สวัสดีค่ะ จากกระทู้ สองกระทู้ที่เราได้ตั้งไว้
http://ppantip.com/topic/32779594
เราอยากมาอัพเดต และอยากถามผู้รู้
หลังจากที่พ่อเราเข้ารพ. เราก็หมั่นไปเยี่ยมทุกอาทิตย์ โดยเราไปกับลุงเราบ้าง กับน้องชายเราบ้าง
แต่มีสองอาทิตย์ที่เราไม่สามารถมาเยี่ยมพ่อได้ พ่ออาทิตย์ที่ 3 เรามา พ่อก็ได้ย้ายจากหอราตรี (ผู้ป่วยรุนแรง)
ไปอยู่บนชั้น 5 (ผู้ป่วยรุนแรงแต่ดีขึ้นมาหน่อย)
โดยชั้นนี้ จะมีผู้ป่วยที่ติดป้าย 2 สี คือ สีแดงกับสีเขียว สีแดง คือ ผู้ป่วยที่อาการรุนแรงอยู่ สีเขียวคือ ผู้ป่วยที่ดีขึ้นจากป้ายแดงแล้ว
จากการที่เราได้คุยกับพยาบาล พ่อยังไม่ดีขึ้น ยังเป็นเหมือนเดิม เรียกฟ้าเรียกฝน มีองค์มีเจ้า เช่นเดิม ทุกครั้งที่มาเยี่ยม ถ้าเรามากับน้อง (แม่มาด้วยแต่รอข้างล่าง) เราก็จะบอกพ่อว่ามาเอง แต่มีวันนึงที่เราต้องมาคนเดียว (แม่มาส่ง รอข้างล่างเช่นเดิม เราไม่อยากให้แม่ขึ้นมา เพราะกลัวพ่อจะโมโหแม่)
พ่อก็ถามเรานะว่า 'มายังไง' เราก็บอกตามตรงว่า 'มากับแม่ แม่รอข้างล่าง'
พ่อเราถามถึงแม่ ว่าทำไมไม่ขึ้นมา พ่อลงไปไม่ได้ เราเลยรู้สึกว่าพ่อก็คงอยากเจอแม่ เลยบอกว่า คราวหน้านะคะพ่อ
ต่อมา เราจำวันที่ไม่ได้นะคะ ทางรพ. นัดญาติผู้ป่วย ให้มาคุยกับหมอ เรื่องอาการของพ่อ
ในหัวของเราคือ การที่จะคุยกับญาติ น่าจะแยกห้องกัน คือญาติคุยกับหมอ
เราไปกับลุงกัน 2 คน นั่งรอเพื่อพบหมอตอน 09.00
สักพักพยาบาลก็มาเรียก เรา ลุง พ่อเข้าไปในห้อง คือให้นั่งกัน 3 คน ต่อหน้าหมอ และหมอก็ถามพ่อหลายๆอย่าง เช่น
หมอ : คุณ.. คุณรู้ไหมว่ามาอยู่ที่นี่กี่เดือนแล้ว
พ่อ : 2 เดือนแล้วครับ
หมอ : คุณเพิ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนเลย แล้วรู้ไหมทำไมลูกสาวคุณถึงพาคุณมาที่นี่
พ่อ : มารักษา
หมอ : รักษาอะไร
พ่อ : โรค
หมอ : โรคอะไร วันนี้มาตรวจอะไร
พ่อ : ตรวจสุขภาพ
คือหมอพยายามถามจี้เพื่อให้พ่อเรารับรู้ว่า ตัวพ่อเองเป็นอะไร ทำไมญาติถึงพามาที่นี่ ซึ่งเราเข้าใจในสิ่งที่หมอทำ
ทีนี้ หมอหันมาถามเรา โดยที่พ่อเรานั่งข้างๆเรา ว่า
หมอ : ไหนคุณลองบอกสิว่าพ่อคุณมีอาการยังไง ถึงพามา
คือเราก็ไม่รู้จะพูดยังไง พ่อเรานั่งอยู่ตรงนี้ หมอบอกว่า ให้เราพูดออกมา หมอจะได้รู้ว่าทำไมถึงพามา
เราก็ไม่ยอมตอบ เพราะกลัวพ่อเราเคือง อะเนอะ แค่นี้เขาก็ไม่มองหน้าเราแล้ว พอเราไม่ตอบหมอก็ บอกว่า พูดอาการเขาที่จะไม่ทำให้เคืองกัน
เราก็พยายามตอบเลี่ยงๆเพื่อไม่ให้พ่อเคืองเราไปมากกว่านี้ คือ พ่อถือค้อนขึ้นไปบนห้อง แล้วก็บอกว่ามีองค์
หมอก็บอกว่า 'แค่นี้หรอ ถึงพามา ไอ้เรื่องมีองค์เนี่ยมันเป็นความเชื่อ มันอาจไม่ใช่โรคจิตก็ได้นะ แล้วก็ถามจี้เราให้เราตอบ'
พอเราไม่ตอบก็หันมาถามลุง ลุงก็บอกเลี่ยงๆเหมือนกัน ว่า 'พ่อเราเคยอยู่ห้องลุง แล้วขังตัวเองไว้ในห้อง และเอาเงินติดฝาผนัง'
ทีนี้หมอก็ หันมาถามพ่อ ถามเค้นๆ ถึงอาการพ่อ (หมอจดรายละเอียดอาการไว้ในสมุดทุกอย่าง แล้วก็เอามาถามพ่ออะค่ะ)
พ่อเราเครียดมาก เรารุ้เลย เพราะพ่อตอบ แต่ท่านเขี่ยนิ้วตัวเองตลอด สุดท้ายพ่อก็อ้างว่าหนาวขอออกไปก่อน
พอพ่อออกไปแล้ว เราก็เลยบอกหมอว่าทำไมถึงพาพ่อมา และทำไมถึงไม่พูดให้ฟังต่อหน้าพ่อ
หมอไม่ค่อยรับฟังอะไรที่เรากับลุงพูด แล้วหมอก็ถามว่า ถ้าให้ออก พ่อจะไปอยู่กับใคร
เราเลยบอกว่า 'หนูคงให้พ่อกลับใต้ เพราะอยู่กับหนูไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าหนูทำงานถึงจะรับพ่อกลับมา'
หมอพูดมาประโยคนึง 'ไม่รู้แหละ ผลักภาระกันไปมา ถ้าไม่มีคนรับเขา หมอก็ไม่รับนะ' คือฟังแล้วแบบ ไม่ได้จะทิ้งขว้างพ่อ แต่ตอนนี้เรายังเรียน
เราแค่พูดให้เขาฟัง สุดท้ายหมอก็นัดจะเจอญาติทางใต้ ในวันที่ 26 ธ.ค 57 เราก็เลยบอกจะพามา แล้วเราก็กลับ
หลังจากไปหาหมอวันนั้น เรากับครอบครัวค่อนข้างเคืองหมอ กับวิธีการพูดจาของหมอ อยู่นิดนึง เราก็ไปเยี่ยมพ่อทุกอาทิตย์ ซึ่งพยาบาลบอกตลอดว่า พ่อยังไม่ดีขึ้น ยังเหมือนเดิม
ทีนี้ เราก็ได้โทรนัดญาติทางใต้ เพื่อมาพบหมอ แต่ทางนั้นไม่มีใครมาได้ ในวันที่กำหนด จะขอนัดวันอื่น (พี่สาวพ่อติดงาน ย่าก็แก่แล้ว)
ทางลุงเราก็โทรไปหาหมอเพื่อ บอกหมอว่า วันที่ 26 ที่นัดไว้ คงต้องไม่ได้ เพราะญาติทางใต้มาไม่ได้ (หมอไม่ได้รับ เป็นพยาบาลรับ)
ตอนเย็นหมอได้โทรกลับหาลุงเรา ลุงเราบอกว่า หมอเสียงเหวี่ยงมาก
'ถ้าญาติมาไม่ได้ หมอจะให้ออกจันทร์นี้เลย' คือ...? เราสงสัยมาก พ่อเรายังไม่ดีขึ้น ถ้าออกมาเขาจะยอมกินยาหรอ จะหายหรอ จะไม่อันตรายกับคนอื่นหรอ และทำไมหมอต้องเหวี่ยงขนาดนั้น
*ค่ารักษาพยาบาล ทางเราไม่ได้ออกเลย ทางรัฐออกให้เป็นกรณีฉุกเฉิน แต่หากมียานอก เราต้องจ่ายเพิ่ม
ตอนนั้นเราเครียดมาก ไม่รู้ต้องทำยังไง สุดท้าย ย่าเรา ซึ่งเข่าไม่ดี และท่านก็แก่แล้ว ต้องนั่งเครื่องบินมาพร้อมกับน้อง(ลูกสาวของพี่สาวพ่อ)
มาถึงในวันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค 57 และจะไปคุยกับหมอในวันจันทร์
เราก็คุยกับย่าว่า ถ้าหมอให้ออกจันทร์นี้ คงต้องให้พ่อกลับไปพร้อมย่า เพราะเราไม่สามารถให้พ่ออยู่ด้วยได้ เราไม่รุ้ว่าพ่อเราจะโกรธแม่เราไหม กลัวพ่อเราทำร้ายแม่ มันเป็นแผลในใจพวกเรามาก แค่ถ้าหมอให้อยู่ต่อก็ให้ย่าอยู่กับเราสัก 2-3 วันค่อยกลับ
วันที่ 29 ธ.ค. 57 แม่เราไม่สามารถไปด้วยได้ เราก็ออกจากบ้านกันตั้งแต่ 08.00 ในวันนั้นที่รพ. มีญาติเยอะมาก
พอพ่อเราเจอย่า ก็แหล่งใต้กัน พ่อก็ถามว่า ทำไมให้ย่ามา ลูกมารับคนเดียวก็ได้ ย่าแก่แล้ว คือพ่อไม่รุ้ว่าจะให้กลับไปอยู่ใต้
สรุปคือ วันนั้น ญาติมารับผู้ป่วย กลับบ้านกันเยอะมากค่ะ ชั้น5 ที่พ่อเราอยู่ก็ด้วย พ่อเราก็ต้องกลับ แต่วันนี้ไม่เจอหมอนะคะ เจอแต่พยาบาล
พยาบาลบอกว่า หมอเห็นว่าดีขึ้นแล้ว? เลยจะให้กลับ
เราก็หาเครื่องที่จะกลับ แต่ค่าเครื่องแพงมากค่ะ ตอนย่าเรามา 2 คน 1000 กว่าบาท
แต่ขากลับ คนละ 3600 บาท (โอยยยยย!! แพงไปไหม) เราเลยต้องหารถทัวร์กัน
วันนั้นเราไม่ได้อยู่ส่งพ่อกับย่า เพราะเรามีธุระเรื่องงาน เรารู้สึกผิดมากนะ แต่ใจนึงก็กลัวค่ะ กลัวอยู่ๆพ่อจะกลับขึ้นมาหาอีก
วันนี้ที่เรามาอัพเดต แม้อาจจะไม่มีใครสนใจกระทู้ของเราเลย เนื่องจากเราอ่านกระทู้พี่คนนึงที่มาบอกเล่าอาการ ของการเป็นโรคจิต ให้อ่าน
เราเลยอยากจะมาบอกเล่าอีกเสียงนึงว่า หากมีคนใกล้ตัวคุณ มีอาการซึมเศร้า พูดคนเดียว หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าปล่อยปะละเลย จนมันสายเกินไปเลยนะคะ
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะคะ
อัพเดต จากกระทู้มีพ่อเป็นโรคประสาท
http://ppantip.com/topic/32779594
เราอยากมาอัพเดต และอยากถามผู้รู้
หลังจากที่พ่อเราเข้ารพ. เราก็หมั่นไปเยี่ยมทุกอาทิตย์ โดยเราไปกับลุงเราบ้าง กับน้องชายเราบ้าง
แต่มีสองอาทิตย์ที่เราไม่สามารถมาเยี่ยมพ่อได้ พ่ออาทิตย์ที่ 3 เรามา พ่อก็ได้ย้ายจากหอราตรี (ผู้ป่วยรุนแรง)
ไปอยู่บนชั้น 5 (ผู้ป่วยรุนแรงแต่ดีขึ้นมาหน่อย)
โดยชั้นนี้ จะมีผู้ป่วยที่ติดป้าย 2 สี คือ สีแดงกับสีเขียว สีแดง คือ ผู้ป่วยที่อาการรุนแรงอยู่ สีเขียวคือ ผู้ป่วยที่ดีขึ้นจากป้ายแดงแล้ว
จากการที่เราได้คุยกับพยาบาล พ่อยังไม่ดีขึ้น ยังเป็นเหมือนเดิม เรียกฟ้าเรียกฝน มีองค์มีเจ้า เช่นเดิม ทุกครั้งที่มาเยี่ยม ถ้าเรามากับน้อง (แม่มาด้วยแต่รอข้างล่าง) เราก็จะบอกพ่อว่ามาเอง แต่มีวันนึงที่เราต้องมาคนเดียว (แม่มาส่ง รอข้างล่างเช่นเดิม เราไม่อยากให้แม่ขึ้นมา เพราะกลัวพ่อจะโมโหแม่)
พ่อก็ถามเรานะว่า 'มายังไง' เราก็บอกตามตรงว่า 'มากับแม่ แม่รอข้างล่าง'
พ่อเราถามถึงแม่ ว่าทำไมไม่ขึ้นมา พ่อลงไปไม่ได้ เราเลยรู้สึกว่าพ่อก็คงอยากเจอแม่ เลยบอกว่า คราวหน้านะคะพ่อ
ต่อมา เราจำวันที่ไม่ได้นะคะ ทางรพ. นัดญาติผู้ป่วย ให้มาคุยกับหมอ เรื่องอาการของพ่อ
ในหัวของเราคือ การที่จะคุยกับญาติ น่าจะแยกห้องกัน คือญาติคุยกับหมอ
เราไปกับลุงกัน 2 คน นั่งรอเพื่อพบหมอตอน 09.00
สักพักพยาบาลก็มาเรียก เรา ลุง พ่อเข้าไปในห้อง คือให้นั่งกัน 3 คน ต่อหน้าหมอ และหมอก็ถามพ่อหลายๆอย่าง เช่น
หมอ : คุณ.. คุณรู้ไหมว่ามาอยู่ที่นี่กี่เดือนแล้ว
พ่อ : 2 เดือนแล้วครับ
หมอ : คุณเพิ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงเดือนเลย แล้วรู้ไหมทำไมลูกสาวคุณถึงพาคุณมาที่นี่
พ่อ : มารักษา
หมอ : รักษาอะไร
พ่อ : โรค
หมอ : โรคอะไร วันนี้มาตรวจอะไร
พ่อ : ตรวจสุขภาพ
คือหมอพยายามถามจี้เพื่อให้พ่อเรารับรู้ว่า ตัวพ่อเองเป็นอะไร ทำไมญาติถึงพามาที่นี่ ซึ่งเราเข้าใจในสิ่งที่หมอทำ
ทีนี้ หมอหันมาถามเรา โดยที่พ่อเรานั่งข้างๆเรา ว่า
หมอ : ไหนคุณลองบอกสิว่าพ่อคุณมีอาการยังไง ถึงพามา
คือเราก็ไม่รู้จะพูดยังไง พ่อเรานั่งอยู่ตรงนี้ หมอบอกว่า ให้เราพูดออกมา หมอจะได้รู้ว่าทำไมถึงพามา
เราก็ไม่ยอมตอบ เพราะกลัวพ่อเราเคือง อะเนอะ แค่นี้เขาก็ไม่มองหน้าเราแล้ว พอเราไม่ตอบหมอก็ บอกว่า พูดอาการเขาที่จะไม่ทำให้เคืองกัน
เราก็พยายามตอบเลี่ยงๆเพื่อไม่ให้พ่อเคืองเราไปมากกว่านี้ คือ พ่อถือค้อนขึ้นไปบนห้อง แล้วก็บอกว่ามีองค์
หมอก็บอกว่า 'แค่นี้หรอ ถึงพามา ไอ้เรื่องมีองค์เนี่ยมันเป็นความเชื่อ มันอาจไม่ใช่โรคจิตก็ได้นะ แล้วก็ถามจี้เราให้เราตอบ'
พอเราไม่ตอบก็หันมาถามลุง ลุงก็บอกเลี่ยงๆเหมือนกัน ว่า 'พ่อเราเคยอยู่ห้องลุง แล้วขังตัวเองไว้ในห้อง และเอาเงินติดฝาผนัง'
ทีนี้หมอก็ หันมาถามพ่อ ถามเค้นๆ ถึงอาการพ่อ (หมอจดรายละเอียดอาการไว้ในสมุดทุกอย่าง แล้วก็เอามาถามพ่ออะค่ะ)
พ่อเราเครียดมาก เรารุ้เลย เพราะพ่อตอบ แต่ท่านเขี่ยนิ้วตัวเองตลอด สุดท้ายพ่อก็อ้างว่าหนาวขอออกไปก่อน
พอพ่อออกไปแล้ว เราก็เลยบอกหมอว่าทำไมถึงพาพ่อมา และทำไมถึงไม่พูดให้ฟังต่อหน้าพ่อ
หมอไม่ค่อยรับฟังอะไรที่เรากับลุงพูด แล้วหมอก็ถามว่า ถ้าให้ออก พ่อจะไปอยู่กับใคร
เราเลยบอกว่า 'หนูคงให้พ่อกลับใต้ เพราะอยู่กับหนูไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าหนูทำงานถึงจะรับพ่อกลับมา'
หมอพูดมาประโยคนึง 'ไม่รู้แหละ ผลักภาระกันไปมา ถ้าไม่มีคนรับเขา หมอก็ไม่รับนะ' คือฟังแล้วแบบ ไม่ได้จะทิ้งขว้างพ่อ แต่ตอนนี้เรายังเรียน
เราแค่พูดให้เขาฟัง สุดท้ายหมอก็นัดจะเจอญาติทางใต้ ในวันที่ 26 ธ.ค 57 เราก็เลยบอกจะพามา แล้วเราก็กลับ
หลังจากไปหาหมอวันนั้น เรากับครอบครัวค่อนข้างเคืองหมอ กับวิธีการพูดจาของหมอ อยู่นิดนึง เราก็ไปเยี่ยมพ่อทุกอาทิตย์ ซึ่งพยาบาลบอกตลอดว่า พ่อยังไม่ดีขึ้น ยังเหมือนเดิม
ทีนี้ เราก็ได้โทรนัดญาติทางใต้ เพื่อมาพบหมอ แต่ทางนั้นไม่มีใครมาได้ ในวันที่กำหนด จะขอนัดวันอื่น (พี่สาวพ่อติดงาน ย่าก็แก่แล้ว)
ทางลุงเราก็โทรไปหาหมอเพื่อ บอกหมอว่า วันที่ 26 ที่นัดไว้ คงต้องไม่ได้ เพราะญาติทางใต้มาไม่ได้ (หมอไม่ได้รับ เป็นพยาบาลรับ)
ตอนเย็นหมอได้โทรกลับหาลุงเรา ลุงเราบอกว่า หมอเสียงเหวี่ยงมาก
'ถ้าญาติมาไม่ได้ หมอจะให้ออกจันทร์นี้เลย' คือ...? เราสงสัยมาก พ่อเรายังไม่ดีขึ้น ถ้าออกมาเขาจะยอมกินยาหรอ จะหายหรอ จะไม่อันตรายกับคนอื่นหรอ และทำไมหมอต้องเหวี่ยงขนาดนั้น
*ค่ารักษาพยาบาล ทางเราไม่ได้ออกเลย ทางรัฐออกให้เป็นกรณีฉุกเฉิน แต่หากมียานอก เราต้องจ่ายเพิ่ม
ตอนนั้นเราเครียดมาก ไม่รู้ต้องทำยังไง สุดท้าย ย่าเรา ซึ่งเข่าไม่ดี และท่านก็แก่แล้ว ต้องนั่งเครื่องบินมาพร้อมกับน้อง(ลูกสาวของพี่สาวพ่อ)
มาถึงในวันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค 57 และจะไปคุยกับหมอในวันจันทร์
เราก็คุยกับย่าว่า ถ้าหมอให้ออกจันทร์นี้ คงต้องให้พ่อกลับไปพร้อมย่า เพราะเราไม่สามารถให้พ่ออยู่ด้วยได้ เราไม่รุ้ว่าพ่อเราจะโกรธแม่เราไหม กลัวพ่อเราทำร้ายแม่ มันเป็นแผลในใจพวกเรามาก แค่ถ้าหมอให้อยู่ต่อก็ให้ย่าอยู่กับเราสัก 2-3 วันค่อยกลับ
วันที่ 29 ธ.ค. 57 แม่เราไม่สามารถไปด้วยได้ เราก็ออกจากบ้านกันตั้งแต่ 08.00 ในวันนั้นที่รพ. มีญาติเยอะมาก
พอพ่อเราเจอย่า ก็แหล่งใต้กัน พ่อก็ถามว่า ทำไมให้ย่ามา ลูกมารับคนเดียวก็ได้ ย่าแก่แล้ว คือพ่อไม่รุ้ว่าจะให้กลับไปอยู่ใต้
สรุปคือ วันนั้น ญาติมารับผู้ป่วย กลับบ้านกันเยอะมากค่ะ ชั้น5 ที่พ่อเราอยู่ก็ด้วย พ่อเราก็ต้องกลับ แต่วันนี้ไม่เจอหมอนะคะ เจอแต่พยาบาล
พยาบาลบอกว่า หมอเห็นว่าดีขึ้นแล้ว? เลยจะให้กลับ
เราก็หาเครื่องที่จะกลับ แต่ค่าเครื่องแพงมากค่ะ ตอนย่าเรามา 2 คน 1000 กว่าบาท
แต่ขากลับ คนละ 3600 บาท (โอยยยยย!! แพงไปไหม) เราเลยต้องหารถทัวร์กัน
วันนั้นเราไม่ได้อยู่ส่งพ่อกับย่า เพราะเรามีธุระเรื่องงาน เรารู้สึกผิดมากนะ แต่ใจนึงก็กลัวค่ะ กลัวอยู่ๆพ่อจะกลับขึ้นมาหาอีก
วันนี้ที่เรามาอัพเดต แม้อาจจะไม่มีใครสนใจกระทู้ของเราเลย เนื่องจากเราอ่านกระทู้พี่คนนึงที่มาบอกเล่าอาการ ของการเป็นโรคจิต ให้อ่าน
เราเลยอยากจะมาบอกเล่าอีกเสียงนึงว่า หากมีคนใกล้ตัวคุณ มีอาการซึมเศร้า พูดคนเดียว หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าปล่อยปะละเลย จนมันสายเกินไปเลยนะคะ
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะคะ