รักแรก.....เมื่อแรกพบ ........ ๒.....สานสายใย

กระทู้สนทนา
http://ppantip.com/topic/33002379   บทนำ และตอนที่ 1

๒.........สานสายใย


    “เธอจะให้ฉันไปส่งที่ไหน ก็บอกมาเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปส่งให้”

    ชายหนุ่มถามหลังจากจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลของเธอ คนที่เขาขับรถเฉี่ยว เมื่อตอนหัวค่ำ   หมอบอกว่าเธอขอเท้าพริค ไม่ถึงกับหัก เลยให้ยามากิน กับพันผ้าก๊อตเอาไว้  เขานั่งลงที่เก้าอี้ข้างรถเข็นผู้ป่วย มองหน้าหญิงสาวที่นั่งอยู่บนรถเข็นเหมือนเธอจะไม่รับรู้และได้ยินสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่นิดเดียว

    “ว่าไงล่ะ ได้ยินที่ฉันถามไหม”

    “เอ่อ .... หา ...ขอโทษทีฉันไม่ทันได้ฟัง เมื่อกี่นายพูดว่าไงนะ”

    “ฉันว่า เธอจะให้ไปส่งที่ไหนก็บอกมา”

    หญิงสาวครุ่นคิด เธอจะไปไหนได้ล่ะ พี่ชายก็ติดต่อไม่ได้ เงินก็ไม่มี ที่พักก็ไม่มี หรือจะลองเสี่ยงไปหาที่ชายดู ป่านนี้อาจจะกลับมาแล้วก็ได้

    “ถ้างั้น... ฉันรบกวนนายไปส่งฉันที่นี่หน่อยละกัน”

    นดล รับกระดาษจากมือหญิงสาว มาอ่าน แล้วก็มองหน้าเธออย่างสงสัย

    “นี่ที่อยู่พี่ชายเธอหรอ”

    “อืม...แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเป็นที่อยู่ของพี่ชายฉัน”

    ชายหนุ่มเริ่มทำหน้าไม่ถูก เขาลืมคิดไปว่าเธอไม่รู้ว่าเขาแอบได้ยินเธอทะเลาะกับพี่ชาย แล้วเขาจะตอบเธอยังไงดีเนี่ย

    “ก็....ก็ ....เมื่อบ่าย บังเอิญฉันได้ยินเธอคุยกับพี่ชายของเธอ... ก็..ที่หน้าห้องน้ำร้านกาแฟที่เธอมาชนฉันน่ะ จำไม่ได้แล้วหรอ ฮะ”

    “หา....นี่นาย ได้ยิน...นายเห็นตอนเราทะเลาะกันด้วยหรอ”

    หญิงสาวทำหน้าเสียเมื่อได้ยินเรื่องที่เขาพูด นี่เขาเห็นเธอร้องไห้ เห็นเธอโวยวายด้วยหรอเนี่ย หมดกัน ตอนนั้นเธอไม่ทันสังเกตุเลยว่ามีใครสนใจบ้าง แต่ตอนนี้เธออายจนแทบอยากหายตัวไปจากตรงนี้ แต่ทำได้แค่หลบสายตาเค้าเท่านั้น

    “คือ...ฉันก็ไม่ได้ตั้งในแอบฟังหรอนะ ก็มัน...ไม่มีที่ให้เดินผ่านไปนี่ ว่าแต่เธออะ... ยังจะไปหาเค้าอีกหรอ เธอคิดว่าเค้าจะอยู่รอเธองั้นหรอ ป่านนี้ไปไหนต่อไหนแล้วมั้ง”

    “ก็ฉันไม่มีที่จะไปนี่ ที่นี่ฉันไม่รู้จักใคร แล้วก็ที่สำคัญ ....ฉันไม่มีเงินด้วย กระเป๋าเงินก็หาย โอ้ยจะเอาไงดีเนี่ย”
    หญิงสาวบ่น เริ่มทำน้ำตาคลอเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็พยายามฝืนเอาไว้

    “ทำไมชีวิตฉันมันต้องเจอแต่เรื่องร้าย ๆ ด้วยนะ ฉันไปทำอะไรไม่ดีหรอ ทำไมต้องลงโทษฉันแบบนี้ด้วยเล่า ฮื้อ ๆๆๆ”

    คราวนี้เธอเริ่มห้ามน้ำตาไม่ไหวละ เมื่อนึกถึงเรื่องราวร้าย ๆ ที่เจอ โดยเฉพาะเรื่องพี่ชาย จะบอกพ่ออย่างไรดี พ่อจะเสียใจขนาดไหนถ้ารู้ความจริง เฮอ... เธอยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องไห้หนักเหมือนจะระบายความทุกข์ออกมาให้หมด โดยไม่แคร์แล้วว่าเค้าจะมองเธอหรือไม่

    “นี่ ผ้าเช็ดหน้า แล้วก็หยุดร้องได้ละ คนมองใหญ่แล้ว เดี๋ยวเค้าก็หาว่าฉันทำร้ายเธอหรอก อะ..เอาไป เช็ดหน้าเช็ดตาซะ”

    ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยัดผ้าเช็ดหน้าใส่มือเธอ หญิงสามรับไว้แล้วรีบเช็ดหน้าตามที่เขาบอก แถมด้วยสั่งน้ำมูกไปสองสามครั้ง

    “เอาแบบนี้ไหม... เธอไปพักที่บ้านฉันก่อนคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยคิดกันว่าจะเอายังไง”

    “บ้านนาย ! บ้านนายเนี่ยนะ ไม่อะ ฉันไม่ไปด้วยหรอก”

    เธอหันไปมองเขาแล้วส่ายหัว พร้อมกับทำหน้าไม่ไว้วางใจในตัวเค้า

    “แล้วเธอจะเอายังไง ไม่ไปก็อยู่ที่นี่คนเดียวก็แล้วกัน ฉันจะกลับบ้านละ เหนื่อย !”

    นดลพูดแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป แต่มีเสียงเล็ก ๆ ทำให้เค้าต้องหยุดเดิน

    “นี่ หยุดก่อน ฉ...ฉัน ...ไปด้วยก็ได้”

    เธอพูดเสียงอ่อย จะทำไงได้ ก็ในเมื่อ เธอไม่มีทางอื่นให้เลือกแล้วนี่ ลองไปพักบ้านเขาแค่คืนเดียวก็ไม่น่าจะเป็นไรนะ เขาก็ดูเป็นคนดีนี่ ขับรถเฉี่ยวเธอแล้วไม่หนี  พามาหาหมอ  จ่ายค่ารักษาให้ และที่บ้านเขาก็น่าจะมีพ่อ แม่ พี่ น้อง ของเขาอยู่บ้านด้วย คงไม่น่ามีอะไรนะ เธอคิดในใจ แต่ก็เพลอจ้องหน้าเขาอยู่นานจนเขาเรียก

    “เอ้า จะไปก็รีบสิ มัวมองอยู่ได้”

    “ก็มาช่วยฉันหน่อยสิ ไม่เห็นหรอว่าขาเจ็บอะ ก็เพราะนายเลยนะเนี่ย”

    ชายหนุ่มลืมไปจริง ๆ ว่าเธอเจ็บขาอยู่ เขาจึงเข้าไปเข็นรถไปทางลานจอดรถด้านหน้าตึก แล้วพยุงเธอเดินไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ถัดจากตรงนี้ไปอีกไม่ไกล ในใจก็นึกสงสารหญิงสาวคนนี้อยู่เหมือนกัน ไหน ๆ เขาก็มีส่วนทำให้เธอเจ็บ ก็เลยต้องรับผิดชอบกันสักหน่อย

    รถแล่นมาจอดหน้าบ้านไม้สีขาว ด้านหน้าบ้านจัดตกแต่งสวนใว้อย่างสวยงาม ยิ่งตอนค่ำเช่นนี้มีแสงไฟสลั่ว ๆ ยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ จนคนที่นั่งอยู่ในรถ มองเพลิน ไม่ทันได้สังเกตุว่าคนขับเดินลงจากรถไปแล้ว

    “ว้าว...สวยจังเลย ถึงแล้วหรอ นี่บ้านนายหรอ ”

เธอชโงกหน้าออกมาดูนอกหน้าต่างรถ นดล หันมามองหญิงสาวที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนเขาแอบคิดไม่ได้ว่า เธอก็น่ารักดีนะ ตอนที่เธอยิ้ม ...  เขารีบไล่ความคิดนี้ออกไปจากหัว แล้วเดินตรงไปหาเธอ

“อะ ลงมาได้แล้ว ถึงแล้ว นี่บ้านของฉันเอง ”

ชายหนุ่มเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ ให้เธอ แล้วเอาตัวเองเป็นราว ให้เธอเกาะลุกขึ้นเพื่อออกจากรถ

“ค่อย ๆ เดินล่ะ บรรไดหน้าบ้านมันชัน”

หญิงสาวชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง เห็นเค้าคอยประคองเวลาเธอเดินแบบนี้ ทำให้รู้สึกว่าเขาดูอ่อนโยน ไม่เหมือนกับภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออกทีแรกเลย ยิ่งเขาตัวสูงกว่าเธอมากเทียบกับเธอ คงเหมือนพ่อกับลูก นึกแล้วก็แอบหัวเราะออกมาแบบหลุด ๆ

“นี่เธอขำอะไร หา !

“เปล่า ๆ ฉันแค่... แค่นึกอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่มีอะไรหรอก”

เธอหยุดหัวเราะ  เค้าพาเธอเขามาในบ้าน น่าจะเป็นห้องรับแขก เพราะเป็นโถงโล่ง ๆ มีของตกแต่งอยู่ไม่มาก แต่เท่าที่ดูแต่ละชิ้นคงแพงมาก ดูจากสภาพบ้านก็พอรู้อยู่ว่าเขาต้องมีฐานะพอสมควร ที่เธอดูออกน่ะหรอ ก็เพราะที่บ้านเธอไม่มีของแบบนี้เลยสักชิ้นน่ะสิ เขาคงคนละระดับกับเราเนอะ เธอคิด

“แล้ว... พ่อ แม่ ของนายละ ท่านอยู่ไหนหรอ”

เธอถาม แล้วหันซ้ายหันขวาเหมือนกับมองหาใครคนอื่นภายในบ้าน แต่ก็ไม่เจอแม้แต่คนเดียว

“ฉันอยู่คนเดียว”

ชายหนุ่มพูดพร้อมกันนั่งลงที่โซฟา ตรงข้ามกับตัวที่เธอนั่ง แล้วก็เปิดทีวีดู

“อยู่คนเดียว ! หมายความว่าไง นายไม่มีใครอยู่ด้วยเลยหรอ”

เธอทวนคำเหมือนไม่อยากเชื่อ เขาอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่แบบนี้หรอ ในสมองของเธอตอนนี้เริ่มกลัวและหวาดระแวงแล้ว เธอคิดถูกหรือผิดกันแน่ที่มากับเขา แล้วเขาจะทำอะไรไม่ดีกับเธอไหม ในบ้านนี้ก็มีแต่เขา กับเธออยู่กันแค่ 2 คน ถ้าเขาเกิดคิดไม่ซื่อขึ้นมาเธอจะทำยังไง โอ้ย ให้ตายสิ !
เหมือนนดล จะรู้ความคิดเธอ เพราะดูจาสีหน้าของเธอทีเริ่มซีดลง ๆ เขาคิดว่าเธอคงเริ่มกลัว

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ก็บอกแล้วไงว่าฉันให้เธออยู่ที่นี่เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ฉันขับรถเฉี่ยวเธอไง แล้ว...เธอหิวหรือยังล่ะ ฉันมีแต่บะหมี่นะ วันนี้แม่บ้านไม่ได้ทำอาหารเอาไว้ให้  กินได้ไหมล่ะ ”

ชายหนุ่มถามแต่ตาก็ยังมอง ทีวี อยู่

“ดะ...ได้สิ ฉัน... กินได้หมดแหล่ะ ว่าแต่แม่บ้านของนายอยู่ไหนหรอ”

หญิงสาวพยายามข่มความกลัว พูดไป อย่างน้อยเค้าก็ยังมีแม่บ้านอยู่ด้วยน่า

“กลับไปแล้ว ทำงานแค่ตอนกลางวันไม่ได้ค้างที่นี่  งั้นเธอรออยู่นี่นะ เดี๋ยวฉันมา”

“อ่าวแล้วนายจะไปไหนน่ะ ...”

เธอถามเมื่อเห็นเขาลุกขึ้นเดินออกไปอีกห้องนึง หรือว่าเขาจะทำอะไร ฮือ ไม่นะ.... ความกลัวเริ่มหนักขึ้นกว่าเดิมแล้วตอนนี้

“ก็ไปต้มบะหมี่ให้เธอกินไง ยัยบื้อ ก็บอกอยู่เมื่อกี่ว่าจะกิน”

นดล หันมาพูดตอบเธอ แต่ก็แอบนึกขำอยู่ในใจว่า เธอจะกลัวเขาไปถึงไหน

“อ๋อ ... อืม แล้วไป ฉันก็คิดว่า.....ว่า...ช่างมันเถอะ ฉันลืมไปแล้วล่ะ”

ชายหนุ่มหันกลับเข้าครัวไป สักพักก็ออกมาพร้อมบะหมี่ชามใหญ่ 2 ชาม ร้อนๆ

“อะ รีบกินซะ นี่ฉันทำให้เธอกินเป็นคนแรกเลยนะเนี่ย”

“หรอ... แล้วจะกินได้ไหมเนี่ย”

หญิงสาวแกล้งล้อเค้า ความกลัวเริ่มหายไปทีละนิด ความหิวเริ่มเข้ามาแทนที่ละ ยิ่งได้กลิ่นหอม ๆ ของบะหมี่ เธอก็ยิ่งหิว รีบคีบบะหมี่เขาปากจนลืมไปว่ามันร้อนมากๆ

“โอ้ย ๆๆ ร้อนอะ”

“นี่เธอ... ไม่ต้องรีบขนาดนั้น เป่าก่อนก็ได้ เธอนี่ต๊องปะเนี่ย”

ชายหนุ่มพูดพร้อมส่ายหัว แอบคิดว่า ยัยนี่เฟอะฟะตลอด

“ก็คนมันหิวนี่ ตั้งแต่เที่ยงยังไม่ได้กินอะไรเลย แล้วฉันก็ไม่ได้ต๊อง อย่างที่นายว่าด้วย !”

เธอพูดพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มแบบหาเรื่อง แต่ก็ก้มลงกินต่อเพราะความหิว
หลังจากกินบะหมี่เสร็จ

“โน่น ห้องของเธอ”

นดลชี้ไปทางด้านซ้ายมือของบรรไดขึ้นชั้น 2 หญิงสาวมองตาม จึงเห็นว่ามีห้องอยู่ห้องหนึ่ง

“ฉันอยู่ชั้น 2 มีอะไรก็ตะโกนเรียกล่ะกัน”

“อืม ... ขอบคุณนะ”

หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อย จนคนที่ถูกขอบคุณได้ยินไม่ชัด

“ฮะ อะไรนะ”

“ฉันบอกว่าขอบคุณนะ ก็...ที่นายช่วยฉันวันนี้แล้วก็ให้ที่พักฉันอีก”

“อือ รู้ก็ดีละ ถือว่าเธอติดหนี้บุญคุณฉันก็แล้วกัน ปะ ฉันพาไปที่ห้อง”

“นายนี่จริง ๆ เลย อุตส่าห์ขอบคุณยังมาให้ฉันติดหนี้บุญคุณนายอีกนะ”

ชายหนุ่มแอบยิ้ม เขาพาเธอไปส่งที่ห้อง แล้วกลับไปยกกระเป๋าของเธอเข้ามาให้ และก็ยังยืนอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปจนเธอสงสัย

“แล้วนาย....ไม่ออกไปซักทีล่ะ”

“อ่าว แล้วเธอไม่ไปอาบน้ำหรอ ฉันจะได้พาเดินไปที่ห้องน้ำ”

นดลพูดพร้อมกับทำไม้ทำมือ เหมือนทำแก้เขินมากกว่า แต่จริง ๆ เขาก็คิดว่าเค้าจะช่วยพยุงเธอไปห้องน้ำแล้วก็จะรอจนเธออาบน้ำเสร็จ ออกมา และเข้านอนเลยทีเดียว เขาค่อยขึ้นไปพัก ไม่ได้คิดมากไปกว่านั้นเลยจริง ๆ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ แต่ก็แค่เป็นห่วงว่าเธอจะลำบาก ก็แค่เป็นห่วงนะ

“อ๋อ... ไม่เป็นไรหรอก ฉันไปเองได้ แค่นี้เอง นายไปพักผ่อนเถอะ”

หญิงสาว ก็เริ่มเขินแล้วเหมือนกัน ที่เขามาคอยดูแลเธออยู่แบบนี้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกดีอยู่หรอก แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ ก็ต้องสงวนท่าทีด้วยสิ ไม่ได้ ๆ ถึงเค้าจะสเปคเธอก็เถอะ

“งั้น ฉันไปล่ะนะ มีอะไรเธอก็เรียกละกัน”

นดลเดินออกจากห้องปิดประตูห้องให้เธอ แล้วขึ้นห้องตัวเองไป เขาถอดเสื้อผ้า เพื่อจะอาบน้ำแล้วก็เจอเข้ากับมือถือเครื่องหนึ่ง

“เอะ นี่มันมือถือที่เก็บได้นี่ ลืมไปสนิทเลย  เอ .... หรือว่าเราจะเอาไปคืนเธอเลยดีไหม?  ไม่ดีกว่า ขอดูอะไรนิดหน่อยก่อนดีกว่า”

ว่าแล้วเขาก็รีบเสียบสายชาร์จแบตเตอร์รี่  ทันทีที่เปิดเครื่องได้ ก็เห็นรูปเธอ หญิงสาวที่ขณะนี้นอนอยู่ในบ้านหลังเดียวกับเขาแล้ว เขารีบเข้าไปที่เฟสบุ๊ค แล้วโชคก็เข้าข้างเค้า เพราะเธอออนเอาไว้อยู่แล้ว เขาเริ่มไล่ดูตั้งแต่แรก จนเจอกับ ชื่อนี้

“ชลลดา ชนะศิลป์”

ชายหนุ่ม ดูไปเรื่อย ๆ แล้วก็เริ่มคิดได้ว่า เขาน่าจะทำความรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้อีกสักหน่อยดีกว่า แต่จะด้วยวิธีไหนดีล่ะ ตอนนี้เขาก็ยังคิดไม่ออกเลยจริง ๆ ....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่