*มีสปอยล์ระดับปานกลาง*
นี่คือหนังที่เหมาะกับการดูช่วงปีใหม่มากๆ ด้วยสองเหตุผลหลักๆด้วยกัน ดังนี้
1. มันเป็นหนังที่ช่วยกระตุ้นและเพิ่มพูนความสุขได้ดี สำหรับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนแบบนี้ หนังมาในโทนตลกขบขับและน่ารัก ครึ่งเรื่องแรก ผกก พาเราหลุดเข้าไปในโลกของหนังได้แบบลืมทุกสิ่งอัน เราจดจ่อกับความบันเทิงของมันจนหลงลืมว่าเรื่องราวไปถึงไหนแล้วด้วยซ้ำ มุกทำงานตามเป้าหมายบ่อยครั้ง แต่ที่แม่นยำกว่าคือความฉลาดแต่ไร้เดียงสาของนักแสดงเด็ก
2. ก่อนที่ช่วงครึ่งหลัง หนังจะทำให้เราหัวใจพองโต เกี่ยวกับประเด็นการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออะไรสักอย่างในชีวิต ตัดสินใจก้าวเดินในสายทางใหม่ๆที่เหมาะสม แน่นอนว่ามันย่อมขับเน้นค่านิยมของคนส่วนใหญ่ ที่มุ่งมั่นพัฒนาตัวเองต้อนรับปีใหม่ โดยนำเอาบทเรียนปีเก่ามาปรับปรุง ตัวละครของแดนเคยเป็นผู้ชายที่ไม่เอาไหน แต่เมื่อมีลูกสาว เขาก็กลับตัวกลับใจ พยายามอย่างเต็มความสามารถ เพื่อฟูมฟักเธอ ให้เธอได้ในสิ่งที่ดีที่สุด
ข้อสังเกตพื้นฐานง่ายๆของการพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือ ธรรมชาติของโป้งที่จากเดิมเป็นคนพูดจาหยาบคาย เถื่อนถ่อย แต่ก็เฉพาะกับเพื่อนฝูงเท่านั้น ต่อหน้าลูกน้อย เขาเหมือนเป็นคนละคน สุภาพ ใจดี และอ่อนโยน
หนังบอกกับเราว่า ขั้นตอนที่ยากที่สุดคือการเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นว่าเราต้องทำได้ เช่นดั่งความตั้งใจของ Kobo(ประหลาด)ทั้งเจ็ด ซึ่งถูกโยกคลอนก่อนขึ้นเวที หลายๆครั้ง ความแน่วแน่มั่นคงของเรา มักถูกตั้งคำถามจากคนรอบข้าง ทั้งๆที่หนทางที่ดีที่สุดคือการตัดสินจากสายตาตัวเอง เอาชนะใจตัวเอง และทำให้ดีที่สุดภายใต้เส้นทางที่เราคิดว่าใช่
บางครั้ง การตัดสินใจก็ทำได้เพียงหนเดียว เราไม่อาจมีโอกาสแก้ตัวอีก ไตร่ตรองให้ดีกันก่อนละกันครับ
...พ่อว่าหนูหน้าเหมือนไข่มั้ย?...
The One Ticket ตัวพ่อเรียกพ่อ - ไม่ดูตอนนี้แล้วจะดูตอนไหน? ภาพยนตร์ที่เหมาะกับการรับชมในช่วงเวลาแบบนี้ด้วยประการทั้งปวง
*มีสปอยล์ระดับปานกลาง*
นี่คือหนังที่เหมาะกับการดูช่วงปีใหม่มากๆ ด้วยสองเหตุผลหลักๆด้วยกัน ดังนี้
1. มันเป็นหนังที่ช่วยกระตุ้นและเพิ่มพูนความสุขได้ดี สำหรับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนแบบนี้ หนังมาในโทนตลกขบขับและน่ารัก ครึ่งเรื่องแรก ผกก พาเราหลุดเข้าไปในโลกของหนังได้แบบลืมทุกสิ่งอัน เราจดจ่อกับความบันเทิงของมันจนหลงลืมว่าเรื่องราวไปถึงไหนแล้วด้วยซ้ำ มุกทำงานตามเป้าหมายบ่อยครั้ง แต่ที่แม่นยำกว่าคือความฉลาดแต่ไร้เดียงสาของนักแสดงเด็ก
2. ก่อนที่ช่วงครึ่งหลัง หนังจะทำให้เราหัวใจพองโต เกี่ยวกับประเด็นการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออะไรสักอย่างในชีวิต ตัดสินใจก้าวเดินในสายทางใหม่ๆที่เหมาะสม แน่นอนว่ามันย่อมขับเน้นค่านิยมของคนส่วนใหญ่ ที่มุ่งมั่นพัฒนาตัวเองต้อนรับปีใหม่ โดยนำเอาบทเรียนปีเก่ามาปรับปรุง ตัวละครของแดนเคยเป็นผู้ชายที่ไม่เอาไหน แต่เมื่อมีลูกสาว เขาก็กลับตัวกลับใจ พยายามอย่างเต็มความสามารถ เพื่อฟูมฟักเธอ ให้เธอได้ในสิ่งที่ดีที่สุด
ข้อสังเกตพื้นฐานง่ายๆของการพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือ ธรรมชาติของโป้งที่จากเดิมเป็นคนพูดจาหยาบคาย เถื่อนถ่อย แต่ก็เฉพาะกับเพื่อนฝูงเท่านั้น ต่อหน้าลูกน้อย เขาเหมือนเป็นคนละคน สุภาพ ใจดี และอ่อนโยน
หนังบอกกับเราว่า ขั้นตอนที่ยากที่สุดคือการเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นว่าเราต้องทำได้ เช่นดั่งความตั้งใจของ Kobo(ประหลาด)ทั้งเจ็ด ซึ่งถูกโยกคลอนก่อนขึ้นเวที หลายๆครั้ง ความแน่วแน่มั่นคงของเรา มักถูกตั้งคำถามจากคนรอบข้าง ทั้งๆที่หนทางที่ดีที่สุดคือการตัดสินจากสายตาตัวเอง เอาชนะใจตัวเอง และทำให้ดีที่สุดภายใต้เส้นทางที่เราคิดว่าใช่
บางครั้ง การตัดสินใจก็ทำได้เพียงหนเดียว เราไม่อาจมีโอกาสแก้ตัวอีก ไตร่ตรองให้ดีกันก่อนละกันครับ
...พ่อว่าหนูหน้าเหมือนไข่มั้ย?...