ด้วยในปัจจุบัน มียาเพิ่มขนาดหน้าอกมากมายขายบนโลกออนไลน์ อาทิ ยาสมุนไพรนมแน่น ยาอกอึ๋ม ลูกอมอกอึ๋ม คุกกี้เพิ่มขนาดหน้าอก ฯลฯ จขกท.อยากให้คนที่ก่อนจะซื้อนั้น มาทำความรู้จักกับ "กวาวเครือขาว" ค่ะ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
http://www.doctor.or.th/article/detail/2220<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
สรรพคุณของกวาวเครือขาวนะคะ
จากตำราของหลวงอนุสารสุนทร กล่าวว่า กวาวเครือ
๑. เป็นยาอายุวัฒนะสำหรับผู้สูงอายุใช้ได้ทั้งหญิงและชาย (คนหนุ่มสาวห้ามกิน)
๒. ทำให้กระชุ่มกระชวย
๓. ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นกลับเต่งตึงมีน้ำมีนวล
๔. ช่วยเสริมอก กระตุ้นเต้านมขยายตัว (โดยเฉพาะกวาวเครือขาว)
๕. ช่วยให้เส้นผมที่หงอกกลับดำ และเพิ่มปริมาณเส้นผม
๖. แก้โรคตาฟาง ต้อกระจก
๗. ทำให้ความจำดี
๘. ทำให้มีพลัง การเคลื่อนไหวการเดินเหินจะคล่องแคล่ว
๙. ช่วยบำรุงไต
๑๐. ช่วยให้กินอาหารมีรสชาติอร่อย
ข้อห้าม
กวาวเครือขาวที่ใช้นั้น นอกจากจะมีประโยชน์แล้วก็ย่อมมีโทษได้เช่นกัน ดังนั้นจึงมีข้อห้ามใช้ในตำราแผนโบราณ คือ
๑. ห้ามคนวัยหนุ่มสาวกิน
๒. ห้ามกินของดองเปรี้ยว ดองเค็ม และควรอาบน้ำวัน ละ ๓ ครั้ง
๓. ห้ามไม่ให้ตากอากาศเย็นเกินไป
ผลข้างเคียงของกวาวเครือ
กวาวเครือขาวตำรายาแผนโบราณระบุไว้ว่า คนหนุ่มสาวห้ามรับประทาน (ในที่นี้คงจะหมายถึงผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี)
ห้ามใช้ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ เพราะตัวยาอาจจะไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเพศและระบบประจำเดือนได้ หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
เด็กหญิงวัยก่อนมีประจำเดือน ไม่ควรรับประทาน
สตรีที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน
ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง เนื้องอก หรือเป็นโรคต่อมไทรอยด์โต ไม่ควรรับประทาน
ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก มดลูกและรังไข่ เช่น เป็นซีสต์ พังผืด เนื้องอกเป็นก้อน มะเร็ง ก็ไม่ควรรับประทาน
ผู้ที่ดื่มสุรา และมีประวัติเป็นโรคตับเป็นพาหนะไวรัสตับอักเสบบีที่มีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูง ก็ไม่ควรรับประทาน
กวาวเครือขาวอันตรายไม่ควรรับประทานในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหรือติดต่อกันนานกว่า 2 ปี
ห้ามรับประทานเกินขนาดที่แนะนำ (ไม่เกินวันละ 100 mg.)
ห้ามรับประทานของหมักดองเปรี้ยว ดองเค็ม (ตำราแผนโบราณ)
ควรอาบน้ำวันละ 3 ครั้ง (ตำราแผนโบราณ)
ห้ามไม่ให้ตากอากาศเย็นเกินไป (ตำราแผนโบราณ)
ฮอร์โมนเหล่านี้หากได้รับมากจนเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้
โทษของกวาวเครือขาว อาจจะทำให้เยื่อหุ้มอัณฑะหนาตัวและอาจเป็นมะเร็งอัณฑะในเพศชายได้ หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
อันตรายจากกวาวเครือขาวในเพศหญิงอาจมีผลทำให้เต้านมแข็งเป็นก้อนหรืออาจทำให้เกิดเนื้องอกจนเป็นมะเร็งเต้านมได้ หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
กราวเครือนั้นมีพิษทำให้เมาเบื่อตัวเองการรับประทานมาเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ ด้วยเหตุนี้ควรรับประทานสมุนไพรที่มีส่วนช่วยป้องกันหรือรักษาอาการท้องอืดร่วมด้วย เช่น พริกไทย เป็นต้น
หากรับประทานกราวเครือขาวแล้วอาจจะทำให้ประจำเดือนมามากกว่าปกติ จนบางท่านรู้สึกกังวล แต่การที่ประจำเดือนมามากนี้ก็ถือเป็นผลดีต่อร่างกายในการขับของเสียทำให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น จึงไม่ต้องเป็นกังวล
สามารถใช้ครีมบำรุงทรวงอก (Breast Cream) ร่วมกับกราวเครือขาวได้ในการเพิ่มขนาดทรวงอกได้
กวาวเครือขาว ผลข้างเคียงและอาการอื่นๆที่พบได้ทั่วไป เช่น เจ็บคัดเต้านม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เป็นต้น
แหล่งอ้างอิง : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (
www.thaicrudedrug.com )
คำแนะนำ
ในรูปของแคปซูลที่เป็นกระปุก เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่จะรับประทาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แนะนำ ไม่ควรรับประทานผงกราวเครือขาวเกินวันละ 1-2 mg./ต่อน้ำหนักตัว 1 kg. (หรือรับประทานประมาณวันละ 50-100 mg.) ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนดขนาดในการรับประทานว่าห้ามเกินวันละ 100 mg. สำหรับวิธีการรับประทานแบบแคปซูลส่วนมากจะแบ่งรับประทานเป็นวันละ 2 เวลา เช้า-เย็น ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง (หรือตอนตื่นกับก่อนนอน) และเว้นช่วงที่มีประจำเดือนหรือต้องรอให้ประจำเดือนหมดก่อนแล้วค่อยเริ่มรับประทาน สำหรับผู้ที่รับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ดก็ให้เว้นในช่วง 7 วันที่หยุดกิน แต่ถ้าเป็นแบบ 28 เม็ดก็ให้เว้นการรับประทานในช่วงที่กินเม็ดแป้ง 7 เม็ด (แต่อีกตำราบอกว่าไม่ควรรับประทานกราวเครือร่วมกับยาคุมกำเนิด เพราะอาจจะทำให้เกิดผลที่ขัดแย้งกัน ควรเลือกรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่ง) หรืออีกวิธีใช้ผงกราวเครือขาวผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกขนาดเท่าเมล็ดพริกไทยรับประทานวันละ 1 เมล็ด และ ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆค่ะ ( 1-2ปี)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
การศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่า เมื่อนำกวาวเครือขาวมาใช้ในการคุมกำเนิดสัตว์ทดลอง เช่น นกกระทา หนูทดลอง สุนัข และแมว พบว่า สามารถคุมกำเนิดได้ทั้ง 2 เพศ โดยในสัตว์ทดลองเพศผู้พบว่า กวาวเครือขาวปริมาณสูงทำให้หนูขาวเพศผู้ไม่ผสมพันธุ์สำหรับสัตว์เพศเมียทำให้ปากช่องคลอดขยายใหญ่ มดลูกใหญ่ การตกไข่ถูกยับยั้ง แท้งได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ การศึกษาทางพิษวิทยาในสัตว์ทดลอง
ผลการศึกษาพิษกึ่งเรื้อรังของกวาวเครือ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ด้วยการกรอกผงกวาวในขนาดต่าง ๆ ติดต่อกันในหนูขาว พบว่า การให้ขนาดน้อย ๆ ไม่พบความผิดปกติในสัตว์ทดลอง แต่ถ้าให้ขนาดสูงจะพบความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือด ค่าชีวเคมีของเลือด และความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ องค์ประกอบทางเคมี:
สารที่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน คือ สารกลุ่ม chromene ได้แก่ miroestrol deoxymiroestrol สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ เช่น peurarin kwakhurin coumestrol mirificoumestan daidzin daidzein mirificin genistein genistin
การศึกษาทางเภสัชวิทยา:
ฤทธิ์ต่อระบบสืบพันธุ์: กวาวเครือขาวมีผลยับยั้งการเกี้ยวพาราสี การผสมพันธุ์และการเจริญของอัณฑะในนกพิราบเพศผู้ และยับยั้งการออกไข่โดยยับยั้งการเจริญของฟอลลิเคิลในนกพิราบตัวเมีย ส่วนการทดลองในหนูเพศเมียที่กินกวาวเครือขาวพบว่า มีผลยับยั้งการให้นมของหนูที่กำลังให้นม โดยไปยับยั้งการเจริญของต่อมน้ำนม และการสร้างน้ำนม มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ เมื่อให้หนูกินในช่วงตั้งท้องวันที่ 1-10 ติดต่อกัน หรือให้กินในช่วงที่มีการเคลื่อนย้ายของตัวอ่อน โดยทำให้เกิดการแท้ง และเมื่อให้ในหนูที่ตัดรังไข่ออก กินกวาวเครือพบว่าน้ำหนักของมดลูกและปริมาณของเหลวในมดลูกเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับที่พบในหนูที่ได้รับ ethinyl estradiol และมีรายงานว่ากวาวเครือขาวมีฤทธิ์คุมกำเนิดที่ดีในหนูขาวเมื่อให้ในขนาด 1 กรัม/ตัว/สัปดาห์ ส่วนผลของกวาวเครือขาวต่อหนูเพศผู้พบว่า สัตว์มีพฤติกรรมการสืบพันธุ์ลดลง และมีขนาด และน้ำหนักของอัณฑะ epididymis ต่อมลูกหมาก และ seminal vesicles ลดลง รวมทั้งมีจำนวนตัวอสุจิ และเปอร์เซ็นต์การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิลดลง
เอกสารอ้างอิง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. 2546. ประมวลผลงานวิจัยด้านพิษวิทยา ของสถาบันวิจัยสมุนไพร เล่ม 2. โรงพิมพ์การศาสนา:กรุงเทพมหานคร.
การศึกษาทางคลินิก:
ฤทธิ์ต่อระบบสืบพันธุ์: การศึกษาทางคลินิกในระยะที่ 2 ในอาสาสมัครกลุ่มก่อนและหลังวัยหมดประจำเดือน ที่มีอาการพร่องฮอร์โมนเอสโตรเจน จำนวน 37 ราย ใช้เวลา 6 เดือน พบคะแนนของอาการวัยหมดระดูลดลงจาก 35.6 เป็น 15.1 และ 32.6 เป็น 13.69 ในกลุ่มที่ไดรับ 50 มก.ต่อวัน และ 100 มก.ต่อวัน ตามลำดับ แต่พบอาการข้างเคียง คือ อาการคัดตึงเต้านมประมาณร้อยละ 35 และอาการเลือดออกกระปริดกระปรอยประมาณร้อยละ 16.2
เอกสารอ้างอิง รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล. 2554. องค์ความรู้จากงานวิจัยสมุนไพรไทย 10 ชนิด กระชายดำ กวาวเครือขาว ขมิ้นชัน ขิง บัวบก พริกไทย ไพล ฟ้าทะลาย มะขามป้อม มะระขี้นก. บริษัท 21 เซ็นจูรี จำกัด:กรุงเทพมหานคร.
การศึกษาทางพิษวิทยา:
การศึกษาพิษเฉียบพลันของผงหัวกวาวเครือขาวในรูปผงยาแขวนตะกอนในน้ำ พบว่าไม่ทำให้เกิดอาการพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร ขนาดที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งหนึ่ง (LD50) มีค่ามากกว่า 16 กิโลกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม การทดสอบพิษกึ่งเรื้อรังในหนูขาวพันธุ์วิสตาร์โดยการป้อนผงหัวกวาวเครือขาวในรูปผงยาแขวนตะกอนในน้ำ ขนาด 10, 100 และ 1,000 มก./กก./วัน ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 90 วันพบว่าการให้ในขนาด 10 และ 100 มก./กก./วัน ไม่ทำให้เกิดความผิดปกติต่อค่าโลหิตวิทยา และค่าทางชีวเคมี หรือพยาธิสภาพใดๆ แต่การให้ในขนาด 1,000 มก./กก./วัน ทำให้หนูเกิดภาวะโลหิตจาง จำนวนเม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด ระดับโคเลสเตอรอล น้ำหนักอัณฑะ ของหนูเพศผู้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และมีอัตราการเกิด hyperemia ของอัณฑะ ในหนูเพศเมียที่ได้รับในขนาด 100 และ 1,000 มก./กก./วัน พบว่าระดับโคเลสเตอรอลดลง มดลูกบวมเต่ง มีอัตราการเกิด cast ที่ไตสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ
ควรใช้วิจารณญาณในการซื้อสินค้าออนไลน์นะคะ
กวาวเครือขาว เพิ่มขนาดหน้าอก??
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> http://www.doctor.or.th/article/detail/2220<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
สรรพคุณของกวาวเครือขาวนะคะ
จากตำราของหลวงอนุสารสุนทร กล่าวว่า กวาวเครือ
๑. เป็นยาอายุวัฒนะสำหรับผู้สูงอายุใช้ได้ทั้งหญิงและชาย (คนหนุ่มสาวห้ามกิน)
๒. ทำให้กระชุ่มกระชวย
๓. ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นกลับเต่งตึงมีน้ำมีนวล
๔. ช่วยเสริมอก กระตุ้นเต้านมขยายตัว (โดยเฉพาะกวาวเครือขาว)
๕. ช่วยให้เส้นผมที่หงอกกลับดำ และเพิ่มปริมาณเส้นผม
๖. แก้โรคตาฟาง ต้อกระจก
๗. ทำให้ความจำดี
๘. ทำให้มีพลัง การเคลื่อนไหวการเดินเหินจะคล่องแคล่ว
๙. ช่วยบำรุงไต
๑๐. ช่วยให้กินอาหารมีรสชาติอร่อย
ข้อห้าม
กวาวเครือขาวที่ใช้นั้น นอกจากจะมีประโยชน์แล้วก็ย่อมมีโทษได้เช่นกัน ดังนั้นจึงมีข้อห้ามใช้ในตำราแผนโบราณ คือ
๑. ห้ามคนวัยหนุ่มสาวกิน
๒. ห้ามกินของดองเปรี้ยว ดองเค็ม และควรอาบน้ำวัน ละ ๓ ครั้ง
๓. ห้ามไม่ให้ตากอากาศเย็นเกินไป
ผลข้างเคียงของกวาวเครือ
กวาวเครือขาวตำรายาแผนโบราณระบุไว้ว่า คนหนุ่มสาวห้ามรับประทาน (ในที่นี้คงจะหมายถึงผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี)
ห้ามใช้ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ เพราะตัวยาอาจจะไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเพศและระบบประจำเดือนได้ หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
เด็กหญิงวัยก่อนมีประจำเดือน ไม่ควรรับประทาน
สตรีที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน
ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง เนื้องอก หรือเป็นโรคต่อมไทรอยด์โต ไม่ควรรับประทาน
ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก มดลูกและรังไข่ เช่น เป็นซีสต์ พังผืด เนื้องอกเป็นก้อน มะเร็ง ก็ไม่ควรรับประทาน
ผู้ที่ดื่มสุรา และมีประวัติเป็นโรคตับเป็นพาหนะไวรัสตับอักเสบบีที่มีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูง ก็ไม่ควรรับประทาน
กวาวเครือขาวอันตรายไม่ควรรับประทานในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหรือติดต่อกันนานกว่า 2 ปี
ห้ามรับประทานเกินขนาดที่แนะนำ (ไม่เกินวันละ 100 mg.)
ห้ามรับประทานของหมักดองเปรี้ยว ดองเค็ม (ตำราแผนโบราณ)
ควรอาบน้ำวันละ 3 ครั้ง (ตำราแผนโบราณ)
ห้ามไม่ให้ตากอากาศเย็นเกินไป (ตำราแผนโบราณ)
ฮอร์โมนเหล่านี้หากได้รับมากจนเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้
โทษของกวาวเครือขาว อาจจะทำให้เยื่อหุ้มอัณฑะหนาตัวและอาจเป็นมะเร็งอัณฑะในเพศชายได้ หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
อันตรายจากกวาวเครือขาวในเพศหญิงอาจมีผลทำให้เต้านมแข็งเป็นก้อนหรืออาจทำให้เกิดเนื้องอกจนเป็นมะเร็งเต้านมได้ หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
กราวเครือนั้นมีพิษทำให้เมาเบื่อตัวเองการรับประทานมาเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ ด้วยเหตุนี้ควรรับประทานสมุนไพรที่มีส่วนช่วยป้องกันหรือรักษาอาการท้องอืดร่วมด้วย เช่น พริกไทย เป็นต้น
หากรับประทานกราวเครือขาวแล้วอาจจะทำให้ประจำเดือนมามากกว่าปกติ จนบางท่านรู้สึกกังวล แต่การที่ประจำเดือนมามากนี้ก็ถือเป็นผลดีต่อร่างกายในการขับของเสียทำให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น จึงไม่ต้องเป็นกังวล
สามารถใช้ครีมบำรุงทรวงอก (Breast Cream) ร่วมกับกราวเครือขาวได้ในการเพิ่มขนาดทรวงอกได้
กวาวเครือขาว ผลข้างเคียงและอาการอื่นๆที่พบได้ทั่วไป เช่น เจ็บคัดเต้านม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เป็นต้น
แหล่งอ้างอิง : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ( www.thaicrudedrug.com )
คำแนะนำ
ในรูปของแคปซูลที่เป็นกระปุก เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่จะรับประทาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แนะนำ ไม่ควรรับประทานผงกราวเครือขาวเกินวันละ 1-2 mg./ต่อน้ำหนักตัว 1 kg. (หรือรับประทานประมาณวันละ 50-100 mg.) ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนดขนาดในการรับประทานว่าห้ามเกินวันละ 100 mg. สำหรับวิธีการรับประทานแบบแคปซูลส่วนมากจะแบ่งรับประทานเป็นวันละ 2 เวลา เช้า-เย็น ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง (หรือตอนตื่นกับก่อนนอน) และเว้นช่วงที่มีประจำเดือนหรือต้องรอให้ประจำเดือนหมดก่อนแล้วค่อยเริ่มรับประทาน สำหรับผู้ที่รับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ดก็ให้เว้นในช่วง 7 วันที่หยุดกิน แต่ถ้าเป็นแบบ 28 เม็ดก็ให้เว้นการรับประทานในช่วงที่กินเม็ดแป้ง 7 เม็ด (แต่อีกตำราบอกว่าไม่ควรรับประทานกราวเครือร่วมกับยาคุมกำเนิด เพราะอาจจะทำให้เกิดผลที่ขัดแย้งกัน ควรเลือกรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่ง) หรืออีกวิธีใช้ผงกราวเครือขาวผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกขนาดเท่าเมล็ดพริกไทยรับประทานวันละ 1 เมล็ด และ ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆค่ะ ( 1-2ปี)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ควรใช้วิจารณญาณในการซื้อสินค้าออนไลน์นะคะ