สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิป กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมสำหรับ การทำรีวิว หากมีผิดพลาดประการใดขอ อภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผมจะเล่าเรื่องแบ่งออกเป็นสองส่วนครับ คือส่วนแรกผมจะรีวิวในส่วนของโรงแรม
และในส่วนที่สองไว้จะมาเล่าในส่วนของแนวคิด และขั้นตอนการเตรียมงานครับ
ผมกับคุณภรรยาเป็นคาทอลิกทั้งคู่ครับ
ผมขอเริ่มด้วย วีดีโอ Wedding Party Highlight งานแต่งก่อนละกันครับ
การ์ดเชิญครับ ผมเป็นคนหา References จากGoogleครับ
แล้วให้ช่างภาพงานหมั้นเป็นคนถ่ายให้ คุณภรรยาเป็นคนทำกราฟฟิคครับ
Theme งานแต่งงานของผม คือ "Big City Party Night"
อันนี้เป็นทางเข้าโรงแรมครับ อยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์
กดลิฟขึ้นมาชั้นที่ 10 ประตูเปิดออกมาก็จะเจองานเลยครับ
บอกตรงๆว่า ประทับใจมากๆ เพราะตอนแรก ตั้งใจแค่ปิดห้องอาหารเลี้ยงเฉยๆ
แค่บอกเค้าว่าขอโต๊ะ Reception เพิ่ม 1 ตัว ไม่ได้คิดว่าจะทำออกมาขนาดนี้ ประทับใจจริงๆครับ
สมุดเซ็นอวยพร ก็ทำเป็น Handmade มาให้ มีเล่มเดียวบนโลก แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดสุดๆเลยครับ
ส่วน ที่คั่นหนังสือรูป ใบปาล์มทองคำ กับ กระดาษทิชชู่ที่เป็นรูป แบงค์ดอลล่า เป็นของชำร่วยในงาน
กระเป๋ากล่องเหล็กอันนี้ผมซื้อมาจาก อมรครับ กะเอาฮาคือ ให้เพื่อนที่ช่วยรับซอง หลังเสร็จงาน
โกยซองลงกระเป๋า แล้วเอาไปส่งมอบให้คุณพ่อผมครับ
บรรยกาศเวลาแขกเริ่มมาครับ
ในห้องอาหารนี้ จะมีโซนสำหรับแขก Vip เดินไปทางด้านขวามือครับ
ผมให้เค้าช่วยเอาโต๊ะออก เพราะจะใช้สำหรับถ่ายภาพ และเป็นที่พัก ของทีมงานตากล้องครับ
โดยส่วนตัวผมชอบการตกแต่งของ โรงแรมนี้ และห้องอาหารนี้อยู่แล้วครับ
ผมจึงแค่ขอทางโรงแรม นำกรอบรูปของผมกับคุณภรรยา วางเข้าไปเพิ่ม ให้ดูมีเรื่องราวของคู่เรามากขึ้น
แล้วใช้ด้านหลังเป็น BackDrop ถ่ายภาพไปเลยครับ ประหยัด ลงตัว และออกมาผมว่าดูดีนะ
แขกผู้ใหญ่ที่มา ก็อาจจะงงๆ นิดหน่อย ครับยืนถ่ายก็ได้ครับ
จะนั่งก็ได้ครับ รู้สึกสบายดีครับ เมื่อยๆ ก็นั่งรอครับ
แค่มีลูกโป่งเพิ่มเข้ามาใน Frame ก็ทำให้ภาพดูสดใส่ขึ้นเยอะเลยครับ
จากนั้นผมจะพาไปดูโซนห้องอาหาร ผมแยกโซนออกเป็นสองส่วนครับ
ส่วนแรกคือแขกผู้ใหญ่ ผมให้โควต้าคือ ทางฝ่ายของผม 45 คน ฝ่ายคุณภรรยา 45 คน
ซึ่งผมไปคุยกับทางพนักงานว่า ขอ 1 โต๊ะที่ช่วยเสริฟอาหารให้ เพราะเป็นอากง กับอาม่าอาจจะไม่ค่อยสะดวก
ทางโรงแรมเลยทำเป็น โต๊ะ Vip ให้ 4 โต๊ะ ครับ โดยโต๊ะ Vip จะมีพนักงานคอยดูแลให้พิเศษ
อันนี้เป็นหน้าตาโต๊ะ Vip คือก็ไม่ได้คิดอีกเหมือนกันว่าจะจัดให้ออกมาขนาดนี้ครับ
อันนี้เป็นหน้าตาโต๊ะ แขกปกติซึ่งตอนที่ผมมาดูสถานที่ ผมว่ามันก็ดูดีในตัวมันเองมากๆอยู่แล้ว
แล้วตอนมาดู ไม่มีผ้าปูตักพับสวยๆ แบบนี้ด้วยนะครับ อันนี้ทางโรงแรมจัดเพิ่มให้ครับ
ผมนำกรอบรูปกับขาตั้ง ที่ผมเตรียมมาจาก Out Source พยายามตกแต่งให้งานดูมีความเป็น ผมกับภรรยาเพิ่มมากขึ้น
ผมเลือกขุดภาพเก่าๆ ที่ไปเที่ยวกันมาเอามาขยายใส่กรอบเอง บางรูปก็เพื่อนๆ ถ่ายให้บางรูปก็ Selfie เองครับ
กรอบรูป Ikea ไม่ถึง 200 บาท ตอนนั้นรู้เลยครับว่า กล้องเค้าทำจำนวน Pixel เยอะๆ ออกมาทำไหม 555
เดินตรงต่อมาก็จะมาเจอกับ ไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า เรื่องอาหารนี้ผมกับคุณภรรยาเน้นมากๆเลยครับ
ในงานแต่งของผม อาหารต้องเพียงพอสำหรับแขก และอร่อย ไว้จะมาเล่าให้ฟังเพิ่มในส่วนของการเตรียมงาน
เอาเมนูอาหาร ที่ผมเลือกมาเสริฟในงานมาให้ชมครับ
ไลน์ขนมปังนี้ไม่ได้เลือกไว้นะครับ สงสัยทางโรงแรมจะจัดเพิ่มให้ ดูสวยดีครับ มีเด็กๆมาปิ้งทานเล่นอยู่เหมือนกันครับ
อันนี้เหล่าเด็กๆ
อันนี้เป็น ขาแกะย่างซอสใบสะระแหน่ กับ เนื้อสันใน กับซอสเกรวี่
(เพื่อนๆบอกว่าอร่อยมากๆ แต่ผมยังไม่ได้ลองทานเลยครับ T T)
สรุปเรื่องอาหาร ทางโรงแรม ทำออกมาได้ประทับใจมากๆ
มีเพื่อนมาเล่าว่า วันรุ่งขึ้นมีไปงานแต่งงานอีก2งาน กิน2งาน ยังไม่อิ่มเท่างานของผมงานเดียวเลย 555
ผมเองฟังแล้วก็รู้สึกดี เพราะทางโรงแรมคอยทำอาหารออกมาเติมตลอดเลยครับ ไม่มีหมด
และทางโรงแรมก็ไม่ได้รีบเก็บห้อง แต่อย่างใด ขนาดตอน After Party 4-5 ทุ่ม
เพื่อนๆของทางเจ้าสาว ยังพาเหรดกันมาตักอาหารทานกันต่อกันเลยครับ ทั้งของหวานและของคาว
ตอนประมาณเกือบๆ 5ทุ่ม ผมก็เดินออกมาเจอ Chef กำลังผัดสปาเก็ตตี้
ให้เจ้า 2 คนนี้อยู่พอดีเลยครับ
เดินจากโซนผู้ใหญ่ ผ่านไลน์บุฟเฟ่ต์อาหาร ก็จะมาเจอกับห้อง Theater Bar ครับ
โซนนี้แหละครับที่ผมเตรียมไว้สำหรับเพื่อนๆ
ข้างในก็จะถูกจัดเหมือนกึงผับ ทางโรงแรมมีบาร์เทนเด้อร์มาคอยบริการ เชคเครื่องดื่มสดๆเลย
ส่วนกราฟฟิคข้างหลังที่เป็น Panorama คุณภรรยาก็ออกแบบเองครับ ทำเป็นเมนูเครื่องดื่ม
บรรยกาศเพื่อนๆ ในห้อง Theater Bar
หลักจากนั้นประมาณ 2 ทุ่ม 45 ครับผมก็เรียกเพื่อนๆ ออกมาจากห้อง Theater Bar
เพื่อที่จะเปิด Presentation ตอนคุยกันไว้ขอ Projector 1 ตัวครับ
ตอนแรกก็ทำใจไว้แล้วว่าแขกคงมองเห็นไม่หมด พอวันจริงทางโรงแรมก็มี ทีวีLCD
มาต่อเพิ่มวางให้อีก 2 จุด เพื่อให้เห็นทั่วถึงมากยิ่งขึ้นครับ
Video Presentation ของผมคือ การขอแต่งงานใต้น้ำเป็นDive ที่4 ในชีวิตหลังจากสอบเสร็จในDive ที่3
ทีมงานตากล้อง ก็คือ เพื่อน พี่ อาจารย์ ที่ไปเรียน ไปสอน ไปสอบนี้แหละครับ
กราบขอบพระคุณ Dumnam.com มา ณ ที่นี้ด้วยครับ ซึ่งวีดีโอผมตัดเองครับ ประหยัด
แล้วก็ตามด้วย Video ของงานหมั้น
ลืมบอกไปว่างานผมไม่มีเวที ไม่มีประธานในพิธี และผมเองเป็นพิธีกร พูดกล่าวขอบคุณแขกเองครับ
เราก็นั่งดูไปพร้อมๆกับแขก
ต่อมาก็ขอไปตัดเค้ก คุณภรรยาชอบทานเค้กช็อกโกแลต เลยขอทางโรงแรมทำเป็นพิเศษ
ทำออกมาได้น่ารักมาก ส่วนเทียนนี้ไม่ได้ขอ แต่มีมาให้ครับ
จริงๆตอนแรกอยากเท แชมเปญ ดูเท่ห์ดี แต่พอไปดู Reference มันออกจะดูหกเลอะเทอะ
เลยบอกคุณแฟนไม่เอาละกัน ตัดเค้กอย่างเดียวพอ 555
วันที่จัดงานแต่งเป็นวันเดียวกับวันเกิดคุณภรรยาพอดี เพื่อนๆ เลยมีเค้กมาให้เพิ่มอีกก้อนครับ
หลังจากนั้น ผมก็เชิญแขกที่ไม่รีบกลับบ้าน ไป After Party กันครับ
ส่งมอบภารกิจต่อ 555
ในห้อง Theater Bar มีห้องสูบบุหรี่กั้นแยกด้วยครับ นั้นไงตากล้องผมหนีมาสูบบุหรี่อยู่
สภาพเพื่อนๆ
จริงตอนแรกคุยกับพนักงานว่าจะขึ้นไป ชิวๆจิบไวน์กันบน The Roof ต่อ
แต่เพื่อนๆมันส์กันมาก จนชั้นด่านฟ้า The Roof ปิดซะก่อน
เลยขอขึ้นไปแค่ถ่ายรูป กินบรรยกาศกรุงเทพยามคำ่คืนนิดหน่อย ก่อนแยกย้ายครับ
แขกทั้งหมดเชิญมา 200 คนครับ ราคาค่าจัดเลี้ยงต่อหัวตกอยู่ที่ 1,200 บาท Net ไม่รวมค่าเหล้า
[CR] รีวิว งานแต่งงาน กรซี@โรงแรมโหมดสาทร(Mode Sathorn)
ผมจะเล่าเรื่องแบ่งออกเป็นสองส่วนครับ คือส่วนแรกผมจะรีวิวในส่วนของโรงแรม
และในส่วนที่สองไว้จะมาเล่าในส่วนของแนวคิด และขั้นตอนการเตรียมงานครับ
ผมกับคุณภรรยาเป็นคาทอลิกทั้งคู่ครับ
ผมขอเริ่มด้วย วีดีโอ Wedding Party Highlight งานแต่งก่อนละกันครับ
การ์ดเชิญครับ ผมเป็นคนหา References จากGoogleครับ
แล้วให้ช่างภาพงานหมั้นเป็นคนถ่ายให้ คุณภรรยาเป็นคนทำกราฟฟิคครับ
Theme งานแต่งงานของผม คือ "Big City Party Night"
อันนี้เป็นทางเข้าโรงแรมครับ อยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์
กดลิฟขึ้นมาชั้นที่ 10 ประตูเปิดออกมาก็จะเจองานเลยครับ
บอกตรงๆว่า ประทับใจมากๆ เพราะตอนแรก ตั้งใจแค่ปิดห้องอาหารเลี้ยงเฉยๆ
แค่บอกเค้าว่าขอโต๊ะ Reception เพิ่ม 1 ตัว ไม่ได้คิดว่าจะทำออกมาขนาดนี้ ประทับใจจริงๆครับ
สมุดเซ็นอวยพร ก็ทำเป็น Handmade มาให้ มีเล่มเดียวบนโลก แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดสุดๆเลยครับ
ส่วน ที่คั่นหนังสือรูป ใบปาล์มทองคำ กับ กระดาษทิชชู่ที่เป็นรูป แบงค์ดอลล่า เป็นของชำร่วยในงาน
กระเป๋ากล่องเหล็กอันนี้ผมซื้อมาจาก อมรครับ กะเอาฮาคือ ให้เพื่อนที่ช่วยรับซอง หลังเสร็จงาน
โกยซองลงกระเป๋า แล้วเอาไปส่งมอบให้คุณพ่อผมครับ
บรรยกาศเวลาแขกเริ่มมาครับ
ในห้องอาหารนี้ จะมีโซนสำหรับแขก Vip เดินไปทางด้านขวามือครับ
ผมให้เค้าช่วยเอาโต๊ะออก เพราะจะใช้สำหรับถ่ายภาพ และเป็นที่พัก ของทีมงานตากล้องครับ
โดยส่วนตัวผมชอบการตกแต่งของ โรงแรมนี้ และห้องอาหารนี้อยู่แล้วครับ
ผมจึงแค่ขอทางโรงแรม นำกรอบรูปของผมกับคุณภรรยา วางเข้าไปเพิ่ม ให้ดูมีเรื่องราวของคู่เรามากขึ้น
แล้วใช้ด้านหลังเป็น BackDrop ถ่ายภาพไปเลยครับ ประหยัด ลงตัว และออกมาผมว่าดูดีนะ
แขกผู้ใหญ่ที่มา ก็อาจจะงงๆ นิดหน่อย ครับยืนถ่ายก็ได้ครับ
จะนั่งก็ได้ครับ รู้สึกสบายดีครับ เมื่อยๆ ก็นั่งรอครับ
แค่มีลูกโป่งเพิ่มเข้ามาใน Frame ก็ทำให้ภาพดูสดใส่ขึ้นเยอะเลยครับ
จากนั้นผมจะพาไปดูโซนห้องอาหาร ผมแยกโซนออกเป็นสองส่วนครับ
ส่วนแรกคือแขกผู้ใหญ่ ผมให้โควต้าคือ ทางฝ่ายของผม 45 คน ฝ่ายคุณภรรยา 45 คน
ซึ่งผมไปคุยกับทางพนักงานว่า ขอ 1 โต๊ะที่ช่วยเสริฟอาหารให้ เพราะเป็นอากง กับอาม่าอาจจะไม่ค่อยสะดวก
ทางโรงแรมเลยทำเป็น โต๊ะ Vip ให้ 4 โต๊ะ ครับ โดยโต๊ะ Vip จะมีพนักงานคอยดูแลให้พิเศษ
อันนี้เป็นหน้าตาโต๊ะ Vip คือก็ไม่ได้คิดอีกเหมือนกันว่าจะจัดให้ออกมาขนาดนี้ครับ
อันนี้เป็นหน้าตาโต๊ะ แขกปกติซึ่งตอนที่ผมมาดูสถานที่ ผมว่ามันก็ดูดีในตัวมันเองมากๆอยู่แล้ว
แล้วตอนมาดู ไม่มีผ้าปูตักพับสวยๆ แบบนี้ด้วยนะครับ อันนี้ทางโรงแรมจัดเพิ่มให้ครับ
ผมนำกรอบรูปกับขาตั้ง ที่ผมเตรียมมาจาก Out Source พยายามตกแต่งให้งานดูมีความเป็น ผมกับภรรยาเพิ่มมากขึ้น
ผมเลือกขุดภาพเก่าๆ ที่ไปเที่ยวกันมาเอามาขยายใส่กรอบเอง บางรูปก็เพื่อนๆ ถ่ายให้บางรูปก็ Selfie เองครับ
กรอบรูป Ikea ไม่ถึง 200 บาท ตอนนั้นรู้เลยครับว่า กล้องเค้าทำจำนวน Pixel เยอะๆ ออกมาทำไหม 555
เดินตรงต่อมาก็จะมาเจอกับ ไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า เรื่องอาหารนี้ผมกับคุณภรรยาเน้นมากๆเลยครับ
ในงานแต่งของผม อาหารต้องเพียงพอสำหรับแขก และอร่อย ไว้จะมาเล่าให้ฟังเพิ่มในส่วนของการเตรียมงาน
เอาเมนูอาหาร ที่ผมเลือกมาเสริฟในงานมาให้ชมครับ
ไลน์ขนมปังนี้ไม่ได้เลือกไว้นะครับ สงสัยทางโรงแรมจะจัดเพิ่มให้ ดูสวยดีครับ มีเด็กๆมาปิ้งทานเล่นอยู่เหมือนกันครับ
อันนี้เหล่าเด็กๆ
อันนี้เป็น ขาแกะย่างซอสใบสะระแหน่ กับ เนื้อสันใน กับซอสเกรวี่
(เพื่อนๆบอกว่าอร่อยมากๆ แต่ผมยังไม่ได้ลองทานเลยครับ T T)
สรุปเรื่องอาหาร ทางโรงแรม ทำออกมาได้ประทับใจมากๆ
มีเพื่อนมาเล่าว่า วันรุ่งขึ้นมีไปงานแต่งงานอีก2งาน กิน2งาน ยังไม่อิ่มเท่างานของผมงานเดียวเลย 555
ผมเองฟังแล้วก็รู้สึกดี เพราะทางโรงแรมคอยทำอาหารออกมาเติมตลอดเลยครับ ไม่มีหมด
และทางโรงแรมก็ไม่ได้รีบเก็บห้อง แต่อย่างใด ขนาดตอน After Party 4-5 ทุ่ม
เพื่อนๆของทางเจ้าสาว ยังพาเหรดกันมาตักอาหารทานกันต่อกันเลยครับ ทั้งของหวานและของคาว
ตอนประมาณเกือบๆ 5ทุ่ม ผมก็เดินออกมาเจอ Chef กำลังผัดสปาเก็ตตี้
ให้เจ้า 2 คนนี้อยู่พอดีเลยครับ
เดินจากโซนผู้ใหญ่ ผ่านไลน์บุฟเฟ่ต์อาหาร ก็จะมาเจอกับห้อง Theater Bar ครับ
โซนนี้แหละครับที่ผมเตรียมไว้สำหรับเพื่อนๆ
ข้างในก็จะถูกจัดเหมือนกึงผับ ทางโรงแรมมีบาร์เทนเด้อร์มาคอยบริการ เชคเครื่องดื่มสดๆเลย
ส่วนกราฟฟิคข้างหลังที่เป็น Panorama คุณภรรยาก็ออกแบบเองครับ ทำเป็นเมนูเครื่องดื่ม
บรรยกาศเพื่อนๆ ในห้อง Theater Bar
หลักจากนั้นประมาณ 2 ทุ่ม 45 ครับผมก็เรียกเพื่อนๆ ออกมาจากห้อง Theater Bar
เพื่อที่จะเปิด Presentation ตอนคุยกันไว้ขอ Projector 1 ตัวครับ
ตอนแรกก็ทำใจไว้แล้วว่าแขกคงมองเห็นไม่หมด พอวันจริงทางโรงแรมก็มี ทีวีLCD
มาต่อเพิ่มวางให้อีก 2 จุด เพื่อให้เห็นทั่วถึงมากยิ่งขึ้นครับ
Video Presentation ของผมคือ การขอแต่งงานใต้น้ำเป็นDive ที่4 ในชีวิตหลังจากสอบเสร็จในDive ที่3
ทีมงานตากล้อง ก็คือ เพื่อน พี่ อาจารย์ ที่ไปเรียน ไปสอน ไปสอบนี้แหละครับ
กราบขอบพระคุณ Dumnam.com มา ณ ที่นี้ด้วยครับ ซึ่งวีดีโอผมตัดเองครับ ประหยัด
แล้วก็ตามด้วย Video ของงานหมั้น
ลืมบอกไปว่างานผมไม่มีเวที ไม่มีประธานในพิธี และผมเองเป็นพิธีกร พูดกล่าวขอบคุณแขกเองครับ
เราก็นั่งดูไปพร้อมๆกับแขก
ต่อมาก็ขอไปตัดเค้ก คุณภรรยาชอบทานเค้กช็อกโกแลต เลยขอทางโรงแรมทำเป็นพิเศษ
ทำออกมาได้น่ารักมาก ส่วนเทียนนี้ไม่ได้ขอ แต่มีมาให้ครับ
จริงๆตอนแรกอยากเท แชมเปญ ดูเท่ห์ดี แต่พอไปดู Reference มันออกจะดูหกเลอะเทอะ
เลยบอกคุณแฟนไม่เอาละกัน ตัดเค้กอย่างเดียวพอ 555
วันที่จัดงานแต่งเป็นวันเดียวกับวันเกิดคุณภรรยาพอดี เพื่อนๆ เลยมีเค้กมาให้เพิ่มอีกก้อนครับ
หลังจากนั้น ผมก็เชิญแขกที่ไม่รีบกลับบ้าน ไป After Party กันครับ
ส่งมอบภารกิจต่อ 555
ในห้อง Theater Bar มีห้องสูบบุหรี่กั้นแยกด้วยครับ นั้นไงตากล้องผมหนีมาสูบบุหรี่อยู่
สภาพเพื่อนๆ
จริงตอนแรกคุยกับพนักงานว่าจะขึ้นไป ชิวๆจิบไวน์กันบน The Roof ต่อ
แต่เพื่อนๆมันส์กันมาก จนชั้นด่านฟ้า The Roof ปิดซะก่อน
เลยขอขึ้นไปแค่ถ่ายรูป กินบรรยกาศกรุงเทพยามคำ่คืนนิดหน่อย ก่อนแยกย้ายครับ
แขกทั้งหมดเชิญมา 200 คนครับ ราคาค่าจัดเลี้ยงต่อหัวตกอยู่ที่ 1,200 บาท Net ไม่รวมค่าเหล้า
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น