ขอย้อนกลับไปที่ปี 2014 เดือน 5 นะคะ ช่วงนั้นเราหนัก 55-56 ค่ะ สูง 159 ค่อนข้างอวบ เอวนี่ไม่มี กินอะไรไม่เคยยั้งปาก
แล้วเราก็มาเรียนที่ต่างประเทศ แต่ละวันใช้พลังงานมากกว่าอยู่เมืองไทยเยอะมาก ทั้งการเดินทางและอื่นๆ
ทำให้เราเกิดความคิดที่จะคุมน้ำหนัก ก็เลยค่อยๆลดทีละนิดโดยการเดินเยอะๆ ไม่ใช้ลิฟท์แต่ขึ้นบันได อะไรเทือกนี้
แล้วก็คุมแคลอรี่เป็นหลัก (ไม่ได้คุมแบบทรมานสังขารตัวเองนะคะ คือตอนเช้ากินกล้วยหอม ตอนเที่ยงนี่กินทุกอย่างที่อยากกิน จะของหวานอะไรก็จัดหมดแต่ขอให้ไม่เกินเท่านั้น ส่วนตอนเย็นกินสลัดหรือผลไม้ค่ะ เป็นคนไม่ค่อยหิวตอนเย็น)
จาก 55 ใช้เวลาประมาณ 6-8 เดือน(จำไม่ได้ว่ากี่เดือนกันแน่ แต่ประมาณนี้) เหลือ 50 ค่ะ
ล่าสุดนี้ชั่งเมื่อวาน เหลือ 49 แล้ว คือดีใจมาก มีแต่คนทักว่าผอมลง ขาเล็ก หน้าไม่บวมเหมือนแต่ก่อน มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ
แต่....เรามีโรคจิตอย่างนึงค่ะ
คือเราลดเหลือ 49 แล้วก็จริง เสื้อผ้าใส่ไซส์เล็กลงมาได้เยอะมากก็จริง แต่ตัวเองกลับมีความคิดตลอดเวลาว่า "ยังหรอก ฉันยังไม่ผอม ขาก็ยังใหญ่ แขนก็ยังใหญ่" เวลามีคนชมเราก็จะดีใจ แต่สักพักก็จะกลับมากลุ้มใหม่ ประมาณว่า "เค้าชมเราตามมารยาทหรือเปล่านะ เรายังไม่ผอมหรอกจริงๆใช่ไหม"
ส่วนนึงอาจเป็นเพราะ เราส่องกระจกทุกวัน เราเห็นรูปร่างตัวเองทุกวัน เลยไม่รู้สึกว่ามันเปลี่ยนแปลงมั้งคะ เอวก็ไม่ใช่ว่าจะมี สะโพกก็ใหญ่ เวลาไปซื้อเสื้อผ้าทีไรจะคอยกังวลว่าต้องไซส์ L หรือเปล่า (ซึ่งเพื่อนเราก็จะคอยช่วยบอกว่า อย่างนี่ M ไม่ก็ S ไปเหอะ ห้องลองชุดอยู่ทางนั้นไปลองไป๊ << เพื่อนน่ารักมากกกก )
เหมือนความอ้วนมันยังตามมาหลอกหลอนเราไม่ให้เรามีความสุข กลุ้มมาก ไม่รู้จะทำยังไง มีวิธีไหนกำจัดความคิดแง่ลบที่เรามีต่อร่างกายตัวเองมั้ยคะ ทุกวันนี้ก็พยายามบอกตัวเองอยู่ว่า ไม่ได้อ้วนน่าเกลียดแบบเมื่อก่อนแล้วนะ ถ่ายรูปออกมาสวยขึ้นเยอะแล้วนะ แต่มันก็ยังอดมีความเครียดทุกครั้งไม่ได้ แล้วก็เหมือนเกิดอาการกลัวที่ชั่งน้ำหนัก กลัวว่าวันดีคืนดีชั่งไป แล้วมันไม่ใช่ 49 แต่เป็น 50+ ขึ้นไป จะทำยังไงดี ฯลฯ บลา บลา บลา
ปล. แต่ตอนนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะลดให้ถึง 45 ค่ะ ไม่ได้อยากหนัก 45 นะคะ พอดีอ่านเจอมาว่า เวลาลดน้ำหนักเนี่ย ให้ลดเผื่อมันเด้งกลับมาสัก 1-2 กิโล เราอยากหนักประมาณ 47 ค่ะเลยจะลดเผื่อไว้ก่อน สูง 159 หนัก 47 ถือว่ามากไปหรือน้อยไปคะ? ไม่ได้อยากผอมเป็นนางแบบหรอกค่ะแต่ทุกวันนี้ยังมีพุงยื่นออกมาอยู่เลย เราไม่ชอบพุงตัวเอง เลยคิดว่าถ้าลดได้มากกว่านี้มันน่าจะยุบลงไปมั่งน่ะค่ะ
สาวๆที่เคยอ้วนแล้วลดน้ำหนักสำเร็จ มีใครยังติดความคิดที่ว่า "ตัวเองยังอ้วนอยู่" แบบเราบ้างมั้ยคะ
แล้วเราก็มาเรียนที่ต่างประเทศ แต่ละวันใช้พลังงานมากกว่าอยู่เมืองไทยเยอะมาก ทั้งการเดินทางและอื่นๆ
ทำให้เราเกิดความคิดที่จะคุมน้ำหนัก ก็เลยค่อยๆลดทีละนิดโดยการเดินเยอะๆ ไม่ใช้ลิฟท์แต่ขึ้นบันได อะไรเทือกนี้
แล้วก็คุมแคลอรี่เป็นหลัก (ไม่ได้คุมแบบทรมานสังขารตัวเองนะคะ คือตอนเช้ากินกล้วยหอม ตอนเที่ยงนี่กินทุกอย่างที่อยากกิน จะของหวานอะไรก็จัดหมดแต่ขอให้ไม่เกินเท่านั้น ส่วนตอนเย็นกินสลัดหรือผลไม้ค่ะ เป็นคนไม่ค่อยหิวตอนเย็น)
จาก 55 ใช้เวลาประมาณ 6-8 เดือน(จำไม่ได้ว่ากี่เดือนกันแน่ แต่ประมาณนี้) เหลือ 50 ค่ะ
ล่าสุดนี้ชั่งเมื่อวาน เหลือ 49 แล้ว คือดีใจมาก มีแต่คนทักว่าผอมลง ขาเล็ก หน้าไม่บวมเหมือนแต่ก่อน มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ
แต่....เรามีโรคจิตอย่างนึงค่ะ
คือเราลดเหลือ 49 แล้วก็จริง เสื้อผ้าใส่ไซส์เล็กลงมาได้เยอะมากก็จริง แต่ตัวเองกลับมีความคิดตลอดเวลาว่า "ยังหรอก ฉันยังไม่ผอม ขาก็ยังใหญ่ แขนก็ยังใหญ่" เวลามีคนชมเราก็จะดีใจ แต่สักพักก็จะกลับมากลุ้มใหม่ ประมาณว่า "เค้าชมเราตามมารยาทหรือเปล่านะ เรายังไม่ผอมหรอกจริงๆใช่ไหม"
ส่วนนึงอาจเป็นเพราะ เราส่องกระจกทุกวัน เราเห็นรูปร่างตัวเองทุกวัน เลยไม่รู้สึกว่ามันเปลี่ยนแปลงมั้งคะ เอวก็ไม่ใช่ว่าจะมี สะโพกก็ใหญ่ เวลาไปซื้อเสื้อผ้าทีไรจะคอยกังวลว่าต้องไซส์ L หรือเปล่า (ซึ่งเพื่อนเราก็จะคอยช่วยบอกว่า อย่างนี่ M ไม่ก็ S ไปเหอะ ห้องลองชุดอยู่ทางนั้นไปลองไป๊ << เพื่อนน่ารักมากกกก )
เหมือนความอ้วนมันยังตามมาหลอกหลอนเราไม่ให้เรามีความสุข กลุ้มมาก ไม่รู้จะทำยังไง มีวิธีไหนกำจัดความคิดแง่ลบที่เรามีต่อร่างกายตัวเองมั้ยคะ ทุกวันนี้ก็พยายามบอกตัวเองอยู่ว่า ไม่ได้อ้วนน่าเกลียดแบบเมื่อก่อนแล้วนะ ถ่ายรูปออกมาสวยขึ้นเยอะแล้วนะ แต่มันก็ยังอดมีความเครียดทุกครั้งไม่ได้ แล้วก็เหมือนเกิดอาการกลัวที่ชั่งน้ำหนัก กลัวว่าวันดีคืนดีชั่งไป แล้วมันไม่ใช่ 49 แต่เป็น 50+ ขึ้นไป จะทำยังไงดี ฯลฯ บลา บลา บลา
ปล. แต่ตอนนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะลดให้ถึง 45 ค่ะ ไม่ได้อยากหนัก 45 นะคะ พอดีอ่านเจอมาว่า เวลาลดน้ำหนักเนี่ย ให้ลดเผื่อมันเด้งกลับมาสัก 1-2 กิโล เราอยากหนักประมาณ 47 ค่ะเลยจะลดเผื่อไว้ก่อน สูง 159 หนัก 47 ถือว่ามากไปหรือน้อยไปคะ? ไม่ได้อยากผอมเป็นนางแบบหรอกค่ะแต่ทุกวันนี้ยังมีพุงยื่นออกมาอยู่เลย เราไม่ชอบพุงตัวเอง เลยคิดว่าถ้าลดได้มากกว่านี้มันน่าจะยุบลงไปมั่งน่ะค่ะ