นวนิยาย : สาปหฤหรรษ์ บทนำ
http://ppantip.com/topic/32975045
นวนิยาย : สาปหฤหรรษ์ บทที่ 1
http://ppantip.com/topic/32977360
นวนิยาย : สาปหฤหรรษ์ ตอนที่ 2-3
http://ppantip.com/topic/32991479
นวนิยาย : สาปหฤหรรษ์ ตอนที่ 4-5
http://ppantip.com/topic/33031690
--------------------------------------------------
ฉบับที่ลงให้อ่านนี้คือด้นสดนะคะ เพราะฉะนั้นหากนักอ่านเจอเนื้อเรื่องที่กระโดด เหมือนจะไม่ต่อเนื่อง หรือแม่บุญรักษาของเราอาจเกิดอาการไม่เข้ารูปเข้ารอย สามารถบอกได้ เม้นท์ได้ ช่วยๆ กันคิดได้นะคะ บางทีอ้อยเองก็อาจเผลอบ้างอะไรบ้าง กว่าจะได้อ่าน ได้แก้ไข ก็คงจะต้องทวนความกันอีกสักสามสี่รอบ
และเป็นปกติที่นักอ่านขาประจำจะทราบว่าเมื่อไรที่อ้อยเขียนต้นฉบับสดๆ และโพสต์ไป ย่อมจะต้องมีการเปลี่ยนหรือแก้ไขเนื้อหาเรื่อยๆ อย่างไรแล้วก็คงจะมีตามมาแก้ไขอยู่เป็นระยะนะคะ
ขอขอบพระคุณทุกๆ คอมเม้นท์ที่เขียนไว้ให้อ้อยได้ชื่นใจด้วยค่ะ ดีใจมากๆ ที่ทุกท่านส่งข้อความให้ได้รับรู้ว่ายังมีเพื่อนๆ นักอ่านติดตามกันอยู่
รักนะจ๊ะ จากใจ
อ้อย/สุชาคริยา
ปล. ฉบับที่ลงเว็บเด็กดีบางครั้งจะเป็นฉบับที่ปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่มีในมือมากที่สุด จึงขอแจ้งนักอ่านทางเว็บพันทิปไว้เพื่อทราบถ้าได้แว้บผ่านไปแถวนั้นแล้วเจอบางจุด บางประโยคที่เปลี่ยนไปจ้า จุ๊บๆ
-----------------------------------------------------
-----------------------------------------------------
ตอนที่ 6
“ว่าง่ายจริงเทียว” พูดเท่านั้นเขาก็ก้มหน้าลงมา
เฮ้ย! เธอปฏิเสธ ไม่ได้ตกลงเสียหน่อย ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน
คนตกใจมองราชตาค้างทั้งที่สมองสั่งให้หลับตา ทว่าร่างกายไม่เชื่อฟังกันเลย แต่เคราดกๆ นั่นกลับชะงัก หยุดห่างจากหน้าเธอเพียงสองนิ้ว หยุดค้างอยู่อย่างนั้นโดยไม่ขยับ
ราชเอียงคอนิดหนึ่งราวกับสงสัย แต่บุญรักษาสงสัยยิ่งกว่า เขากลัวว่าเธอจะกัดเขาลิ้นหรือเปล่า จึงหยุดอยู่แค่นี้ หรือว่าลมหายใจของเธอเหม็นจนเขาไม่อยากเข้าใกล้กันแน่
แฮ่ๆ ไม่นะ ขออย่าเป็นข้อหลังเชียว เธออาย
ลมเบาๆ ผ่านหน้าบุญรักษาไปพร้อมกับเงาวูบวาบหนึ่ง เสี้ยววินาทีต่อมาจึงรู้ว่าฝ่ามือของอีกฝ่าย ราชถอยห่างออกไป เขานั่งหลังตรงอยู่ที่เดิม ท่าทางนั่งของเขาแบบนี้ดูแล้วเจ้าคนนายคนบางทียังต้องอายและเผลอกราบเชียวละ สง่างามแฝงไปด้วยรัศมีบางอย่างที่เธอบอกไม่ถูก
“สาม... จักทำลายมนตร์โดยมิแนบเนื้อ คือให้ผู้มีฤทธิ์สูงส่งกว่าเจ้าของมนตร์นั้นเป็นผู้ทำลาย” บอกด้วยอาการประกาศข่าวอย่างไรอย่างนั้น
บุญรักษานิ่งอึ้งเมื่อเจอแบบนี้ อย่าบอกนะว่าเขารังเกียจจนต้องใช้มนตร์ซ้ำซ้อนเพื่อไม่ต้องเข้าใกล้
“แม่หญิงลุกนั่งเถิด” เขาว่า พลางล้วงเข้าไปในผ้าคลุม
คนฟุ้งซ่านลองทำตามที่ราชบอก
‘ดิ้นได้แล้ว’ ดีใจสุดๆ ก็ลุกนั่งทันที ทว่าเกิดอาการหน้ามืดฉับพลัน
บุญรักษารีบใช้มือหนึ่งค้ำตัว อีกมือหนึ่งกุมขมับตนเองเองไว้ ส่งยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายที่นั่งหันหน้าเข้าหา พอตั้งหลักได้ก็รีบประนมมือ ไหว้เขาทันที ไม่รู้ว่าที่นี่เขาแสดงการขอบคุณอย่างไร แต่เธอก็ทำแบบไทยๆ ไปก่อนก็แล้วกัน
“ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ” พูดจบก็มองเขาอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ หวังว่าคำขอบคุณนี้เขาจะรับรู้ว่าเธอบอกจากใจจริง “เอร๊ย! ฉันมีเสียงแล้วค่ะคุ้ณ” แทบกระโดดตัวลอยเมื่อรู้ว่าเสียงของตัวเองกลับมาแน่แล้ว
แต่ความจริงนั้นบุญรักษารีบสงบเสงี่ยมทันใด อาการดีใจอย่างออกนอกหน้าหายไปทันทีเมื่อเจอเคราของราชเริ่มกระดิก จึงต้องระมัดระวังกิริยา ทว่าใบหน้ายังคงยิ้มหน้าบานเป็นจานกระด้งไม่เปลี่ยน
ราชนิ่งไปเลยเมื่อเห็นอาการเช่นนี้ แต่ก็ไม่นานนัก เพราะเขายื่นห่อสี่เหลี่ยมบางอย่างที่ล้วงออกจากผ้าคลุมก่อนนั้นมาวางไว้ตรงหน้า บุญรักษาเห็นว่าเป็นห่อสีเขียวๆ จำนวนสามห่อ ถูกมัดด้วยเชือกกล้วยตากแห้งและหิ้วมาเป็นสาย คล้ายๆ บ๊ะจ่างแต่เป็นทรงสี่เหลี่ยม
ราชว่า “แม่หญิงคงหิวนัก ประสบเหตุตระหนกแต่วาน ข้าพเจ้าไปขอปันข้าวแลเนื้อตากจากชาวบ้านมา คงประทังได้สักมื้อหนึ่งดอก” พูดไปก็ปลดเชือกที่มัดออกไปพร้อมกัน
ใบบัวที่ห่อนั้นคลายออก ข้าวเหนียวและเนื้อแดดเดียวหน้าตาน่ารับประทานปรากฏให้เห็น บุญรักษากลืนน้ำลายลงคอ ปริมาณนั้นใหญ่กว่ากำมือสักเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม ความหิวแทบเป็นศูนย์เมื่อความรู้สึกหนึ่งจุกอยู่ที่ลำคอ
กระบอกตาของเธอร้อนผ่าวๆ ตื้นตันในใจ เขาเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่ไม่คิดจะฆ่าเธอ ยังช่วยเหลือ ยังห่วงใย ยังนึกถึงและเตรียมข้าวไว้ให้คนที่ไม่เคยรู้จักกัน
น้ำตาของเธอนั้นไหลลงมา ไม่ทันรู้ตัวและตั้งตัวสักนิด แต่ตอนนี้ตื้นตันจนพูดไม่ออก มองห่อข้าวสลับกับหน้าของอีกฝ่ายที่เห็นแต่เคราและหมวกปิดเอาไว้ สะอื้นไห้เพราะดีใจที่รอดตาย ยิ่งสะอื้นไห้ด้วยความรู้สึกมากมายประดังเข้ามา บุญรักษาไหว้เขาปลกๆ ก่อนจะเอามือปิดหน้าเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอร้องไห้เป็นเด็กๆ เสียแล้ว
น่าอายชะมัด... แต่เธอก็ดีใจจริงๆ นะ รอดตายมาแล้วเจอคนแบบนี้
โฮ... สะอึกสะอื้นลืมอาย
เธอดีใจจริงๆ ดีใจจนไม่รู้จะบรรยายออกมาให้เป็นคำพูดอย่างไรจึงจะสมกับความดีใจที่มีได้ทั้งหมด เจอคนขี้เหร่เคราดก แต่นิสัยดีสมควรแก่การนับถือและช่วยเหลือยิ่งไม่อาจจะลืมไปจนวันตาย เป็นความประทับใจและซาบซึ้งในบุญคุณครั้งนี้จริงๆ
หญิงสาวร้องไห้เพียงครู่ก็รีบเช็ดหน้าเช็ดตา ส่งยิ้มทั้งน้ำตายังเปียกแก้มก็ใช้มือป้ายๆ ออกแล้วเช็ดต่อแถวๆ สไบ รีบเขี่ยเนื้อที่ราชแกะห่อข้าวไว้ให้รวมกับอีกห่อหนึ่ง หยิบห่อที่มีเนื้อจนพูนนั้นยื่นให้กับราช
“ท่านก็คงยังไม่ได้กินข้าวมาเหมือนกัน แถมยังช่วยฉันมาตั้งแต่เมื่อคืน” เหมือนราชจะงง
เขามองบุญรักษาทั้งที่ฮูทนั่นยังปิดบังใบหน้าส่วนบนเอาไว้
“คุณฟังฉันรู้เรื่องใช่ไหมคะ” ถามด้วยภาษาไทยทั้งประโยคนี้และก่อนนี้
ราชพยักหน้า “เจ้าข้า”
บุญรักษายิ้มกว้าง ยัดห่อข้าวที่เต็มไปด้วยเนื้อใส่ไว้ในมือของราชโดยไม่โดนมือของชายหนุ่ม เขารับและยกขึ้นมองอย่างงงๆ
“ฉันกินเนื้อไม่ได้ค่ะ... คือ...กินอาหารพร่ำเพรื่อไม่ได้น่ะค่ะ ถ้าหากกินอาหารที่แพ้ ฉันจะไม่สบาย เจ็บปวดเนื้อตัว และนั่นจะทำให้ท่านลำบาก ฉันยกเนื้อให้ท่านก็แล้วกันนะคะ ฉันกินแค่ข้าวก็อิ่มแล้วค่ะ” พูดจบก็จกข้าวเหนียวเปล่าๆ ของตนเองใส่ปากทันที กินอย่างเอร็ดอร่อยให้อีกฝ่ายเห็นจะได้ไม่เสียน้ำใจ
ราชยังนิ่งอยู่เช่นนั้น บุญรักษารู้สึกเหมือนเขาจะมองเห็นแม้ชายหมวกปิดบังไว้ แต่เขาไม่พูดอะไร นอกจากมองครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยๆ รับประทานด้วยกิริยาที่บุญรักษาต้องอาย ราชกินแบบทีละน้อยพองาม กิริยาท่าทางนุ่มนวลเป็นผู้ดีไม่สมหนวดเคราที่มีสักนิด
บุญรักษาเหมือนจะหน้าม้านเล็กน้อยแต่ก็ดีใจมากกว่า การเสแสร้งว่าเอร็ดอร่อยเมื่อครู่ทำให้อีกฝ่ายกินได้และโล่งใจ ไม่ต้องห่วงเธอ เธอก็ยินดีมากๆ แล้ว
“แม่หญิง” ราชผลักข้าวห่อที่เหลือมาให้ โดยในมือยังมีข้าวห่อนั้นหลงเหลืออยู่
บุญรักษายิ้มกว้างแบบไม่เห็นฟัน โบกมือทันที “อิ่มแล้วค่ะ ท่านทานเลย ไม่ต้องห่วงฉันนะคะ” ว่าแล้วก็เป็นฝ่ายแกะห่อข้าวให้เขาเสียเอง ผลักไปไว้ตรงหน้าของราช ยิ้มกว้างแบบที่เห็นฟันเกือบครบทุกซี่
ทว่าความจริงนะหรือ... เธอแอบกลืนน้ำลาย โธ่... ข้าวใหญ่กว่ากำปั้นนิดหนึ่งจะไปอิ่มได้อย่างไร ปกติต้องเบิ้ลสอง แต่ก็นะ...ให้เขากินอิ่มๆ ไว้ก่อน เธอค่อยไปหากินเอาข้างหน้าก็ไม่สายหรอก
คิดแล้วก็ยิ้มกว้างให้ราชเมื่อเขามองมา พยักหน้าตอกย้ำว่าทานเลย แต่เมื่อชายหนุ่มยังนิ่งจึงคะยั้นคะยอยกห่อใหม่ไปวางไว้ให้ในมือ จัดแจงให้เลยคราวนี้ และมองเขาด้วยรอยยิ้มที่กว้างที่สุด
ราชพยักหน้าให้เล็กน้อยก่อนจะรับประทานต่อไป บุญรักษาเพิ่งสังเกตเห็นว่ามือของเขาสวยมากทีเดียว นิ้วเรียวสวย ผิวขาวเหมือนหยก ดูสะอาดตา ขณะเขาหยิบข้าวใส่ปากยังทำให้เคลิบเคลิ้มมองตามได้ราวกับต้องมนตร์ความอ่อนช้อยงดงามแต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งนั้น...
‘ถ้าหล่อยิ่งกว่าพระเอกนิยายนี่...แจ็กพ็อตเลยนะรัก ฮิ้ว’ คิดได้ดังนั้นก็แอบหัวเราะชั่วร้ายในใจ
เธอไม่เคยเห็นใครมีนิ้วเรียวมือสวยขนาดนี้มาก่อน เคยเห็นนักร้องชายคนหนึ่งก็ยังสู้มือของราชไม่ได้
‘หนวดเคราน่ากลัว แต่มือดันเซ็กซี่ชะมัด’ คิดแล้วก็ก้มหน้าเอาไว้ กินข้าวไม่อิ่มก็ขอจินตนาการให้อิ่มไปก่อนก็แล้วกันนะ
ราชกระแอมนิดหนึ่ง สงสัยข้าวจะติดคอ เพราะไม่มีน้ำให้กินเลย
ทว่าคิดยังไม่ทันจบดี อีกฝ่ายก็ยื่นกระบอกไม้ไผ่มีจุกปิดให้หญิงสาวอันหนึ่ง บุญรักษายิ้มกว้างให้เขา รับมาเร็วไว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้บางอย่างโชยมาเมื่อเปิดจุกนั้น
“เป็นยา” เขาว่าแค่นั้นก็จัดการข้าวในมือต่อ ราวกับว่าไม่อยากให้เธอเกร็ง
บุญรักษายกน้ำขึ้นดื่มทันที
โอ... เป็นน้ำที่อร่อยสุดยอดมากๆ
รสหวานน้อยๆ แบบธรรมชาติ เย็นชื่นชุ่มคอ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จนเหมือนกับเป็นน้ำผสมยาชูกำลัง เพราะความสดชื่นนั้นกระจายสู่สู่ร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว และดูเหมือนอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวที่มีอยู่ได้มลายไปด้วยเช่นกัน
“น้ำอะไรคะท่านราช” เรียกท่านให้สมฐานะผู้สูงส่งของเธอสักหน่อย
ราชชะงักนิดหนึ่ง มือที่กำลังเปิบข้าวค้างไว้เช่นนั้น เขาไม่ตอบ เร่งรับประทานให้หมดเร็วไว ก่อนจะล้วงเข้าไปในผ้าคลุมสีดำของเขา กระบอกไม้ไผ่อีกหนึ่งติดมือมา เขายกดื่มโดยไม่ยอมตอบคำถามของเธอ
แต่เมื่อเห็นบุญรักษายังจ้องโดยไม่ยอมบ่ายหน้าไปไหน แถมยังยิ้มตาใสแบบนั้น จึงเอ่ย...
“น้ำดวงจิต” น้ำเสียงนั้นเรียบเรื่อยไม่มีความรู้สึกใด เขาไม่หันมามอง ปิดจุกกระบอกน้ำในมือนั้นและเก็บไว้กับตัว
‘อย่า-บอก-นะ-ว่า’ บุญรักษาคิดได้เท่านี้ราชก็ลุกขึ้น
นวนิยาย : สาปหฤหรรษ์ ตอนที่ 6
นวนิยาย : สาปหฤหรรษ์ บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/32977360
นวนิยาย : สาปหฤหรรษ์ ตอนที่ 2-3 http://ppantip.com/topic/32991479
นวนิยาย : สาปหฤหรรษ์ ตอนที่ 4-5 http://ppantip.com/topic/33031690
--------------------------------------------------
ฉบับที่ลงให้อ่านนี้คือด้นสดนะคะ เพราะฉะนั้นหากนักอ่านเจอเนื้อเรื่องที่กระโดด เหมือนจะไม่ต่อเนื่อง หรือแม่บุญรักษาของเราอาจเกิดอาการไม่เข้ารูปเข้ารอย สามารถบอกได้ เม้นท์ได้ ช่วยๆ กันคิดได้นะคะ บางทีอ้อยเองก็อาจเผลอบ้างอะไรบ้าง กว่าจะได้อ่าน ได้แก้ไข ก็คงจะต้องทวนความกันอีกสักสามสี่รอบ
และเป็นปกติที่นักอ่านขาประจำจะทราบว่าเมื่อไรที่อ้อยเขียนต้นฉบับสดๆ และโพสต์ไป ย่อมจะต้องมีการเปลี่ยนหรือแก้ไขเนื้อหาเรื่อยๆ อย่างไรแล้วก็คงจะมีตามมาแก้ไขอยู่เป็นระยะนะคะ
ขอขอบพระคุณทุกๆ คอมเม้นท์ที่เขียนไว้ให้อ้อยได้ชื่นใจด้วยค่ะ ดีใจมากๆ ที่ทุกท่านส่งข้อความให้ได้รับรู้ว่ายังมีเพื่อนๆ นักอ่านติดตามกันอยู่
รักนะจ๊ะ จากใจ
อ้อย/สุชาคริยา
ปล. ฉบับที่ลงเว็บเด็กดีบางครั้งจะเป็นฉบับที่ปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่มีในมือมากที่สุด จึงขอแจ้งนักอ่านทางเว็บพันทิปไว้เพื่อทราบถ้าได้แว้บผ่านไปแถวนั้นแล้วเจอบางจุด บางประโยคที่เปลี่ยนไปจ้า จุ๊บๆ
-----------------------------------------------------
-----------------------------------------------------
ตอนที่ 6
“ว่าง่ายจริงเทียว” พูดเท่านั้นเขาก็ก้มหน้าลงมา
เฮ้ย! เธอปฏิเสธ ไม่ได้ตกลงเสียหน่อย ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน
คนตกใจมองราชตาค้างทั้งที่สมองสั่งให้หลับตา ทว่าร่างกายไม่เชื่อฟังกันเลย แต่เคราดกๆ นั่นกลับชะงัก หยุดห่างจากหน้าเธอเพียงสองนิ้ว หยุดค้างอยู่อย่างนั้นโดยไม่ขยับ
ราชเอียงคอนิดหนึ่งราวกับสงสัย แต่บุญรักษาสงสัยยิ่งกว่า เขากลัวว่าเธอจะกัดเขาลิ้นหรือเปล่า จึงหยุดอยู่แค่นี้ หรือว่าลมหายใจของเธอเหม็นจนเขาไม่อยากเข้าใกล้กันแน่
แฮ่ๆ ไม่นะ ขออย่าเป็นข้อหลังเชียว เธออาย
ลมเบาๆ ผ่านหน้าบุญรักษาไปพร้อมกับเงาวูบวาบหนึ่ง เสี้ยววินาทีต่อมาจึงรู้ว่าฝ่ามือของอีกฝ่าย ราชถอยห่างออกไป เขานั่งหลังตรงอยู่ที่เดิม ท่าทางนั่งของเขาแบบนี้ดูแล้วเจ้าคนนายคนบางทียังต้องอายและเผลอกราบเชียวละ สง่างามแฝงไปด้วยรัศมีบางอย่างที่เธอบอกไม่ถูก
“สาม... จักทำลายมนตร์โดยมิแนบเนื้อ คือให้ผู้มีฤทธิ์สูงส่งกว่าเจ้าของมนตร์นั้นเป็นผู้ทำลาย” บอกด้วยอาการประกาศข่าวอย่างไรอย่างนั้น
บุญรักษานิ่งอึ้งเมื่อเจอแบบนี้ อย่าบอกนะว่าเขารังเกียจจนต้องใช้มนตร์ซ้ำซ้อนเพื่อไม่ต้องเข้าใกล้
“แม่หญิงลุกนั่งเถิด” เขาว่า พลางล้วงเข้าไปในผ้าคลุม
คนฟุ้งซ่านลองทำตามที่ราชบอก
‘ดิ้นได้แล้ว’ ดีใจสุดๆ ก็ลุกนั่งทันที ทว่าเกิดอาการหน้ามืดฉับพลัน
บุญรักษารีบใช้มือหนึ่งค้ำตัว อีกมือหนึ่งกุมขมับตนเองเองไว้ ส่งยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายที่นั่งหันหน้าเข้าหา พอตั้งหลักได้ก็รีบประนมมือ ไหว้เขาทันที ไม่รู้ว่าที่นี่เขาแสดงการขอบคุณอย่างไร แต่เธอก็ทำแบบไทยๆ ไปก่อนก็แล้วกัน
“ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ” พูดจบก็มองเขาอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ หวังว่าคำขอบคุณนี้เขาจะรับรู้ว่าเธอบอกจากใจจริง “เอร๊ย! ฉันมีเสียงแล้วค่ะคุ้ณ” แทบกระโดดตัวลอยเมื่อรู้ว่าเสียงของตัวเองกลับมาแน่แล้ว
แต่ความจริงนั้นบุญรักษารีบสงบเสงี่ยมทันใด อาการดีใจอย่างออกนอกหน้าหายไปทันทีเมื่อเจอเคราของราชเริ่มกระดิก จึงต้องระมัดระวังกิริยา ทว่าใบหน้ายังคงยิ้มหน้าบานเป็นจานกระด้งไม่เปลี่ยน
ราชนิ่งไปเลยเมื่อเห็นอาการเช่นนี้ แต่ก็ไม่นานนัก เพราะเขายื่นห่อสี่เหลี่ยมบางอย่างที่ล้วงออกจากผ้าคลุมก่อนนั้นมาวางไว้ตรงหน้า บุญรักษาเห็นว่าเป็นห่อสีเขียวๆ จำนวนสามห่อ ถูกมัดด้วยเชือกกล้วยตากแห้งและหิ้วมาเป็นสาย คล้ายๆ บ๊ะจ่างแต่เป็นทรงสี่เหลี่ยม
ราชว่า “แม่หญิงคงหิวนัก ประสบเหตุตระหนกแต่วาน ข้าพเจ้าไปขอปันข้าวแลเนื้อตากจากชาวบ้านมา คงประทังได้สักมื้อหนึ่งดอก” พูดไปก็ปลดเชือกที่มัดออกไปพร้อมกัน
ใบบัวที่ห่อนั้นคลายออก ข้าวเหนียวและเนื้อแดดเดียวหน้าตาน่ารับประทานปรากฏให้เห็น บุญรักษากลืนน้ำลายลงคอ ปริมาณนั้นใหญ่กว่ากำมือสักเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม ความหิวแทบเป็นศูนย์เมื่อความรู้สึกหนึ่งจุกอยู่ที่ลำคอ
กระบอกตาของเธอร้อนผ่าวๆ ตื้นตันในใจ เขาเป็นคนเดียวในโลกนี้ที่ไม่คิดจะฆ่าเธอ ยังช่วยเหลือ ยังห่วงใย ยังนึกถึงและเตรียมข้าวไว้ให้คนที่ไม่เคยรู้จักกัน
น้ำตาของเธอนั้นไหลลงมา ไม่ทันรู้ตัวและตั้งตัวสักนิด แต่ตอนนี้ตื้นตันจนพูดไม่ออก มองห่อข้าวสลับกับหน้าของอีกฝ่ายที่เห็นแต่เคราและหมวกปิดเอาไว้ สะอื้นไห้เพราะดีใจที่รอดตาย ยิ่งสะอื้นไห้ด้วยความรู้สึกมากมายประดังเข้ามา บุญรักษาไหว้เขาปลกๆ ก่อนจะเอามือปิดหน้าเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอร้องไห้เป็นเด็กๆ เสียแล้ว
น่าอายชะมัด... แต่เธอก็ดีใจจริงๆ นะ รอดตายมาแล้วเจอคนแบบนี้
โฮ... สะอึกสะอื้นลืมอาย
เธอดีใจจริงๆ ดีใจจนไม่รู้จะบรรยายออกมาให้เป็นคำพูดอย่างไรจึงจะสมกับความดีใจที่มีได้ทั้งหมด เจอคนขี้เหร่เคราดก แต่นิสัยดีสมควรแก่การนับถือและช่วยเหลือยิ่งไม่อาจจะลืมไปจนวันตาย เป็นความประทับใจและซาบซึ้งในบุญคุณครั้งนี้จริงๆ
หญิงสาวร้องไห้เพียงครู่ก็รีบเช็ดหน้าเช็ดตา ส่งยิ้มทั้งน้ำตายังเปียกแก้มก็ใช้มือป้ายๆ ออกแล้วเช็ดต่อแถวๆ สไบ รีบเขี่ยเนื้อที่ราชแกะห่อข้าวไว้ให้รวมกับอีกห่อหนึ่ง หยิบห่อที่มีเนื้อจนพูนนั้นยื่นให้กับราช
“ท่านก็คงยังไม่ได้กินข้าวมาเหมือนกัน แถมยังช่วยฉันมาตั้งแต่เมื่อคืน” เหมือนราชจะงง
เขามองบุญรักษาทั้งที่ฮูทนั่นยังปิดบังใบหน้าส่วนบนเอาไว้
“คุณฟังฉันรู้เรื่องใช่ไหมคะ” ถามด้วยภาษาไทยทั้งประโยคนี้และก่อนนี้
ราชพยักหน้า “เจ้าข้า”
บุญรักษายิ้มกว้าง ยัดห่อข้าวที่เต็มไปด้วยเนื้อใส่ไว้ในมือของราชโดยไม่โดนมือของชายหนุ่ม เขารับและยกขึ้นมองอย่างงงๆ
“ฉันกินเนื้อไม่ได้ค่ะ... คือ...กินอาหารพร่ำเพรื่อไม่ได้น่ะค่ะ ถ้าหากกินอาหารที่แพ้ ฉันจะไม่สบาย เจ็บปวดเนื้อตัว และนั่นจะทำให้ท่านลำบาก ฉันยกเนื้อให้ท่านก็แล้วกันนะคะ ฉันกินแค่ข้าวก็อิ่มแล้วค่ะ” พูดจบก็จกข้าวเหนียวเปล่าๆ ของตนเองใส่ปากทันที กินอย่างเอร็ดอร่อยให้อีกฝ่ายเห็นจะได้ไม่เสียน้ำใจ
ราชยังนิ่งอยู่เช่นนั้น บุญรักษารู้สึกเหมือนเขาจะมองเห็นแม้ชายหมวกปิดบังไว้ แต่เขาไม่พูดอะไร นอกจากมองครู่หนึ่งแล้วจึงค่อยๆ รับประทานด้วยกิริยาที่บุญรักษาต้องอาย ราชกินแบบทีละน้อยพองาม กิริยาท่าทางนุ่มนวลเป็นผู้ดีไม่สมหนวดเคราที่มีสักนิด
บุญรักษาเหมือนจะหน้าม้านเล็กน้อยแต่ก็ดีใจมากกว่า การเสแสร้งว่าเอร็ดอร่อยเมื่อครู่ทำให้อีกฝ่ายกินได้และโล่งใจ ไม่ต้องห่วงเธอ เธอก็ยินดีมากๆ แล้ว
“แม่หญิง” ราชผลักข้าวห่อที่เหลือมาให้ โดยในมือยังมีข้าวห่อนั้นหลงเหลืออยู่
บุญรักษายิ้มกว้างแบบไม่เห็นฟัน โบกมือทันที “อิ่มแล้วค่ะ ท่านทานเลย ไม่ต้องห่วงฉันนะคะ” ว่าแล้วก็เป็นฝ่ายแกะห่อข้าวให้เขาเสียเอง ผลักไปไว้ตรงหน้าของราช ยิ้มกว้างแบบที่เห็นฟันเกือบครบทุกซี่
ทว่าความจริงนะหรือ... เธอแอบกลืนน้ำลาย โธ่... ข้าวใหญ่กว่ากำปั้นนิดหนึ่งจะไปอิ่มได้อย่างไร ปกติต้องเบิ้ลสอง แต่ก็นะ...ให้เขากินอิ่มๆ ไว้ก่อน เธอค่อยไปหากินเอาข้างหน้าก็ไม่สายหรอก
คิดแล้วก็ยิ้มกว้างให้ราชเมื่อเขามองมา พยักหน้าตอกย้ำว่าทานเลย แต่เมื่อชายหนุ่มยังนิ่งจึงคะยั้นคะยอยกห่อใหม่ไปวางไว้ให้ในมือ จัดแจงให้เลยคราวนี้ และมองเขาด้วยรอยยิ้มที่กว้างที่สุด
ราชพยักหน้าให้เล็กน้อยก่อนจะรับประทานต่อไป บุญรักษาเพิ่งสังเกตเห็นว่ามือของเขาสวยมากทีเดียว นิ้วเรียวสวย ผิวขาวเหมือนหยก ดูสะอาดตา ขณะเขาหยิบข้าวใส่ปากยังทำให้เคลิบเคลิ้มมองตามได้ราวกับต้องมนตร์ความอ่อนช้อยงดงามแต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งนั้น...
‘ถ้าหล่อยิ่งกว่าพระเอกนิยายนี่...แจ็กพ็อตเลยนะรัก ฮิ้ว’ คิดได้ดังนั้นก็แอบหัวเราะชั่วร้ายในใจ
เธอไม่เคยเห็นใครมีนิ้วเรียวมือสวยขนาดนี้มาก่อน เคยเห็นนักร้องชายคนหนึ่งก็ยังสู้มือของราชไม่ได้
‘หนวดเคราน่ากลัว แต่มือดันเซ็กซี่ชะมัด’ คิดแล้วก็ก้มหน้าเอาไว้ กินข้าวไม่อิ่มก็ขอจินตนาการให้อิ่มไปก่อนก็แล้วกันนะ
ราชกระแอมนิดหนึ่ง สงสัยข้าวจะติดคอ เพราะไม่มีน้ำให้กินเลย
ทว่าคิดยังไม่ทันจบดี อีกฝ่ายก็ยื่นกระบอกไม้ไผ่มีจุกปิดให้หญิงสาวอันหนึ่ง บุญรักษายิ้มกว้างให้เขา รับมาเร็วไว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้บางอย่างโชยมาเมื่อเปิดจุกนั้น
“เป็นยา” เขาว่าแค่นั้นก็จัดการข้าวในมือต่อ ราวกับว่าไม่อยากให้เธอเกร็ง
บุญรักษายกน้ำขึ้นดื่มทันที
โอ... เป็นน้ำที่อร่อยสุดยอดมากๆ
รสหวานน้อยๆ แบบธรรมชาติ เย็นชื่นชุ่มคอ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จนเหมือนกับเป็นน้ำผสมยาชูกำลัง เพราะความสดชื่นนั้นกระจายสู่สู่ร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว และดูเหมือนอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวที่มีอยู่ได้มลายไปด้วยเช่นกัน
“น้ำอะไรคะท่านราช” เรียกท่านให้สมฐานะผู้สูงส่งของเธอสักหน่อย
ราชชะงักนิดหนึ่ง มือที่กำลังเปิบข้าวค้างไว้เช่นนั้น เขาไม่ตอบ เร่งรับประทานให้หมดเร็วไว ก่อนจะล้วงเข้าไปในผ้าคลุมสีดำของเขา กระบอกไม้ไผ่อีกหนึ่งติดมือมา เขายกดื่มโดยไม่ยอมตอบคำถามของเธอ
แต่เมื่อเห็นบุญรักษายังจ้องโดยไม่ยอมบ่ายหน้าไปไหน แถมยังยิ้มตาใสแบบนั้น จึงเอ่ย...
“น้ำดวงจิต” น้ำเสียงนั้นเรียบเรื่อยไม่มีความรู้สึกใด เขาไม่หันมามอง ปิดจุกกระบอกน้ำในมือนั้นและเก็บไว้กับตัว
‘อย่า-บอก-นะ-ว่า’ บุญรักษาคิดได้เท่านี้ราชก็ลุกขึ้น