ผมคิดว่าถ้าผมได้เขียนเรื่องราวความทรงจำดีๆไว้มันก็ดีไม่น้อยเลยนะ ว่าครั้งนึงในชีวิตเจออะไรมาบ้าง และก็เช่นกันสัดส่วนเรื่องความรักมักมีบทบาทกับตัวเราเองไม่มากก็น้อย ผมจึงขอพื้นที่เล็กๆเก็บเกี่ยวบันทึกความทรงจำไว้
นี่ก็ผ่านไปแล้ว 11 เดือน กับการที่ผมทรมานกับคำว่ารักที่พึงจากไป วันนั้นผมจำได้ดีทรมานเพียงใด ต้องนอนร้องไห้จมกองนํ้าตามา 11 เดือนเต็มและคิดว่าไม่สามารถรักใครได้อีก ทุกๆวันเวลาจะผ่านไปช้าๆเหมือนเตาที่กำลังคืบคลานข้ามถนน หลายครั้งที่ผมพยายามจะลืมแต่กทำไม่ได้ จนผมเองต้องหันกลับมาคิดในมุมกลับ ในขณะที่ผมเศร้าเธอคงมีความสุขแบบที่เธออยากได้ ผมจึงหันมาใช้วิถีทางที่ผมเกิดความทุกข์ให้เกิดประโยชน์ โดยการหันหน้าเยียวยาคนที่กำลังอกหักทุกคน ตื่นเช้ามาผมพยายามดูฟีดข่าวมีใคร พรรณาอกหักรักคุดผมก็จะทำหน้าที่หมอชั้นดีเข้าไปปลอบโยนจนคนพวกนั้นเป็นปกติ แล้วผมก็จากไป เพราะผมรู้ดีว่า 8 เดือนที่แสนทรมานของผมมันเป้นอย่างไร
วันนึง 11 สิงหาคม 2557 ในขณะที่ผมนั่งเล่น DOTA2 จบกับเพื่อน กำลังจะเข้านอน เพื่อนก็ทักมาว่า เพื่อนกำลังอกหัก ไปจีบหน่อย อย่างที่บอกไว้ว่าหากใครอกหักรักคุดผมก็ทำหน้าที่เหมือน ปอเต๊กตึ๋ง เข้าไปประถมพยาบาลทันที คืนนั้นผมได้ไปสำรวจลาดลาว ว่ามีอะไรเป็นจุดสนใจที่จะเข้าไปพูดคุย และผมก็ได้จุดสนใจเธอไว้ "หอยทาก" คือสิ่งที่ผมพอจะคุยกับเธอได้ ผมก็คิดว่าการคุยกับเธอก้เหมือนการปลอบโยนกับคนทั่วไป เพราะอย่างที่บอกผม ไม่สามารถรักใครได้อีก แม้จะมีสาวสวยผ่านข้ามามากมายเพียงใด การทักทายคำแรกของผมก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
ผม : หอยทางนั้นถ่ายเองหรือเปล่าครับ จริงๆจะพิมว่า หอยทากนั้นถ่ายเองหรือเปล่าครับ
เธอนิ่งไปพักใหญ่จึงตอบกลับมา
เธอ : ค่ะ ถ่ายเอง
จุดเริ่มต้นก็เริ่มมา
ทุกเช้าผมจะถามเธอว่า : เป็นไงบ้างวันนี้ ,ดีขึ้นไหม ,ถ้ามี ไหนลองเล่ามาซิ
ทุกเที่ยง ผมจะถามเธอว่า : กินข้าวยัง ,หาไรกินด้วย (เพราะเธอเล่นไม่กินข้าวกินปลาติดกัน 7 วันละ )
ทุกคืนผมจะถามเธอว่า : วันนี้รู้สึกยังไง, หวั่นๆ, ใจสั่น, รู้สึกไม่ดี, ร้องไห้หรือยัง
จนวันนึงผมชวนไปทำบุญ นัดเจอกันที่บ้านของเพื่อนเพื่อไปทำบุญ ที่วัดสังฆทาน ผมเองก้ไม่เคยไปหรอคนะ แต่เพราะความไม่เคยไปนั้นแหละจึงทำให้ผมอยากไป
เจอครั้งแรก ไม่ต้องบรรยายสภาพ ซอมบี้เดือนได้ แต่งตัวเหมือนคุณยายวรนาท หัวเหมือนฟาง เดินเหมือนกับศพ ไร้วิญญาณ จริงๆแล้วผมเองไม่ต่างจากเธอหรอคนะ เพียงแต่ผม ต้องเยียวยาเธอ จำได้ดีวันนั้นวันที่ 14 สิงหาคม 2557 ผมซื้อปลาไหล เธอซื้อเต่า กับเพื่อนผม ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกับเธอไม่ชอบหน้ากันซักเท่าไหร่ ในขณะที่ไปถึงวัดเธอปล่อยเต่า มีเต่าตัวนึงได้รับบาดเจ็บ กระดองแตก ขาเจ็บ ว่ายนํ้าไปแบบไม่เป็นท่าซักเท่าไหร่ ผมได้แต่ยืนมองมันว่ายไปแบบทุกลักทุเล เธอเองก็เช่นกัน เธอบอกว่าจะกระโดดไปเอามันมารักษา และก็เป็นเหตุให้เราไม่ชอบหน้ากันเท่าไหร่ เสร็จจากการปล่อยปลา มันก็เที่ยงพอดีเลยชวนกันไปผซื้อของถวายสังฆทาน และแวะกินอาหารที่โรงทาน เสร็จศัพท์เธอก็ชวนผมไปนั้งเล่นที่ร้านกาแฟนของเธอ (ถีงแม้ผมจะรู้ว่าเธอจะชวนเป้นมรยาทแต่ด้วยความกวนตีนของผมจึงทำหน้าหนาๆและเดินก้าวไป ) ไปถึงร้านสั่งเมนู กล้วยปั่นนมสด 1 แก้วนั่งได้ทั้งวันกันเลยทีเดียว ฮาๆ วันนั้นผมต้องเจอเธอทั้งวันฟังเธอเล่าเรื่องราวซํ้าๆเดิมๆเหตุผลของการเลิกกับเเฟนของเธอกับเพื่อนเธอหลายๆคนที่มาหาเธอที่ร้านกาแฟนของเธอ จนตกเย็นผมคิดในใจว่าผมไม่ชอบ ผู้หญิงคนนี้เอาซะเลย คิดว่าถ้ากลับไปถึงบ้านจะเลิกติดต่อ แต่แล้วตื่นเช้ามาเสียงทักแชทเฟสบุคที่เป็นปกติก็มา ผมได้แต่นอนมอง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง เธอบอกว่า ข้อความเดิมๆ อาการของเธอเดิม จนผมอดที่จะไม่ทักทายตอบไม่ได้ ก็ผมเป้นหมอนี่น๊าจะทิ้งผู้ป่วยกลางคันได้ไงกัน จนวันนึงร่างกายของผมเกิดอาการออโต้โทรหาเธอเองโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจ และเธอเองก็เช่นกัน ผมไม่ได้เข้าใจว่าเพราะอะไร เพราะเธออกหักและผมเองก็ยังคงบอบชํ้าหรือเปล่า ไม่หรอค ผมบอกตัวเองอย่างนั้น เวลาผ่านไปไม่กี่วันผมกับเธอเริ่มคุยกันเหมือนรู้จักกันมานานเหมือนเพื่อนสนิทคุยกันได้ทุกเรื่อง
จนวันนึ่งเอ่ยคำว่า ชอบ ซึ่งกันและกัน และนั้นก็คือจุดเริ่มต้น
เราเริ่มเอ่ยคำว่าชอบซึ่งต่างคนต่างรู้ตัวดีว่ายังมีคนรักเก่าอยู่ในใจ เราเพียงได้แต่หวังว่า เราเจอสิ่งที่เราไม่อยากจะเจอมาเหมือนกันอาจจูนปรับหาและหลีกหนี สิ่งที่เรียกว่า "การเลิกราและอยากมีใครที่รักเราจริงๆอยู่ข้างกายไม่ว่าเวลาไหน " ผมชอบเธอที่เธอเป็นคนศัทธาในความรักและคงมั่น เธอเป็นคนที่ไม่สนแม้ว่าคนที่เธอรักจะผ่านอะไรมา แค่เพียงรักเธอก็มองข้ามผ่านพ้นในทุกสิ่งที่ไม่ดีในตัวคนคนนั้น นั้นคือสิ่งที่ผมอยากได้ในตัวเธอตั้งแต่ต้น ไม่ใช่อยากได้ซิเพียงแต่ผมอิจฉาคนที่เคยได้รับความรักที่มั่นคงแบบนี้จากเธอตังหากและผมเองก็อยากได้แบบนั้นบ้าง ในขณะที่เราเอ๋ยชอบคำและจำกัดสถานะว่าเราเป้นอะไรกันก็ได้ตกลงว่าจะลองคบหาดูใจกันไปก่อน หลายครั้งที่เธอถามผม คิดถึงแฟนเก่าเหรอ ทำผมร้องไห้ทุกครั้ง และผมก็ซบอกเธอ มีครั้งนึงหนักสุด ผมนั่งบนรถแทร็คซี่ ผมร้องไห้หนัก เธอเองก็ร้องไห้เช่นกัน ผมได้เพียงพูดว่า " เราจะเยียวยาซึ่งกันและกันเดียวมันก็ผ่านไป "จนวันนึ่งทำให้ผมมานั่งคิดว่า ความรักครั้งก่อนมันมีค่าสำหรับตัวผมมากแต่ก็นั้นแหละมันก้เหมือนสายนํ้าที่ไม่อาจหวลคืนจำเป็นต้องเก็บความทรงจำดีๆเอาไว้ในใจ และเริ่มต้นใหม่ ผมตัดสินใจถามเธอว่า จะรักและมั่นคงกับผมจริงๆหรือเปล่า เธอ ตอบ จะรักและมั่นคง จากวันนั้นเราขยับเสตัสเป็นแฟนแบบเต็มตัว
มีบ้างบางครั้งคราวที่เราเผลอนั้งหน้าเศร้าเหงาหงอยเพราะต่างก็รู้กันดีเพราะอะไร
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า ความทรงจำ
นี่ก็ผ่านไปแล้ว 11 เดือน กับการที่ผมทรมานกับคำว่ารักที่พึงจากไป วันนั้นผมจำได้ดีทรมานเพียงใด ต้องนอนร้องไห้จมกองนํ้าตามา 11 เดือนเต็มและคิดว่าไม่สามารถรักใครได้อีก ทุกๆวันเวลาจะผ่านไปช้าๆเหมือนเตาที่กำลังคืบคลานข้ามถนน หลายครั้งที่ผมพยายามจะลืมแต่กทำไม่ได้ จนผมเองต้องหันกลับมาคิดในมุมกลับ ในขณะที่ผมเศร้าเธอคงมีความสุขแบบที่เธออยากได้ ผมจึงหันมาใช้วิถีทางที่ผมเกิดความทุกข์ให้เกิดประโยชน์ โดยการหันหน้าเยียวยาคนที่กำลังอกหักทุกคน ตื่นเช้ามาผมพยายามดูฟีดข่าวมีใคร พรรณาอกหักรักคุดผมก็จะทำหน้าที่หมอชั้นดีเข้าไปปลอบโยนจนคนพวกนั้นเป็นปกติ แล้วผมก็จากไป เพราะผมรู้ดีว่า 8 เดือนที่แสนทรมานของผมมันเป้นอย่างไร
วันนึง 11 สิงหาคม 2557 ในขณะที่ผมนั่งเล่น DOTA2 จบกับเพื่อน กำลังจะเข้านอน เพื่อนก็ทักมาว่า เพื่อนกำลังอกหัก ไปจีบหน่อย อย่างที่บอกไว้ว่าหากใครอกหักรักคุดผมก็ทำหน้าที่เหมือน ปอเต๊กตึ๋ง เข้าไปประถมพยาบาลทันที คืนนั้นผมได้ไปสำรวจลาดลาว ว่ามีอะไรเป็นจุดสนใจที่จะเข้าไปพูดคุย และผมก็ได้จุดสนใจเธอไว้ "หอยทาก" คือสิ่งที่ผมพอจะคุยกับเธอได้ ผมก็คิดว่าการคุยกับเธอก้เหมือนการปลอบโยนกับคนทั่วไป เพราะอย่างที่บอกผม ไม่สามารถรักใครได้อีก แม้จะมีสาวสวยผ่านข้ามามากมายเพียงใด การทักทายคำแรกของผมก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
ผม : หอยทางนั้นถ่ายเองหรือเปล่าครับ จริงๆจะพิมว่า หอยทากนั้นถ่ายเองหรือเปล่าครับ
เธอนิ่งไปพักใหญ่จึงตอบกลับมา
เธอ : ค่ะ ถ่ายเอง
จุดเริ่มต้นก็เริ่มมา
ทุกเช้าผมจะถามเธอว่า : เป็นไงบ้างวันนี้ ,ดีขึ้นไหม ,ถ้ามี ไหนลองเล่ามาซิ
ทุกเที่ยง ผมจะถามเธอว่า : กินข้าวยัง ,หาไรกินด้วย (เพราะเธอเล่นไม่กินข้าวกินปลาติดกัน 7 วันละ )
ทุกคืนผมจะถามเธอว่า : วันนี้รู้สึกยังไง, หวั่นๆ, ใจสั่น, รู้สึกไม่ดี, ร้องไห้หรือยัง
จนวันนึงผมชวนไปทำบุญ นัดเจอกันที่บ้านของเพื่อนเพื่อไปทำบุญ ที่วัดสังฆทาน ผมเองก้ไม่เคยไปหรอคนะ แต่เพราะความไม่เคยไปนั้นแหละจึงทำให้ผมอยากไป
เจอครั้งแรก ไม่ต้องบรรยายสภาพ ซอมบี้เดือนได้ แต่งตัวเหมือนคุณยายวรนาท หัวเหมือนฟาง เดินเหมือนกับศพ ไร้วิญญาณ จริงๆแล้วผมเองไม่ต่างจากเธอหรอคนะ เพียงแต่ผม ต้องเยียวยาเธอ จำได้ดีวันนั้นวันที่ 14 สิงหาคม 2557 ผมซื้อปลาไหล เธอซื้อเต่า กับเพื่อนผม ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกับเธอไม่ชอบหน้ากันซักเท่าไหร่ ในขณะที่ไปถึงวัดเธอปล่อยเต่า มีเต่าตัวนึงได้รับบาดเจ็บ กระดองแตก ขาเจ็บ ว่ายนํ้าไปแบบไม่เป็นท่าซักเท่าไหร่ ผมได้แต่ยืนมองมันว่ายไปแบบทุกลักทุเล เธอเองก็เช่นกัน เธอบอกว่าจะกระโดดไปเอามันมารักษา และก็เป็นเหตุให้เราไม่ชอบหน้ากันเท่าไหร่ เสร็จจากการปล่อยปลา มันก็เที่ยงพอดีเลยชวนกันไปผซื้อของถวายสังฆทาน และแวะกินอาหารที่โรงทาน เสร็จศัพท์เธอก็ชวนผมไปนั้งเล่นที่ร้านกาแฟนของเธอ (ถีงแม้ผมจะรู้ว่าเธอจะชวนเป้นมรยาทแต่ด้วยความกวนตีนของผมจึงทำหน้าหนาๆและเดินก้าวไป ) ไปถึงร้านสั่งเมนู กล้วยปั่นนมสด 1 แก้วนั่งได้ทั้งวันกันเลยทีเดียว ฮาๆ วันนั้นผมต้องเจอเธอทั้งวันฟังเธอเล่าเรื่องราวซํ้าๆเดิมๆเหตุผลของการเลิกกับเเฟนของเธอกับเพื่อนเธอหลายๆคนที่มาหาเธอที่ร้านกาแฟนของเธอ จนตกเย็นผมคิดในใจว่าผมไม่ชอบ ผู้หญิงคนนี้เอาซะเลย คิดว่าถ้ากลับไปถึงบ้านจะเลิกติดต่อ แต่แล้วตื่นเช้ามาเสียงทักแชทเฟสบุคที่เป็นปกติก็มา ผมได้แต่นอนมอง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง เธอบอกว่า ข้อความเดิมๆ อาการของเธอเดิม จนผมอดที่จะไม่ทักทายตอบไม่ได้ ก็ผมเป้นหมอนี่น๊าจะทิ้งผู้ป่วยกลางคันได้ไงกัน จนวันนึงร่างกายของผมเกิดอาการออโต้โทรหาเธอเองโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจ และเธอเองก็เช่นกัน ผมไม่ได้เข้าใจว่าเพราะอะไร เพราะเธออกหักและผมเองก็ยังคงบอบชํ้าหรือเปล่า ไม่หรอค ผมบอกตัวเองอย่างนั้น เวลาผ่านไปไม่กี่วันผมกับเธอเริ่มคุยกันเหมือนรู้จักกันมานานเหมือนเพื่อนสนิทคุยกันได้ทุกเรื่อง
จนวันนึ่งเอ่ยคำว่า ชอบ ซึ่งกันและกัน และนั้นก็คือจุดเริ่มต้น
เราเริ่มเอ่ยคำว่าชอบซึ่งต่างคนต่างรู้ตัวดีว่ายังมีคนรักเก่าอยู่ในใจ เราเพียงได้แต่หวังว่า เราเจอสิ่งที่เราไม่อยากจะเจอมาเหมือนกันอาจจูนปรับหาและหลีกหนี สิ่งที่เรียกว่า "การเลิกราและอยากมีใครที่รักเราจริงๆอยู่ข้างกายไม่ว่าเวลาไหน " ผมชอบเธอที่เธอเป็นคนศัทธาในความรักและคงมั่น เธอเป็นคนที่ไม่สนแม้ว่าคนที่เธอรักจะผ่านอะไรมา แค่เพียงรักเธอก็มองข้ามผ่านพ้นในทุกสิ่งที่ไม่ดีในตัวคนคนนั้น นั้นคือสิ่งที่ผมอยากได้ในตัวเธอตั้งแต่ต้น ไม่ใช่อยากได้ซิเพียงแต่ผมอิจฉาคนที่เคยได้รับความรักที่มั่นคงแบบนี้จากเธอตังหากและผมเองก็อยากได้แบบนั้นบ้าง ในขณะที่เราเอ๋ยชอบคำและจำกัดสถานะว่าเราเป้นอะไรกันก็ได้ตกลงว่าจะลองคบหาดูใจกันไปก่อน หลายครั้งที่เธอถามผม คิดถึงแฟนเก่าเหรอ ทำผมร้องไห้ทุกครั้ง และผมก็ซบอกเธอ มีครั้งนึงหนักสุด ผมนั่งบนรถแทร็คซี่ ผมร้องไห้หนัก เธอเองก็ร้องไห้เช่นกัน ผมได้เพียงพูดว่า " เราจะเยียวยาซึ่งกันและกันเดียวมันก็ผ่านไป "จนวันนึ่งทำให้ผมมานั่งคิดว่า ความรักครั้งก่อนมันมีค่าสำหรับตัวผมมากแต่ก็นั้นแหละมันก้เหมือนสายนํ้าที่ไม่อาจหวลคืนจำเป็นต้องเก็บความทรงจำดีๆเอาไว้ในใจ และเริ่มต้นใหม่ ผมตัดสินใจถามเธอว่า จะรักและมั่นคงกับผมจริงๆหรือเปล่า เธอ ตอบ จะรักและมั่นคง จากวันนั้นเราขยับเสตัสเป็นแฟนแบบเต็มตัว
มีบ้างบางครั้งคราวที่เราเผลอนั้งหน้าเศร้าเหงาหงอยเพราะต่างก็รู้กันดีเพราะอะไร