สาเหตุหลักที่ทำให้ผมตัดสินใจดูเรื่อง Torn Curtain นั้นคงมาจากชื่อเสียงเรียงนามของผู้กำกับฮิตช์ค็อค กับนักแสดงที่คราวนี้ไม่ได้มีทีมเก่าหลงเหลืออยู่อีกแล้ว (ผมได้ไปอ่านเกร็ดความรู้มาซึ่งบอกประมาณว่าตัวเลือกแรกๆของคู่พระนางคือแครี่ แกรนท์ กับ อีวา-มารี เซนต์แต่สตูดิโอบีบให้เลือกนักแสดงที่เด็กกว่าและดังกว่าบวกกับหนึ่งในนั้นปฏิเสธบท) นั่นก็คือ พอล นิวแมน กับ จูลี่ แอนดรูว์ส นั่นเอง
พล็อตเรื่องมีอยู่ว่านักวิทยาศาสตร์หนุ่มได้เดินทางไปยุโรปตะวันออกเพื่อขโมยสูตรคณิตศาสตร์จากศาสตราจารณ์ท่านหนึ่ง โดยที่เขาต้องแกล้งย้ายมาอยู่พวกเดียวคอมมิวนิสต์ ในขณะที่แฟนสาวของเขาแอบตามเขามาด้วยเพราะความสงสัยจนต้องตกกระไดพลอยโจนตามไปด้วย หลังจากขโมยสูตรคณิตศาสตร์มาแล้วเขาต้องหาทางพาตัวเองกับแฟนสาวเอาตัวรอดจากพวกคอมมิวนิสต์หลังจากที่ฝ่ายหลังเริ่มระแคะระคายกับการหายตัวไปของพวก
พล็อตเรื่องฟังดูเหมือนสนุกแต่เอาเข้าจริงๆหนังมีอารมณ์เดียวกับ Lucy (2014) (ดูตัวอย่างเหมือนหนังแอ็คชั่นแต่พอไปดูจริงๆกลับพูดถึงแต่เรื่องทฤษฎี ซึ่งแอ็คชั่นเป็นเรื่องรองลงมา) และ Sadako 3D 2 เลย หนังดูสนุกในตอนแรกจนถึงตัวละครของจูลี่ แอนดรูว์สแอบตามตัวละครของพอล นิวแมนขึ้นเครื่องบิน หลังจากนั้นหนังก็เรื่อยๆ พระนางมีดราม่าใส่กันนิดหน่อย จากนั้นก็คุยกันตั้งแต่เรื่องจิปาถะไปจนถึงเรื่องงาน (น่าแปลกที่หนังก่อนหน้านี้อย่าง Rope กับ The Birds ก็มีคุยกันแต่ไม่ยักจะทำลายบรรยากาศของหนัง) ฉากที่พระเอกกับภรรยาชาวนาฆ่าพวกคอมมิวนิสต์นั้นดูยืดเยื้อแต่ก็ยังมีให้ลุ้นอยู่บ้าง(ว่าหมอนี่จะตายยังไง) สัมผัสตื่นเต้นแบบฮิตช์ค็อคกว่าจะโผล่ออกมาได้ก็ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของหนัง ซึ่งเป็นตอนที่พระนางกำลังจะหนีพวกคอมมิวนิสต์พอดี
หนังโดยรวมก็โอเคแต่ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่