เฟรม Hongfu FM069SL ตัวนี้เป็นเฟรม Open mold ของบริษัท Hongfu จากประเทศจีน ซึ่งผมสั่งมาโดยตรงจากบริษัท ไม่ได้ซื้อผ่านผู้ขายที่นำเข้ามา เมื่อพูดถึงเฟรม Open mold ในไทยอาจจะไม่เป็นที่นิยมกันมากนัก แต่ถ้าไปดูเว็บไซท์จักรยานต่างประเทศจะเห็นได้เลยว่ามีคนใช้เยอะมากจนต้องเปิดเป็นฟอรั่มเฉพาะกันเลย ซึ่งเฟรมที่นิยมซื้อมาใช้กันก็มีทั้งที่มาจากผู้ขายหลายราย และ Hongfu ก็เป็นหนึ่งในนั้น
พูดถึงตัวเฟรมกันบ้าง ผมต้องการเฟรมที่ขึ้นเขาได้ดี จากที่เคยใช้เฟรมแอโร่อย่าง TMR01 แล้วพบว่ามันดีในทางราบ แต่กับทางที่ขึ้นๆลงๆเนินแล้วออกจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ซึ่งก็ดูไว้หลายๆเฟรมแต่ก็มาจบที่เฟรม Hongfu FM069SL ราคาที่ซื้อรวมค่าส่ง EMS จากจีนอยู่ที่ 26000 บาท จ่ายภาษีช่วยชาติไปอีก 2000 บาท รวมเป็น 28000 บาทถ้วน ส่วนราคาขายในไทยอยู่ที่ 28500 บาท ดูแล้วซื้อในไทยน่าจะดีกว่าเพราะแพงกว่าแค่ 500 เวลามีปัญหาก็คุยกับผู้นำเข้ามาได้ แต่ปัญหาก็คือ เฟรมตัวนี้ผู้นำเข้าไม่นำเข้ามาแล้ว พอเมล์ไปคุยกับ Hongfu โดยตรง ทางนั้นก็บอกมาว่าจะไม่ส่งเฟรมรุ่นนี้มาไทยอีกแล้วจนถึงกลางปีหน้า เฟรมที่ผมได้มาน่าจะเป็นเฟรมรุ่นท้ายๆที่เข้ามา ผมไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงที่ทางนั้นไม่ยอมส่ง แต่เดาว่าที่ Hongfu ไม่ส่งเฟรมนี้(แต่เฟรมอื่นยังส่งได้)อาจเป็นเพราะแบรนด์จากอเมริกาแบรนด์หนึ่งกำลังทำตลาดเฟรมแบบเดียวกันนี้ในไทยอยู่ ทาง Hongfu อาจจะติดสัญญาอะไรบางอย่าง เห็นน้องที่ร้านจักรยานเอาไปเทียบกับแบรนด์อเมริกานั่นแล้วบอกว่าเฟรมรุ่นเดียวกันเลยพี่ แถมพอไปดูใบบอก geometry ก็เป็นอันเดียวกันอีก ผมไม่แน่ใจว่าจะสั่งซื้อจาก aliexpress ได้ไหม ถ้าใครสนใจก็ลองไปกดกันดู เห็นมีขายอยู่เหมือนกันแต่แพงกว่า ยิ่งช่วงนี้บาทอ่อน ดอลล่าร์แข็งอาจจะต้องทำใจ
เฟรมที่ผมสั่งมาเป็นขนาด 47 ซึ่งเล็กที่สุดแล้ว ผมสูง 170 ซ.ม. Inseam 76 ซึ่งจะใช้ขนาด 50 ก็ได้ แต่ด้วยขาที่ไม่ยาวนักเลยเลือกขนาด 47 ดีกว่า เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ เฟรมที่ส่งมามีตะเกียบกับหลักอานให้มาด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม พอได้มาก็ยกไปให้ร้านประกอบให้ เฟรมเป็นแบบซ่อนสาย เลือกใช้ได้ทั้งระบบเกียร์ไฟฟ้าและเมคานิค ผมใช้เกียร์ไฟฟ้า Ultegra di2 10 speed รุ่นเก่า ยกจากคันเดิมมา ที่เลือกใช้ di2 เพราะมันเหมาะกับคนขี้เกียจแบบผมมาก คือถ้าตั้งเกียร์มาแล้วมันก็อยู่อย่างนั้น ไม่ต้องไปคอยปรับสายเกียร์ ไม่ต้องห่วงสนิม เวลาเปลี่ยนเกียร์ก็ง่าย แม่นยำ รวดเร็ว ไม่ต้องโยกทั้งก้านเหมือนพวกเมคานิค ข้อเสียก็อยู่ที่น้ำหนักที่มากสักหน่อย แฮนด์ใช้ Uno carbon ขนาด 40 ซ.ม. ผ้าพันแฮนด์ lizard skin สเต็มใช้ของ Uno ยาว 120 ม.ม. ก้ามเบรคเป็น Ultegra ขาจาน 105 จานหน้าใช้จานไข่ Dr.egg Chimera เฟืองหลังใช้ Ultegra 12-30 บันไดใช้ Shimano PD-R540 ของเก่า เบาะแมงมุมTioga Spyder ล้อ FSA K-Force ยาง Conti Grandsport race ยางใน Foss น้ำหนักรวมทั้งคันอยู่ที่ 7.35 กิโล ใครอยากได้เบากว่านี้แนะนำให้ใช้พวกเมคานิคดีกว่า
ลองเอาไปปั่นดูบ้าง ด้วยความที่เฟรมมันเบา อัตราเร่งเลยดีมาก ยืนกดแล้วพุ่งไปตามแรง เมื่อเทียบกับ TMR01 คันเก่าที่ทุกอย่างเหมือนกันต่างกันแค่เฟรมแล้ว อัตราเร่ง FM069SL เอาไปกิน แต่คงความเร็วได้ไม่ดีเท่า TMR01 และที่ความเร็วสัก 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปก็ยังนิ่งไม่เท่า TMR01 (ปั่นลงเนินนะครับ ทางราบกดไม่ไหว เหนื่อยเกิน) ซึ่งก็เหมาะกับการปั่นของผมดี เพราะส่วนมากก็ไม่ได้กดไปจนถึงขนาดนั้นอยู่แล้ว เน้นปั่นกินลมชมวิวซะมากกว่า แต่จุดเด่นของ FM069SL อยู่ที่เวลาขึ้นทางชัน จากเนินที่เคยต้องเปลี่ยนลงจานเล็กถึงจะพอขึ้นได้สบายๆ มาคราวนี้สามารถกดจานใหญ่ไปได้ตลอดทาง ในขณะที่ TMR01 เวลาขึ้นเนินมันจะออกหนืดๆไปสักหน่อย จุดเด่นอีกอย่างของ FM069SL ก็คือการซับแรงสะเทือนที่ทำได้ดีมากๆ กับเส้นทางที่ผมปั่นประจำจนจำกรวดได้ทุกก้อน(เวอร์ไป) เทียบกับเฟรมอื่นๆที่เคยปั่นมาแล้ว(Merida Scultura 900,เฟรมก๊อปจีน,BMC TMR01)บอกได้เลยว่า FM069SL สะเทือนน้อยที่สุด กับทางที่ไม่เรียบก็ไปได้นิ่มๆ
ที่เป็นกังวลอีกอย่างสำหรับผมที่เคยใช้ลองเฟรมก๊อปของจีนมาแล้วพบว่าแรกๆมันจะปั่นได้ดีมาก แต่พอใช้ๆไปสักเดือนมันจะเริ่มออกอาการกดแล้วยวบๆ ในขณะที่เฟรมอย่าง TMR01 ถึงใช้ไปหลายพันกิโลเมตร กดแล้วมันก็ยังแข็งเหมือนเดิม ส่วนเฟรม FM069SL ตัวนี้ผมใช้มาผ่านสองพันกิโลแล้วก็ยังไม่พบว่ามันมีอาการยวบแต่ประการใด ยังแข็งดีอยู่เหมือนเดิม ตรงนี้ก็ถือว่าผ่านไปได้อย่างสบายใจ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ทีนี้มาดูล้อ FSA K-Force light บ้าง ล้อที่ผมใช้คู่นี้เป็นยางงัด ขอบ 38 ม.ม.ขอบล้อมีสติ๊กเกอร์ลาย FSA ด้วย แต่ผมลอกออกหมดเพราะมันไม่เข้ากับเฟรม ซึ่งล้อรุ่นนี้มีขอบ 55 ม.ม.ให้เลือกใช้ด้วย สเป็คจากผู้ผลิตบอกว่าน้ำหนักต่อคู่อยู่ที่ 1420 กรัม ผมลองชั่งเองก็ได้มาใกล้เคียงกัน ส่วนรุ่นขอบ 55 ม.ม.เท่าที่ลองชั่งคร่าวๆจะหนักกว่าข้างละประมาณ 100 กรัม ลูกปืนเป็นเซรามิค เสียงโม่ตอนแรกๆยังไม่ดังมาก แต่พอใช้ไปมันจะดังจนน่ารำคาญ ราคาร้านที่ผมซื้อมาอยู่ที่ 33000 บาท ดูตามร้านทั่วไปก็เห็นมี 33000-35000 บาทแล้วแต่ร้าน มีผ้าเบรคสำหรับล้อคาร์บอนแถมมาให้ด้วย แต่เป็นยี่ห้อ Vision ซึ่งก็เป็นตระกูลเดียวกับ FSA ตามคู่มือบอกว่าเติมลมได้สูงสุด 116 PSI เท่านั้น สำหรับผมที่หนัก 60 กิโลกรัมก็ไม่มีปัญหา แต่สำหรับท่านที่น้ำหนักตัวมากอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่
จุดที่น่าสนใจสำหรับล้อนี้ก็คือสเป็คของมันนั้นคล้ายกับ Vision Metron มาก แต่ราคาต่างกันหลักหมื่น
อันนี้ของ
Vision Metron 55 ยางงัด
FEATURES
Full carbon 55mm section tubular rim
New extra light P.R.A. hubs for DP spokes
6 sealed cartridge bearings (2 F + 4 R) mounted on a 17mm hub axle diameter
Aero bladed spokes
Special ABS self locking nipples
Artisan built, entirely by hand
Includes special carbon QR (QR-89), brake pads and wheel bags
Rims: UD carbon finish
Front hub: UD carbon finish
Rear hub: black anodized
Spokes: black
Color graphics options: red, black
Sizes: Aluminum freehub body for Shimano 9-10-11sp
Spokes (F/R): 18 radial front wheel; 21 rear wheel, 14 Campagnolo 10-11, 14 cross x2 drive side and 7 radial non drive side (2:1 ratio)
Minimum tire requirement of 23mm
Weight: 1,595g/pair (w/o QR)
---------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้ของ
FSA K-Force RD886 ยางงัด
SPECIFICATIONS:
Manufacturer: FSA
Model: K-Force
Size: 700c
Type: Clincher
Carbon wheel with 55mm deep section Clincher rim
Rim with high-relief FSA logo
New extra light P. R.A. hubs for DP spokes
Front hub with carbon body and aluminum flange;full rear aluminum body
Spokes (F/R): 18 radial front wheel; 21 rear wheel,14 cross x2 drive side and 7 radial non driveside (2:1 ratio)
6 Ceramic Bearings (2 F+4 R)
Aero light spokes
Artisan built, entirely by hand
Requires the use of special brake pads (included - yellow)
Cassette compatibility: 8, 9, 10, 11s Shimano/SRAM
Includes K-Force skewers, wheel bag, brake pads, and 11s spacer
Rim Width: 21mm
Rim Height: 55mm
Mass: Front - 730 grams, Rear - 870 grams (1600g total)
Hub widths: 100/130mm
แล้ว Vision metron มันดียังไง? ผมไม่เคยลองใช้ Vision เคยใช้แต่ Zipp เลยไม่อาจบอกได้ แต่เท่าที่อ่านรีวิวของต่างประเทศเห็นว่า Vision นี่ระดับเดียว Zipp เลย เพราะงั้น FSA K-Force คู่นี้ก็น่าจะใกล้เคียงกัน หรือเปล่า?
ตอนที่ได้มาจากร้านยังไม่ว่างออกไปปั่นจริงๆเลยจับขึ้นขาตั้งเอามาหมุนเล่นปรากฎว่าหมุนอยู่ 10 วินาทีหยุด ตอนนั้นก็คิดอยู่ว่ามันจะไหวไหมเนี่ย แต่พอเอาออกไปปั่นจริงๆ นี่มันน้องๆ Zipp เลยนี่หว่า(จะบอกว่าพี่ Zipp ก็เกรงใจ) ลื่น เร่งขึ้นได้ง่ายมาก ที่ชอบที่สุดเลยก็คือล้อมันคงความเร็วได้ดีมาก ความเร็วลดลงช้ากว่าทุกล้อที่เคยใช้มา ขึ้นทางชันก็ไม่มีปัญหา จะยืนกดก็ไม่มีอาการยวบให้เห็น สรุปว่าที่เห็นเอามาหมุนล้อโชว์กันเป็นนาทีกว่าจะหยุดนี่ไม่ได้บอกอะไรเลยใช่ไหมเนี่ย ล้อที่มันหมุนแป๊บเดียวหยุดพอเอาไปลงถนนจริงมันปั่นดีกว่าพวกล้อที่หมุนนานๆซะอีก ยิ่งพอพ้นช่วงรันอิน จารบีมันไม่หนืดเหมือนตอนมาใหม่ๆยิ่งลื่นขึ้นกว่าเดิมอีก แต่ก็ยังหมุนเล่นได้ไม่ถึงนาทีอยู่ดี
สรุป
เฟรม Hongfu FM069SL ถ้าชอบเบา ไม่ยึดติดกับยี่ห้อ เส้นทางที่ปั่นมีราบสลับเนิน มีเขาให้ขึ้น ชอบปั่นไกล ถนนดีบ้างไม่ดีบ้าง จัดมาเลยครับ เหมาะมาก เฟรมเร่งความเร็วขึ้นง่าย สะเทือนน้อย แต่ถ้าปั่นแต่ทางราบ ขาแรง ปั่นแช่ 40 ตลอด เฟรมนี้อาจจะไม่เหมาะนัก แนะนำให้มองพวกเฟรมแอโร่น่าจะดีกว่า
ล้อ FSA K-Force แข็งแรง งานดี เร่งขึ้นเร็ว คงความเร็วได้ดี สำหรับล้อราคาสามหมื่นต้นๆคงไม่มีล้อใดคุ้มค่ากว่านี้แล้ว ข้อเสียก็มีอยู่บ้างตรงที่เสียงโม่มันดัง(บางคนอาจจะบอกว่านี่แหล่ะข้อดี) กับตอนใส่ยางว่ายากแล้ว ตอนงัดออกยากกว่าอีก ผมใช้ยาง Conti Grandsport race ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยางหรือเปล่า ยังไม่เคยลองยางอื่น
[CR] รีวิวเฟรม Hongfu FM069SL+ล้อ FSA K-Force
เฟรม Hongfu FM069SL ตัวนี้เป็นเฟรม Open mold ของบริษัท Hongfu จากประเทศจีน ซึ่งผมสั่งมาโดยตรงจากบริษัท ไม่ได้ซื้อผ่านผู้ขายที่นำเข้ามา เมื่อพูดถึงเฟรม Open mold ในไทยอาจจะไม่เป็นที่นิยมกันมากนัก แต่ถ้าไปดูเว็บไซท์จักรยานต่างประเทศจะเห็นได้เลยว่ามีคนใช้เยอะมากจนต้องเปิดเป็นฟอรั่มเฉพาะกันเลย ซึ่งเฟรมที่นิยมซื้อมาใช้กันก็มีทั้งที่มาจากผู้ขายหลายราย และ Hongfu ก็เป็นหนึ่งในนั้น
พูดถึงตัวเฟรมกันบ้าง ผมต้องการเฟรมที่ขึ้นเขาได้ดี จากที่เคยใช้เฟรมแอโร่อย่าง TMR01 แล้วพบว่ามันดีในทางราบ แต่กับทางที่ขึ้นๆลงๆเนินแล้วออกจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ซึ่งก็ดูไว้หลายๆเฟรมแต่ก็มาจบที่เฟรม Hongfu FM069SL ราคาที่ซื้อรวมค่าส่ง EMS จากจีนอยู่ที่ 26000 บาท จ่ายภาษีช่วยชาติไปอีก 2000 บาท รวมเป็น 28000 บาทถ้วน ส่วนราคาขายในไทยอยู่ที่ 28500 บาท ดูแล้วซื้อในไทยน่าจะดีกว่าเพราะแพงกว่าแค่ 500 เวลามีปัญหาก็คุยกับผู้นำเข้ามาได้ แต่ปัญหาก็คือ เฟรมตัวนี้ผู้นำเข้าไม่นำเข้ามาแล้ว พอเมล์ไปคุยกับ Hongfu โดยตรง ทางนั้นก็บอกมาว่าจะไม่ส่งเฟรมรุ่นนี้มาไทยอีกแล้วจนถึงกลางปีหน้า เฟรมที่ผมได้มาน่าจะเป็นเฟรมรุ่นท้ายๆที่เข้ามา ผมไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงที่ทางนั้นไม่ยอมส่ง แต่เดาว่าที่ Hongfu ไม่ส่งเฟรมนี้(แต่เฟรมอื่นยังส่งได้)อาจเป็นเพราะแบรนด์จากอเมริกาแบรนด์หนึ่งกำลังทำตลาดเฟรมแบบเดียวกันนี้ในไทยอยู่ ทาง Hongfu อาจจะติดสัญญาอะไรบางอย่าง เห็นน้องที่ร้านจักรยานเอาไปเทียบกับแบรนด์อเมริกานั่นแล้วบอกว่าเฟรมรุ่นเดียวกันเลยพี่ แถมพอไปดูใบบอก geometry ก็เป็นอันเดียวกันอีก ผมไม่แน่ใจว่าจะสั่งซื้อจาก aliexpress ได้ไหม ถ้าใครสนใจก็ลองไปกดกันดู เห็นมีขายอยู่เหมือนกันแต่แพงกว่า ยิ่งช่วงนี้บาทอ่อน ดอลล่าร์แข็งอาจจะต้องทำใจ
เฟรมที่ผมสั่งมาเป็นขนาด 47 ซึ่งเล็กที่สุดแล้ว ผมสูง 170 ซ.ม. Inseam 76 ซึ่งจะใช้ขนาด 50 ก็ได้ แต่ด้วยขาที่ไม่ยาวนักเลยเลือกขนาด 47 ดีกว่า เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ เฟรมที่ส่งมามีตะเกียบกับหลักอานให้มาด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม พอได้มาก็ยกไปให้ร้านประกอบให้ เฟรมเป็นแบบซ่อนสาย เลือกใช้ได้ทั้งระบบเกียร์ไฟฟ้าและเมคานิค ผมใช้เกียร์ไฟฟ้า Ultegra di2 10 speed รุ่นเก่า ยกจากคันเดิมมา ที่เลือกใช้ di2 เพราะมันเหมาะกับคนขี้เกียจแบบผมมาก คือถ้าตั้งเกียร์มาแล้วมันก็อยู่อย่างนั้น ไม่ต้องไปคอยปรับสายเกียร์ ไม่ต้องห่วงสนิม เวลาเปลี่ยนเกียร์ก็ง่าย แม่นยำ รวดเร็ว ไม่ต้องโยกทั้งก้านเหมือนพวกเมคานิค ข้อเสียก็อยู่ที่น้ำหนักที่มากสักหน่อย แฮนด์ใช้ Uno carbon ขนาด 40 ซ.ม. ผ้าพันแฮนด์ lizard skin สเต็มใช้ของ Uno ยาว 120 ม.ม. ก้ามเบรคเป็น Ultegra ขาจาน 105 จานหน้าใช้จานไข่ Dr.egg Chimera เฟืองหลังใช้ Ultegra 12-30 บันไดใช้ Shimano PD-R540 ของเก่า เบาะแมงมุมTioga Spyder ล้อ FSA K-Force ยาง Conti Grandsport race ยางใน Foss น้ำหนักรวมทั้งคันอยู่ที่ 7.35 กิโล ใครอยากได้เบากว่านี้แนะนำให้ใช้พวกเมคานิคดีกว่า
ลองเอาไปปั่นดูบ้าง ด้วยความที่เฟรมมันเบา อัตราเร่งเลยดีมาก ยืนกดแล้วพุ่งไปตามแรง เมื่อเทียบกับ TMR01 คันเก่าที่ทุกอย่างเหมือนกันต่างกันแค่เฟรมแล้ว อัตราเร่ง FM069SL เอาไปกิน แต่คงความเร็วได้ไม่ดีเท่า TMR01 และที่ความเร็วสัก 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปก็ยังนิ่งไม่เท่า TMR01 (ปั่นลงเนินนะครับ ทางราบกดไม่ไหว เหนื่อยเกิน) ซึ่งก็เหมาะกับการปั่นของผมดี เพราะส่วนมากก็ไม่ได้กดไปจนถึงขนาดนั้นอยู่แล้ว เน้นปั่นกินลมชมวิวซะมากกว่า แต่จุดเด่นของ FM069SL อยู่ที่เวลาขึ้นทางชัน จากเนินที่เคยต้องเปลี่ยนลงจานเล็กถึงจะพอขึ้นได้สบายๆ มาคราวนี้สามารถกดจานใหญ่ไปได้ตลอดทาง ในขณะที่ TMR01 เวลาขึ้นเนินมันจะออกหนืดๆไปสักหน่อย จุดเด่นอีกอย่างของ FM069SL ก็คือการซับแรงสะเทือนที่ทำได้ดีมากๆ กับเส้นทางที่ผมปั่นประจำจนจำกรวดได้ทุกก้อน(เวอร์ไป) เทียบกับเฟรมอื่นๆที่เคยปั่นมาแล้ว(Merida Scultura 900,เฟรมก๊อปจีน,BMC TMR01)บอกได้เลยว่า FM069SL สะเทือนน้อยที่สุด กับทางที่ไม่เรียบก็ไปได้นิ่มๆ
ที่เป็นกังวลอีกอย่างสำหรับผมที่เคยใช้ลองเฟรมก๊อปของจีนมาแล้วพบว่าแรกๆมันจะปั่นได้ดีมาก แต่พอใช้ๆไปสักเดือนมันจะเริ่มออกอาการกดแล้วยวบๆ ในขณะที่เฟรมอย่าง TMR01 ถึงใช้ไปหลายพันกิโลเมตร กดแล้วมันก็ยังแข็งเหมือนเดิม ส่วนเฟรม FM069SL ตัวนี้ผมใช้มาผ่านสองพันกิโลแล้วก็ยังไม่พบว่ามันมีอาการยวบแต่ประการใด ยังแข็งดีอยู่เหมือนเดิม ตรงนี้ก็ถือว่าผ่านไปได้อย่างสบายใจ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ทีนี้มาดูล้อ FSA K-Force light บ้าง ล้อที่ผมใช้คู่นี้เป็นยางงัด ขอบ 38 ม.ม.ขอบล้อมีสติ๊กเกอร์ลาย FSA ด้วย แต่ผมลอกออกหมดเพราะมันไม่เข้ากับเฟรม ซึ่งล้อรุ่นนี้มีขอบ 55 ม.ม.ให้เลือกใช้ด้วย สเป็คจากผู้ผลิตบอกว่าน้ำหนักต่อคู่อยู่ที่ 1420 กรัม ผมลองชั่งเองก็ได้มาใกล้เคียงกัน ส่วนรุ่นขอบ 55 ม.ม.เท่าที่ลองชั่งคร่าวๆจะหนักกว่าข้างละประมาณ 100 กรัม ลูกปืนเป็นเซรามิค เสียงโม่ตอนแรกๆยังไม่ดังมาก แต่พอใช้ไปมันจะดังจนน่ารำคาญ ราคาร้านที่ผมซื้อมาอยู่ที่ 33000 บาท ดูตามร้านทั่วไปก็เห็นมี 33000-35000 บาทแล้วแต่ร้าน มีผ้าเบรคสำหรับล้อคาร์บอนแถมมาให้ด้วย แต่เป็นยี่ห้อ Vision ซึ่งก็เป็นตระกูลเดียวกับ FSA ตามคู่มือบอกว่าเติมลมได้สูงสุด 116 PSI เท่านั้น สำหรับผมที่หนัก 60 กิโลกรัมก็ไม่มีปัญหา แต่สำหรับท่านที่น้ำหนักตัวมากอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่
จุดที่น่าสนใจสำหรับล้อนี้ก็คือสเป็คของมันนั้นคล้ายกับ Vision Metron มาก แต่ราคาต่างกันหลักหมื่น
อันนี้ของ Vision Metron 55 ยางงัด
FEATURES
Full carbon 55mm section tubular rim
New extra light P.R.A. hubs for DP spokes
6 sealed cartridge bearings (2 F + 4 R) mounted on a 17mm hub axle diameter
Aero bladed spokes
Special ABS self locking nipples
Artisan built, entirely by hand
Includes special carbon QR (QR-89), brake pads and wheel bags
Rims: UD carbon finish
Front hub: UD carbon finish
Rear hub: black anodized
Spokes: black
Color graphics options: red, black
Sizes: Aluminum freehub body for Shimano 9-10-11sp
Spokes (F/R): 18 radial front wheel; 21 rear wheel, 14 Campagnolo 10-11, 14 cross x2 drive side and 7 radial non drive side (2:1 ratio)
Minimum tire requirement of 23mm
Weight: 1,595g/pair (w/o QR)
---------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้ของ FSA K-Force RD886 ยางงัด
SPECIFICATIONS:
Manufacturer: FSA
Model: K-Force
Size: 700c
Type: Clincher
Carbon wheel with 55mm deep section Clincher rim
Rim with high-relief FSA logo
New extra light P. R.A. hubs for DP spokes
Front hub with carbon body and aluminum flange;full rear aluminum body
Spokes (F/R): 18 radial front wheel; 21 rear wheel,14 cross x2 drive side and 7 radial non driveside (2:1 ratio)
6 Ceramic Bearings (2 F+4 R)
Aero light spokes
Artisan built, entirely by hand
Requires the use of special brake pads (included - yellow)
Cassette compatibility: 8, 9, 10, 11s Shimano/SRAM
Includes K-Force skewers, wheel bag, brake pads, and 11s spacer
Rim Width: 21mm
Rim Height: 55mm
Mass: Front - 730 grams, Rear - 870 grams (1600g total)
Hub widths: 100/130mm
แล้ว Vision metron มันดียังไง? ผมไม่เคยลองใช้ Vision เคยใช้แต่ Zipp เลยไม่อาจบอกได้ แต่เท่าที่อ่านรีวิวของต่างประเทศเห็นว่า Vision นี่ระดับเดียว Zipp เลย เพราะงั้น FSA K-Force คู่นี้ก็น่าจะใกล้เคียงกัน หรือเปล่า?
ตอนที่ได้มาจากร้านยังไม่ว่างออกไปปั่นจริงๆเลยจับขึ้นขาตั้งเอามาหมุนเล่นปรากฎว่าหมุนอยู่ 10 วินาทีหยุด ตอนนั้นก็คิดอยู่ว่ามันจะไหวไหมเนี่ย แต่พอเอาออกไปปั่นจริงๆ นี่มันน้องๆ Zipp เลยนี่หว่า(จะบอกว่าพี่ Zipp ก็เกรงใจ) ลื่น เร่งขึ้นได้ง่ายมาก ที่ชอบที่สุดเลยก็คือล้อมันคงความเร็วได้ดีมาก ความเร็วลดลงช้ากว่าทุกล้อที่เคยใช้มา ขึ้นทางชันก็ไม่มีปัญหา จะยืนกดก็ไม่มีอาการยวบให้เห็น สรุปว่าที่เห็นเอามาหมุนล้อโชว์กันเป็นนาทีกว่าจะหยุดนี่ไม่ได้บอกอะไรเลยใช่ไหมเนี่ย ล้อที่มันหมุนแป๊บเดียวหยุดพอเอาไปลงถนนจริงมันปั่นดีกว่าพวกล้อที่หมุนนานๆซะอีก ยิ่งพอพ้นช่วงรันอิน จารบีมันไม่หนืดเหมือนตอนมาใหม่ๆยิ่งลื่นขึ้นกว่าเดิมอีก แต่ก็ยังหมุนเล่นได้ไม่ถึงนาทีอยู่ดี
สรุป
เฟรม Hongfu FM069SL ถ้าชอบเบา ไม่ยึดติดกับยี่ห้อ เส้นทางที่ปั่นมีราบสลับเนิน มีเขาให้ขึ้น ชอบปั่นไกล ถนนดีบ้างไม่ดีบ้าง จัดมาเลยครับ เหมาะมาก เฟรมเร่งความเร็วขึ้นง่าย สะเทือนน้อย แต่ถ้าปั่นแต่ทางราบ ขาแรง ปั่นแช่ 40 ตลอด เฟรมนี้อาจจะไม่เหมาะนัก แนะนำให้มองพวกเฟรมแอโร่น่าจะดีกว่า
ล้อ FSA K-Force แข็งแรง งานดี เร่งขึ้นเร็ว คงความเร็วได้ดี สำหรับล้อราคาสามหมื่นต้นๆคงไม่มีล้อใดคุ้มค่ากว่านี้แล้ว ข้อเสียก็มีอยู่บ้างตรงที่เสียงโม่มันดัง(บางคนอาจจะบอกว่านี่แหล่ะข้อดี) กับตอนใส่ยางว่ายากแล้ว ตอนงัดออกยากกว่าอีก ผมใช้ยาง Conti Grandsport race ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยางหรือเปล่า ยังไม่เคยลองยางอื่น