เข้าร่วมกลุ่ม Honda NC750x Thailand ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/groups/nc750xthai/
และกลุ่ม Touring Adventure Motorbike Thailand Club ที่
https://www.facebook.com/groups/touringmotorbikethaiclub/
(กระทู้นี้เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวน้ำตก ภูเขา ในประเทศไทยด้วยมอเตอร์ไซค์ครับ)
สวัสดีครับ นี่เป็นรีวิวที่ 3 ต่อจากรีวิวเดิมที่พูดถึงอุปกรณ์แต่ง และรีวิวตัวรถ ตาม Link นี้ครับ
[CR]รีวิว Big Bike Honda NC750x พร้อมชุดแต่งทั้งหมด (CR)
http://ppantip.com/topic/33044689
[CR]รีวิว Honda NC750x ภาครูปล้วนๆ และการใช้งาน พร้อมข้อมูลสำหรับคนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะออกBBคันไหนดี
http://ppantip.com/topic/33068141
โดยรีวิวนี้เกิดจาก การที่ผมได้ออกทริประยะกลางแบบกระทันหันสุดๆ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เนื่องจากเมื่อคืนอากาศเย็นมาก ตื่นเช้ามาเห็นว่าวันนี้ไม่มีงานอะไร ก็เลยบอกภรรยาว่า "ไป ขี่มอเตอร์ไซต์เล่นกัน" โดยตั้งใจจะทดสอบสมรรถภาพร่างการยของตัวเราทั้ง 2คนว่าพร้อมแค่ไหนกับทริปการเดินทางขนาด ระยะทางไป-กลับ 600กม. ในวันเดียว รวมถึงทดสอบ อุปกรณ์เสริมติดรถที่เราอุตส่าห์เสียตังค์เพิ่มแต่งเต็มที่หมดไปแสนกว่า และทดสอบเสื้อผ้าชุดอุปกรณ์สวมใส่ป้องกันด้วย ซึ่งบางอันผมก็ใช้ของเก่าเดิมที่เป็นแบบ Racing มาผสมกับอันใหม่ที่ซื้อมาเพื่องาน Touring Adventure โดยเฉพาะ
สรุปคือ ทดสอบ 3อย่าง ทดสอบร่างกายผู้ขี่และคนซ้อน, ทดสอบรถและอุปกรณ์แต่งรถ, ทดสอบเสื้อผ้าชุดอุปกรณ์สวมใส่ป้องกัน
โดยผมตัดสินใจเลือกเส้นทางจากบ้านที่บางนา วิ่งไปทางตะวันออกเพื่อจะได้ไม่ต้องฝ่ารถติดในเมืองของเช้าวันจันทร์ วิ่งไปยังจังหวัดจันทบุรี โดยมีปลายทางเป็นน้ำตกเขาสอยดาว ระยะทางจากแผนที่google Map คือประมาณ 298กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4ชม.ถ้าไม่พักเลย แต่ถ้าพักทุกๆ 100กม. จะใช้เวลาเดินทางประมาณ5ชม.ครึ่งโดยประมาณ
เราออกเดินทางจากบางนา เวลา 8:30น. วิ่งไปตามเส้นทางบางนา-ตราด แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้น by Pass วิ่งไปจนเจอแยกเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นบ้านบึง-ระยอง แล้ววิ่งตามสุขุมวิทไปที่จันทบุรี แล้วไปเลี้ยวซ้ายเส้น จันทบุรี-สระแก้ว โดยพักระหว่างทาง 3ครั้ง จนถึงน้ำตกเขาสอยดาวเวลา 14:00น. 5ชม.ครึ่งเป๊ะๆ
แวะพักที่แรก ปั้มปตท.บ้านบึงเพื่อกินอาหารเช้าและเติมน้ำมัน ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่นี่ สุดยอดมาก อร่อยมากครับ
ถ่ายซะหน่อยก่อนออกจากปั้ม ยังแรงดี
ภรรยาที่ปั้มบางจาก แถวระยอง จุดพักที่ 2
รถที่ปั้มบางจากระยอง จัดเต็ม ทั้งๆที่ไปเช้าเย็นกลับ แต่ก็ใส่ปี๊บมาครบ เพราะต้องการทดสอบการใช้งาน
มาถึงจนได้ น้ำตกเขาสอยดาว
เรามาถึงในสภาพที่หมดแรงไป 70%ครับ เพราะนี่คือทริปยาวที่สุดของภรรยาของผม ส่วนของผมประมาณ50%เพราะเคยเอาHayabusa ไปสังขละบุรีเมื่อ3ปีก่อนมาแล้วก็เลยพอเอาอยู่ ที่สำคัญร่างกายค่อนข้างฟิตครับ แต่..... เรื่องผิดพลาดตลกๆ โง่ๆของผมก็เกิดขึ้น คือ "ล้มแปะ"ที่น้ำตกนี้เอง
คือสถานที่ของน้ำตกเขาสอยดาว ไม่มีคนเลยครับ ที่จอดรถก็ค่อนข้างธรรมชาติมาก ไม่ราบเรียบเท่าใด ตอนแรกผมก็วางขาตั้งข้างจอด... แต่คิดยังไงไม่รู้ เห็นว่าที่ตั้งข้างมันไม่ค่อยเอียงมาด้านซ้ายเท่าไหร่ กลัวรถล้ม ก็เลยจะทำการตั้งขาตั้งคู่เอา แต่ลืมตรวจสอบว่า พื้นตรงนั้น มันเอียงจากซ้ายไปขวา เมื่อผมพยายามตั้งรถด้วยขาตั้งคู่ ปรากฎว่า รถผมล้มไปทางขวาเฉย ผมพยายามประคองดึงกลับ แต่...อนิจา รถมันหนักมากกว่า200กก. ผมก็เลยถูกเหวี่ยงลมไปด้วย ฮ่าๆๆ ยังดีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เห็นรีบมาช่วยผมยกรถ ต้องของคุณมากครับ
วินาทีที่รถลมถามว่า ผมคิดยังไง บอกเลยครับ วินาทีนั้นผมได้ยินเสียงแรกคือ "กร๊อบ" ใจคิดเลย "Shipหายแล้ว ที่หักของแพงป้าววะ" และต่อมาคือ "สิ่งที่เสียหาย จะหนักจนทำให้การกลับบ้านเย็นนี้มีปัญหาหรือเปล่า"....
เมื่อยกรถขึ้นมาได้แล้ว ผมก็ทำการสำรวจเลย พบว่า การล้มแปะครั้งนี้ ได้มี2สิ่งที่เสียหายคือ
1. การ์ดHand ของ SW Motech โดยพลาสติกแตกตรงส่วนปลายเท่านั้น
2. มุมของปี้บขวาด้านล่างเป็นรอย
ซึ่งทั้ง 2จุดเป็นจุดที่รับน้ำหนักรถทั้งหมดตอนที่ล้มแปะครับ โดยส่วนโครงสร้างทั้งของการ์ดHand และแร๊คของปี้บ ไม่เป็นอะไรเลย อันนี้ต้องยกย่องงานของSW Motech เยอรมัน ว่าออกแบบมาได้แข็งแรงจริงๆครับ สภาพของรถNC 750x ที่ล้มแปะคือ ล้อทั้ง2ยกข้นหมดเลยนะครับ
ภาพหน้าตาหลังจากทำรถล้มแปะ... ยังเที่ยวน้ำตกได้ระรื่นนะ ฮ่าๆ
นั่งตรงชั้นแรกนี่แหละ ไม่ขื้นไปหมดแรง
วิวบริเวณน้ำตกด้านล่าง น้ำไม่เยอะมาก แต่ไหลเอื่อยๆกำลังสวยเลย
นั่งพักผ่อน ถ่ายรูปกันสัก 45นาที ก็มีควันไฟหนาแน่นมากมาจากไหนไม่รู้ ทำลายบรรยากาศสุดๆ เลยต้องตัดสินใจกลับเลย เดินมาสักหน่อยพบว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้เผาใบไม้เอง... ฮ่าๆ ก็บอกว่า ผมกลับเพราะโดนรมควันนะครับ เจ้าหน้าอาจจะเห็นว่าเป็นวันจันทร์ไม่ค่อยมีคนก็เลยเผาซะเลย
ตอนแรกขี่กลับออกมา กำลังคิดว่าเราจะพักที่จันทบุรีเลยไหม เพราะเหนื่อยเหมือนกัน แต่อีกใจก็ห่วงลูกชายที่เลิกเรียนตอนเย็น สามารถฝากแม่ไปรับแทนได้ก็จริง แต่เกรงใจไม่อยากรบกวนแม่ ก็เลยขี่รถเข้าตัวเมืองจันทบุรี ห่างจากน้ำตกประมาณ 70กม. หาร้านกาแฟทาน แล้วก็โทรฝากให้แม่ไปรับลูก เราทั้ง2คนก็ตัดสินใจขับกลับในเย็นนั้น โดยออกจากร้านกาแฟประมาณ 5โมงเย็นตรง ก็เสียดายที่ไม่ได้ไปดูถนนเลียบชายหาดที่สวยของเมืองนี้ ไว้คราวหน้าละกันจะมาแก้มือ....
ในช่วงการเดินทางกลับต้องขี่รถย้อนแสงอาทิตย์ทางตะวันตกพอดี การได้แว่นกันแดดใส่เอาไว้ช่วยได้มากครับ เพราะแสงเข้าตาเต็มๆ (แต่ถ้าจะดีกว่าน่าจะหมวกที่มีแก๊บ) เดินทางมาถึงระยองช่วงกำลังจะ 6โมงพอดี ก็เลยหยุดพักที่ปั้มบางจาก พร้อมกับนอนเอกเขนกสักพัก เนื่องจากปวดเมื่อยโดยเฉพาะบ่าและปีกสะบักด้านขวา
ท่านอนนี้ตรงม้านั่งหิน ดีสุดๆ ฮ่าๆ
หลังจากออกจากปั้มที่ระยอง ก็มืดพอดี ได้ใช้ไฟสปอร์ตไลค์LED ของ SW Motech ที่ติดมาครั้งแรก แล้วก็ทำความเร็วประมาณ 100-120 ยืนพื้น แต่ถนนช่วงนี้ตั้งแต่ระยองไปถึงบ้านบึงไม่ค่อยดีนัก แถมไฟข้างทางก็ไม่มีเลย การขับขี่ต้องระมัดระวังอย่างมาก ... เหนืออื่นใด ผมอาศัยรถตู้ประจำทาง ระยอง-กรุงเทพ
ขับนำทางให้ วิ่งบางช่วงพี่แกล่อไป 140 ผมก็ตามอยู่ห่างๆ ให้เป็นเหมือนรถนำขบวน ฮ่าๆ จนมาถึงบ้านบึงโดยสวัสดิภาพ โดยผมแวะพักที่ปั้มปตท.บ้านบึงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะยิงยาวเข้ากรุงเทพเลย โดยถนนช่วงบ้านบึงเละเทะสุดๆ อาศัยที่เป็นรถTouring Adventure เจอหลุม ขรุขระก็รูดไปเลยผมไม่แตะเบรกเด็ดขาดเพราะรถอาจจะเสียหลักได้ครับ
ถ่ายรูปสุดท้ายกับทริปบางนา-จันทรบุรี ไปกลับวันเดียว
จากบ้านบึงเลี้ยวขวาเข้าบายพาส แล้วไปเข้าบางนาตราด รถวิ่งได้ค่อนข้างสบายเพราะถนนดีถึงดีมาก ผมกลับมาถึงบ้านที่บางนาเวลา 20:30พอดีตามที่คำนวนเอาไว้โดยสวัสดิภาพครับ
เอาหละ!!!! มาถึงผลการทดสอบทั้ง 3รายการใหญ่ๆสำหรับทริปนี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับนักเดินทางด้วย2ล้อท่านอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ Honda NC750x ครับ
สภาพร่างกาย
คนขี่ : ตัวผมค่อนข้างOk กับรถคันนี้มากๆ ในการเดินทางเมื่อเทียบกับHayabusa คันก่อน เนื่องจากท่านั่งหลังตรง สบายกว่า และมีชิลด์บังลมขนาดสูง ทำให้ไม่ค่อยเมื่อยล้าครับ แต่จะมีหลักๆคือ ส่วนของบ่าด้านขวา และสบักปีกด้านหลังขวาที่เมื่อย อาจจะเป็นเพราะท่านั่งที่ยังมีการเอื้อมไปข้างหน้าเล็กน้อยครับ แต่พอกลับมาพักผ่อน ตื่นนอนมาก็ไม่รู้สึกปวดแล้วแต่อย่างใด เหนือแต่บ่าทั้ง 2ข้างที่ยังปวดเล็กน้อย และปวดที่ต้นแขนกล้ามเนื้อไบเซปเล็กน้อยครับ พวกหลัง ก้น เอว สะโพก ขา ไม่มีอาการปวดเมื่อยแต่อย่างใดครับ
คนซ้อน : จะมีอาการเมื่อยก้นเนื่องจากนั่งเป็นระยะเวลานานเพียงอย่างเดียวครับ ซึ่งการพักทุกๆ 100กม.ก็ช่วยได้อย่างมาก มาเช้าวันนี้หลังจากนอนพักผ่อนมา1วันก็ไม่มีอาการปวดเมื่อยแล้วแต่อย่างใด คงเหลือแต่ความเพลียเล็กน้อยครับ เพราะนี่คือทริปการเดินทางไกลสุดทางมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกของภรรยาของผมครับ
สมรรถนะของรถHonda NC750x และของแต่งเสริมต่างๆ
1. รถให้ความคล่องตัวในการขี่ค่อนข้างสูงครับ ขี่ง่ายมากๆ ทำความเร็วในการเดินทางเฉลี่ยที่ 110กม/ชม แต่มีบางช่วงที่ต้องทำความเร็ว ผมวิ่งไปถึง 140กม.สบายๆครับ แต่ก็ไม่ได้ใช้ความเร็วมากกว่านั้น ช่วงถนนที่เป็นหลุม บ่อ ขรุขระ รถสามารถรูดผ่านไปได้สบายๆ โดยไม่มีอาการเสียการทรงตัวแต่อย่างใดครับ ผมวิ่งผ่านหลุม ใหญ่ๆบนเส้นระยอง-บ้านบึง ในขากลับที่มีแต่ความมืด ก็ทำได้ดีมากๆ รถมีความมั่นคงมากๆครับ แต่สิ่งนึงที่เป็นข้อสังเกตคือ เมื่อวันเดินทางเป็นวันที่มีลมพัดด้านข้างค่อนข้างแรง(Windy) ผมเจออาการเซเมื่อเจอลมที่มีกำลังมาปะทะด้านข้างแรงๆ (ดูจากแนวต้นสนตรงร่องกลางถนนช่วงระยอง-จันทรบุรี ถึงกับเอนเลยทีเดียว) ซึ่งอาจจะมาจากการติดปี้บใบใหญ่ขนาด 45ลิตรถึง 2ใบ จึงทำให้รถมีพื้นที่ปะทะลมด้านข้างค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาหรืออันตรายต่อการเดินทางแต่อย่างใด เนื่องจากผมใช้ความเร็วประมาณ 100-110กม/ชม.เท่านั้น
อัตราการบริโภค และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง : ผมจับมาตลอดการเติมน้ำมันที่ปั้มทุกปั้ม ได้เฉลี่ยกิโลเมตรละ 1-1.2 บาทครับ หรือประมาณ 25-27กม./ลิตร โดยส่วนใหญ่ตอนหลังผมเลือกใช้โหมด Auto แบบ Sport เพราะการเร่งแซงค่อนข้างทันใจมากกว่า ยกเว้นบางช่วงรถโล่งๆก็จะใช้โหมด Auto ธรรมดา
ช่วงล่าง : ผมยังรู้สึกว่ารถมัน "ยวบ" เกินไปครับ อยากตั้งค่าความแข็งของสปริงค์รถเพิ่มขึ้น และถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้ความสูงรถเพิ่มขึ้นอีกสัก 1-2นิ้วครับ
2. ผลการใช้อุปกรณ์เสริมแต่งรถต่างๆที่อุตส่าห์แต่งเข้ามา ผมจะใช้รูปแบบเรียงลำดับของแต่งที่มีประโยชน์มากๆ และได้ใช้ตลอดการเดินทางแบบ ถ้าผมไม่ติดมาหละก็จะต้องเสียใจแน่นอน จากลำดับความสำคัญมากไปหาน้อยนะครับ
อันดับที่1 Cruise Control ของ Kaoko
ต้องบอกเลยว่า ชุดช่วยควบคุมความเร็วตัวนี้ มันสุดยอดมากๆครับ ผมใช้ตลอดการเดินทางทั้งไปและกลับตลอด 600กม. โดยมีบางช่วงที่รถหนาแน่น จะกลับมาใช้โหมดธรรมดา คิดถึงการต้องกำคันเร่งด้านขวามือตลอดขาไป5ชั่วโมงครึ่ง และกลับอีก 5ชั่วโมงครึ่ง โดยที่ไม่มีตัวLockความเร็วตัวนี้ไว้ มือผมคงจะเป็นง่อย หงิก และล้าสุดๆแบบสมัยที่ขี่Hayabusa ไปสังขละแน่นอนครับ ผมยังรู้สึกดีใจที่ตัดสินใจไม่ผิดในการซื้อเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้มาติดครับ โดยช่วงการเดินทางตั้งแต่กิโลเมตรที่ 150เป็นต้นมา มือผมก็เริ่มล้าแล้วครับ ก็อาศัยได้เจ้าCruise Control ตัวนี้แหละ มาช่วยมือผมก็แค่วางหรือกำหลวมๆ บางทียังสามารถเอาออกมาสะบัดๆคลายความเมื่อยล้ายังได้ครับ (ถ้าไม่มีแล้ว ขณะขี่แทบทำอะไรไม่ได้เลย ต้องออกแรงกำตลอด) ใครสนใจอุปกรณ์ตัวนี้ ติดต่อไปที่ Touratech Thailand เลยครับ
https://www.touratech.co.th/
เดี๋ยวมาต่ออันดับที่ 2 ครับ>>>
[CR] รีวิว การเดินทางกับ NC750x บางนา-จันทรบุรี ไปกลับวันเดียว และผลลัพธ์ของอุปกรณ์เสริมแต่ละอย่าง
เข้าร่วมกลุ่ม Honda NC750x Thailand ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/groups/nc750xthai/
และกลุ่ม Touring Adventure Motorbike Thailand Club ที่ https://www.facebook.com/groups/touringmotorbikethaiclub/
(กระทู้นี้เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวน้ำตก ภูเขา ในประเทศไทยด้วยมอเตอร์ไซค์ครับ)
สวัสดีครับ นี่เป็นรีวิวที่ 3 ต่อจากรีวิวเดิมที่พูดถึงอุปกรณ์แต่ง และรีวิวตัวรถ ตาม Link นี้ครับ
[CR]รีวิว Big Bike Honda NC750x พร้อมชุดแต่งทั้งหมด (CR)http://ppantip.com/topic/33044689
[CR]รีวิว Honda NC750x ภาครูปล้วนๆ และการใช้งาน พร้อมข้อมูลสำหรับคนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะออกBBคันไหนดีhttp://ppantip.com/topic/33068141
โดยรีวิวนี้เกิดจาก การที่ผมได้ออกทริประยะกลางแบบกระทันหันสุดๆ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เนื่องจากเมื่อคืนอากาศเย็นมาก ตื่นเช้ามาเห็นว่าวันนี้ไม่มีงานอะไร ก็เลยบอกภรรยาว่า "ไป ขี่มอเตอร์ไซต์เล่นกัน" โดยตั้งใจจะทดสอบสมรรถภาพร่างการยของตัวเราทั้ง 2คนว่าพร้อมแค่ไหนกับทริปการเดินทางขนาด ระยะทางไป-กลับ 600กม. ในวันเดียว รวมถึงทดสอบ อุปกรณ์เสริมติดรถที่เราอุตส่าห์เสียตังค์เพิ่มแต่งเต็มที่หมดไปแสนกว่า และทดสอบเสื้อผ้าชุดอุปกรณ์สวมใส่ป้องกันด้วย ซึ่งบางอันผมก็ใช้ของเก่าเดิมที่เป็นแบบ Racing มาผสมกับอันใหม่ที่ซื้อมาเพื่องาน Touring Adventure โดยเฉพาะ
สรุปคือ ทดสอบ 3อย่าง ทดสอบร่างกายผู้ขี่และคนซ้อน, ทดสอบรถและอุปกรณ์แต่งรถ, ทดสอบเสื้อผ้าชุดอุปกรณ์สวมใส่ป้องกัน
โดยผมตัดสินใจเลือกเส้นทางจากบ้านที่บางนา วิ่งไปทางตะวันออกเพื่อจะได้ไม่ต้องฝ่ารถติดในเมืองของเช้าวันจันทร์ วิ่งไปยังจังหวัดจันทบุรี โดยมีปลายทางเป็นน้ำตกเขาสอยดาว ระยะทางจากแผนที่google Map คือประมาณ 298กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4ชม.ถ้าไม่พักเลย แต่ถ้าพักทุกๆ 100กม. จะใช้เวลาเดินทางประมาณ5ชม.ครึ่งโดยประมาณ
เราออกเดินทางจากบางนา เวลา 8:30น. วิ่งไปตามเส้นทางบางนา-ตราด แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้น by Pass วิ่งไปจนเจอแยกเลี้ยวซ้ายไปตามเส้นบ้านบึง-ระยอง แล้ววิ่งตามสุขุมวิทไปที่จันทบุรี แล้วไปเลี้ยวซ้ายเส้น จันทบุรี-สระแก้ว โดยพักระหว่างทาง 3ครั้ง จนถึงน้ำตกเขาสอยดาวเวลา 14:00น. 5ชม.ครึ่งเป๊ะๆ
แวะพักที่แรก ปั้มปตท.บ้านบึงเพื่อกินอาหารเช้าและเติมน้ำมัน ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่นี่ สุดยอดมาก อร่อยมากครับ
ถ่ายซะหน่อยก่อนออกจากปั้ม ยังแรงดี
ภรรยาที่ปั้มบางจาก แถวระยอง จุดพักที่ 2
รถที่ปั้มบางจากระยอง จัดเต็ม ทั้งๆที่ไปเช้าเย็นกลับ แต่ก็ใส่ปี๊บมาครบ เพราะต้องการทดสอบการใช้งาน
มาถึงจนได้ น้ำตกเขาสอยดาว
เรามาถึงในสภาพที่หมดแรงไป 70%ครับ เพราะนี่คือทริปยาวที่สุดของภรรยาของผม ส่วนของผมประมาณ50%เพราะเคยเอาHayabusa ไปสังขละบุรีเมื่อ3ปีก่อนมาแล้วก็เลยพอเอาอยู่ ที่สำคัญร่างกายค่อนข้างฟิตครับ แต่..... เรื่องผิดพลาดตลกๆ โง่ๆของผมก็เกิดขึ้น คือ "ล้มแปะ"ที่น้ำตกนี้เอง
คือสถานที่ของน้ำตกเขาสอยดาว ไม่มีคนเลยครับ ที่จอดรถก็ค่อนข้างธรรมชาติมาก ไม่ราบเรียบเท่าใด ตอนแรกผมก็วางขาตั้งข้างจอด... แต่คิดยังไงไม่รู้ เห็นว่าที่ตั้งข้างมันไม่ค่อยเอียงมาด้านซ้ายเท่าไหร่ กลัวรถล้ม ก็เลยจะทำการตั้งขาตั้งคู่เอา แต่ลืมตรวจสอบว่า พื้นตรงนั้น มันเอียงจากซ้ายไปขวา เมื่อผมพยายามตั้งรถด้วยขาตั้งคู่ ปรากฎว่า รถผมล้มไปทางขวาเฉย ผมพยายามประคองดึงกลับ แต่...อนิจา รถมันหนักมากกว่า200กก. ผมก็เลยถูกเหวี่ยงลมไปด้วย ฮ่าๆๆ ยังดีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เห็นรีบมาช่วยผมยกรถ ต้องของคุณมากครับ
วินาทีที่รถลมถามว่า ผมคิดยังไง บอกเลยครับ วินาทีนั้นผมได้ยินเสียงแรกคือ "กร๊อบ" ใจคิดเลย "Shipหายแล้ว ที่หักของแพงป้าววะ" และต่อมาคือ "สิ่งที่เสียหาย จะหนักจนทำให้การกลับบ้านเย็นนี้มีปัญหาหรือเปล่า"....
เมื่อยกรถขึ้นมาได้แล้ว ผมก็ทำการสำรวจเลย พบว่า การล้มแปะครั้งนี้ ได้มี2สิ่งที่เสียหายคือ
1. การ์ดHand ของ SW Motech โดยพลาสติกแตกตรงส่วนปลายเท่านั้น
2. มุมของปี้บขวาด้านล่างเป็นรอย
ซึ่งทั้ง 2จุดเป็นจุดที่รับน้ำหนักรถทั้งหมดตอนที่ล้มแปะครับ โดยส่วนโครงสร้างทั้งของการ์ดHand และแร๊คของปี้บ ไม่เป็นอะไรเลย อันนี้ต้องยกย่องงานของSW Motech เยอรมัน ว่าออกแบบมาได้แข็งแรงจริงๆครับ สภาพของรถNC 750x ที่ล้มแปะคือ ล้อทั้ง2ยกข้นหมดเลยนะครับ
ภาพหน้าตาหลังจากทำรถล้มแปะ... ยังเที่ยวน้ำตกได้ระรื่นนะ ฮ่าๆ
นั่งตรงชั้นแรกนี่แหละ ไม่ขื้นไปหมดแรง
วิวบริเวณน้ำตกด้านล่าง น้ำไม่เยอะมาก แต่ไหลเอื่อยๆกำลังสวยเลย
นั่งพักผ่อน ถ่ายรูปกันสัก 45นาที ก็มีควันไฟหนาแน่นมากมาจากไหนไม่รู้ ทำลายบรรยากาศสุดๆ เลยต้องตัดสินใจกลับเลย เดินมาสักหน่อยพบว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้เผาใบไม้เอง... ฮ่าๆ ก็บอกว่า ผมกลับเพราะโดนรมควันนะครับ เจ้าหน้าอาจจะเห็นว่าเป็นวันจันทร์ไม่ค่อยมีคนก็เลยเผาซะเลย
ตอนแรกขี่กลับออกมา กำลังคิดว่าเราจะพักที่จันทบุรีเลยไหม เพราะเหนื่อยเหมือนกัน แต่อีกใจก็ห่วงลูกชายที่เลิกเรียนตอนเย็น สามารถฝากแม่ไปรับแทนได้ก็จริง แต่เกรงใจไม่อยากรบกวนแม่ ก็เลยขี่รถเข้าตัวเมืองจันทบุรี ห่างจากน้ำตกประมาณ 70กม. หาร้านกาแฟทาน แล้วก็โทรฝากให้แม่ไปรับลูก เราทั้ง2คนก็ตัดสินใจขับกลับในเย็นนั้น โดยออกจากร้านกาแฟประมาณ 5โมงเย็นตรง ก็เสียดายที่ไม่ได้ไปดูถนนเลียบชายหาดที่สวยของเมืองนี้ ไว้คราวหน้าละกันจะมาแก้มือ....
ในช่วงการเดินทางกลับต้องขี่รถย้อนแสงอาทิตย์ทางตะวันตกพอดี การได้แว่นกันแดดใส่เอาไว้ช่วยได้มากครับ เพราะแสงเข้าตาเต็มๆ (แต่ถ้าจะดีกว่าน่าจะหมวกที่มีแก๊บ) เดินทางมาถึงระยองช่วงกำลังจะ 6โมงพอดี ก็เลยหยุดพักที่ปั้มบางจาก พร้อมกับนอนเอกเขนกสักพัก เนื่องจากปวดเมื่อยโดยเฉพาะบ่าและปีกสะบักด้านขวา
ท่านอนนี้ตรงม้านั่งหิน ดีสุดๆ ฮ่าๆ
หลังจากออกจากปั้มที่ระยอง ก็มืดพอดี ได้ใช้ไฟสปอร์ตไลค์LED ของ SW Motech ที่ติดมาครั้งแรก แล้วก็ทำความเร็วประมาณ 100-120 ยืนพื้น แต่ถนนช่วงนี้ตั้งแต่ระยองไปถึงบ้านบึงไม่ค่อยดีนัก แถมไฟข้างทางก็ไม่มีเลย การขับขี่ต้องระมัดระวังอย่างมาก ... เหนืออื่นใด ผมอาศัยรถตู้ประจำทาง ระยอง-กรุงเทพ
ขับนำทางให้ วิ่งบางช่วงพี่แกล่อไป 140 ผมก็ตามอยู่ห่างๆ ให้เป็นเหมือนรถนำขบวน ฮ่าๆ จนมาถึงบ้านบึงโดยสวัสดิภาพ โดยผมแวะพักที่ปั้มปตท.บ้านบึงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะยิงยาวเข้ากรุงเทพเลย โดยถนนช่วงบ้านบึงเละเทะสุดๆ อาศัยที่เป็นรถTouring Adventure เจอหลุม ขรุขระก็รูดไปเลยผมไม่แตะเบรกเด็ดขาดเพราะรถอาจจะเสียหลักได้ครับ
ถ่ายรูปสุดท้ายกับทริปบางนา-จันทรบุรี ไปกลับวันเดียว
จากบ้านบึงเลี้ยวขวาเข้าบายพาส แล้วไปเข้าบางนาตราด รถวิ่งได้ค่อนข้างสบายเพราะถนนดีถึงดีมาก ผมกลับมาถึงบ้านที่บางนาเวลา 20:30พอดีตามที่คำนวนเอาไว้โดยสวัสดิภาพครับ
เอาหละ!!!! มาถึงผลการทดสอบทั้ง 3รายการใหญ่ๆสำหรับทริปนี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับนักเดินทางด้วย2ล้อท่านอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ Honda NC750x ครับ
สภาพร่างกาย
คนขี่ : ตัวผมค่อนข้างOk กับรถคันนี้มากๆ ในการเดินทางเมื่อเทียบกับHayabusa คันก่อน เนื่องจากท่านั่งหลังตรง สบายกว่า และมีชิลด์บังลมขนาดสูง ทำให้ไม่ค่อยเมื่อยล้าครับ แต่จะมีหลักๆคือ ส่วนของบ่าด้านขวา และสบักปีกด้านหลังขวาที่เมื่อย อาจจะเป็นเพราะท่านั่งที่ยังมีการเอื้อมไปข้างหน้าเล็กน้อยครับ แต่พอกลับมาพักผ่อน ตื่นนอนมาก็ไม่รู้สึกปวดแล้วแต่อย่างใด เหนือแต่บ่าทั้ง 2ข้างที่ยังปวดเล็กน้อย และปวดที่ต้นแขนกล้ามเนื้อไบเซปเล็กน้อยครับ พวกหลัง ก้น เอว สะโพก ขา ไม่มีอาการปวดเมื่อยแต่อย่างใดครับ
คนซ้อน : จะมีอาการเมื่อยก้นเนื่องจากนั่งเป็นระยะเวลานานเพียงอย่างเดียวครับ ซึ่งการพักทุกๆ 100กม.ก็ช่วยได้อย่างมาก มาเช้าวันนี้หลังจากนอนพักผ่อนมา1วันก็ไม่มีอาการปวดเมื่อยแล้วแต่อย่างใด คงเหลือแต่ความเพลียเล็กน้อยครับ เพราะนี่คือทริปการเดินทางไกลสุดทางมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกของภรรยาของผมครับ
สมรรถนะของรถHonda NC750x และของแต่งเสริมต่างๆ
1. รถให้ความคล่องตัวในการขี่ค่อนข้างสูงครับ ขี่ง่ายมากๆ ทำความเร็วในการเดินทางเฉลี่ยที่ 110กม/ชม แต่มีบางช่วงที่ต้องทำความเร็ว ผมวิ่งไปถึง 140กม.สบายๆครับ แต่ก็ไม่ได้ใช้ความเร็วมากกว่านั้น ช่วงถนนที่เป็นหลุม บ่อ ขรุขระ รถสามารถรูดผ่านไปได้สบายๆ โดยไม่มีอาการเสียการทรงตัวแต่อย่างใดครับ ผมวิ่งผ่านหลุม ใหญ่ๆบนเส้นระยอง-บ้านบึง ในขากลับที่มีแต่ความมืด ก็ทำได้ดีมากๆ รถมีความมั่นคงมากๆครับ แต่สิ่งนึงที่เป็นข้อสังเกตคือ เมื่อวันเดินทางเป็นวันที่มีลมพัดด้านข้างค่อนข้างแรง(Windy) ผมเจออาการเซเมื่อเจอลมที่มีกำลังมาปะทะด้านข้างแรงๆ (ดูจากแนวต้นสนตรงร่องกลางถนนช่วงระยอง-จันทรบุรี ถึงกับเอนเลยทีเดียว) ซึ่งอาจจะมาจากการติดปี้บใบใหญ่ขนาด 45ลิตรถึง 2ใบ จึงทำให้รถมีพื้นที่ปะทะลมด้านข้างค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาหรืออันตรายต่อการเดินทางแต่อย่างใด เนื่องจากผมใช้ความเร็วประมาณ 100-110กม/ชม.เท่านั้น
อัตราการบริโภค และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง : ผมจับมาตลอดการเติมน้ำมันที่ปั้มทุกปั้ม ได้เฉลี่ยกิโลเมตรละ 1-1.2 บาทครับ หรือประมาณ 25-27กม./ลิตร โดยส่วนใหญ่ตอนหลังผมเลือกใช้โหมด Auto แบบ Sport เพราะการเร่งแซงค่อนข้างทันใจมากกว่า ยกเว้นบางช่วงรถโล่งๆก็จะใช้โหมด Auto ธรรมดา
ช่วงล่าง : ผมยังรู้สึกว่ารถมัน "ยวบ" เกินไปครับ อยากตั้งค่าความแข็งของสปริงค์รถเพิ่มขึ้น และถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้ความสูงรถเพิ่มขึ้นอีกสัก 1-2นิ้วครับ
2. ผลการใช้อุปกรณ์เสริมแต่งรถต่างๆที่อุตส่าห์แต่งเข้ามา ผมจะใช้รูปแบบเรียงลำดับของแต่งที่มีประโยชน์มากๆ และได้ใช้ตลอดการเดินทางแบบ ถ้าผมไม่ติดมาหละก็จะต้องเสียใจแน่นอน จากลำดับความสำคัญมากไปหาน้อยนะครับ
อันดับที่1 Cruise Control ของ Kaoko
ต้องบอกเลยว่า ชุดช่วยควบคุมความเร็วตัวนี้ มันสุดยอดมากๆครับ ผมใช้ตลอดการเดินทางทั้งไปและกลับตลอด 600กม. โดยมีบางช่วงที่รถหนาแน่น จะกลับมาใช้โหมดธรรมดา คิดถึงการต้องกำคันเร่งด้านขวามือตลอดขาไป5ชั่วโมงครึ่ง และกลับอีก 5ชั่วโมงครึ่ง โดยที่ไม่มีตัวLockความเร็วตัวนี้ไว้ มือผมคงจะเป็นง่อย หงิก และล้าสุดๆแบบสมัยที่ขี่Hayabusa ไปสังขละแน่นอนครับ ผมยังรู้สึกดีใจที่ตัดสินใจไม่ผิดในการซื้อเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้มาติดครับ โดยช่วงการเดินทางตั้งแต่กิโลเมตรที่ 150เป็นต้นมา มือผมก็เริ่มล้าแล้วครับ ก็อาศัยได้เจ้าCruise Control ตัวนี้แหละ มาช่วยมือผมก็แค่วางหรือกำหลวมๆ บางทียังสามารถเอาออกมาสะบัดๆคลายความเมื่อยล้ายังได้ครับ (ถ้าไม่มีแล้ว ขณะขี่แทบทำอะไรไม่ได้เลย ต้องออกแรงกำตลอด) ใครสนใจอุปกรณ์ตัวนี้ ติดต่อไปที่ Touratech Thailand เลยครับ https://www.touratech.co.th/
เดี๋ยวมาต่ออันดับที่ 2 ครับ>>>