สวัสดีครับ ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรกับงานแต่งงานนี้ ไม่ใช่แขก ไม่ได้รู้จักเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่เป็นแขกที่ไปเข้าพักที่โรงแรม คาเปลล่า ในคืนวันที่ 9 กรกฏา
สิ่งที่ผมอยากจะถามคือวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่ผมเช็คเอ้าว์ออกจากโรงแรม ผมกำลังลงลิฟท์มากับภรรยาเพื่อจะทำการเช็คเอ้าท์ ในลิฟท์มีแค่ผมกับภรรยาสองคน ลิฟท์มาจอดที่ชั้น 7 ซึ่งน่าจะเป็นชั้นที่โรงแรมให้ห้องพักเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่แต่งงานในคืนวันเสาร์ พอลิฟท์เปิดขึ้นมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในลิฟท์ ถือถุงเสื้อเข้ามาก และลิฟท์ก็ปิดลง ก่อนจะถึงชั้นล๊อบบี้ ลิฟท์ก็จอดอีกที่ชั้น 4 พอลิฟท์เปิดขึ้นมาก็มีกลุ่มคน 3-4 คนกำลังจะเดินเข้ามา ผู้หญิงในลิฟท์ที่เข้ามาจากชั้น 7 ก็บอกว่า สวัสดีค่ะคุณพ่อ แล้วคนจากชั้น 4 ก็ทำท่าทักทายกันกับผู้ผญิงในลิฟท์ตามภาษาคนรู้จักกัน ทำให้ผมพอจะนึกได้ว่า กลุ่มที่จะเข้ามาน่าจะเป็นครอบครัวของเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว เพราะตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าผมก็เจอกลุ่มคนเหล่านี้ในห้องอาหารเช้า และมีการพูดกันเรื่องงานแต่งงานในคืนที่ผ่านมา
ขณะที่ผมเอื้อมมือไปกดเปิดประตูลิฟท์เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ปิดมาชนคนที่กำลังเดินขึ้นลิฟท์ตามปกติ ผู้หญิงในลิฟท์ก็พูดพยายามห้ามคนจากชั้น 4 ไม่ให้เข้ามา คนฝั่งนั้นก็งงงง ผมก็งงงงนิดนึง จนผู้หญิงในลิฟท์พูดขึ้นมาว่า "พ. (ผมจำชื่อได้แค่ตัว พ.) ติดโควิท" แล้วคุณพ. ก็รีบกดลิฟท์ปิด ทั้งๆที่ผมกับภรรยายังอยู่ในลิฟท์
ผมไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่อยากให้คุณพ. พูดตอบกลับมา จนลิฟท์มาจอดที่ชั้นล๊อบบี้ แล้ว คุณพ.ก็เดินออกไป ปล่อยให้ผมกับภรรยามีคำถามในใจว่า ทำไม พ. ถึงขึ้นลิฟท์มาทั้งๆที่เห็น ผมกับภรรยาในลิฟท์ แล้วทำไมคุณพ. เป็นห่วงญาติพี่น้องเจ้าบ่าวเจ้าสาว ไม่อยากให้มาร่วมลิฟท์กับเธอ แต่ตอนเห็นผมกับภรรยาในลิฟท์ ก็เดินเข้ามาในลิฟท์เฉย ไม่รอลิฟท์ใหม่ที่ไม่มีคนร่วม แล้วยังกดลิฟท์ปิด ทั้งๆที่ผมกับภรรยายังอยู่ในลิฟท์ เพื่อให้ญาติไม่เข้ามาในลิฟท์ เราไม่รู้จักกัน คุณพ.ก็เลยไม่สนว่าใครจะติดเชื้อต่อจากคุณอย่างนั้นเหรอครับ จริงๆตอนนั้นก็ประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งน่าจะเป็นเวลาที่ทางโรงแรมให้เลทเช็คเอ้าท์ พร้อมๆกัน หลายๆคนเลยลงลิฟท์มาเวลาใกล้ๆกัน ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าคุณ พ. ตรวจพบว่าติดเชื้อตั้งแต่กี่โมง แล้วทำไมอยู่ที่โรงแรมจนถึงเวลาเลทเช็คเอ้าท์
ถึงเพื่อนเจ้าสาว งานแต่งงานที่ Capella คืนวันเสาร์ที่ 9 กรกฏาคม 2565
สิ่งที่ผมอยากจะถามคือวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่ผมเช็คเอ้าว์ออกจากโรงแรม ผมกำลังลงลิฟท์มากับภรรยาเพื่อจะทำการเช็คเอ้าท์ ในลิฟท์มีแค่ผมกับภรรยาสองคน ลิฟท์มาจอดที่ชั้น 7 ซึ่งน่าจะเป็นชั้นที่โรงแรมให้ห้องพักเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่แต่งงานในคืนวันเสาร์ พอลิฟท์เปิดขึ้นมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในลิฟท์ ถือถุงเสื้อเข้ามาก และลิฟท์ก็ปิดลง ก่อนจะถึงชั้นล๊อบบี้ ลิฟท์ก็จอดอีกที่ชั้น 4 พอลิฟท์เปิดขึ้นมาก็มีกลุ่มคน 3-4 คนกำลังจะเดินเข้ามา ผู้หญิงในลิฟท์ที่เข้ามาจากชั้น 7 ก็บอกว่า สวัสดีค่ะคุณพ่อ แล้วคนจากชั้น 4 ก็ทำท่าทักทายกันกับผู้ผญิงในลิฟท์ตามภาษาคนรู้จักกัน ทำให้ผมพอจะนึกได้ว่า กลุ่มที่จะเข้ามาน่าจะเป็นครอบครัวของเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว เพราะตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าผมก็เจอกลุ่มคนเหล่านี้ในห้องอาหารเช้า และมีการพูดกันเรื่องงานแต่งงานในคืนที่ผ่านมา
ขณะที่ผมเอื้อมมือไปกดเปิดประตูลิฟท์เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ปิดมาชนคนที่กำลังเดินขึ้นลิฟท์ตามปกติ ผู้หญิงในลิฟท์ก็พูดพยายามห้ามคนจากชั้น 4 ไม่ให้เข้ามา คนฝั่งนั้นก็งงงง ผมก็งงงงนิดนึง จนผู้หญิงในลิฟท์พูดขึ้นมาว่า "พ. (ผมจำชื่อได้แค่ตัว พ.) ติดโควิท" แล้วคุณพ. ก็รีบกดลิฟท์ปิด ทั้งๆที่ผมกับภรรยายังอยู่ในลิฟท์
ผมไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่อยากให้คุณพ. พูดตอบกลับมา จนลิฟท์มาจอดที่ชั้นล๊อบบี้ แล้ว คุณพ.ก็เดินออกไป ปล่อยให้ผมกับภรรยามีคำถามในใจว่า ทำไม พ. ถึงขึ้นลิฟท์มาทั้งๆที่เห็น ผมกับภรรยาในลิฟท์ แล้วทำไมคุณพ. เป็นห่วงญาติพี่น้องเจ้าบ่าวเจ้าสาว ไม่อยากให้มาร่วมลิฟท์กับเธอ แต่ตอนเห็นผมกับภรรยาในลิฟท์ ก็เดินเข้ามาในลิฟท์เฉย ไม่รอลิฟท์ใหม่ที่ไม่มีคนร่วม แล้วยังกดลิฟท์ปิด ทั้งๆที่ผมกับภรรยายังอยู่ในลิฟท์ เพื่อให้ญาติไม่เข้ามาในลิฟท์ เราไม่รู้จักกัน คุณพ.ก็เลยไม่สนว่าใครจะติดเชื้อต่อจากคุณอย่างนั้นเหรอครับ จริงๆตอนนั้นก็ประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งน่าจะเป็นเวลาที่ทางโรงแรมให้เลทเช็คเอ้าท์ พร้อมๆกัน หลายๆคนเลยลงลิฟท์มาเวลาใกล้ๆกัน ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าคุณ พ. ตรวจพบว่าติดเชื้อตั้งแต่กี่โมง แล้วทำไมอยู่ที่โรงแรมจนถึงเวลาเลทเช็คเอ้าท์