เรามาปรองดองกัน..เจ้าพุง กับนิทานเรื่อง บ๊อบบี้และลูซี่ กับมิตรภาพ

วันแห่งการปรองดอง 16 ธันวาคม Day of Reconciliation

ทุกปีในวันที่ 16 ธันวาคม ประเทศแอฟริกาใต้จะเฉลิมฉลอง วันแห่งการปรองดอง เพื่อรักษาและเชื่อมช่องว่างระหว่างผู้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้ วันที่พิเศษนี้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1994 หลังจากที่ระบบการแบ่งแยกเชื้อชาติที่ดำรงอยู่ทั่วทั้งแอฟริกาใต้ภายใต้กฎหมายของพรรคชาติสิ้นสุดลง วันแห่งการปรองดองช่วยนำความสามัคคีมาสู่ภูมิภาคนี้ แม้จะผ่านความอยุติธรรมมาหลายทศวรรษ

.
วันแห่งการปรองดองเป็นเหมือนลมหายใจแห่งความสดชื่น หลังจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศที่ยังคงมีร่องรอยของการล่าอาณานิคมและการเหยียดเชื้อชาติ การกีดกันทางเชื้อชาติเป็นความจริงอันเลวร้ายในแอฟริกาใต้มาตั้งแต่ที่จักรวรรดิดัตช์ปกครองในปี ค.ศ. 1652 และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เมื่ออังกฤษเข้ายึดครองในปี ค.ศ. 1795 สถานการณ์เลวร้ายลงในปี ค.ศ. 1950 เมื่อการเป็นตัวแทนทางการเมืองของบุคคลที่ไม่ใช่คนผิวขาวถูกยกเลิก นโยบายการแบ่งแยกทางเชื้อชาติยิ่งฝังรากลึกมากขึ้น การกบฏรุนแรงหลายครั้งเกิดขึ้นและการค้ากับประเทศถูกคว่ำบาตร

วันนี้ได้รับเลือกให้เป็นวันปรองดอง เนื่องจากมีความสำคัญต่อทั้งชาวแอฟริกันและชาวแอฟริกันเนอร์ วันที่นี้เป็นวันที่มีการประท้วงต่อต้านการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในปี 1910 สำหรับชาวแอฟริกันเนอร์ วันที่นี้ยังเป็นวันแห่งพันธสัญญา ซึ่งเป็นวันหยุดทางศาสนาที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะของชาววูร์เทรคเกอร์เหนือชาวซูลูใน "ยุทธการเลือด" เมื่อปี 1838 นอกจากนี้ยังเป็นวันที่มีการจัดตั้ง "หอกแห่งชาติ" หรือที่รู้จักกันในแอฟริกาใต้ว่า Umkhonto we Sizwe

เนื่องจากแอฟริกาใต้ได้สถาปนาระบอบประชาธิปไตยขึ้น วันแห่งการปรองดองจึงได้รับการเฉลิมฉลองเป็นครั้งแรกในปี 1995 ในแต่ละปีจะมีการกำหนดธีมที่แตกต่างกัน ตัวอย่างธีมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้แก่ “การสร้างสะพานเชื่อมสู่สังคมที่ไม่เหยียดเชื้อชาติ” “ปีของเนลสัน แมนเดลาและอัลเบอร์ตินา ซิสูลู: ผู้ปลดปล่อยเพื่อการปรองดอง” และ “การสร้างสะพานเชื่อมเป็นชาติแอฟริกาใต้ร่วมกันเพื่อก้าวไปสู่รัฐพัฒนาแห่งชาติ”


นิทานเรื่อง: บ๊อบบี้และลูซี่ กับมิตรภาพ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมู่บ้านเล็กๆ แสนสุขสงบแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยลูกบอลหลากสีสัน

ในหมู่บ้านแห่งนี้ มีลูกบอลสองลูกที่เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านของทั้งสองอยู่ติดกัน เขาและเธอชื่อว่า "บ๊อบบี้" และ "ลูซี่" ชอบเล่นด้วยกันอยู่ตลอด บ๊อบบี้เป็นลูกบอลกลมสีฟ้าสดใสชอบเล่นสนุกด้วยการกระโดดสูง ส่วนลูซี่นั้นเป็นลูกบอลสีชมพูหวานแหว๋ว ที่ชอบเล่นด้วยการกลิ้งไปตามทาง

เขาและเธอต่างเล่นด้วยกันในแบบ ลูซี่เล่นกระโดดตามบ๊อบบี้ และบ๊อบบี้เองก็เล่นกลิ้งตามลูซี่ด้วยเช่นกัน

ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีการจัดการแข่งขันขึ้นมา และในปีนี้เองได้มีการจัดการแข่งขันกระโดดขึ้น เมื่อบ๊อบบี้ได้รู้ข่าว ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าตัวเขานั้นกระโดดได้ดีและสูงกว่าลูซี่ ซึ่งน่าจะทำให้ตัวเขานั้นเป็นผู้ชนะ

ลูซี่ได้รู้ข่าวการจัดการแข่งขันกระโดด ก็ดีใจตามบ๊อบบี้ และอยากมีส่วนในการร่วมกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน

เมื่อถึงวันจัดงาน การแข่งขันกระโดดเริ่มขึ้น บ๊อบบี้ และลูซี่ต่างพยายามกระโดดให้สูงที่สุด แต่แล้วเมื่อบ๊อบบี้มองไปยังลูซี่ และเห็นว่าเธอนั้นกำลังทำได้ดี เขาจึงเริ่มโกรธ และพูดขึ้นว่า

"เธอถนัดกลิ้งนะ อย่าคิดว่าจะชนะฉันได้เลย"
"เธอไม่เคยกระโดดชนะฉันเลยนะ อย่าพยายามต่อไปเลย"

เมื่อลูซี่ได้ยิน ก็รู้สึกโมโหที่บ๊อบบี้ให้เธอนั้นหยุดการพยายามกระโดด ทั้งที่เธอเองพยายามกระโดดเพื่อบ๊อบบี้ได้เห็นว่าเธอก็ทำได้ และทั้งสองก็เริ่มทะเลาะกัน จนทำให้การแข่งขันต้องหยุดลง

ทั้งสองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ทำให้เพื่อนๆ ในหมู่บ้านต้องผิดหวัง ลูซี่เริ่มร้องไห้ และรู้สึกผิด จึงเดินไปหาบ๊อบบี้ และกล่าวขอโทษ บ๊อบบี้รู้สึกเสียใจยิ่งกว่าที่ทำให้ลูซี่ต้องร้องไห้ ทั้งที่เธอพยายามกระโดดเพื่อจะได้ให้ตัวเขาเห็นว่าทำได้เหมือนบ๊อบบี้เพียงเท่านั้น

บ๊อบบี้ กล่าวต่อลูซี่กลับว่า
"ฉันขอโทษ"
"ฉันเสียใจมากที่เรื่องนี้ทำให้เราต้องทะเลาะกัน"

ลูซี่ได้ยินคำกล่าวขอโทษกลับขอบ๊อบบี้ก็ยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า
"ไม่เป็นไร"
"เราเป็นเพื่อนกันนะ"

บ๊อบบี้ได้พูดต่อว่า จริงๆ แล้วการแข่งขันไม่ได้สำคัญเท่ากับการที่เราเป็นเพื่อนกัน และได้ทำอะไรสนุกร่วมกัน ลูซี่เห็นด้วย และยิ้มพร้อมพยักหน้า

หลังจากนั้นทั้งสองก็แข่งขันกระโดดสูงกันต่อ โดยไม่สนใจว่าใครจะเป็นผู้ชนะ จนจบการแข่งขัน บ๊อบบี้นั้นกระโดดได้สูงที่สุดและชนะการแข่งขัน

เมื่อการแข่งขันผ่านไป ทั้งสองก็ยังคงเล่นกระโดดและกลิ้งด้วยกันอย่างสนุกสนานอยู่ภายในหมู่บ้าน

.
มิตรภาพระหว่างเพื่อน สำคัญมากกว่าการแข่งขันและการเอาชนะกัน การรับฟังและเข้าใจกันทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
😊

...
.
ในเมื่อวันนี้จะปรองดองกับพุงแล้ว ก็ต้องเป็นเมนูซุปผักต่างๆ ที่น่ากินน่าอร่อยของแต่ละประเทศสินะ!
มาดูกันว่ามีเมนูอะไรบ้าง..

1. Czech pea soup (Hrachová polévka)
ซุปแบบดั้งเดิมของประเทศเช็กเกีย ทำจากถั่วลันเตาเขียว หรือถั่วลันเตาเหลือง ใส่น้ำซุปจากรากผักต่างๆ และเครื่องเทศอย่าง ยี่หร่าหรือมาร์จอแรม (marjoram) ใส่เนื้อรมควัน หรือครูตองกรอบ

2. Šaltibarščiai  (Cold Beet Soup หรือ Chilled Beet Soup)
ซุปบีทรูทเย็น อาหารจากลิทัวเนีย ที่นำบีทรูทต้มผสมกับครีมและคีเฟอร์หรือบัตเตอร์มิลค์รสเปรี้ยว ราดบนแตงกวาขูดและไข่ลวก ปรุงรสด้วยผักชีลาว

3. Sopa Poblano
ซุปเม็กซิกันรมควันที่มีต้นกำเนิดจาก "Puebla" (เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของเม็กซิโก) ทำจากพริก Poblano คั่วเป็นส่วนผสมหลัก ปรุงด้วยเนย หัวหอม ต้นหอม กระเทียม มันฝรั่ง น้ำสต็อกไก่ และครีมเปรี้ยว

4. Sayur lodeh
ซายูร์โลเดห์เป็นอาหารอินโดนีเซียแบบดั้งเดิมที่ทำจากผักตุ๋นในกะทิ มะเขือยาว ขนุน เมล่อนโจ ถั่วฝักยาว แครอท หรือจะใส่ผักชนิดใดก็ได้ และเครื่องเทศ เมนูนี้มีต้นกำเนิดมาจากเกาะชวาของอินโดนีเซีย และมีในสิงคโปร์ และมาเลเซีย

5. Čorba od spanaća (Spinach Soup หรือ Spinach Stew)
ซุปแบบดั้งเดิมที่มีต้นกำเนิดจากเซอร์เบีย ปรุงด้วยไขมันหมู ผักโขม หัวหอม กระเทียม แป้ง น้ำ และนม

6. Caldo verde
ซุปยอดนิยมจากโปรตุเกส ทำจากมันฝรั่ง คะน้า น้ำมันมะกอก และเกลือ เสิร์ฟพร้อมไส้กรอก chorizo หั่นเป็ฯแว่นๆ 

7. Kapuśniak (Cabbage Soup หรือ Sauerkraut Soup)
เมนูดั้งเดิมของโปแลนด์ ทำมาจากซาวเคราต์ มันฝรั่ง และผักราก Kapuśniak มีลักษณะคล้ายกับซุปซาวเคราต์ในยุโปร แต่ของโปแลนด์มักจะปรุงรสด้วยยี่หร่าและมาร์จอแรม (marjoram)



.
อากาศเริ่มเย็น ซุปอุ่นๆ สักชามกำลังดีครับผม

: มิตรภาพดีดี อาจเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยคำว่า "ฉันขอโทษนะ"

.
ขอขอบคุณข้อมูล
: nationaltoday
: wikipedia
: tasteatlas
นามปากกานิทาน: YiiYee
.
LookAt
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่