น้ำมันจะไม่มีวันหมดจากโลก มีคนบอกมา? ที่รู้กัน คือ เราโดนหลอก

จากเพจ "ณรงค์ โชควัฒนา"
มีการแชร์ข้อความดังนี้ครับ



ปุจฉา
เคยได้ยินว่า ภายใน 20-30 ปีข้างหน้า น้ำมันดิบที่อยู่ใต้โลกจะถูกใช้จนหมดไป จริงหรือไม่ครับ?

วิสัชนา
การมีข่าวในลักษณะนี้เป็นการสร้างความตื่นตระหนกกับผู้ใช้ในโลก และเป็นการหลอกผู้ใช้น้ำมันว่า “น้ำมันมีแต่ราคาขึ้นอย่างเดียวจากนี้ไป” เพราะน้ำมันเกิดจากซากพืชและสัตว์ที่ตายทับถมกันเมื่อหลายล้านปีก่อนถูกความกดดันและอุณหภูมิสูงๆใต้พื้นดินเปลี่ยนให้กลายเป็นน้ำมัน และเนื่องจากการขุดมาใช้อย่างมากมายจึงมีแต่จะหมดไปเรื่อยๆ ไม่มีการสร้างเพิ่มขึ้นใหม่
ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริง การเอาซากพืชซากสัตว์มากลบฝังไว้ไม่กว่าจะกี่ล้านปีก็ไม่มีวันกลายเป็นน้ำมันได้ ในฐานะที่ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ การนำไม้มากลบฝังไว้นานๆจนกลายเป็นถ่านหินมีโอกาสเป็นไปได้ครับ แต่ไม่มีโอกาสที่จะกลายเป็นน้ำมันได้เลย การเอาซากสัตว์มากลบฝังไว้จะนานแค่ไหนก็ไม่มีทางจะเป็นน้ำมัน มีโอกาสกลายเป็นแก็สโมเลกุลเล็ก เช่น แก็สมีเทน เป็นต้น และกลายเป็นดินหรือหินได้ครับ แต่ไม่มีทางเป็นน้ำมันได้เลย
ในทรรศนะของผม น้ำมันเกิดจากแกนโลก ซึ่งมีแร่ธาตุเกือบทุกชนิดผสมกันภายใต้อุณหภูมิที่สูงและความกดดันที่สูงมาก คาร์บอนกับไฮโดรเจนที่เป็นธาตุจะถูกหลอมรวมกันกลายเป็นโมเลกุลของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแทรกซึมผ่านชั้นโลกขึ้นมาบนผิวดิน ถ้าขึ้นมาพบแอ่งหินที่เป็นอ่างกระทะคว่ำก็จะค้างอยู่ตรงนั้นกลายเป็นบ่อน้ำมันหรือบ่อก๊าซ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เราพบบ่อน้ำมันที่ขุดมาเกือบ 100 ปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังมีน้ำมันอยู่ แม้กระทั่งบ่อน้ำมันเก่าบางบ่อที่เคยสูบจนแห้งหมดไปแล้ว วันนี้ไปสูบขึ้นมาใหม่ก็ยังพบน้ำมัน น้ำมันในประเทศตะวันออกกลางหลายประเทศที่ขุดมาเป็น 100 ปีแล้ว ก็ยังมีน้ำมันอยู่ ทั้งนี้เป็นเพราะว่ามีน้ำมันที่เกิดใหม่ทยอยถูกส่งเพิ่มเติมจากแกนโลกแทรกซึมขึ้นมาบนผิวโลกอย่างต่อเนื่อง การที่หลอกว่าน้ำมันกำลังจะหมดโลกนั้น เป็นการปั่นราคาของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันไม่กี่บริษัทที่ร่วมมือกันบิดเบือนข้อมูลและควบคุม ลดปริมาณการผลิตน้ำมัน เพื่อปั่นให้ราคาสูงขึ้นเท่านั้นครับ ในความเห็นส่วนตัวของผม เหตุการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงในขณะนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่า น้ำมันยังไม่มีวันหมดไปจากโลกง่ายๆครับ

ผมอยากรู้ว่าทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นคือเรื่องจริงหรือครับ?
Credit: https://www.facebook.com/narong.chokewatana/posts/415972051888874
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ตัวเลขที่ว่าน้ำมันจะเหลือใช้ได้อีกกี่ปี มันมาจากไหนเพราะถ้าเริ่มด้วยความไม่เข้าใจแล้วมันก็ยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่   ที่เราพูดๆกันว่า น้ำมันจะเหลือใช้ได้อีกกี่ปีนั้น  มันมาจากปริมาณสำรองที่พบแล้วและสามารถเอาขึ้นมาใช้ได้ หารด้วยปริมาณการใช้ก็จะได้ออกมาเป็นปริมาณปีที่สามารถใช้ได้  ซึ่งปริมาณสำรองที่ว่ามันไม่ใช่ตัวเลขคงที่แต่มันสามรถเพิ่มหรือลงก็ได้ขึ้นอยู่กับการสำรวจพบแหล่งใหม่ๆ และปริมาณการใช้ที่อาจจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน    ปริมาณสำรองนับเฉพาะที่มีการสำรวจและพบแล้ว แต่ในความเป็นจริงในโลกมันอาจจะยังมีสถานที่ที่ยังไม่ได้ไปสำรวจอีกมาก เนื่องด้วยเทคโนโลยีและต้นทุนการผลิตที่มันยังไม่คุ้มทุน

   รายละเอียดเรื่องปริมาณสำรองจากเพจ คุณ Siriwat V.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

    ล่าสุดจากข่าวก็คือ จากปริมาณสำรองปัจจุบันทั่วโลก เราจะมีน้ำมันใช้ไปได้อีก 53 ปี ซึ่งมันเป็นค่าเฉลี่ยของทั่วโลก ซึ่งไม่ได้หมายความว่าน้ำมันทุกที่จะหมดในอีก 53 ปีทั้งหมด  เพราะว่าแต่ละประเทศแต่ละแหล่ง มันมีปริมาณสำรองไม่เท่ากัน บางแหล่งบางประเทศอาจจะทยอยหมดก่อน  อย่างเวเนซุเอรา จะหมดในอีกเกือบ 300 ปี ซาอุ 60กว่าปี  ไทยเอง แค่ 3.5 ปี (ซึ่งก็ความหมายเดียวกันคือ มันไม่ได้พร้อมใจกันหมดพร้อมกัน บางแหล่งอาจจะอยู่ได้อีกเป็นสิบปี แต่บางแหล่งอาจจะทยอยหมดไปก่อน)
Cr.ภาพ จากคุณ tawatchoo


   แต่อย่างไรก็ตามไอ้ราคาน้ำมันที่มันขึ้นลงทุกวันนี้ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับปริมาณสำรองที่ว่าเลยแต่คนชอบเอามาโยงกัน (เพราะปริมาณสำรอง เขาก็ประกาศมาทุกปี และมันก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว)  แต่มันขึ้นอยู่กับว่า มันผลิตมาพอกับความต้องการใช้แค่ไหนมากกว่า  ที่น้ำมันมันลดมากตอนนี้ก็เพราะปริมาณการผลิตที่มันล้นตลาดจากการผลิตของอเมริกา จากเทคโนโลยีใหม่  และประเทศกลุ่มโอเปคเองก็ยังคงรักษากำลังการผลิตเท่าเดิม(ไม่ใช่โอเปคเร่งผลิตมากกว่าเดิม) บวกกับเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว    ที่ผ่านมาก็มีเหตุการณ์ที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไป 140 กว่าเหรียญ และกลับลงมาแค่ 40 กว่าเหรียญมาแล้ว  ซึ่งมันก็มาจากอุปสงค์ อุปทานจากการผลิตการใช้ทั้งนั้น  ไม่ได้มาจากปริมาณสำรองอะไรที่ว่าเลย    ปกติแล้วคนที่มีอิทธิพลพอจะกำหนดราคาตลาดโลกได้ก็คือกลุ่มโอเปค เพราะสามรถควบคุมปริมาณน้ำมันที่ผลิตออกขายได้  ประเทศอื่นอย่างอมริกาผลิตได้เยอะนานแล้ว แต่ใช้ไม่พอในประเทศ

   ส่วนเรื่องน้ำมันมาจากแกนโลกหรือไม่ก็แล้วแต่ใครจะเชื่อ  แต่แค่การยกตัวอย่างแหล่งฝาง  ก็ออกจะเป็นการยกตัวอย่างที่บิดเบี้ยวแล้ว  เพราะว่าที่แหล่งน้ำมันฝางยังผลิตได้อยู่ทุกวันนี้ เพราะเขาลงทุนขุดเจาะหลุมเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ เพื่อรักษากำลังการผลิต ตอนนี้มีหลุม 60 หลุม(ซึ่งน่าจะไม่ได้ไหลทั้งหมด)  จาก 70 หลุม กำลังการผลิตแค่ไม่ถึงพันบาร์เรลต่อวัน  ถ้าน้ำมันมันมาจากแกนโลกจริงๆ  เขาคงไม่ต้องขุดหลุมเพิ่มเติมมากมายขนาดนี้  รวมถึงการผลิตจากแหล่งผลิตในอ่าวไทยเหมือนกัน  ทุกวันนี้ต้องติดตั้งแท่นผลิตและหลุมผลิตเพิ่มเติมทุกวันเพื่อรักษากำลังการผลิต   และมีการเริ่มผลิตจากแหล่งๆใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม   อย่างการผลิตจากเชลล์ออยล์มันก็คือ การผลิตจากแหล่งใหม่ เข้ามาเพิ่มไม่ได้อยู่ดีๆ ไหลกลับขึ้นมาจากแกนโลกในแหล่งเดิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่