เชิญดูและพูดคุยเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ได้ที่คลับ https://www.facebook.com/groups/nc750xthai/

สวัสดีครับ ผมขอเกริ่นก่อนว่า ประวัติส่วนตัวของผมกับการขี่มอเตอร์ไซค์โดยเริ่มพื้นฐานมาจากการขี่ Honda Scoopy i ได้แค่ ไม่กี่เดือนเท่านั้น ผมก็ขยับมาซื้อเจ้า Suzuki Hayabusa 1,340cc. ในปี2012เลย เนื่องจากได้เงินก้อนใหญ่มาจากการทำธุรกิจ ก็เลยซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเอง



     ด้วยตอนนั้นยังใหม่มากกับการขี่รถBB การเลือกเจ้า Hayabusa จึงเป็นเรื่องของ”อารมณ์”ล้วนๆ ที่อยากแรง เร็ว ไหนๆจะซื้อทั้งที ก็ขอจัดให้CCเยอะไว้ก่อน โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องLife Style การขับขี่ของเราเองเท่าไหร่… ซึ่งจริงๆแล้วเจ้า Hayabusa เป็นรถที่สุดยอดมาก ในทางตรงอัตราเร่งไม่เคยกลัวใคร ผมเคยลองขี่ไปเร็วที่สุดคือประมาณ 260กม/ชม ซึ่งที่จริงก็ยังสามารถไปได้อีกแต่ใจผมมันไม่เอาแล้ว ฮ่าๆ

     แต่ผมก็ใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าHayabusa ได้2ปีกว่าเท่านั้น เนื่องจากมีเวลาขี่มันน้อยมากครับ Life Styleเราไม่ตรงกัน คือเจ้ารถHayabusa มันเป็นรถแนว Super Sport หาใช้ Sport Touring อย่างที่ผมเข้าใจไม่… เพราะการขี่ทางไกลไปตจว.อย่างที่ผมตั้งใจจะใช้นั้น มันเป็นไปได้แต่เหนื่อยมาก เพราะท่านั่งที่ต้องคล่อมไปข้างหน้าตามสไตล์สปอร์ต ทำให้ผมไปตจว.ได้แค่ไม่กี่ครั้งก็ไม่อยากเอาไปอีกเลยครับ… ส่วนการขี่ในเมืองก็แทบลืมไปได้เลยเพราะรถคันใหญ่และหนักมาก เจอรถติดกลางวันหละก็ไปไม่เป็นเลยทีเดียว ส่วนการขี่กลางคืนผมมีโอกาสน้อยเพราะเพิ่งมีลูกเล็กถึง2คน ผมเลือกที่จะใช้เวลาตอนกลางคืนกับครอบครัวมากกว่า ดังนั้นจึงทำให้ในเวลา2ปีกว่ามานี้ ผมใช้เจ้าHayabusaไปแค่ 3พันกว่ากม.เท่านั้นครับ …. สุดท้ายจึงตัดสินใจขายไป แล้วเลือกออกรถคันที่ผมคิดว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานของผมได้ดีกว่า… นั่นคือเจ้า Honda NC750x คันที่ผมกำลังจะรีวิวนี้

      หลังจากขี่เจ้าHayabusa มาได้สักพัก ผมก็เริ่มกลับมาคิดใหม่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ที่สามารถตอบโจทย์ผมได้ดี และทำให้มีโอกาส”ขี่”มันมากที่สุด ซึ่งจุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของผมคือ “ขี่เพื่อการท่องเที่ยว” ดังนั้นรถก็จำเป็นต้องขี่ได้สบาย ขี่ได้นาน และไม่ทำให้ตัวผู้ขี่ล้าจนเมื่อถึงที่หมายก็ต้องสลบ...กลายเป็นไม่ได้เที่ยว…
       
     และผมก็มีความฝันที่อยากขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามประเทศแบบยวน แมกเกรเกอร์ในทริป Long Way Round ครับ
ผมจึงเริ่มศึกษารูปแบบของรถคันต่อไปซึ่งทางเลือกก็มาออกที่รถแนว Dual Purpose หรือ Touring Adventure นั่นเอง โดยตอนแรกๆ ก็มองทั้งเจ้า Honda CB500X, BMW F800GS หรือ V-Storm650 ก็ตาม เพราะถือว่าอยู่ในงบประมาณที่คิดเอาไว้ รถมีขนาดกลางไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ซึ่งนอกจากจะควบคุมง่ายแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงที่ถูกกว่ารถระดับ1,000ccขึ้นไป (ขี่ทัวริ่งไปไกล ค่าน้ำมันก็สำคัญสำหรับผมครับ)

      แต่ท้ายสุดใจผมก็ไปจบที่ Honda NC750x ซึ่งตอนแรกที่ผมดูๆมันยังเป็นตัวเดิมคือ 700x แต่ล่าสุดได้พัฒนาใหม่ในกลางปี2014 ซึ่งมันได้รับการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆของตัวเดิมหมดแล้วพร้อมกับอัพเครื่องยนต์เป็นขนาด 750cc โดยตัวผมก็ถูกใจมาก เพราะรู้ว่ารถออกมาLot แรกๆมักจะยังมีอะไรที่ไม่สมบูรณ์อยู่ ผมจึงมักชอบซื้อรถพวกMinor Changeครับ



สิ่งที่ผมประทับใจและตัดสินใจเลือกเจ้า NC750x ก็คือ
1. เป็นรถสไตล์ Dual Purpose หรือ Adventure Touring ตรงตามวัตถุประสงค์ของผม
2. ขนาดเครื่องยนต์กำลังดี อยู่ระหว่าง 500-1,000cc. พอดี
3. เป็นยี่ห้อ Honda ซึ่งเชื่อมั่นได้ว่า อะไหล่และศูนย์บริการมีค่อนข้างพร้อม
4. สำรวจของแต่งเบื้องต้น มีเพียบทั้งในและนอก (เพราะตัวNC700x ออกมาตั้งแต่ปี2012แล้ว) แม้ว่าจะไม่เยอะเกร่อเหมือนCB500x หรือ Versysก็ตาม(ที่ผมไม่มองVersysเลยคือเรื่องหน้าตาครับ ฮ่าๆ)
5. เกียร์ DCT ที่แสนจะสะดวกสบาย และHi Tech มากๆ จะทำให้ผมขี่ได้ไกลและนานจริงๆ
6. หน้าตาสวย ถูกอกถูกใจผม
7. ตำแหน่งเครื่องยนต์อยู่ด้านล่าง ศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ควบคุมรถง่าย แถมไม่ร้อนอีกต่างหาก
8. ราคาค่าตัวตรงตามงบประมาณ เพราะตัวรถ375,000บาท (นำเข้าทั้งคัน) ผ่อนต่อเดือน7,700บาทเท่านั้น ของแต่งทั้งหมดรวมๆประมาณอีก  150,000บาท(กล่องปี้บ การ์ด ไฟตัดหมอก ชุดแต่งตัว GPS ฯลฯ ซึ่งจะรีวิวต่อจากนี้)
9. สุดท้ายสิ่งที่ตัดสินใจได้เร็วขึ้นคือ Promotion ฟรีประกันชั้น1 พรบ. ก็เลยตัดสินใจจองซะเลย

     ผมไปจองรถคันนี้ในBoot ที่เซ็นทรัลบางนาเมื่อวันที่ 2ตุลาคม2557 ซึ่งได้ข่าวมาว่า Big Wing พระราม3 ไปจัด โดยให้Promotion ที่ดีมากคือ ฟรีประกันชั้น1และจดทะเบียน พรบ. ผมก็เลยเข้าไปจองพร้อมเอกสารยื่นไฟแนนซ์เลย 2วันต่อมาก็รู้ผลว่าผ่าน โดยความตั้งใจเดิมที่จะออกรถเป็นสีแดงครับ แต่เซลก็มากระซิบว่า เขามีรถที่ตัวเซลเองจองไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นสีเทาดำ แต่เซลคนนี้เปลี่ยนใจไม่ซื้อแล้ว ถ้าผมสนใจอยากได้รถเร็ว ก็ให้เลือกสีเทาดำ เซลคนนี้จะตัดใบจองนี้ให้ ผมเห็นว่าสีเทาดำก็สวย แถมได้เร็ว ก็ตัดสินใจตกลงครับ โดยในใบจองก็ระบุว่าได้รับรถเดือนพย.เป็นคิวแทนเซลคนนี้ ผมก็กลับบ้านด้วยความ Happy

     ระหว่างนั้นก็ทำการสืบค้นข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับอุปกรณ์ของแต่งที่ต้องทำเพิ่มเมื่อได้รถมา ผมต้องบอกก่อนว่า โดยปกติแล้ว ผมเป็นคนที่ชอบรถ”เดิมๆ”มากที่สุดครับ เพราะส่วนตัวผมก็มีธุรกิจซื้อขายรถยนต์ รู้ว่าพวกของแต่งยิ่งแต่งมากยิ่งขาดทุน เพราะเวลาขายต่อของแต่งพวกนี้แทบไม่มีราคา ขายไปก็เหมือนแถมฟรีให้ลูกค้า อย่างเจ้า Hayabusaคันเก่าของผมก็ไม่ได้แต่งอะไรเลยยกเว้นเปลี่ยนท่อไอเสียแบบSlip on เท่านั้น

     แต่… สำหรับรถแนว Adventure Touring แล้ว มัน”จำเป็น”ต้องแต่งครับ เพราะถ้าผมตัดสินใจจะเป็นนักขี่รถแนวนี้แล้ว และจะออกเดินทางไกล พวกของแต่งเพิ่มมันสำคัญมากๆครับ เช่นพวก ปี้บใส่ของ, Navigator GPSนำทาง, กันล้ม, Crash bar, Crash Engine, Hand Guard ต่างๆ เพื่อปกป้องรถ และอำนวยความสะดวกในการบรรทุกของเพื่อใช้เดินทาง ซึ่งสิ่งที่ผมได้ค้นหาข้อมูล และดูหลักๆจะมีทั้งของที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านในประเทศ และบางส่วนที่ต้องสั่งเข้ามาจากต่างประเทศผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ

     โดยของแต่งหลักๆที่ผมเลือกให้ความสำคัญก่อน คือ”ร้านที่หาได้ในประเทศ”ครับ โดยอันไหนที่หาไม่ได้ก็จะใช้วิธีสั่งเอาจากเว็บไซต์ให้Shipping มาจากต่างประเทศ ซึ่งอุปกรณ์แต่งจะมีดังต่อไปนี้

1. ปี้บ(กระเป๋าอลูมิเนียมใส่ของ) ซึ่งผมตัดสินใจเลือกของ SW Motech จากประเทศเยอรมัน ซึ่งมีตัวแทนนำเข้าอย่างเป็นทางการได้แก่ ร้านPanda Rider (เกษตร-นวมินทร์) ที่ผมเลือกยี่ห้อนี้เนื่องจากเรื่องของการที่มีตัวแทนรับผิดชอบ รับเคลมอย่างชัดเจน มีของเลยทันที สามารถไปดูจับต้องได้เป็นๆ ที่จริงก็มีอีกยี่ห้อที่โด่งดังไม่แพ้กันได้แก่ Touratec (เยอรมัน) มีตัวแทนในไทย กับ Hepco ซึ่งทาง BW รับติดตั้งให้ด้วยจาก Show Room … แต่ที่ผมตัดสินใจเอา SW Motech เพราะเรื่องของ Promotion ที่ให้ดีมาก และผมยังมีของอีกหลายรายการซึ่งร้าน Panda มีของให้เกือบครบเลยครับ ก็เลยตัดสินใจคบยี่ห้อนี้เป็นหลักครับ

        ผมเลือกใช้ปี้บ3อันเลยคือข้างซ้ายขวาขนาด 45ลิตร(ใหญ่สุด) และหลังขนาด 38ลิตร ที่เน้นใหญ่สุดเพราะราคามันเท่ากัน(ตามโปรโมชั่น) ดังนั้นจึงเอาใหญ่ไว้ก่อนครับ โดยนอกจากจะมีปี้บ ก็ต้องมีชุดเหล็กแร๊คสำหรับยึดกระเป๋าด้วย ราคารวมๆต่อชุดก็ตามที่เห็นนะครับ ปี้บข้างคู่พร้อมแร๊คราคาโปรโมชั่น 40,000บาท ชุดปี้บหลังพร้อมRackและPlate ประมาณ 21,000บาทครับ และเปลี่ยนชุดกุญแจแบบดอกมาสเตอร์ไปด้วย รวมๆก็ปาไป 6หมื่นกว่าแล้ว

2. Crash Bar ใช้ของ SW Motech กันล้มเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะรถแนว Adventure เป็นรถที่จำเป็นต้องเจอเหตุการณ์ล้มอย่างแน่นอนครับ มีไว้รับรองได้ใช้แน่ครับ อยู่ที่จะหนักหรือเบา ราคา6,200บาท

รูปเป็นCrash Bar ใส่กับ NC750s ซึ่งใช้ร่วมกับ750x ได้

3. Engine Guard ของ SW Motech ตรงรุ่นเกียร์ DCT หรือเรียกว่ากันแคร้งเครื่องยนต์ด้านล่าง เนื่องจากการใช้รถแนวAdventure อาจจะต้องเจอพวกเศษหิน หรือหินเป็นก้อนใหญ่ๆกระแทกด้านล่าง เจ้าการ์ดตัวนี้ก็สำคัญมากๆ ราคา 9,900บาท


4. Hand Guard +ส่วนต่อขยาย พร้อมไฟLEDของ SW Motech เจ้าการ์ดแฮนด์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทาง เพราะมันจะช่วยปกป้องลมที่มาปะทะมือ โดยเฉพาะถ้าเป็นลมเย็นจัดจะทำให้มือชาได้ รวมไปถึงป้องกันเศษหินเศษโคลนที่จะกระเด็นมาโดนมือทำให้บาดเจ็บ ราคา 8,200บาท


5.ขาตั้งคู่ของ SW Motech โดยผมสั่งเป็นตัวของรุ่น NC750s ซึ่งความสูงจะเท่ากับตัว NC750x รุ่นที่นำเข้าไทย(ลดความสูง) เพราะมีผู้รู้ท่านนึงเคยสั่งตัวตรงรุ่น NC750x มาใส่ ปรากฏว่ามันสูงกว่าตั้งเกือบนิ้ว มีปัญหาในการเหยียบตั้งรถครับ ท่านก็เลยแนะนำว่าให้สั่งรุ่นสำหรับ  NC750s ที่เตี้ยกว่ามาใช้แทน ราคา 7,200บาท


6. ไฟตัดหมอกLED ของ SW Motech ซึ่งหลายครั้งที่เราต้องเดินทางในหมอก หรือตอนกลางคืน ไฟที่สว่างเพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้เราขี่ได้ปลอดภัยมากขึ้น ผมยอมรับว่ายี่ห้อนี้แพง คู่ละ 12,000บาท แต่ดูชิ้นงาน มันสุดยอดทนทานและสามารถลุยอยู่กับเราได้นานแน่นอน ถ้าใช้ของจีนไต้หวัน ราคาอยู่ประมาณคุ่ละ 3-4พันเท่านั้นครับ ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ครับ


7. ที่พักเท้าสแตนเลส ของ SW Motech ผมเห็นแล้วก็ชอบทันที เพราะมันสามารถถอดTop ยางด้านบนออก แล้วกลายเป็นปุ่มหนามแหลม เพื่อสำหรับเวลารองเท้าเราลื่นอาจจะจากน้ำหรือโคลน สามารถยืนเหยียบแล้วไม่ลื่นครับ ราคาคู่ละประมาณ 4,500บาท


8. ชิลหน้าบังลม ของ National Cycle Vstream ซึ่งผมเลือกยี่ห้อชื่อแปลกๆนี้เนื่องจากมันมี Bar สำหรับไว้ติดตั้ง GPS Nevigator ครับ และผมเลือกทรงที่สูงที่สุดคือขนาด 56cm. โดยชิลที่สูง จะปกป้องตัวผู้ขี่จากกระแสลมที่มาปะทะตัว ทำให้ไม่ต้องเกร็งตัวสู้ลม ซึ่งถ้าขี่นานๆอาจจะทำให้เหนื่อยล้าได้ง่ายครับ ตัวนี้ผมสั่งนำเข้ามาจากเว็บไซต์ Ebay ครับ ราคาประมาณ 12,000บาท (รวมค่าส่ง+ภาษีเรียบร้อย)


9. การ์ดหม้อน้ำ ผมเลือกของ http://japan.webike.net/products/21131242.html จากเว็บwebike ครับ การ์ดนี้จำเป็นไว้ปกป้องเศษหินกระเด็นมากระแทกหม้อน้ำเราแตกครับ ราคาประมาณ 4,000บาท


10. Cruise Control ของ Kaoko (แอฟริกาใต้) ผมตัดสินใจดูตัวควบคุมความเร็วของยี่ห้อนี้ เนื่องจากเป็นยี่ห้อที่ทาง Touratech การันตี และมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดครับ มันจะช่วยให้เวลาเดินทางไกลในทางตรงยาวๆ เราจะได้พักมือที่กำคันเร่ง ทำให้ลดความล้าลงไปได้ครับ ผมสั่งกับทาง Touratec Thailand ครับ ราคาประมาณ 5,090บาท https://www.touratech.co.th/webshop/products_model_details.php?txtNo=13291&txtLink=17479


11. GPS Navigator ผมเลือกใช้ของ Garmin Zumo 390 ครับ แม้ว่าจะมีรุ่นใหม่กว่าคือ Zumo590 มาแล้วแต่ทาง ESRI ประเทศไทยยังไม่ได้เอาเข้ามาจำหน่าย (แต่ที่Touratec Thailand ดันมีขายซะนี่) ผมเลือกใช้ของ ESRI เพราะได้ลิขสิทธิ์แผนที่+การันตีครับ ราคาประมาณ 24,500บาท ซื้อผ่านร้าน GPS4U ครับ


>>>>>>>>>>>>เดี๋ยวมาต่อครับ