วันที่ 30 ธันวาคม 2557 นายสาย อิ่นคำ กรรมการสมาคมยางพารา สถาบันเกษตรกรยางพาราไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคายางพาราในภาคเหนือขณะนี้ยังตกต่ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะยางก้อนถ้วย หรือขี้ยาง ราคาล่าสุดวันนี้ (30 ธ.ค.57) อยู่ที่ กก.ละ 16 บาท เท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลไม่มีมาตรการรับซื้อยางก้อนถ้วยเพื่อกระตุ้นราคาช่วยเหลือเกษตรกร จึงเป็นเหตุให้กลุ่มพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบเกษตรกรกดราคาอย่างต่อเนื่อง หากเกษตรกรไม่ขายก็ไม่มีเงินมาใช้จ่าย หรือแม้แต่จะฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่วนราคายางพาราแผ่นดิบที่รัฐบาลแจ้งว่าสามารถทำได้ถึง กก.ละ 60 บาท แล้วนั้น เป็นเพียงการประกาศราคาที่ตลาดกลางในจังหวัดภาคใต้ แต่ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือไม่มีตลาดกลางยางพาราเหมือนภาคใต้ การซื้อขายในตลาดท้องถิ่นซบเซามาก จังหวัดพะเยาไม่มีการซื้อขายยางพาราแผ่นดิบแต่อย่างใด เพราะราคาตกต่ำถึง กก.ละ 43 บาท เท่านั้น
ก.สมาคมยาง ฯ กล่าวต่อว่า แนวทางเดียวที่จะแก้ปัญหายางพาราราคาตกต่ำได้ในขณะนี้คือ การส่งออกยางพาราอัดแท่งหรือ STR20 ไปยังประเทศจีน ซึ่งทางสถาบันเกษตรกร ฯ สมาคมยาง ฯ ต้องฝากความหวังไปยังรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หาช่องทางเจรจากับผู้นำของประเทศจีน เพื่อขอโควตาส่งออกยางพาราให้แก่สมาคมยาง ฯ ในภาคเหนือ เพื่อช่วยกระตุ้นราคายางพาราในตลาดปลายน้ำให้สูงขึ้น จากนั้นต้นน้ำและกลางน้ำสถานการณ์จะดีตามไปด้วย ส่วนในในระยะยาวอย่างยั่งยืนนั้น คือรัฐบาลลงทุนก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราในพื้นที่ภาคเหนือ คือ โรงงานผลิตยางพาราอัดแท่ง STR20 อย่างน้อย 2 แห่ง เพื่อรองรับผลผลิตยางพาราในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถมีวิธีการเจรจากับรัฐบาลจีนเพื่อขอโควตาให้สมาคมยางฯ ในภาคเหนือ อย่างน้อยสามารถส่งออกได้ปีละ 300,000 ตัน ต่อไป
นายสาย กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสแจ้งสภาพปัญหาที่เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดพะเยากำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารจากจังหวัดทหารบก(จทบ.)พะเยา ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้รับทราบปัญหาแล้ว คาดว่าจะนำข้อมูลเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบปัญหาต่อไปได้อีกทางหนึ่ง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1419924434
"ยางเหนือ"โอดอีก "ขี้ยาง"ดิ่งเหว 16 บาท อ้อน"รบ."เจรจา"จีน"ขอโควต้าส่งออก
วันที่ 30 ธันวาคม 2557 นายสาย อิ่นคำ กรรมการสมาคมยางพารา สถาบันเกษตรกรยางพาราไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคายางพาราในภาคเหนือขณะนี้ยังตกต่ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะยางก้อนถ้วย หรือขี้ยาง ราคาล่าสุดวันนี้ (30 ธ.ค.57) อยู่ที่ กก.ละ 16 บาท เท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลไม่มีมาตรการรับซื้อยางก้อนถ้วยเพื่อกระตุ้นราคาช่วยเหลือเกษตรกร จึงเป็นเหตุให้กลุ่มพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบเกษตรกรกดราคาอย่างต่อเนื่อง หากเกษตรกรไม่ขายก็ไม่มีเงินมาใช้จ่าย หรือแม้แต่จะฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่วนราคายางพาราแผ่นดิบที่รัฐบาลแจ้งว่าสามารถทำได้ถึง กก.ละ 60 บาท แล้วนั้น เป็นเพียงการประกาศราคาที่ตลาดกลางในจังหวัดภาคใต้ แต่ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือไม่มีตลาดกลางยางพาราเหมือนภาคใต้ การซื้อขายในตลาดท้องถิ่นซบเซามาก จังหวัดพะเยาไม่มีการซื้อขายยางพาราแผ่นดิบแต่อย่างใด เพราะราคาตกต่ำถึง กก.ละ 43 บาท เท่านั้น
ก.สมาคมยาง ฯ กล่าวต่อว่า แนวทางเดียวที่จะแก้ปัญหายางพาราราคาตกต่ำได้ในขณะนี้คือ การส่งออกยางพาราอัดแท่งหรือ STR20 ไปยังประเทศจีน ซึ่งทางสถาบันเกษตรกร ฯ สมาคมยาง ฯ ต้องฝากความหวังไปยังรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หาช่องทางเจรจากับผู้นำของประเทศจีน เพื่อขอโควตาส่งออกยางพาราให้แก่สมาคมยาง ฯ ในภาคเหนือ เพื่อช่วยกระตุ้นราคายางพาราในตลาดปลายน้ำให้สูงขึ้น จากนั้นต้นน้ำและกลางน้ำสถานการณ์จะดีตามไปด้วย ส่วนในในระยะยาวอย่างยั่งยืนนั้น คือรัฐบาลลงทุนก่อสร้างโรงงานแปรรูปยางพาราในพื้นที่ภาคเหนือ คือ โรงงานผลิตยางพาราอัดแท่ง STR20 อย่างน้อย 2 แห่ง เพื่อรองรับผลผลิตยางพาราในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถมีวิธีการเจรจากับรัฐบาลจีนเพื่อขอโควตาให้สมาคมยางฯ ในภาคเหนือ อย่างน้อยสามารถส่งออกได้ปีละ 300,000 ตัน ต่อไป
นายสาย กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสแจ้งสภาพปัญหาที่เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดพะเยากำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารจากจังหวัดทหารบก(จทบ.)พะเยา ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้รับทราบปัญหาแล้ว คาดว่าจะนำข้อมูลเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบปัญหาต่อไปได้อีกทางหนึ่ง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1419924434