถิ่นเป็นเจ้ามือเพื่อไม่ให้เกินกำลังทรัพย์อันมีน้อยนิดเลยจัดเลี้ยงเเขกผู้มาเยือน จาก กทม ด้วยเมนู ผัดไทยลอยฟ้า55555ผัดไทยห่อไข่นั่นเองครับ ร้านนี้ถือว่าทำผัดไทยได้อร่อยมาก ให้เยอะเเละจัดจานได้สวยงามในราคา35 บาท ด้วยเวลาบ่ายโมงกว่าเเล้ว คงทำให้ทุกคนหิวมาก พอผัดไทยมาถึงตรงหน้าทุกคนก็จัดการกันอย่างเต็มที่ไม่มีใครยอมใครเลย
เมื่อทุกคนอิ่มหนำสำราญกันเเล้ว ก็ใส่เสื้อกันฝนพร้อมออกเดินทาง ไปสู่ที่พักคืนเเรก เราเเวะที่ตลาดเพื่อซื้อเสบียงไปหุงหาประกอบอาหารกันในตอนเย็น ซึ่งทั้งเเก๊งนี้จะนอนพักกันที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ที่ตั้งของน้ำตกทีลอซูนั่นเอง เมื่อมาถึงบ้านพักทุกคนก็จัดเเจงกระเป๋าเเละหาที่พักผ่อนกายา เมื่อถึงเวลา ก็มาช่วยกันเตรียมอาหารเย็น เเละเตรียมเสบียงในวันพรุ่งนี้เช้า
เจ๊ฝ้าย ลีลานางไม่เเพ้ เเม่ค้าเขียงหมุเลย หั่นไปหั่นมา นางก็ร้องอุทาน วิ่งไปหลบอยู่หลังเพื่อน เนื่องจากหมู่ที่หั่นเป็นหมูสามชั้น เเล้วพึ่ง
ชำเเหละมาสดๆ หั่นไปหั่นมา หนังหมูนั้นมี นมหมูติดมาด้วย กลัวเฉยเลยไม่ยอมหั่นต่อ 555555
พ่อครัวเเม่ครัวจำเป็น ขยันขันเเข็งในการทำกับข้าวมื้อเย็นกันอย่างมาก ด้วยจำนวนคนที่เยอะปริมาณกับข้าวจึงเยอะตามไปด้วย
ดูจากภาพเเล้วรู้สึกถึงความอร่อยของอาหาร มาป่าทั้งทีก็พากินกันเเบบง่ายๆด้วยหน่อไม้ต้ม ยำวุ้นเส้น ผัดผักรวม ต้มจืดตำลึง เเละปิดท้ายด้วยน้ำพริกสูตรคุรเเม่ จขกท การทำอาหารมื้อนี้ก็ทำไปบ่นไปชิมไป เเละเเล้วทุกคนก็ได้อิ่มหนำ กับอาหารมื้อเย็มในบรรยากาศฝนโปรย ปรายตลอดทั้งวัน อุ้มผางนั้นเมื่อเข้าสู่หน้าฝนเเล้ว สภาพอากาศจะครึ้มทั้งวัน ฝนตกประมาณ 25 วันต่อเดือน ปริมาณน้ำฝนสูงมากเพราะอยู่ไม่ไกลจากทะเลอันดามันจึงทำให้ได้รับลมมรสุมก่อน เมื่อทานข้าวเย็นเรียบร้อยก็ อาบน้ำพักผ่อนกายาเเละเเพคกระเป๋า ใหม่เอาเฉพาะที่จำเป็นไปเท่านั้น เพราะระยะทางในการเดินนั้นเหนื่อยพอสมควร