คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
เหมือนกันคะ แต่งงานกับพ่อม่ายลูกติด ดิฉันอายุ 22 แฟน อายุ 30 มีลูกติด 1 คนลูกชายคะปัจจุบันอยู่ อนุบาล3 ดิฉันก็ทำหน้าที่แม่เหมือนกับคนอื่นที่ตัวเองพอจะทำได้ หาข้าวหาน้ำ ซักผ้า จิปาถะคะ ก่อนแต่งพ่อแม่แฟนบอกว่าลูกติดของเค้าจะเป็นคนดูแลเอง แต่เอาไปเอามาพ่อแม่แฟนตายหมดคะ ตกที่ใครละคะ ดิฉันคะ (พูดไปเหมือนกับคนเห็นแก่ตัวนะคะดิฉัน) ตอนอยู่กับพ่อแม่แฟนหลานเค้าจะเป็นคนเอาแต่ใจเพราะถูกเลี้ยงมาแบบโอ๋ แต่พอมาอยู่กับแฟนและดิฉันดิฉันจะไม่ค่อยตามใจเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยมีเงินซื้อของเล่นให้คะ ซื้อแต่เฉพาะเวลาที่เค้าอยากได้จริงๆเท่านั้น (ชาวบ้านเค้าก็มองประมาณว่า อีแม่เลี้ยงใจร้ายประมาณนี้แหละคะ) 3 ปีแรกอยู่แบบอดทนที่สุดเพราะคนด่าเยอะมากคะ สุดท้ายทุกวันนี้ไม่มีใครพูดถึงเลยเพราะเค้ารู้จักนิสัยของเจ้าตัวเล็กดีคะ ดื้อ ซน ขโมยทุกอย่างเท่าที่จะซ่อนได้ แกะแคะทุกสิ่งทุกอย่างของคนอื่น บางวันำปขโมยของเพื่อนที่โรงเรียนพ่อแม่เค้าได้มาตามเอาถึงที่บ้าน ถ้าไม่คืนของเค้าก็ต้องจ่ายเงิน (ตลกไม๊ละคะชีวิต) ดิฉันเคยตีแบบรุนแรงก็แล้ว พูดดีก็แล้ว สอนก็แล้ว ก็ไม่จำคะ ก็คงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรมของเค้าแล้วแหละเพราะตัวดิฉันเองก็เหนื่อยมากแล้ว พ่อเค้าทำงานไปเช้าเย็นกลับไม่ค่อยได้เห็นพฤติกรรมลูกเค้าซักเท่าไหร่ พอเราดุลูกเค้าหน่อย เค้าก็ว่า เค้าก็ออกรับแทน วันไหนที่ต้องทะเลาะกันเพราะลูกเค้า ดิฉันตกที่นั่งลำบากตลอดเคยพูดความจริงให้เค้าฟังนะคะว่าลูกเค้าทำอะไร ยังไงบ้าง เค้าได้แต่นิ่ง( คงคิดว่าใส่ร้ายลูกเค้า) ได้แต่นอนร้องไห้คะทุกวันนี้ได้แต่พูดกับตัวเองว่าให้อดทนรอเจ้าตัวเล็กในท้องคลอดออกมาก่อน บางวันก็ร้องไห้แบบสุดๆคะ พูดกับลูกไปร้องไห้ไป ทุกวันนี้ ท้องได้สี่เดือนแล้วคะ เครียดจริงๆพยายามไม่คิดมากแต่พอมองไปทางไหนมันอ้างว้างไปหมด นอนแต่ละคืนปวดก้นกบมากเวลาพลิกตัว เค้าก็ไม่ช่วยนะคะ ทั้งที่เราทำหน้าที่เมีย แม่ คนใช้ ให้เค้ากับลูกเค้าแต่ก็ไม่ได้รับอะไรตอบแทนเลย เหนื่อยจริงค่ะ ท้อมากด้วย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
..คุณเป็นผู้หญิงประเภทที่สะกดจิตตัวเอง ด้วยคำว่า "รักไปแล้ว" ค่ะ
..มันเป็นรักแบบลุ่มหลง โง่งมงาย ไร้เหตุผล และสุดท้าย มันจะกลายเป็น "ไร้ค่า"
ผู้ชายคนนั้น เค้าหมดรักคุณตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ..แต่คุณหน้ามึนเอง ..
น่าจะคิดได้ตั้งแต่เค้าบอกว่า เค้าไม่เคยรักคุณเลย เค้าแค่อยากได้คนช่วยเลี้ยงลูก ทำงานบ้านเท่านั้น
..ซึ่งถ้าคนที่มีสติรู้คิด เค้าเผ่นตั้งแต่ได้ยินประโยคนี้จากปากผู้ชายแล้วหนู
แต่คุณคิดแบบเด็กๆ ว่า รักไปแล้ว เลือกทางนี้แล้ว ก็เลยคิดว่าจะอดทน
..ที่แย่คือไปลงกับเด็กน้อย ทั้งๆ ที่เรื่องทุกอย่าง เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ทั้งนั้น
วันไหนทะเลาะกันหนักๆ ..คิดว่าวันนี้กรูจะเลิกกับเมิงแน่..
แต่พอเค้าง้อหน่อย อ้อนหน่อย ก็ใจอ่อน ..กลับไปคืนดี ..คิดว่าคนเรามันพลาดกันได้ ..ให้โอกาสอีกครั้งละกัน
..แล้วเค้าก็ทำผิดซ้ำเรื่องเดิมๆ อีก .. คุณงอน เค้าง้อ ..คุณกลับไป ..ก็เข้าทางโจร
เพราะตอนนี้เค้ารู้แล้วว่าคุณมันเป็น "ของตาย" อยู่ในบ้าน ..วันไหนไม่มีที่ไป ก็กลับมา
ซึ่งจากอายุคุณ ..ถ้าคุณเป็นลูก เป็นหลานพี่นะ ..พี่จะเบิร์ดกระโหลกให้ตาสว่างสักป้าบ ให้หายโง่
..ชีวิตคุณ คุณทิ้งการเรียน การศึกษามาอยู่กับผู้ชายคนนี้ ..ตัวเองไม่มีวุฒิ ไม่มีความรู้ ที่จะออกไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเอง
วันนี้อายุ 23-24 แล้ว เคยคิดมั้ยว่าจะอยู่ยังไง ถ้าวันหนึ่ง..ที่ถึงคุณคิดจะอดทน กับผู้ชายเฮงซวยที่หมดรักคุณแล้ว และจ้องจะชิ่งตลอดเวลา
แต่ผู้ชายเป็นฝ่ายไม่ทน ..แล้วเค้าทิ้งไปเฉยๆ .. คุณจะอดตายมั้ย ?
คิดให้มันยาวๆ ไกลๆ หน่อยหนู ..
พี่เห็นผู้หญิงที่เป็นแบบหนูมาไม่น้อย ..ซึ่งเห็นแล้วเวทนามาก ..
ออกจะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องทำร้ายตัวเอง ทำร้ายพ่อแม่ตัวเองแบบนี้ ..ด้วยการเลือกมีคู่ชีวิตเฮงซวย
ขออนุญาตแนะนำว่าอย่าเสียดายเวลา 4-5 ปีที่อยู่กับเค้า ..ให้นึกเสียดายเวลาในอนาคตข้างหน้าในชีวิตของหนูเองดีกว่า
หากต้องติดคุกนรกในใจแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนไม่รู้น่ะ
หรือกว่าจะสำนึกได้ ปาไป 30 ..ไม่มีความรู้ ทำมาหากินเองก็ไม่เป็น ..แถมยังแก่เกินแกง ..ที่จะหาผู้ชายคนใหม่มาเลี้ยงดู
..ตัดใจ ก้าวออกมา ..ลูกเต้าก็ไม่มีกับเค้า
ทะเบียนสมรสอะไรก็ไม่ได้จด ..เหมือนอยู่ให้เค้ากินฟรีไปเรื่อยๆ
ออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำตัวให้มีคุณค่า ไปเรียนหรือไปอบรมวิชาชีพที่สนใจ
เพื่อเลี้ยงดูตัวเอง ด้วยลำแข้งตัวเองได้..อย่างมีศักดิ์ศรี จะไม่ดีกว่าเหรอคะ ??
..แต่ไม่รู้นะ ..จะเชื่อคำแนะนำของพี่ ของเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ หรือจะไม่เชื่อ อยากอยู่เป็นของตายแบบนี้ต่อไปก็ตามใจ ..
พี่ก็คงต้องบอกเหมือนพ่อคุณน่ะแหละว่า คุณเป็นคนเลือกเอง ..คุณต้องรับผิดชอบการตัดสินใจและผลที่จะตามมาเอง
..ขอให้โชคดีละกันค่ะ
..มันเป็นรักแบบลุ่มหลง โง่งมงาย ไร้เหตุผล และสุดท้าย มันจะกลายเป็น "ไร้ค่า"
ผู้ชายคนนั้น เค้าหมดรักคุณตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ..แต่คุณหน้ามึนเอง ..
น่าจะคิดได้ตั้งแต่เค้าบอกว่า เค้าไม่เคยรักคุณเลย เค้าแค่อยากได้คนช่วยเลี้ยงลูก ทำงานบ้านเท่านั้น
..ซึ่งถ้าคนที่มีสติรู้คิด เค้าเผ่นตั้งแต่ได้ยินประโยคนี้จากปากผู้ชายแล้วหนู
แต่คุณคิดแบบเด็กๆ ว่า รักไปแล้ว เลือกทางนี้แล้ว ก็เลยคิดว่าจะอดทน
..ที่แย่คือไปลงกับเด็กน้อย ทั้งๆ ที่เรื่องทุกอย่าง เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ทั้งนั้น
วันไหนทะเลาะกันหนักๆ ..คิดว่าวันนี้กรูจะเลิกกับเมิงแน่..
แต่พอเค้าง้อหน่อย อ้อนหน่อย ก็ใจอ่อน ..กลับไปคืนดี ..คิดว่าคนเรามันพลาดกันได้ ..ให้โอกาสอีกครั้งละกัน
..แล้วเค้าก็ทำผิดซ้ำเรื่องเดิมๆ อีก .. คุณงอน เค้าง้อ ..คุณกลับไป ..ก็เข้าทางโจร
เพราะตอนนี้เค้ารู้แล้วว่าคุณมันเป็น "ของตาย" อยู่ในบ้าน ..วันไหนไม่มีที่ไป ก็กลับมา
ซึ่งจากอายุคุณ ..ถ้าคุณเป็นลูก เป็นหลานพี่นะ ..พี่จะเบิร์ดกระโหลกให้ตาสว่างสักป้าบ ให้หายโง่
..ชีวิตคุณ คุณทิ้งการเรียน การศึกษามาอยู่กับผู้ชายคนนี้ ..ตัวเองไม่มีวุฒิ ไม่มีความรู้ ที่จะออกไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเอง
วันนี้อายุ 23-24 แล้ว เคยคิดมั้ยว่าจะอยู่ยังไง ถ้าวันหนึ่ง..ที่ถึงคุณคิดจะอดทน กับผู้ชายเฮงซวยที่หมดรักคุณแล้ว และจ้องจะชิ่งตลอดเวลา
แต่ผู้ชายเป็นฝ่ายไม่ทน ..แล้วเค้าทิ้งไปเฉยๆ .. คุณจะอดตายมั้ย ?
คิดให้มันยาวๆ ไกลๆ หน่อยหนู ..
พี่เห็นผู้หญิงที่เป็นแบบหนูมาไม่น้อย ..ซึ่งเห็นแล้วเวทนามาก ..
ออกจะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องทำร้ายตัวเอง ทำร้ายพ่อแม่ตัวเองแบบนี้ ..ด้วยการเลือกมีคู่ชีวิตเฮงซวย
ขออนุญาตแนะนำว่าอย่าเสียดายเวลา 4-5 ปีที่อยู่กับเค้า ..ให้นึกเสียดายเวลาในอนาคตข้างหน้าในชีวิตของหนูเองดีกว่า
หากต้องติดคุกนรกในใจแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนไม่รู้น่ะ
หรือกว่าจะสำนึกได้ ปาไป 30 ..ไม่มีความรู้ ทำมาหากินเองก็ไม่เป็น ..แถมยังแก่เกินแกง ..ที่จะหาผู้ชายคนใหม่มาเลี้ยงดู
..ตัดใจ ก้าวออกมา ..ลูกเต้าก็ไม่มีกับเค้า
ทะเบียนสมรสอะไรก็ไม่ได้จด ..เหมือนอยู่ให้เค้ากินฟรีไปเรื่อยๆ
ออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำตัวให้มีคุณค่า ไปเรียนหรือไปอบรมวิชาชีพที่สนใจ
เพื่อเลี้ยงดูตัวเอง ด้วยลำแข้งตัวเองได้..อย่างมีศักดิ์ศรี จะไม่ดีกว่าเหรอคะ ??
..แต่ไม่รู้นะ ..จะเชื่อคำแนะนำของพี่ ของเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ หรือจะไม่เชื่อ อยากอยู่เป็นของตายแบบนี้ต่อไปก็ตามใจ ..
พี่ก็คงต้องบอกเหมือนพ่อคุณน่ะแหละว่า คุณเป็นคนเลือกเอง ..คุณต้องรับผิดชอบการตัดสินใจและผลที่จะตามมาเอง
..ขอให้โชคดีละกันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เราแต่งงานกับพ่อหม่ายลูกติด ทุกวันนี้เขามองเราเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย..
คือ..เราแต่งงานกับสามี เมื่อปี53 อยู่กันมา 5 ปีละ ก่อนหน้านั้นที่คบกัน เรากำลังเรียน ป.ตรี แต่ใจแตกเสียก่อนพ่อบอกให้เลือกว่าจะเรียนหรือจะแต่งงาน เราเลือกที่จะแต่งงานเพราะเรารักผู้ชายคนนี้มากเขาดูแลเราได้ดีมาก สามีเราเคยมีภรรยามาก่อนแล้วหย่ากันไปและมีลูกติดเป็นผู้หญิง 1 คน ตอนนั้น 4 ขวบได้ เราก็รับได้นะ เราก็เป็นคนรักเด็กนะ เห็นเด็กน่ารักๆชอบเข้าไปกอดเข้าเล่นด้วย จึงทำให้สามีเราขอแต่งเพราะเห็นว่าเราไม่รังเกียจลูกเขา พอแต่งมาได้ 3เดือนค่ะ ทุกอย่างดีหมดเหมือนเป็นโปรโมชั่นแรกคบกันแรก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปหนีเที่ยวกับผู้หญิง แอบติดต่อกับภรรยาเก่าแต่ไม่เคยบอกเรา (แต่เรามารู้ทีหลังจากคนอื่นด้วยนะ) กินเหล้าติดเพื่อนโดยทิ้งเรากับลูกเขาอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเราแค่ 18-19 อารมณ์ของเด็กๆเนอะ ขี้งอน ขี้น้อยใจ งี้เง่า เอาแต่ใจ เริ่มเกิดขึ้นมา โดยการทำเป็นไม่สนใจลูกของเขา เช่น ดุบ้างดุต่อหน้าเขาหงุดหงิดใส่ แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายรุนแรง แต่ก็ทำหน้าที่แม่ตามปกติ หาข้าวหาน้ำ ไปส่งไปรับที่ ร.ร เหมือนอย่างเคย แค่เพียงบอกว่า ไม่อยากดูแลลูกของเทอแล้ว ชั้นไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไรในเมื่อคุณไม่สนใจใยดีอะไรชั้นเลย แค่นั้นแหละ สามีเราก็พูดกลับมาว่า "กูแต่งกับ -ึง เพราะแค่อยากให้ -ึง มาดูแลลูกของกู กูไม่เคยรัก -ึงเลย" มันทำให้เราปรี๊ดแตก เสียใจแบบทำไรไม่ถูก ระยะเวลา4ปีที่ผ่านมาทะเลาะกันทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่ทะเลาะ อยู่กับความทุกข์และทรมานตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่สนใจลูกของเขาเลย จะเลิกก็เลิกไม่ได้ เพราะเลิกกันทีไรพ่อบอกให้กับไปคุยกันดีเวลาจะปรึกษาพ่อ พ่อยิ่งสวนกลับมาว่า เทอเป็นคนเลือกเส้นทางนี้เอง พ่อไม่ได้บังคับเทอ เทอต้องแก้ไขปัญหาเอง เราเลยไม่รู้ต้องทำยังไง แต่พอ 5 ปี เรากับเขาไม่ทะเลาะกันแล้วแต่เขากลับมาพูดตอกย้ำทุกวัน ว่าเลิกกันดีไหม อยากมีภรรยาน้อย อยากมีภรรยามาดูแลลูกเขา แต่เรารักเขาไปแล้ว ควรทำยังไงดี