[๒๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อาฆาตวัตถุ ๙ ประการนี้
๙ ประการเป็นไฉน คือ
บุคคลย่อมผูกความอาฆาตว่า
คนโน้นได้ประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่เราแล้ว ๑
คนโน้นย่อมประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่เรา ๑
คนโน้นจักประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่เรา ๑
ย่อมผูกความอาฆาตว่า
คนโน้นได้ประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่คนที่รักที่ชอบใจของเราแล้ว ๑
คนโน้นย่อมประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่คนที่รักที่ชอบใจของเรา ๑
คนโน้นจักประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่คนที่รักที่ชอบใจของเรา ๑
ย่อมผูกความอาฆาตว่า
คนโน้นได้ประพฤติประโยชน์แก่คนผู้ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของเราแล้ว ๑
คนโน้นย่อมประพฤติประโยชน์แก่คนผู้ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของเรา ๑
คนโน้นจักประพฤติประโยชน์แก่คนผู้ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของเรา ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อาฆาตวัตถุ ๙ ประการนี้แล ฯ
-----------------------
อาฆาตสูตรที่ ๑
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ บรรทัดที่ ๘๗๑๐ - ๘๗๒๒. หน้าที่ ๓๗๖.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=23&A=8710&Z=8722&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=233
อาฆาต..
อาฆาตวัตถุ ๙ ประการนี้
๙ ประการเป็นไฉน คือ
บุคคลย่อมผูกความอาฆาตว่า
คนโน้นได้ประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่เราแล้ว ๑
คนโน้นย่อมประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่เรา ๑
คนโน้นจักประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่เรา ๑
ย่อมผูกความอาฆาตว่า
คนโน้นได้ประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่คนที่รักที่ชอบใจของเราแล้ว ๑
คนโน้นย่อมประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่คนที่รักที่ชอบใจของเรา ๑
คนโน้นจักประพฤติสิ่งมิใช่ประโยชน์แก่คนที่รักที่ชอบใจของเรา ๑
ย่อมผูกความอาฆาตว่า
คนโน้นได้ประพฤติประโยชน์แก่คนผู้ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของเราแล้ว ๑
คนโน้นย่อมประพฤติประโยชน์แก่คนผู้ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของเรา ๑
คนโน้นจักประพฤติประโยชน์แก่คนผู้ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของเรา ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อาฆาตวัตถุ ๙ ประการนี้แล ฯ
-----------------------
อาฆาตสูตรที่ ๑
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ บรรทัดที่ ๘๗๑๐ - ๘๗๒๒. หน้าที่ ๓๗๖.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=23&A=8710&Z=8722&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=233