ตอบกี่เรื่องก็ได้นะครับ ตามใจท่านเลย
ยุคนี้ผมว่าหนังแอ็คชั่นยกระดับความมันส์ขึ้นเป็นทวีคูณ จากยุค 80-90 ที่เริ่มทำหนังแอ็คชั่นได้น่ายอดเยี่ยมและประทับใจ ที่ขึ้นหิ้งเป็นตำนานจนยุคหลังได้แรงบันดาลใจคือ หนังตระกูล Die Hard, Rambo, Terminator ทั้งสองภาคของผกก.เจมส์ คาเมร่อน , หนังของป๋านิโคลัสเคจ The Rock, Face/Off และ Con Air , หนังไซไฟสุดล้ำในปี 1999 The Matrix และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย
มาเริ่มกันเลยกับหนังแอ็คชั่นยุค 2000-2009 ที่โกนใจและประทับใจสำหรับผม
1) Mission Impossible 2 (2000)
หนังแอ็คชั่นสายลับภาคต่อของทอม ครูซ ที่ภาคนี้ได้ผกก.ขาบู๊ จอห์น วู มากำกับ ภาคนี้หลายคนอาจไม่ชอบเท่าภาคหลังๆ แต่ผมว่าภาคนี้ทำให้ตัวละครอีธาน ฮันท์ดูมีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ให้คอหนังติดตาถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ทรงผม เสื้อผ้า ฉากสโลพร้อมฉากแอ็คชั่นเท่ๆ ฉากแว๊นมอเตอร์์ไซค์ ถึงภาคนี้นางเอกจะไม่สวยสมในบทบาทที่ตัวเอกกับตัวร้ายหลงรักก็ตาม บทเนื้อเรื่องไม่เข้มข้น ฉากแอ็คชั่นดูสไตล์เฮียวูสุดๆ แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนัง MI กลายมาเป็นหนังแอ็คชั่นเต็มตัว ครั้งแรกที่ผมได้ดูเรื่องนี้ ผมงงมาก หลังจากภาคแรก หนังเรื่องนี้จะชิงไหวพริบกันในโลกของจารชน ไม่มีฉากบู๊อะไรมากมาย แต่ภาคนี้มันแอ็คชั่นเวอร์วังอลังมาก มันดูผิดคอนเซ็ป MI แต่มันก็เจ๋งในแบบจอห์น วู
2) The Fast & The Furious (2001)
หนังรถซิ่งในตำนาน กับภาคแรกในจอภาพยนตร์ เรื่องนี้ผกก. Rob Cohen ได้แรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง Point Break ในปี 1991 ภาคแรกนี้ฉากแอ็คชั่นไม่อลังการเท่ากับภาคหลังๆ แต่เป็นภาคที่คลาสสิกกับหลายฉาก หลายคำพูดที่น่าจดจำ มิตรภาพความเป็นครอบครัวและเพื่อน ระหว่าง ดอม & ไบรอัน ตำรวจสายสืบกับโจร คนละสายเลือด แต่มิตรภาพก็ไม่สามารถขวางทางพวกเขาได้
3) xXx (2002)
หนังแอ็คชั่นสายลับพันธ์เกรียน วิน ดีเซลรับบทเป็น แซนเดอร์ เคจ กลุ่มเด็กเกรียนที่ทำเรื่องโลดโผนสร้างปัญหาให้ตำรวจต้องปวดหัว ต้องรับหน้าที่เป็นยอดจารชนพันธ์ X ทะลายแกงค์รัสเซียที่ต้องการทำสงครามโลกครั้งที่ 3 หนังเรื่องนี้ได้ผกก. Fast Rob Cohen เจ้าเก่านำดีเซลมาแสดงอีกบทบาทที่ทำให้ดีเซลเป็นตำนานถึงทุกวันนี้ หนังจะแอ็คชั่นปนตลก และมีสไตล์มากๆ ทั้งฉากขี่มอเตอร์ไซค์โลดโผน รวมถึงขี่สโนบอร์ดหนีหิมะถล่ม
4) The Bourne Identity (2002)
หนังแอ็คชั่นสายลับม้ามืดในตอนนั้น ที่ได้ แมตต์ เดม่อน มาแสดงในบท เจสัน บอร์น มือสังหารควนมจำเสื่อมที่ต้องสืบหาตัวตนที่แท้จริง ในขณะที่เขาต้องหนีจากเหล่านักฆ่าและตำรวจ หนังเรื่องนี้ตอนผมได้ดูครั้งแรกต้องบอกว่า โคตรจะประทับใจ ทั้งฉากแอ็คชั่นปนดราม่าของบอร์นทำให้เรานั่งติดอยู่กับที่อยากดูให้จบ หนังสมจริงเอามากๆ เป็นหนังสายลับยุคปฏิวัติเลยก็ว่าได้ จนเจมส์ บอนด์ หนังสายลับรุ่นพี่ต้องไปรีบูทใหม่ และเรื่องนี้ยังทำให้ เดม่อนกับ Doug Liman ผกก.ดังอีกด้วย
5) Man On Fire (2004)
หนังทริลเลอร์ที่ได้เดนเซล วอชิงตันดาราออสการ์มาแสดงนำในบทของ จอห์น คริซี่ บอดี้การ์ดหนูน้อยคนนึงที่ถูกลักพาตัวไป เขาเลยต้องตามไปช่วยเหลือเด็ก กับปมปริศนาอีกมากมาย หนังเรื่องนี้ไม่ได้บู๊ระห่ำมากมาย ดูสมจริงและตึงเครียดพอสมควร หนังปูเรื่องดีตั้งแต่พระเอกมาเริ่มทำงานมีความผูกพันกับเด็กหญิง จนไปถึงการตามล่าพวกตัวร้ายที่โคตรโหด กับจนจบสุดซึ้ง
6) Collateral (2004)
หนังขึ้นหิ้งอีกเรื่องของ ผกก.ไมเคิล มานน์จากหนังเรื่อง Heat ที่ได้สองดาราดังมาเชือดเฉือนกัน ทอมครูซกับเจมี่ฟอกซ์ เรื่องนี้เพลงประกอบหนังก็ดี บทพูด ฉากบู๊ก็ทำดี ได้อารมณ์ทริลเลอร์สุดๆ เรื่องราวของคนขับรถแท็กซี่ผิวสีจิตใจดีนาม แมกซ์ ได้รับผู้โดยสารแต่งตัวดีคนนึง นาม วินเซนต์ ที่จ้างเขาให้ขับรถไปที่ต่างๆที่เขาบอกในค่ำคืนอันเงียบของเมืองแอลเอ จนความแตก วินเซนต์ คือมือปืนที่ถูกว่าจ้างจากแกงค์มาเฟียให้ตามเก็บพยานทั้งหมดเพื่อไม่ให้ขึ้นให้การในศาล แมกซ์ต้องเจอกับมือปืนใจอำมหิตในขณะที่เขาก็พยายามขัดขวางทุกวิธี เรื่องนี้ ทอม ครูซ พลิกบทบาทจากพระเอกหล่อๆ มาเป็นตัวร้ายสุดเท่ สายตาอำมหิตดูเลือดเย็น ในขณะที่เจมี่ ฟอกซ์ก็แสดงบทของแมกซ์คนขับรถแท็กซี่ได้ดีมาก
7)The Bourne Supremacy (2004)
หนังสายลับภาคต่อสุดระทึก ที่ได้ผกก.มือดีกับการกำกับภาพอันเป็นเอกลักษณ์ Paul Greenglass มากำกับ เรื่องราวต่อจากภาคแรกหลังหนีจากการไล่ล่าบอร์นได้ใช้ชีวิตสงบกับมารีแฟนของเขาที่อินเดีย ไม่นานพวกเขาก็ถูกไล่ล่าจนทำให้มารีตาย บอร์นจึงต้องกลับมาในวังวนอีกครั้ง เพื่อตามล่ามือสังหารในขณะเดียวกันเขาก็ถูกซีไอเอตามล่าด้วย ภาคนี้ดูสมจริงสมจังขึ้นกว่าภาคแรกอีก โทนหนัง ฉากแอ็คชั่นที่ดุดันไร้เสียงดนตรีประกอบ กับเนื้อเรื่องชวนน่าติดตาม ได้แปลกที่ผมจะให้อยู่ในลิสนี้
8) Mr.&Mrs.Smith (2005)
หนังแอ็คชั่นสุดโรแมนติกระหว่าง แบรด พิตต์ กับ แองเจเลน่า โจลี่ ในบทบาทสามีภรรยายอดนักฆ่าคู่อริ ที่ทั้งสองมารักกันจริงนอกจอ ได้ผกก. Doug Liman จาก The Bourne Identity มากำกับ หนังทำออกมาได้ดี ทั้งฉากแอ็คชั่น รวมถึงฉากเซ็กซี่ แต่ความหล่อสวยของพระนางก็ต้องยอมดูแล้ว
9) War Of The Worlds (2005)
หนังไซไฟสุดระทึกของ ป๋า สปิลเบิร์ก พ่อมดแห่งฮฮลลีวู้ด ได้ ทอม ครูซมาแสดงนำในบทคนงานท่าเรือไม่ค่อยได้เรื่องที่ต้องพาลูกสองคนหนีออกจากเมือง ในเหตุการณ์มนุษย์ต่างดาวบุกโลก จนเกิดเป็นสงครามระหว่างมวลมนุษย์กับเหล่าต่างดาว หนังลุ้นระทึกดี เอฟเฟล็กดีมาก ทอมก็แสดงดี แสดงถึงพ่อรักลูกพยายามทำทุกอย่างให้ลูกปลอดภัย
10) Casino Royal (2006)
หนังรีบูทชุดใหม่ของ เจมส์ บอนด์ สายลับเมืองผู้ดี ได้แดเนี่ยล เคร็ก มาแสดงในบทบอนด์ ซึ่งตอนแรกที่หนังเข้าฉากคนหลายคนแอนตี้เคร็กมากเนื่องจากดูไม่เหมาะสมกับความเป็นบอนด์ ดูไม่มีเสน่ห์หรือหล่อ ตามแบบฉบับเดิม แต่หลังจากนั้นมา แกก็เป็นทั้งไอคอนและมีแฟนคลับเยอะไม่ใช่น้อย บอนด์เว่อร์ชั่นเคร็กมีความสมจริงสมจังมากกว่าบอนด์ยุคเก่า มีดราม่า ไม่มีอุปกรณ์ไฮเทคช่วยมาก เน้นสมอง กับ ความเล่ห์เลี่ยมสู้กับเหล่าร้าย ฉากแอ็คชั่นดู real และสนุกมากขึ้น ภาคนี้ทำรายได้สูงมากจนบริษัท MGM เลิกเจ๊ง เพราะก่อนหน้าเจ๊ง ได้เฮียเคร็กกู้หน้าจนมีภาคต่อตามมาอีกสามภาค
11) Mission Impossible 3 (2006)
หนัง MI ภาคต่อ ได้ผกก.ซีรีย์ Lost มากำกับหนังเป็นเรื่องแรกและทำได้ดีมาก JJ Abrams เรื่องราวของสายลับฮันท์ในภารกิจตามล่าตีนกระต่ายเพื่อช่วยชีวิตเมียของเขา ให้รอดพ้นจากพ้อค้าอาวุธสุดโหด หนังภาคนี้ดูซีเรียสและตึงเครียดพอสมควร ตั้งแต่ฉากแรกที่เปิดเรื่อง ฉากแอ็คชั่นสุดมัน รวมถึงฉากสนทนาทีาเข้มข้น และคอนเซปในการทำงานเป็นทีมแบบ MI
12) Shooter (2007)
หนังดังของมาร์ค วอลเบิร์ก ผลงานผกก. Training Day เรื่องราวของอดีตสไนเปอร์กองทัพสหรัฐ๚ ที่ถูกว่าจ้างสกัดแผนลอบสังหารปธน.แต่เขาถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นคนลอบสังหารซะเองจากผู้ว่าจ้าง ตอนนี้มีอย่างเดียวเขาต้องสืบหาความจริงและล้างบางคนเลว หนังถ่ายทอดของปืนไรเฟิลได้ดี แต่ละฉากที่พี่แกจับปืนไรเฟิลนี่แบบสุดๆแล้ว หนังมีความทริลเลอร์ + ฉากแอ็คชั่นเจ๋งๆ
13) Shoot 'Em Up (2007)
หนังเรื่องนี้
ยิงกันทั้งเรื่องตามชื่อเรื่องจริงๆ เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ดูแล้วทำให้นึกถึงฉากดวลปืนของจอห์นวูขึ้นมา เรื่องราวของหนุ่มมาดเถื่อนนิรนาม นาม สมิธ ได้เจอกับเหตุการณ์แม่เด็กอุ้มท้องถูกกลุ่มชายปริศนาตามฆ่า แกเลยไปช่วย หลังจากนั้นความมันก็เกิดขึ้นตลอดชั่วโมงกว่า ฉากยิงแบบใช้กระสุนไปเยอะมาก + มุขตลกสอดเข้าไปในหนัง ฉากพระนางแบบว่า...แล้วยิงไปด้วย
จนเป็นหนังในดวงใจของผมอีกเรื่อง
14) The Bourne Ultimatum (2007)
Paul Greenglass & Matt Damon กลับมาแท็คทีมจัดเตรียมกับบอร์นภาคนี้ เรื่องราวการค้นหาอดีตของบอร์นอีกครั้ง หลังเขาพบเบาะแสคนให้ข่าวเกี่ยวกับตัวของเขาและโครงการลับของซีไอเอ ภาคนี้เป็นภาคที่ผมชอบและประทับใจมากที่สุดในหนังตระกูล Bourne ทั้งฉากไล่ล่า ฉากชิงไหวพริบ ฉากแอ็คชั่นสุดจะครีเอด
15) Die Hard 4.0 (2007)
กลับมาอีกครั้งของคนอึดตายยาก จอห์น แม็คเคลนตำรวจสายสืบที่คราวนี้เขากับคู่หูคนใหม่ แมทธิว หนุ่มแฮ็กเกอร์ต้องช่วยกันหยุดเหตุการณ์ก่อการร้ายทางไซเบอร์ ภาคนี้สนุกตั้งแต่ต้นจนจบ ฉากบู๊มันมากๆ ทั้งฉากขับรถไล่ล่า ฉากขับรถลงช่องลิฟท์ รวมถึงฉากเครื่องบินรบไล่ล่ารถพระเอก ได้ผกก. Underworld มากำกับ Len Wiseman ซึ่งแกก็ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว
16) Valkyrie (2008)
หนังของผกก. X-Men ไบรอัน ซิงเกอร์ กับทอม ครูซ มาเล่าเรื่องราวกลุ่มทหารเยอรมันกลุ่มนึงที่วางแผนลอบสังหารผู้นำนาซี ฮิตเลอร์ ด้วยแผนอันแยบยล หนังออกมาได้ดีมาก บทพูดของแต่ละตัวละครทำให้อินมาก ทอม ครูซ นี่ไม่ต้องพูดถแสดงได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
17) Fast & Furious 4 (2009)
การกลับมาเจอกันอีกครั้งของ ดอม & ไบรอัน ในการโค่นแกงค์ค้ายาราบใหญ่ชาวเม็กซิกัน ภาคนี้ปูเนื้อเรื่องให้แอ็คชั่นเต็มตัว ซีนเท่ๆของพระเอกทั้งสองมากขึ้น เป็นหนังอาชาญกรรมมากกว่าแข่งรถ ถึงจะดูเว่อร์กว่าภาคแรกแต่ก็ทำให้หนังตระกูล Fast มีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามเพิ่มมากขึ้น
หนังแอ็คชั่นยุค 2000-2009 ในดวงใจคุณมีเรื่องอะไรบ้าง
ยุคนี้ผมว่าหนังแอ็คชั่นยกระดับความมันส์ขึ้นเป็นทวีคูณ จากยุค 80-90 ที่เริ่มทำหนังแอ็คชั่นได้น่ายอดเยี่ยมและประทับใจ ที่ขึ้นหิ้งเป็นตำนานจนยุคหลังได้แรงบันดาลใจคือ หนังตระกูล Die Hard, Rambo, Terminator ทั้งสองภาคของผกก.เจมส์ คาเมร่อน , หนังของป๋านิโคลัสเคจ The Rock, Face/Off และ Con Air , หนังไซไฟสุดล้ำในปี 1999 The Matrix และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย
มาเริ่มกันเลยกับหนังแอ็คชั่นยุค 2000-2009 ที่โกนใจและประทับใจสำหรับผม
1) Mission Impossible 2 (2000)
หนังแอ็คชั่นสายลับภาคต่อของทอม ครูซ ที่ภาคนี้ได้ผกก.ขาบู๊ จอห์น วู มากำกับ ภาคนี้หลายคนอาจไม่ชอบเท่าภาคหลังๆ แต่ผมว่าภาคนี้ทำให้ตัวละครอีธาน ฮันท์ดูมีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ให้คอหนังติดตาถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ทรงผม เสื้อผ้า ฉากสโลพร้อมฉากแอ็คชั่นเท่ๆ ฉากแว๊นมอเตอร์์ไซค์ ถึงภาคนี้นางเอกจะไม่สวยสมในบทบาทที่ตัวเอกกับตัวร้ายหลงรักก็ตาม บทเนื้อเรื่องไม่เข้มข้น ฉากแอ็คชั่นดูสไตล์เฮียวูสุดๆ แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนัง MI กลายมาเป็นหนังแอ็คชั่นเต็มตัว ครั้งแรกที่ผมได้ดูเรื่องนี้ ผมงงมาก หลังจากภาคแรก หนังเรื่องนี้จะชิงไหวพริบกันในโลกของจารชน ไม่มีฉากบู๊อะไรมากมาย แต่ภาคนี้มันแอ็คชั่นเวอร์วังอลังมาก มันดูผิดคอนเซ็ป MI แต่มันก็เจ๋งในแบบจอห์น วู
2) The Fast & The Furious (2001)
หนังรถซิ่งในตำนาน กับภาคแรกในจอภาพยนตร์ เรื่องนี้ผกก. Rob Cohen ได้แรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง Point Break ในปี 1991 ภาคแรกนี้ฉากแอ็คชั่นไม่อลังการเท่ากับภาคหลังๆ แต่เป็นภาคที่คลาสสิกกับหลายฉาก หลายคำพูดที่น่าจดจำ มิตรภาพความเป็นครอบครัวและเพื่อน ระหว่าง ดอม & ไบรอัน ตำรวจสายสืบกับโจร คนละสายเลือด แต่มิตรภาพก็ไม่สามารถขวางทางพวกเขาได้
3) xXx (2002)
หนังแอ็คชั่นสายลับพันธ์เกรียน วิน ดีเซลรับบทเป็น แซนเดอร์ เคจ กลุ่มเด็กเกรียนที่ทำเรื่องโลดโผนสร้างปัญหาให้ตำรวจต้องปวดหัว ต้องรับหน้าที่เป็นยอดจารชนพันธ์ X ทะลายแกงค์รัสเซียที่ต้องการทำสงครามโลกครั้งที่ 3 หนังเรื่องนี้ได้ผกก. Fast Rob Cohen เจ้าเก่านำดีเซลมาแสดงอีกบทบาทที่ทำให้ดีเซลเป็นตำนานถึงทุกวันนี้ หนังจะแอ็คชั่นปนตลก และมีสไตล์มากๆ ทั้งฉากขี่มอเตอร์ไซค์โลดโผน รวมถึงขี่สโนบอร์ดหนีหิมะถล่ม
4) The Bourne Identity (2002)
หนังแอ็คชั่นสายลับม้ามืดในตอนนั้น ที่ได้ แมตต์ เดม่อน มาแสดงในบท เจสัน บอร์น มือสังหารควนมจำเสื่อมที่ต้องสืบหาตัวตนที่แท้จริง ในขณะที่เขาต้องหนีจากเหล่านักฆ่าและตำรวจ หนังเรื่องนี้ตอนผมได้ดูครั้งแรกต้องบอกว่า โคตรจะประทับใจ ทั้งฉากแอ็คชั่นปนดราม่าของบอร์นทำให้เรานั่งติดอยู่กับที่อยากดูให้จบ หนังสมจริงเอามากๆ เป็นหนังสายลับยุคปฏิวัติเลยก็ว่าได้ จนเจมส์ บอนด์ หนังสายลับรุ่นพี่ต้องไปรีบูทใหม่ และเรื่องนี้ยังทำให้ เดม่อนกับ Doug Liman ผกก.ดังอีกด้วย
5) Man On Fire (2004)
หนังทริลเลอร์ที่ได้เดนเซล วอชิงตันดาราออสการ์มาแสดงนำในบทของ จอห์น คริซี่ บอดี้การ์ดหนูน้อยคนนึงที่ถูกลักพาตัวไป เขาเลยต้องตามไปช่วยเหลือเด็ก กับปมปริศนาอีกมากมาย หนังเรื่องนี้ไม่ได้บู๊ระห่ำมากมาย ดูสมจริงและตึงเครียดพอสมควร หนังปูเรื่องดีตั้งแต่พระเอกมาเริ่มทำงานมีความผูกพันกับเด็กหญิง จนไปถึงการตามล่าพวกตัวร้ายที่โคตรโหด กับจนจบสุดซึ้ง
6) Collateral (2004)
หนังขึ้นหิ้งอีกเรื่องของ ผกก.ไมเคิล มานน์จากหนังเรื่อง Heat ที่ได้สองดาราดังมาเชือดเฉือนกัน ทอมครูซกับเจมี่ฟอกซ์ เรื่องนี้เพลงประกอบหนังก็ดี บทพูด ฉากบู๊ก็ทำดี ได้อารมณ์ทริลเลอร์สุดๆ เรื่องราวของคนขับรถแท็กซี่ผิวสีจิตใจดีนาม แมกซ์ ได้รับผู้โดยสารแต่งตัวดีคนนึง นาม วินเซนต์ ที่จ้างเขาให้ขับรถไปที่ต่างๆที่เขาบอกในค่ำคืนอันเงียบของเมืองแอลเอ จนความแตก วินเซนต์ คือมือปืนที่ถูกว่าจ้างจากแกงค์มาเฟียให้ตามเก็บพยานทั้งหมดเพื่อไม่ให้ขึ้นให้การในศาล แมกซ์ต้องเจอกับมือปืนใจอำมหิตในขณะที่เขาก็พยายามขัดขวางทุกวิธี เรื่องนี้ ทอม ครูซ พลิกบทบาทจากพระเอกหล่อๆ มาเป็นตัวร้ายสุดเท่ สายตาอำมหิตดูเลือดเย็น ในขณะที่เจมี่ ฟอกซ์ก็แสดงบทของแมกซ์คนขับรถแท็กซี่ได้ดีมาก
7)The Bourne Supremacy (2004)
หนังสายลับภาคต่อสุดระทึก ที่ได้ผกก.มือดีกับการกำกับภาพอันเป็นเอกลักษณ์ Paul Greenglass มากำกับ เรื่องราวต่อจากภาคแรกหลังหนีจากการไล่ล่าบอร์นได้ใช้ชีวิตสงบกับมารีแฟนของเขาที่อินเดีย ไม่นานพวกเขาก็ถูกไล่ล่าจนทำให้มารีตาย บอร์นจึงต้องกลับมาในวังวนอีกครั้ง เพื่อตามล่ามือสังหารในขณะเดียวกันเขาก็ถูกซีไอเอตามล่าด้วย ภาคนี้ดูสมจริงสมจังขึ้นกว่าภาคแรกอีก โทนหนัง ฉากแอ็คชั่นที่ดุดันไร้เสียงดนตรีประกอบ กับเนื้อเรื่องชวนน่าติดตาม ได้แปลกที่ผมจะให้อยู่ในลิสนี้
8) Mr.&Mrs.Smith (2005)
หนังแอ็คชั่นสุดโรแมนติกระหว่าง แบรด พิตต์ กับ แองเจเลน่า โจลี่ ในบทบาทสามีภรรยายอดนักฆ่าคู่อริ ที่ทั้งสองมารักกันจริงนอกจอ ได้ผกก. Doug Liman จาก The Bourne Identity มากำกับ หนังทำออกมาได้ดี ทั้งฉากแอ็คชั่น รวมถึงฉากเซ็กซี่ แต่ความหล่อสวยของพระนางก็ต้องยอมดูแล้ว
9) War Of The Worlds (2005)
หนังไซไฟสุดระทึกของ ป๋า สปิลเบิร์ก พ่อมดแห่งฮฮลลีวู้ด ได้ ทอม ครูซมาแสดงนำในบทคนงานท่าเรือไม่ค่อยได้เรื่องที่ต้องพาลูกสองคนหนีออกจากเมือง ในเหตุการณ์มนุษย์ต่างดาวบุกโลก จนเกิดเป็นสงครามระหว่างมวลมนุษย์กับเหล่าต่างดาว หนังลุ้นระทึกดี เอฟเฟล็กดีมาก ทอมก็แสดงดี แสดงถึงพ่อรักลูกพยายามทำทุกอย่างให้ลูกปลอดภัย
10) Casino Royal (2006)
หนังรีบูทชุดใหม่ของ เจมส์ บอนด์ สายลับเมืองผู้ดี ได้แดเนี่ยล เคร็ก มาแสดงในบทบอนด์ ซึ่งตอนแรกที่หนังเข้าฉากคนหลายคนแอนตี้เคร็กมากเนื่องจากดูไม่เหมาะสมกับความเป็นบอนด์ ดูไม่มีเสน่ห์หรือหล่อ ตามแบบฉบับเดิม แต่หลังจากนั้นมา แกก็เป็นทั้งไอคอนและมีแฟนคลับเยอะไม่ใช่น้อย บอนด์เว่อร์ชั่นเคร็กมีความสมจริงสมจังมากกว่าบอนด์ยุคเก่า มีดราม่า ไม่มีอุปกรณ์ไฮเทคช่วยมาก เน้นสมอง กับ ความเล่ห์เลี่ยมสู้กับเหล่าร้าย ฉากแอ็คชั่นดู real และสนุกมากขึ้น ภาคนี้ทำรายได้สูงมากจนบริษัท MGM เลิกเจ๊ง เพราะก่อนหน้าเจ๊ง ได้เฮียเคร็กกู้หน้าจนมีภาคต่อตามมาอีกสามภาค
11) Mission Impossible 3 (2006)
หนัง MI ภาคต่อ ได้ผกก.ซีรีย์ Lost มากำกับหนังเป็นเรื่องแรกและทำได้ดีมาก JJ Abrams เรื่องราวของสายลับฮันท์ในภารกิจตามล่าตีนกระต่ายเพื่อช่วยชีวิตเมียของเขา ให้รอดพ้นจากพ้อค้าอาวุธสุดโหด หนังภาคนี้ดูซีเรียสและตึงเครียดพอสมควร ตั้งแต่ฉากแรกที่เปิดเรื่อง ฉากแอ็คชั่นสุดมัน รวมถึงฉากสนทนาทีาเข้มข้น และคอนเซปในการทำงานเป็นทีมแบบ MI
12) Shooter (2007)
หนังดังของมาร์ค วอลเบิร์ก ผลงานผกก. Training Day เรื่องราวของอดีตสไนเปอร์กองทัพสหรัฐ๚ ที่ถูกว่าจ้างสกัดแผนลอบสังหารปธน.แต่เขาถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นคนลอบสังหารซะเองจากผู้ว่าจ้าง ตอนนี้มีอย่างเดียวเขาต้องสืบหาความจริงและล้างบางคนเลว หนังถ่ายทอดของปืนไรเฟิลได้ดี แต่ละฉากที่พี่แกจับปืนไรเฟิลนี่แบบสุดๆแล้ว หนังมีความทริลเลอร์ + ฉากแอ็คชั่นเจ๋งๆ
13) Shoot 'Em Up (2007)
หนังเรื่องนี้ยิงกันทั้งเรื่องตามชื่อเรื่องจริงๆ เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ดูแล้วทำให้นึกถึงฉากดวลปืนของจอห์นวูขึ้นมา เรื่องราวของหนุ่มมาดเถื่อนนิรนาม นาม สมิธ ได้เจอกับเหตุการณ์แม่เด็กอุ้มท้องถูกกลุ่มชายปริศนาตามฆ่า แกเลยไปช่วย หลังจากนั้นความมันก็เกิดขึ้นตลอดชั่วโมงกว่า ฉากยิงแบบใช้กระสุนไปเยอะมาก + มุขตลกสอดเข้าไปในหนัง ฉากพระนางแบบว่า...แล้วยิงไปด้วย
จนเป็นหนังในดวงใจของผมอีกเรื่อง
14) The Bourne Ultimatum (2007)
Paul Greenglass & Matt Damon กลับมาแท็คทีมจัดเตรียมกับบอร์นภาคนี้ เรื่องราวการค้นหาอดีตของบอร์นอีกครั้ง หลังเขาพบเบาะแสคนให้ข่าวเกี่ยวกับตัวของเขาและโครงการลับของซีไอเอ ภาคนี้เป็นภาคที่ผมชอบและประทับใจมากที่สุดในหนังตระกูล Bourne ทั้งฉากไล่ล่า ฉากชิงไหวพริบ ฉากแอ็คชั่นสุดจะครีเอด
15) Die Hard 4.0 (2007)
กลับมาอีกครั้งของคนอึดตายยาก จอห์น แม็คเคลนตำรวจสายสืบที่คราวนี้เขากับคู่หูคนใหม่ แมทธิว หนุ่มแฮ็กเกอร์ต้องช่วยกันหยุดเหตุการณ์ก่อการร้ายทางไซเบอร์ ภาคนี้สนุกตั้งแต่ต้นจนจบ ฉากบู๊มันมากๆ ทั้งฉากขับรถไล่ล่า ฉากขับรถลงช่องลิฟท์ รวมถึงฉากเครื่องบินรบไล่ล่ารถพระเอก ได้ผกก. Underworld มากำกับ Len Wiseman ซึ่งแกก็ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว
16) Valkyrie (2008)
หนังของผกก. X-Men ไบรอัน ซิงเกอร์ กับทอม ครูซ มาเล่าเรื่องราวกลุ่มทหารเยอรมันกลุ่มนึงที่วางแผนลอบสังหารผู้นำนาซี ฮิตเลอร์ ด้วยแผนอันแยบยล หนังออกมาได้ดีมาก บทพูดของแต่ละตัวละครทำให้อินมาก ทอม ครูซ นี่ไม่ต้องพูดถแสดงได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
17) Fast & Furious 4 (2009)
การกลับมาเจอกันอีกครั้งของ ดอม & ไบรอัน ในการโค่นแกงค์ค้ายาราบใหญ่ชาวเม็กซิกัน ภาคนี้ปูเนื้อเรื่องให้แอ็คชั่นเต็มตัว ซีนเท่ๆของพระเอกทั้งสองมากขึ้น เป็นหนังอาชาญกรรมมากกว่าแข่งรถ ถึงจะดูเว่อร์กว่าภาคแรกแต่ก็ทำให้หนังตระกูล Fast มีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามเพิ่มมากขึ้น