หนึ่งในความฝันที่เป็นจริงในปีนี้..........การได้คบกับผู้หญิงในฝันที่หลงรักมาเกือบ10ปี

สวัสดีครับนี่คือกระทู้แรกของผมถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ต้องขอโทษไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ

ผมได้อ่านกระทู้ต่างๆในพันทิปมานานแล้ว เลยอยากลองตั้งกระทู้บอกเล่าเรื่องราวในนี้บ้าง พอดีกับเป็นช่วงสิ้นปีเลยอยากเล่าเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นในปีนี้ของผมครับ ปีนี้ถ้ามองในแง่ดีผมได้ทำตามฝันสำเร็จหลายเรื่องเลยครับ ทั้งเรื่องความรัก เรื่องบ้าน และเรื่องงาน แต่ขอเล่าในเรื่องความรักก่อนนะครับ

  เริ่มเลยนะครับ เมื่อประมาณ9ปีที่แล้ว ผมได้เจอผู้หญิงคนนี้(ผมขอเรียกเธอว่า"งอแง"นะครับ เพราะตอนนี้เราจะมีคำเรียกกันคือเธอจะเรียกผมว่า"มอมแมม" ส่วนผมจะเรียกเธอว่า"งอแง" ) งอแงเป็นเพื่อนของรุ่นน้องที่ทำงานของผม ผมเจอเธอครั้งแรกที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งวันนั้นผมไปกับเพื่อนแล้วบังเอิญเจอรุ่นน้องคนนี้มากันกลุ่มใหญ่เค้าเลยชวนผมรวมโต๊ะ แน่นอนในกลุ่มนั้นมีงอแงอยู่ด้วย ผมสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เธอนั่งถัดจากผมไปหนึ่งที่แต่งตัวสบายๆใส่เสื้อกล้ามสีขาวกระโปรงยาวประมาณเข่าสีออกเทาๆ ผมยาวหยักศก ในร้านเราแทบไม่ได้คุยกันเลยครับ
  จนถึงเวลากลับบ้านผมเลยอาสาไปส่งทุกๆคน แต่ด้วยความที่ผมขับรถกระบะเลยต้องมีคนเสียสละนั่งในกระบะด้วย งอแงคือคนที่กระโดดขึ้นกระบะคนแรกแบบไม่ห่วงสวยเลย ผมเห็นแบบนี้ยิ่งประทับใจเลยครับ จากนั้นผมเลยวางแผนส่งคนอื่นๆก่อนแล้วค่อยส่งเธอเป็นคนสุดท้ายแต่ผิดแผนไปหน่อยเพราะมีเพื่อนเธอไปค้างที่บ้านด้วย2-3คน ผมเลยไม่มีโอกาสขอเบอร์เลย ร้องไห้
  หลายวันถัดมาผมมีโอกาสได้เจอรุ่นน้อง ผมเลยขอเบอร์งอแงจากเค้า รุ่นน้องผมไม่ยอมให้บอกอยากได้ต้องขอเองพร้อมบอกว่าเค้านัดรวมตัวกันวันไหนให้ผมตามมา ผมเลยมีโอกาสได้เจองอแงอีกครั้ง คราวนี้กลัวพลาดอีกเจอกันได้สักพักเลยรีบขอเบอร์ไว้ก่อนไม่กลัวอายแล้ว

  หลังจากวันนั้นปฏิบัติการจีบอย่างจริงจังก็เริ่มขึ้น

  หลังจากได้เบอร์มาผมก็โทรหางอแงอย่างสม่ำเสมอ มีไปกินข้าวดูหนังฟังเพลงส่งดอกไม้ให้กันบ้างตามมาตรฐานคนจีบกันครับ และมีพิเศษนิดนึงคือทุกครั้งที่ไปเที่ยวกันไม่ว่าจะไปร้านไหนผมจะขอให้ที่ร้านเปิดหรือเล่นเพลงเจ้าหญิงตลอด ผมบอกเธอว่าทุกครั้งที่ฟังเพลงนี้ไม่ว่าจะอยู่ไหนเธอจะได้นึกถึงผม (ตอนนี้เพลงนี้ก็ยังเป็นเพลงประจำของเรา2คนอยู่) ช่วงนั้นผมค่อนข้างเจ้าชู้มีคุยๆคบๆอยู่7-8คน ผมก้อบอกกับงอแงตามตรงว่าผมมีแบบนี้นะแต่ผมเบื่อการมีคนนั้นคนนี้แล้ว ผมอยากจะคบกับเค้าคนเดียว เวลามีใครโทรมาผมจะเปิดลำโพงให้งอแงได้ยินทุกครั้งและบอกคนที่โทรมาว่าผมอยู่กับใครและบอกว่าไม่ต้องโทรหาผมอีก
  จนเราคุยกันได้ประมาณเดือนนึง เธอก็บอกผมว่าจริงๆเธอมีแฟนแล้ว แต่แฟนเธอเรียนอยู่เมืองนอก ถ้าผมอยากคุยต่อก็ต้องรับให้ได้ที่บางครั้งเธอคุยกับแฟนและผมต้องทำเหมือนไม่มีตัวตน ซึ่งผมเลือกที่จะคุยกับเธอต่อ
  เราเจอกันบ่อยขึ้นผมไปรับเธอที่ทำงานเกือบทุกวัน จนมีวันนึงผมหาดอกทานตะวันมาเซอร์ไพรส์เธอ ผมบอกเธอว่าผมไม่รู้หรอกว่าความหมายของดอกไม้แต่ละอย่างมันคืออะไร แต่สำหรับผมดอกทานตะวันมันแทนความซื่อสัตย์ เพราะมันจะมองแค่ดวงอาทิตย์เท่านั้น(น้ำเน่ามาก555) แล้วผมก็ขอคบกับเธอ งอแงตอบผมว่าขอเวลาหน่อย เค้าจะให้คำตอบเมื่อเรารู้จักกันครบ3เดือน
  แล้ววันนั้นก็มาถึง (วันที่ 10/01)  งอแงได้ให้จดหมายผมมาฉบับนึงบอกให้ผมกลับไปอ่านที่บ้าน ในจดหมายเธอเขียนเนื้อเพลง"เข้ากันไม่ได้" ไว้ ( ผมเป็นคนชอบฟังเพลงมากและเคยถามเธอว่าถ้าจะให้เพลงผมซักเพลงจะเป็นเพลงอะไร ) และเขียนบอกว่าเธอยังอยากมีอิสระอยากใช้ชีวิตของตัวเธอเองก่อน เธอไม่พร้อมจะคบกับผมได้
  หลังจากนั้นเรายังได้เจอกันบ้างแต่ก็น้อยลง จนถึงวันนึงที่เป็นจุดแตกหักของเรา เธอบอกผมว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนผมขอไปด้วยเธอบอกว่าก็ตามใจ แต่คืนนั้นทั้งคืนเธอทำเหมือนผมไม่มีตัวตนเลยไม่มองไม่พูดด้วยถามไม่ตอบ ผมโมโหมากเราทะเลาะกันแรง ผมกระชากแขนเธอจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต จากนั้นเราแทบไม่ได้คุยกันอีกเลย เธอบอกว่าเธอรับไม่ได้กับการที่ผมใช้กำลังกับเธอ
  จนถึงวันวาเลนไทน์ ผมขอเจอเธอเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อขอโทษและให้ของขวัญกับเธอ.................................   อมยิ้ม14อมยิ้ม14อมยิ้ม14

  เราไม่ได้เจอกันร่วม 2 ปี จนได้กลับมาเจอกันเพราะเธอมาเป็นลูกค้าประจำร้านที่ผมเป็นหุ้นอยู่ เธอสนิทกับพี่ๆน้องๆในร้านหลายคน แต่ตอนนั้นผมมีแฟนแล้วและกำลังจะแต่งงานกัน ส่วนตัวเธอเองก็มีแฟนใหม่แล้วเหมือนกัน เราจึงแทบไม่ได้คุยกันเลย เพราะแฟนผมขี้หึงมากและผมรู้ความรู้สึกตัวเองเลยไม่อยากมีปัญหา หลังจากร้านผมปิดกิจการไปเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
  ตอนนั้นผมก็มีครอบครัวของผมมีลูกคนนึง ผมเองก็ได้ยินข่าวว่าเธอก็มีแผนจะแต่งงานกับแฟนเธอเหมือนกัน

  จนเมื่อกลางปี 55 ผมมีปํญหาหลายๆอย่างจนผมต้องเลิกกับภรรยาผม ผมก็โพสต์เพ้อเจ้ออะไรของผมในเฟซ งอแงก็ทักแชทมาถามว่าเป็นอะไร ( ผมได้แอดเธอก่อนหน้านี้ไม่นานแต่ไม่เคยได้คุยได้ทักอะไร ) ผมก็ตอบก็คุยไปตามเรื่อง ผมยังรู้สึกดีกับเค้าเหมือนเดิมแต่ไม่กล้าคุยอะไรมากเพราะกลัวเสียใจ ตอนนั้นผมได้รู้ว่าเธอยังไม่ได้แต่งงานและเลิกกับแฟนเธอคนนั้นไปหลายเดือนแล้ว จากนั้นผมกับเธอก็คุยก็ทักกันบ้างแต่ไม่บ่อย
  จนถึงช่วงปลายๆปีเราคุยกันมากขึ้น เลยมีนัดเจอหรือกินข้าวกันบ้าง จนถึงวันวาเลนไทน์ผมลองชวนเธอไปเที่ยวต่างจังหวัดกันเธอตอบตกลงครับ เราไปบางแสนกันผมรอเธอเลิกงานแล้วไปกันคืนนั้นค้างกันคืนนึง ( เราไม่ได้มีอะไรกันนะครับ ยอมรับว่าแอบหวังอยู่แต่เธอไม่เปิดโอกาส 5555 )
  ผมขอกลับมาจีบเธอครับ ผมบอกเธอว่าไม่ว่ายังไงผมก็ลืมเธอไม่ได้ ไม่ว่าผมจะมีใครเข้ามาเธอก็เป็นคนที่ผมคิดถึงและรู้สึกดีที่สุดอยู่ดี เธอเป็นคนที่ผมรู้สึกอยากดูแลและทำสิ่งดีๆให้ เวลาผมทำอะไรให้เธอมีความสุขได้ผมจะรู้สึกดีกับตัวเองมากๆ จากนั้นผมก็จีบเธออย่างจริงจังอีกครั้ง

  และช่วงเวลาที่โหดร้ายสุดๆสำหรับผมก็เริ่มต้นขึ้นครับ
  เรื่องราวจากนี้วุ่นวายมากครับขอเรียบเรียงความจำสักพักนะครับ

  ผมไม่แน่ใจว่าแท็กเหมาะสมรึเปล่านะครับ ถ้าผิดพลาดไงต้องขอโทษด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่