ช่วงค่ำผมเล่นกีฬาเสร็จแวะมาทานข้าวกับเพื่อนที่ห้างแถวบางกะปิ เพื่อนอยากทานฟู้ดคอร์ทเราก็ไปแลกบัตรตามปรกติ
ผมแลกมาหนึ่งร้อย เพื่อนทานแต่ผมไม่อยากทานเพราะว่าราคามันสูงเมื่อเทียบกับปริมาณและสารอาหารที่ได้รับ
ทานสองจานผมก็ไม่อิ่มผมเลยไปซื้อพวกในสเต้กและอย่างอื่นที่มีโปรตีนเยอะ ๆ ในซุปเปอร์กลับไปทานบ้าน
ผมก็มานั่งคุยกับเพื่อนไปนานจนกระทั้ง 2 ทุ่มกว่าก็แยกย้ายกับเพื่อน เพื่อนกลับเลยแต่ผมขึ้นไปซื้อทีวีในงานชั้น 4

กว่าจะซื้อและจ่ายเงินเสร็จก็ 21.40 (ทีวีรอส่ง) นึกสักพักว่าเงินผมหายไปไหนร้อยหนึ่งดูเวลาก็ 21.45 เลยรีบวิ่งลงมา
ที่เค้าเตอร์ ลงมาถึง 21.47 (ดูนาฬิกาจากมือถือคับ) ผมก็ยื่นบัตรให้พนักงาน พนักงานก็บอกว่าปิดแล้วค่ะ
ผมก็ยื่นบัตรคืนให้พนักงานเพื่อดูปฏิกิริยา พนักงานก็เฉย ๆ ยิ้มเจื่อน ๆ รับบัตรคืน เคลียร์เงินเสร็จแล้ว
เขากำลังจะหอบของออกไปก็ไม่ได้พูดอะไร ผมก็เดินออกมาเลยไม่อยากจะถามหรือข้อร้องอะไร
เพราะพูดไปกับพนักงานก็ไม่มีประโยชน์อะไร ทั้ง ๆ ที่เจ็บใจตัวเองที่พลาดและเจ็บใจนโยบายห้างแบบนี้มาก ๆ

เลยอยากรู้ว่าลูกค้าได้อะไรจากการจำกัดสิทธิ์ให้แลกคืนภายในเวลา 21.45 แต่ห้างปิด 22.00 บ้าง
ห้างเสียประโยชน์อะไรบ้าง ถ้าบัตรเงินสดของลูกค้ามีอายุจนถึงห้างปิดทำการหรือมากกว่า 1 วัน
( บางห้างได้ 1 เดือน เวลามีโปรเคยแลกเก็บไว้ใช้ครับ )
จากการดูปฏิกิริยาพนักงาน ลูกค้าแลกคืนไม่ทันเป็นเรื่องปรกติที่พนักงานเจอ

ห้างยอมรับการที่ลูกค้าจะเสียความรู้สึกจากเหตุการณ์แบบนี้ได้
เดาว่าสาเหตุอาจมาจากมีรายได้จากส่วนนี้ทุกสาขามากพอสมควร
สำหรับความคิดผม ถ้าผมยังไม่ได้จ่ายเงินค่าทีวีก็จะไม่ลังเลไปซื้อของห้างอื่นทันที
และหลังจากนี้ถ้าไม่จำเป็นก็จะไปซื้อของจากห้างอื่น
เพื่อให้ห้างกำไรหายไปจากนโยบายที่ผมคิดว่าไม่แฟร์กับลูกค้า (ทำเท่าที่พอทำเองได้ครับ)
ถ้าซื้อสินค้า แคชเชียร์ทั้งห้างสามารถชำระเงินได้เกิน 22.00 เข้าคิวจ่ายเงินได้จนกว่าลูกค้าทุกคนจะจ่ายเสร็จ
แสดงว่าไม่จำเป็นต้องเคลียร์เงินให้เสร็จก่อนเวลาปิดเลย

ขอบคุณที่อ่านนะครับ เคยลืมกันมั้ยครับ ระวังกันด้วยนะครับ เสียดายเงิน
แลกแค่พอทาน ซื้อเสร็จแลกคืนก่อนค่อยทานก็ดีครับ
ถ้าสังเกตุจะเห็นว่าเป็นภาระของลูกค้ามากกว่าความสะดวกที่ซ้อนเร้นที่ห้างจัดหามาบริการครับ
ที่มหาลัยผมใช้คูปอง ไม่มีวันหมดอายุเลยครับ