ต้องเล่าย้อนไปเมื่อหลายปี ผมเคยมีปัญหา จากการปรุงเเต่งสัญญาทำให้วิปราสในกาลก่อน โดยมีสัญญาหมายรู้ว่า ผู้หญิงเป็นดั่งนางฟ้า จากการเสพติดเพลงจนเกินไป ผมในตอนนั่นกับตอนนี้ต่างกัน เพราะในครั้งนั้นผมยังไม่เจอตัวปัญหา ผมเที่ยวเเสวงหาอาการตรงนี้ โดยการเขียนอารมณ์ตัวเองในกระดาษ เมื่อครั้งอยู่ม.3 ตอนนั้นผมยังไม่รู้ปฏจ.. ไม่รู้ธรรม ประกอบด้วยมิจฉา และอุปทานในด้านทุกข์ ส่วนเดียว ผมยังจำได้ดี เมื่อผ่านไปอีก2ปี ผมกลับมาอ่าน น่าแปลกใจว่าสมุดนั้นยังอยู่ให้ดู ปรากฏ เป็นสายปฏิจสมุปบาท สายเกิด โดยเริ่มเขียนจาก ผัสสะ(ไปรู้) เวทนา(อารม) ความอยาก และผมก็เขียนอะไรต่างๆต่อตรงนี้ ว่าอยากนั้นอยากนี้ เเต่ไม่รู้ว่า นี้ละปัจจัย จะเกิดอุปทาน และไม่ได้ในส่วนรูป คือสฬายตนะ เเต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นว่าผมน่ามีพรสวรรค์ด้านนี้เป็นเเน่
จนทุกวันนี้ ผมสามารถ รู้ธาตุเเท้ของมตุคามแบบระเอียด ผมสามารถปรับความคิดให้เปลี่ยนไปจากเดิม ผมไม่เห็นอย่างเดิม และ ผมเชื่อว่ามีคนที่มีความคิดอย่างนี้มีอยู่ 80% เพราะ มันมีปัจจัยที่ทำให้เข้าใจอย่างนั้นอยู่ นอกเสียจากคนๆนั่น ไม่มีความคิดแบบนี้ เเต่เเรก มีทัศนคติ ไปทางตรง มีสัญญา ในทางบวก คนนี้ๆ จะเปนที่หมายปอง ซึ่ง เราปรับเปลี่ยนความคิดได้ทุกด้าน
อีกกรณี ตัวอย่างจาก ผู้ป่วยทางจิต ผมอ่าน และสรุปได้ มันขึ้นอยู่ที่สัญญา อย่างเดียว นี้คือข้อสรุป เเม้ทางการเเพทย์ปัจจุบันก็ยังสรุปไม่ได้
1.คนที่มีความคิดโจมตีตัวเอง ต่อว่าตัวเอง = คนๆนี้จะเป็นไปตามความคิด(เป็นไปตามกรรม ในปัจจุบัน ) คือ สัญญาด้านลบ
2. คนที่มีความคิดส่งเสริมตัวเอง ไม่ต่อว่าตัวเอง = คนๆนี้จะเป็นไปตามความคิด(เป็นไปตามกรรม ในปัจจุบัน) สัญญาด้านบวก
ซึ่งมันจะไม่ส่งผลในทันที จนกว่าจะเกิดอนุสสัย เเละมันจะกลายเป็น สัญญา (สัญญาเนินช้า) ซึ่งเป็นตัว ส่งให้เกิดการกระทำ ตามสัญญา
เช่นเดียวกัน ในทางศาสนา ก็มีข้อปฏิบัติเเบบนี้ เเต่เป็นสัญญาในการพ้นทุกข์ เเละจะมีความเเตกต่างกัน ในสัญญา
เช่น อานาปานสัญญา เป็นต้น
นิยาม สัญญา ของ สัตบุรุษ
จนทุกวันนี้ ผมสามารถ รู้ธาตุเเท้ของมตุคามแบบระเอียด ผมสามารถปรับความคิดให้เปลี่ยนไปจากเดิม ผมไม่เห็นอย่างเดิม และ ผมเชื่อว่ามีคนที่มีความคิดอย่างนี้มีอยู่ 80% เพราะ มันมีปัจจัยที่ทำให้เข้าใจอย่างนั้นอยู่ นอกเสียจากคนๆนั่น ไม่มีความคิดแบบนี้ เเต่เเรก มีทัศนคติ ไปทางตรง มีสัญญา ในทางบวก คนนี้ๆ จะเปนที่หมายปอง ซึ่ง เราปรับเปลี่ยนความคิดได้ทุกด้าน
อีกกรณี ตัวอย่างจาก ผู้ป่วยทางจิต ผมอ่าน และสรุปได้ มันขึ้นอยู่ที่สัญญา อย่างเดียว นี้คือข้อสรุป เเม้ทางการเเพทย์ปัจจุบันก็ยังสรุปไม่ได้
1.คนที่มีความคิดโจมตีตัวเอง ต่อว่าตัวเอง = คนๆนี้จะเป็นไปตามความคิด(เป็นไปตามกรรม ในปัจจุบัน ) คือ สัญญาด้านลบ
2. คนที่มีความคิดส่งเสริมตัวเอง ไม่ต่อว่าตัวเอง = คนๆนี้จะเป็นไปตามความคิด(เป็นไปตามกรรม ในปัจจุบัน) สัญญาด้านบวก
ซึ่งมันจะไม่ส่งผลในทันที จนกว่าจะเกิดอนุสสัย เเละมันจะกลายเป็น สัญญา (สัญญาเนินช้า) ซึ่งเป็นตัว ส่งให้เกิดการกระทำ ตามสัญญา
เช่นเดียวกัน ในทางศาสนา ก็มีข้อปฏิบัติเเบบนี้ เเต่เป็นสัญญาในการพ้นทุกข์ เเละจะมีความเเตกต่างกัน ในสัญญา
เช่น อานาปานสัญญา เป็นต้น