[ทริปวัดใจ เอาชนะตัวเอง] พิชิต Mt Doom ด้วยสองมือ สองขา ส่งท้ายปีเก่า

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆสมาชิกพันทิป

ช่วงนี้การท่องเที่ยวแบบเดินป่าหรือว่าปีนเขากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เราเองเพิ่งจะมาสนใจการเที่ยวแบบนี้เมื่อไม่นานมานี้ เพราะแต่ก่อนคิดมาตลอดว่าการเที่ยวแบบนี้ต้องอาศัยความฟิตของร่างกายมากพอสมควร เราเองก็อายุไม่น้อย (30++) เลยคิดว่าการเที่ยวแบบนี้ไม่ใช่แนวเรา แต่ช่วงหลังๆเราออกกำลังกายมากขึ้น เลยอยากลองพิสูจน์ตัวเองดูค่ะ เราเพิ่งไปขึ้นภูกระดึงกับเพื่อนๆมาเมื่อเดือนพฤศจิกายนแล้วก็รู้สึกชอบมาก ติดใจ อยากไปทริปแบบนี้อีก พอกลับมาที่นิวซีแลนด์ (เราเรียนอยู่ที่นี่ค่ะ) ก็กลายเป็นว่าเราได้กลับมาเรียนthesis แค่ครึ่งเดือนหลังจากนั้นคนก็เริ่มออกเที่ยวกัน
ในช่วงเวลาแบบนี้ จะอยู่บ้านเฉยๆก็กระไรอยู่ (ทำไมไม่เขียนเล่มว๊าาาา ><”)

เพื่อนๆที่เป็นแฟนของหนังนิวซีแลนด์เล็กๆ ชุดนึง ที่เกียวข้องกับการเดินทางเพื่อทำลายแหวนแห่งอำนาจ คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก Mt Doom ซึ่งเป็นที่ๆใช้สร้างและทำลายแหวนนั้น ในหนัง Mt Doom นั้น แสดงโดย Mt Ngauruhoe ซึ่งเป็นภูเขาลูกหนึ่งตั้งอยู่ใน Tongariro national park บนเกาะเหนือประเทศนิวซีแลนด์ค่ะ ที่นิวซีแลนด์การเดินป่าหรือ trekking เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เดินกันทุกรุ่นตั้งแต่เด็กตัวจิ๋วๆ ยันคุณตาคุณยาย เราประทับใจมากๆเลย
ก่อนจะไปก็ต้องเตรียมตัวกันก่อนนะคะ ระหว่างทางเดินไม่มีอาหารและน้ำขายต้องแบกขึ้นไปเองค่ะ พกพาอหารที่กินง่ายๆให้พลังงานค่ะ น้ำดื่มเค้าแนะนำอย่างน้อยคนละ 3 ลิตร เพราะหน้าร้อนแดดแรงมากๆค่ะ



ครีมกันแดดและที่รัดเข่าก็สำคัญ


Mt Ngauruhoe เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินที่มีชื่อว่า Tongariro crossing ซึ่งเคยเห็นเพื่อนๆสมาชิกหลายๆท่านเคยมารีวิวกันบ้างแล้ว เส้นทางเดินนี้จะใช้เวลาราวๆ 6 - 8 ชั่วโมงแล้วแต่สภาพร่างกายและการหยุดแวะถ่ายรูป แต่ในส่วนของ Mt Ngauruhoe นั้น ต้องใช้เวลาเดินขึ้นลงอีกต่างหากประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ

ในการเดิน Tongariro crossing นั้น จะเริ่มที่ Mangatepopo car park แล้วไปจบที่ Katetahi car park (อันนี้สำหรับคนที่ไปกับ shuttle bus นะคะ ถ้าเอารถไปเองกับเพื่อนๆ ก็เริ่มจากฝั่งไหนก็ได้ค่ะ)



การเดินในช่วงหน้าร้อนไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่แต่ก็แนะนำให้ใส่รองเท้าที่เดินสบายพร้อมทั้งเอาเสื้อแจกเก็ตติดไปด้วยเสมอเนื่องจากอากาศบนภูเขาเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ตอนเช้าอากาศดีๆฟ้าใสๆ ตอนบ่ายฝนตกฟ้าคะนองก็มีนะเออ

อย่างเช่นวันที่ จขกท ไป เจ้าหน้าที่แจ้งแล้วว่าอากาศตอนเช้าจะดีแต่ช่วงบ่ายอาจจะมีฝนฟ้าคะนอง  ดังนั้นถ้าระหว่างทางเดินเริ่มเห็นเมฆก่อตัวก็อย่าพยายามเดินขึ้น Mt Ngauruhoe ให้รีบเดินข้าม Tongariro ไปเลย แต่เนื่องจาก Mt Nguaruhoe คือเป้าหมายของ จขกท ในวันนี้ ก็เลยคิดเข้าข้างตัวเองว่า อากาศนิวซีแลนด์เปลี่ยนบ่อยจะตาย เราคงโชคดี (คิดผิด ><")

จขกท ค่อนช้างประมาทมากๆๆๆๆๆๆกับการไปเดินในครั้งนี้ เพราะมีคนบอกว่าภูกระดึงโหดกว่าเยอะ ก็เลยขอไปแบบสบายๆค่ะ มีเสื้อแจกเก็ตบางๆในเป้อีกตัวเดียว ไม่มีเสื้อกันฝนอะไรทั้งนั้น เพราะคิดว่าเดินตากฝนสบายๆ อย่าเอาเป็นตัวอย่างนะคะ



ทางบริษัทรถบัสแจกแผนที่น้อยๆให้คนละแผ่นค่ะ (จบทริปละเยินเลยค่ะ)


จากนั้นก็ออกเดินเลยค่าาาาาา นี่เป็นเส้นทางเดินช่วงแรกๆของเราค่ะ ทางเดินไม่ลำบากค่ะ มี track ให้เดินไปตลอดก็เดินเรื่อยๆชมธรรมชาติไป เพราะว่ามันน่าตื่นตาตื่นใจมากค่ะ ภูมิประเทศที่แปลกใหม่ ลักษณะของหินและพืชต่างๆ  



เดินมา 2 km ยังยิ้มได้ค่ะ สวยๆ



ระหว่างทางก็ชมธรรมชาติไปค่ะ น้ำตก น้ำใสมากๆๆๆๆ แต่ดื่มไม่ได้นะคะ บางทีก็มีการทำทางเดินไว้ด้วยค่ะ




เดินกันผ่านไป 1 ชั่วโมง เราก็เดินมาได้ 5 km ถึงจุดที่เรียกว่า soda spring ค่ะ



เส้นทางจาก Soda spring ไปยัง South crater นั้นค่อนข้างยากคือค่อนข้างจะชันมากค่ะ



ส่วนเส้นทางเดินขึ้น Mt Ngauruhoe นั้นก็อยู่ในเส้นทางนี้ค่ะ จขกท ไปถึงbase ของ Mt Ngauruhoe ตามเวลาที่คาดไว้ และอากาศก็ยังดูดีถึงจะมีเมฆนิดหน่อย ก็เลยตัดสินใจที่จะเดินขึ้นค่ะ


มีการเตือนก่อนขึ้นด้วยค่ะ เพราะยังเป้นภูเขาไฟที่ active อยู่


การเดินขึ้น Mt Ngauruhoe นั้น ไม่มีทางเดินแบบ Tongariro crossing แต่จะมี pole สีฟ้าปักไว้เป็นระยะๆ แถมพื้นก็เป็นหินและกรวดเม็ดเล็กๆที่สามารถร่วงหล่นได้ตลอดเวลาคนที่จะเดินขึ้นต้องรับผิดชอบตัวเอง แต่ก็จะมีบางช่วงที่มีโขดหินขนาดใหญ่พอให้เหยียบปีนขึ้นไปได้ แต่ จขกท ไปเสียเวลากับพื้นลื่นๆอยู่นานเลยค่ะ ทางเดินก็ชันมาก (ในภาพถ่ายอาจจะเห็นไม่ชัดเนื่องด้วยฝีมือง่อยๆของ จขกท ค่ะ)






จขกทใช้เวลาเดินขึ้นไปราวๆ 3 ชม ซึ่งมากกว่าที่คนปกติใช้กันมากค่ะ เนื่องจากขึ้นผิดทางและบางช่วงก็กลัวจนก้าวขาไม่ออก แต่สุดท้ายก็ขึ้นไปถึงจนได้ค่ะ




อันนี้เป้นรูปของปล่องภูเขาไฟ ดูไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เพราะเมฆเยอะมาก


อากาศเริ่มเย็นลง จขกท เลยตัดสินใจว่าต้องรีบกลับลงมา แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นค่ะ เพื่อนๆที่ชอบปีนเขาคงจะรู้ดีว่าภูเขาชันๆนั้นเวลาลงลำบากกว่าเวลาขึ้น จขกท เดินสวนกับคนที่เพิ่งขึ้นมาแต่ดูท่าทางจะมาเดินหลายครั้งแล้ว เค้าบอกว่า ก็แค่สไลด์ลงไปเลยครึ่งชม ก็ถึงละ (คนที่balance ไม่ดี อย่างอิช้านนจะรอดมั้ยยยยยยยย) ระหว่างทางลงก็เลยเป็นการสไลด์พร้อมกับล้มไปเรื่อยๆตลอดทาง

พอลงมาถึงข้างล่างดีใจม๊ากกกกกกกกกกมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงค่ะ ปลื้มใจ โล่งใจ ดีใจ และความรู้สึกที่ว่าถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรเราก็ทำได้
หันกลับขึ้นไปดูจุดหมายอีกครั้งก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรไกลเกินเอื้อมค่ะ อาจจะช้า อาจจะมีอุปสรรค แต่เราทำได้แน่นอน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่