ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะครับ ..คือตอนนี้ที่บ้านกำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจสบู่จากธรรมชาติ และมีผลิตภัณฑ์คลอดออกมาเรียบร้อยแล้ว แต่เราไม่รู้วิธีการทำการตลาดที่ดี ก็เลยมาลองขอความคิดเห็นดีจากคนในเวปพันทิปดู
...ส่วนสาเหตุที่ทำสบู่ ทั้งๆที่ยังไม่มีตลาด เป็นเพราะว่าทางคุณแม่มีความชอบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ปลอดจากสารพิษ ทั้งเรื่องน้ำมันเอย อาหารการกินเอย จนในที่สุดก็มาเรื่องของผลิตภัณฑ์พวกเสริมความงาม และในที่สุดก็มาเล่นในเรื่องของสบู่ และก็เรียนรู้อย่างจริงๆจังจนสามารถทำสบู่ออกมาได้ (ประมาณปีกว่าๆ) และเท่าที่ทราบสบู่ทั่วไปที่ขายตามท้องตลาดในปัจจุบันใส่สารต้องห้ามหลายชนิดที่มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว เช่นสาร SLS เป็นต้น ซึ่งทางอเมริกาได้ประกาศห้ามเรียบร้อยแล้ว ก็เลยคิดว่าน่าจะดีถ้ามีสบู่ธรรมชาติแบบ pure ออกมาวางตลาดดู
ทางเราก็ลองให้ญาติและเพื่อนๆ คนรู้จัก ลองใช้ดูปรากฏว่าก็มีความคิดเห็นมาหลายแนวทาง เช่น
“เนื้อสบู่ดีมาก เหมือนกับสบู่ของญี่ปุ่นก้อนละ 700 กว่าบาทเลย” ความคิดเห็นนี้ทำให้คุณแม่ตัวลอยเลยทีเดียว ซึ่งผมลองใช้ดูก็ไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะเป็นผู้ชายด้วย
“เนื้อสบู่ดีนะ แต่ว่าพอใช้ไปแล้วค่อนข้างเละ” อันนี้คุณแม่ผมอธิบายว่า คุณสมบัตินี้เป็นคุณสมบัติของสบู่จากธรรมชาติ
“สบู่ไม่แข็งนะ ดูแล้วเหมือนนุ่มๆ” อันนี้คุณแม่ก็อธิบายว่า เป็นคุณสมบัติของสบู่ธรรมชาติเหมือนกัน (เนื้อหาลึกๆผมไม่ลงนะครับ)
..ยังมีอีกหลายความคิดเห็น แต่ก็มาแนวๆนี้หมดเลย ผมจึงสรุปคร่าวๆได้ว่า
“เนื้อสบู่ของผมโอเคแล้ว ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ยังมีคุณสมบัติที่ยังไม่ตรงตามความต้องการผู้ใช้อีกนิดหน่อย เช่น สบู่เมื่อทิ้งไว้ในน้ำแล้วเหลว ละลาย เนื้อสบู่นุ่ม ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็พยายามชี้ว่ามันเป็นคุณสมบัติของสบู่ธรรมชาติ”
..ตรงจุดนี้คุณแม่และคุณพ่อผมเองลองพยายามปรับปรุงสูตรเรื่อยๆ จนในที่สุดมันก็แข็งแต่แข็งไม่เท่าสบู่ที่ทำจากสารเคมีหรือ Cold process (อันนี้ถ้ามีใครสงสัยสอบถามได้) ส่วนเรื่องเมื่อโดนน้ำเรื่อยๆมันจะเหลว ตรงจุดนี้เราก็พยายามอธิบายให้คนเข้าใจว่าเวลาวางสบู่หลังการใช้ต้องวางในที่แห้งน้ำไม่ขัง เป็นต้น
..ส่วนข้อดีจริงๆของเราน่าจะเป็นส่วนของกลีเซอรีนและน้ำมันที่เราใช้ เป็นพวกน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก แบบบริสุทธิ์ (ปกติกลีเซอรีลจะได้จากกระบวนการทำสบู่ ซึ่งในอุตสาหกรรมเขาจะนำตัวนี้ออกไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางชั้นสูง<<คุณแม่ผมบอกมาอีกที)
..จากที่เล่ามาจะสังเกตว่า สบู่ของบ้านผมจะเหมือนกับพวกผักผลไม้ ที่ต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ มีวันหมดอายุซึ่งผมไม่ได้ใส่วัตถุกันเสียเข้าไปในสบู่ เพราะอยากให้ธรรมชาติจริงๆ ต้นทุนการทำสบู่ค่อนข้างสูง ดังนั้น การตลาดสำหรับผมก็ค่อนข้างที่จะยากพอสมควร ดังนั้นใครมีความคิดดีๆช่วยแชร์ให้หน่อยครับ
ข้อจำกัด : ตอนนี้ทางบ้านผมความสามารถในการผลิตอยู่ที่ 30 ก้อนต่อวัน และยังต้องทิ้งไว้ให้แข็งตัวอีก 7 วันก่อนส่ง
ส่วนเรื่องที่อยากจะทราบมากๆ คือ
1) สบู่ราคาหน้าร้าน 89 บาทต่อก้อน ถือว่าแพงไปไหม?
2) หากสบู่ราคาขนาดนี้ จะต้องวางที่ร้านแบบไหน ถึงจะขายดี และติดต่อในลักษณะไหน?
3) หาตัวแทนจำหน่ายดี หรือขายเองดี ถ้าหาจะต้องทำอย่างๆไรบ้าง?
นอกเหนือจากนี้โปรดชี้แนะด้วยครับ
อยากขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการตลาดของธุรกิจสบู่ธรรมชาติครับ
...ส่วนสาเหตุที่ทำสบู่ ทั้งๆที่ยังไม่มีตลาด เป็นเพราะว่าทางคุณแม่มีความชอบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ปลอดจากสารพิษ ทั้งเรื่องน้ำมันเอย อาหารการกินเอย จนในที่สุดก็มาเรื่องของผลิตภัณฑ์พวกเสริมความงาม และในที่สุดก็มาเล่นในเรื่องของสบู่ และก็เรียนรู้อย่างจริงๆจังจนสามารถทำสบู่ออกมาได้ (ประมาณปีกว่าๆ) และเท่าที่ทราบสบู่ทั่วไปที่ขายตามท้องตลาดในปัจจุบันใส่สารต้องห้ามหลายชนิดที่มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว เช่นสาร SLS เป็นต้น ซึ่งทางอเมริกาได้ประกาศห้ามเรียบร้อยแล้ว ก็เลยคิดว่าน่าจะดีถ้ามีสบู่ธรรมชาติแบบ pure ออกมาวางตลาดดู
ทางเราก็ลองให้ญาติและเพื่อนๆ คนรู้จัก ลองใช้ดูปรากฏว่าก็มีความคิดเห็นมาหลายแนวทาง เช่น
“เนื้อสบู่ดีมาก เหมือนกับสบู่ของญี่ปุ่นก้อนละ 700 กว่าบาทเลย” ความคิดเห็นนี้ทำให้คุณแม่ตัวลอยเลยทีเดียว ซึ่งผมลองใช้ดูก็ไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะเป็นผู้ชายด้วย
“เนื้อสบู่ดีนะ แต่ว่าพอใช้ไปแล้วค่อนข้างเละ” อันนี้คุณแม่ผมอธิบายว่า คุณสมบัตินี้เป็นคุณสมบัติของสบู่จากธรรมชาติ
“สบู่ไม่แข็งนะ ดูแล้วเหมือนนุ่มๆ” อันนี้คุณแม่ก็อธิบายว่า เป็นคุณสมบัติของสบู่ธรรมชาติเหมือนกัน (เนื้อหาลึกๆผมไม่ลงนะครับ)
..ยังมีอีกหลายความคิดเห็น แต่ก็มาแนวๆนี้หมดเลย ผมจึงสรุปคร่าวๆได้ว่า “เนื้อสบู่ของผมโอเคแล้ว ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ยังมีคุณสมบัติที่ยังไม่ตรงตามความต้องการผู้ใช้อีกนิดหน่อย เช่น สบู่เมื่อทิ้งไว้ในน้ำแล้วเหลว ละลาย เนื้อสบู่นุ่ม ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็พยายามชี้ว่ามันเป็นคุณสมบัติของสบู่ธรรมชาติ”
..ตรงจุดนี้คุณแม่และคุณพ่อผมเองลองพยายามปรับปรุงสูตรเรื่อยๆ จนในที่สุดมันก็แข็งแต่แข็งไม่เท่าสบู่ที่ทำจากสารเคมีหรือ Cold process (อันนี้ถ้ามีใครสงสัยสอบถามได้) ส่วนเรื่องเมื่อโดนน้ำเรื่อยๆมันจะเหลว ตรงจุดนี้เราก็พยายามอธิบายให้คนเข้าใจว่าเวลาวางสบู่หลังการใช้ต้องวางในที่แห้งน้ำไม่ขัง เป็นต้น
..ส่วนข้อดีจริงๆของเราน่าจะเป็นส่วนของกลีเซอรีนและน้ำมันที่เราใช้ เป็นพวกน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก แบบบริสุทธิ์ (ปกติกลีเซอรีลจะได้จากกระบวนการทำสบู่ ซึ่งในอุตสาหกรรมเขาจะนำตัวนี้ออกไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางชั้นสูง<<คุณแม่ผมบอกมาอีกที)
..จากที่เล่ามาจะสังเกตว่า สบู่ของบ้านผมจะเหมือนกับพวกผักผลไม้ ที่ต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ มีวันหมดอายุซึ่งผมไม่ได้ใส่วัตถุกันเสียเข้าไปในสบู่ เพราะอยากให้ธรรมชาติจริงๆ ต้นทุนการทำสบู่ค่อนข้างสูง ดังนั้น การตลาดสำหรับผมก็ค่อนข้างที่จะยากพอสมควร ดังนั้นใครมีความคิดดีๆช่วยแชร์ให้หน่อยครับ
ข้อจำกัด : ตอนนี้ทางบ้านผมความสามารถในการผลิตอยู่ที่ 30 ก้อนต่อวัน และยังต้องทิ้งไว้ให้แข็งตัวอีก 7 วันก่อนส่ง
ส่วนเรื่องที่อยากจะทราบมากๆ คือ
1) สบู่ราคาหน้าร้าน 89 บาทต่อก้อน ถือว่าแพงไปไหม?
2) หากสบู่ราคาขนาดนี้ จะต้องวางที่ร้านแบบไหน ถึงจะขายดี และติดต่อในลักษณะไหน?
3) หาตัวแทนจำหน่ายดี หรือขายเองดี ถ้าหาจะต้องทำอย่างๆไรบ้าง?
นอกเหนือจากนี้โปรดชี้แนะด้วยครับ