เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. พ.ต.ท.ธนาเดช พิทักษ์ชลเดช พงส.สภ.เมือง อุดรธานี ได้รับแจ้งมีเหตุรถไฟชนรถกระบะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้บาดเจ็บ เมื่อกลางดึกวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่จุดลัดผ่านบ้านน้ำคำ หมู่ 2 ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นจุดลัดผ่านสถานีรถไฟบ้านหนองขอนกว้างกับสถานีหนองตะไก้ หลักกิโลเมตรที่ 553 หลังจากได้รับแจ้งแล้วจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี มูลนิธิส่งเสริมธรรม
ที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตฉ 3560 กรุงเทพมหานคร ถูกรถไฟชนตกลงไปในพงหญ้าข้างรางรถไฟ สภาพด้านซ้ายพังยับเยิน บนพื้นใกล้ๆ รถพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังคือนางอ้วน โพธิ์ชัยย้อย อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 2 ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี สภาพศพร่างแหลกเหลว ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสคือนายธราเทพ บุญจันทร์ อายุ 44 ปี คนขับรถกระบะ นางจำนงค์ โพธิ์ชัยย้อย อายุ 40 ปี น.ส.พรรณี ยอดแพง อายุ 23 ปี ด.ช.อิทธิศักดิ์ แช่มรัมย์ อายุ 1 ปี 7 เดือน ห่างไป 50 เมตร พบขบวนรถไฟดีเซลราง อุดรธานี-กรุงเทพ ขบวน 78 จำนวน 4 โบกี้ จอดอยู่ สภาพบริเวณด้านหน้าโบกี้ 1 กันชนหน้าขวาหลุดสายน้ำมันไฮดรอลิคขาด เสียหายไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องให้โบกี้ที่ 4 ดันไปจอดที่สถานีหนองตะไก้ จากนั้นจึงได้รีบนำคนเจ็บส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี
จากการสอบสวน นายช่วย โพธิ์ชัยย้อย อายุ 65 ปี สามีผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายธราเทพ หลานเขย ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ จ.ชลบุรี ได้พาครอบครัวเดินทางพากลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปีใหม่ และพึ่งจะมาถึงบ้านช่วงหัวค่ำ แล้วได้ชักชวนตนและครอบครัวขึ้นรถไปดูที่นาที่อยู่อีกฝั่งของทางรถไฟ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางลัดที่ชาวบ้านทำขึ้นมาเองเพื่อใช้ไปไร่นา แต่ปรากฎว่ารถที่ขับมา เป็นรถแต่งที่โหลดต่ำ จึงข้ามไปได้เพียงล้อหน้า แชสซีด้านขวาไปติดกับรางรถไฟ ทำให้ล้อหลังลอยขึ้น ไม่สามารถผ่านรางรถไฟไปได้ ตนจึงได้ลงไปช่วยดันรถ เป็นจังหวะเดียวกับที่ขบวนรถไฟได้ออกมาจากสถานีหนองขอนกว้างมาถึงพอดี ด้วยความตกใจเกรงรถไฟจะชนรถกระบะ ซึ่งมีทั้งภรรยาและหลานอยู่ จึงวิ่งไปโบกส่งสัญญาณให้ทางรถไฟทราบว่ามีรถติดอยู่บนราง แต่รถไฟก็ไม่หยุดและได้ชนเข้ากับรถปิกอัพอย่างจังแล้ว ลากรถปิกอัพไป 20 เมตร จนรถตกลงไปอยู่ในพงหญ้าข้างรางรถไฟ หลังหายจากตกตะลึง ตนได้วิ่งเข้าไปดูก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนขับและหลานบาดเจ็บสาหัส
เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟหนองตะไก้ อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จุดลัดผ่านดังกล่าวชาวบ้านทำขึ้นมาเอง และไม่ทราบว่าทำขึ้นมาตอนไหน เพราะทางรถไฟบริเวณนี้พึ่งเปลี่ยนไม้หมอน เป็นหมอนคอนกรีตอัดแรงเมื่อปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โบกี้ที่ 1 เสียหายไม่สามารถขับเคลื่อนได้ และทำให้ขบวนรถไฟเสียเวลา จึงต้องนำขบวนรถไฟไปจอดที่สถานหนองตะไก้ เพื่อตรวจสอบ ผู้โดยสารมีไม่มากเพราะเป็นขาล่องกรุงเทพฯ หากไม่สามารถซ่อมแซมรถไฟได้ จะจัดรถให้ใหม่
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE9UZ3lOekU1TXc9PQ==&utm_source=twitterfeed&utm_medium=facebook
ม้าเหล็กขยี้กระบะโหลดต่ำ จอดติดราง-รถพังยับดับคาที่ 1 สาหัส 4 ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี
ที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตฉ 3560 กรุงเทพมหานคร ถูกรถไฟชนตกลงไปในพงหญ้าข้างรางรถไฟ สภาพด้านซ้ายพังยับเยิน บนพื้นใกล้ๆ รถพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังคือนางอ้วน โพธิ์ชัยย้อย อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 2 ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี สภาพศพร่างแหลกเหลว ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสคือนายธราเทพ บุญจันทร์ อายุ 44 ปี คนขับรถกระบะ นางจำนงค์ โพธิ์ชัยย้อย อายุ 40 ปี น.ส.พรรณี ยอดแพง อายุ 23 ปี ด.ช.อิทธิศักดิ์ แช่มรัมย์ อายุ 1 ปี 7 เดือน ห่างไป 50 เมตร พบขบวนรถไฟดีเซลราง อุดรธานี-กรุงเทพ ขบวน 78 จำนวน 4 โบกี้ จอดอยู่ สภาพบริเวณด้านหน้าโบกี้ 1 กันชนหน้าขวาหลุดสายน้ำมันไฮดรอลิคขาด เสียหายไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องให้โบกี้ที่ 4 ดันไปจอดที่สถานีหนองตะไก้ จากนั้นจึงได้รีบนำคนเจ็บส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี
จากการสอบสวน นายช่วย โพธิ์ชัยย้อย อายุ 65 ปี สามีผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายธราเทพ หลานเขย ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ จ.ชลบุรี ได้พาครอบครัวเดินทางพากลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปีใหม่ และพึ่งจะมาถึงบ้านช่วงหัวค่ำ แล้วได้ชักชวนตนและครอบครัวขึ้นรถไปดูที่นาที่อยู่อีกฝั่งของทางรถไฟ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางลัดที่ชาวบ้านทำขึ้นมาเองเพื่อใช้ไปไร่นา แต่ปรากฎว่ารถที่ขับมา เป็นรถแต่งที่โหลดต่ำ จึงข้ามไปได้เพียงล้อหน้า แชสซีด้านขวาไปติดกับรางรถไฟ ทำให้ล้อหลังลอยขึ้น ไม่สามารถผ่านรางรถไฟไปได้ ตนจึงได้ลงไปช่วยดันรถ เป็นจังหวะเดียวกับที่ขบวนรถไฟได้ออกมาจากสถานีหนองขอนกว้างมาถึงพอดี ด้วยความตกใจเกรงรถไฟจะชนรถกระบะ ซึ่งมีทั้งภรรยาและหลานอยู่ จึงวิ่งไปโบกส่งสัญญาณให้ทางรถไฟทราบว่ามีรถติดอยู่บนราง แต่รถไฟก็ไม่หยุดและได้ชนเข้ากับรถปิกอัพอย่างจังแล้ว ลากรถปิกอัพไป 20 เมตร จนรถตกลงไปอยู่ในพงหญ้าข้างรางรถไฟ หลังหายจากตกตะลึง ตนได้วิ่งเข้าไปดูก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนขับและหลานบาดเจ็บสาหัส
เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟหนองตะไก้ อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จุดลัดผ่านดังกล่าวชาวบ้านทำขึ้นมาเอง และไม่ทราบว่าทำขึ้นมาตอนไหน เพราะทางรถไฟบริเวณนี้พึ่งเปลี่ยนไม้หมอน เป็นหมอนคอนกรีตอัดแรงเมื่อปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โบกี้ที่ 1 เสียหายไม่สามารถขับเคลื่อนได้ และทำให้ขบวนรถไฟเสียเวลา จึงต้องนำขบวนรถไฟไปจอดที่สถานหนองตะไก้ เพื่อตรวจสอบ ผู้โดยสารมีไม่มากเพราะเป็นขาล่องกรุงเทพฯ หากไม่สามารถซ่อมแซมรถไฟได้ จะจัดรถให้ใหม่
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE9UZ3lOekU1TXc9PQ==&utm_source=twitterfeed&utm_medium=facebook