"ผมกดปลายกระบอกปืนแข็งๆลงบนท้ายทอยมัน
"ส่งกระเป๋าตังมา!" ผมตะคอก...
มันล้วงมืออ้วนๆสั่นงนงกเข้าไปในกระเป๋าหลัง ยื่นกระเป๋าตังมาให้ ผมหยิบบัตรประชาชนออกมาและโยนกระเป๋าทิ้ง
"นพดล! ใครตั้งชื่อให้มุง"
"พะ-พะ-พ่อ" มันคางสั่น
"มุงฟังกูให้ดีนพดล ฟังทุกๆคำพูดของกูอย่าให้พลาดแม้แต่คำเดียวแล้วมุงจะรอดคืนนี้ไปได้... หลับตา... กูสั่งให้มุงหลับตา!"
มันสะดุ้ง รีบหลับตาปี๋
"นึกถึงหน้าของคนที่มุงรักที่สุดในชีวิตมาสองคน... " ผมจี้กระบอกปืนเข้าไปกระตุ้นให้สมองมันรีบทำงาน "นึกได้รึยัง!" มันผงกหัวงกๆ "มุงพูดชื่อออกมา"
"แนน... แนนกับ กวาง" น้ำตามันเริ่มไหล
"สองคนนี้เป็นใคร"
"เมีย-เมียกับลูกสาว... ผมขอร้อง ปล่อยผมไปเถอะ ผมมีลูกมีเมียแล้ว ผมมีครอบครัวที่ต้องดูแล"
ผมฟาดด้ามปืนใส่ท้ายทอย ยั้งมือ เตือนสติให้มันรู้ว่ามันอยู่ในฐานะไหน
"มุงฟัง และไม่ต้องพูด -- กูจะให้มุงเลือก คนใดคนหนึ่งระหว่างสองคนนี้ คนที่มุงเลือกจะต้องตาย แล้วอีกคนจะรอด -- มุงฟังให้ดี และคิดให้ดีๆ คำพูดต่อไปที่จะออกจากปากมุง จะต้องเป็น แนน ไม่ก็ กวาง ถ้าเป็นคำอื่น... คนที่จะต้องตายคือมุง"
ลมหวนยามราตรีพัดโชยเข้ามาในซอกตึกเปลี่ยวร้างแห่งนี้ ผมยืนจ่ออาวุธพิฆาตใส่ศีรษะของชายวัยห้าสิบร่างอ้วนคนนี้ ยืนฟังเสียงร้องไห้โอดครวญเหมือนหมูของมัน มันอ้าปากกำลังจะพูด
"ผ---"
"มุงคิดให้ดีนะ ก่อนมุงจะพูดอะไร... คำอื่นที่นอกจากแนนหรือกวาง มุงตาย..."
มันทิ้งตัวทรุดลงกับพื้น ร้องไห้ไม่ได้สติ พ่นเสียงฮือ ฮือ ฮือน่าสมเพชออกมาผ่านรูจมูก
"หนึ่ง!" ผมร้องเตือน มันดีดตัวขึ้น ปาดน้ำหูน้ำตา "สอง!" มันสูดหายใจและรีบตั้งสติ "ส-"
"กวาง!!" มันตะโกนอย่างกล้าหาญ กลบเสียงลมและเสียงยามค่ำจนหมดสิ้น วินาทีต่อมามันก็ทิ้งตัวร้องไห้เป็นบ้าอีกรอบ
"ดี" ผมขานรับ
"มุงโทรหากวาง ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ เปิดลำโพงให้กูได้ยิน"
ตัวมันสั่นเป็นเจ้าเข้า ลุกลี้ลุกลนล้วงไอโฟนในกระเป๋าออกมา น้ำตาที่เปื้อนมือทำให้มันสไลด์เปิดเครื่องไม่ได้ มันพยายามเช็ดน้ำตากับเสื้อ...
สไลด์...
กดเลขทีละปุ่มด้วยมือสั่นเทา...
รั้งมืออยู่ที่ปุ่มโทรออก...
"ดี -- ทีนี้มุงฟังกูให้ดี คำพูดเดียวที่มุงจะพูดกับกวางได้คือ ขอโทษ แค่ขอโทษ... คำเดียวเท่านั้น... ถ้ามีคำอื่นหรือเสียงอื่นเล็ดรอดออกมา มุงตาย... กดโทร" ผมสั่ง
มันทำตามอย่างว่างาย ผมกับมันยืนรอฟังเสียงสัญญาณดังทีละครั้ง... ทีละครั้ง... และปลายสายก็รับ
"ฮัลโหลคะคุณ" เป็นเสียงผู้หญิงมีอายุ ฟังดูร่าเริง จับน้ำเสียงได้ว่าดีใจที่มันโทรไป
มันยังไม่พูดคำที่ผมสั่ง... มันแหงนหน้ากลับมามองผม... สายตาเปี่ยมด้วยความโกรธแค้น... มันกัดฟัน... กัดริมฝีปาก... ผมแค่มองมันกลับผ่านหน้ากากคลุมศีรษะด้วยสายตาแน่นิ่ง... มันก้มหน้ากลับไปที่โทรศัพท์...
"กวาง... ผมขอโทษ"
"คุณพูด--" มันกดวางสายตามที่ผมสั่งไว้
ผมถอนปืนออกจากท้ายทอยมัน มันดูจะโล่งใจขึ้นเยอะ
"ดีใจมั้ย" ผมถามมัน "มุงรอดแล้ว"
มันค้อนตามองผมอย่างโกรธเกรี้ยว ผมยกปืนขึ้นจ่อหน้าผากมัน
"กูถามว่า มุงดีใจมั้ย"
มันกัดฟันกรอด "เป็นมุง... มุงจะรู้สึกยังไงละ"
ผมหัวเราะ
"กูจะรู้สึกผิด... รู้สึกบาป... รู้สึกว่ากูมันเลว... ชั่ว... ขี้ขลาด... สมควรตาย... มุงกำลังรู้สึกแบบนี้ใช่มั้ย"
มันไม่ตอบ เอาแต่จ้องตาผม
"กูจะให้โอกาสมุงอีกรอบ... ไถ่บาปตัวเอง... กูจะให้มุงเลือกว่าจะตายตรงนี้... หรือจะกลับบ้านไปหาเมียมุง... นอนกอดเมียมุงเป็นครั้งสุดท้าย... ไปเล่าให้เมียมุงฟังว่า มีโจรมาจี้มุง และบังคับให้มุงเลือกว่าจะให้ใครตาย ระหว่างเมียมุง.. กับลูกสาวมุง... ไปบอกให้เมียมุงฟังว่ามุงเลือกให้เค้าตาย"
"ไอ้เหี้-!... ไอ้สั-!... ไอ้ชั่-!... มุงคิดว่ากูจะอายเหรอที่เลือกแบบนี้... มุงให้ทางเลือกกูแค่สองทาง... เป็นมุงมุงจะเลือกใคร... พ่อแม่ที่ไหนก็ต้องรักลูกอยู่แล้ว... กูรู้ว่าเมียกูจะเข้าใจ... กูรู้ว่าเค้าจะให้อภัย"
"กูให้ทางเลือกมุงสามทาง... หนึ่งเมียมุง... สองลูกมุง... สาม... ตัวมุงเอง... มุงมัวแต่คิดว่าจะเอาตัวรอดยังไง... กูไม่ได้บังคับให้มุงพูดชื่อแนนหรือกวาง... มันเป็นสิทธิ์ของมุง... มุงจะไม่พูดอะไร หรือพูดคำอื่นให้กูยิงมุงก็ได้... แต่มุงเลือก... มุงเลือกที่จะฆ่ากวาง ฆ่าเมียของมุง! และมุงยังจะมีหน้าโทรไปบอกว่าขอโทษอีก! ไอ้สั-! มุงนั้นแหละเหี้-! มุงมันขี้ขลาด! ลูกเมียตัวเองยังไม่กล้าปกป้อง... กูให้โอกาสมุงตั้งสองรอบ! สองรอบ! ตอนที่กูบอกให้มุงโทรไปขอโทษ... มุงจะพูดคำอื่นให้กูยิงมุงก็ได้และเมียมุงก็จะรอด... แต่มุงยังจะพูด... ทำไม... ทำไมมุงถึงพูด... เพราะมันง่ายไง... ขอโทษมันง่าย... ขอโทษเสร็จมุงก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว... ไอ้เหี้-!"
ผมตะคอกใส่มัน มันเข่าทรุดลงกับพื้นเพราะรับความจริงไม่ได้... ความจริงที่ว่ามันเลือกฆ่าเมียตัวเอง... ความจริงที่ว่ามันไม่มีความดีพอจะปกป้องคนอื่น... ผมคุกเข่าลงตรงหน้ามัน... ลดระดับเสียงลงและพูดกับมันดีๆ
"กูให้โอกาสมุงครั้งสุดท้าย... ให้มุงแก้ตัว..." ผมสอดปืนเข้าไปในช่องปากมัน ดึงมือสองข้างของมันมาจับไกปืนไว้... "มุง... หรือคนที่มุงรักที่สุด"
มันร้องไห้... แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ด้วยความกลัว... แต่เป็นความเสียใจ สำนึกผิดในบาปที่มันทำ... ปืนสั่นกรอกแกรกอยู่ในปากมัน... มันหลับตา... ผมสัมผัสได้ถึงแรงบีบที่มันกดลงบนไกหนักๆ... น้ำตาไหลพราก... มันบีบสุดแรง... และ...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
.
.
.
.
.
ผมดึงปืนออกจากปากมัน... หันหลังเดินกลับไป...
ได้ยินเสียงมันร้องไห้โฮยังกับเด็กแรกเกิด...
ผมไม่เคยใส่กระสุนไว้ในปืน...
และคืนนี้ยังมีคนต้องการบทเรียนนี้อยู่อีกหลายคน...
...คนอย่างมันที่ปากบอกว่าวันนี้ประชุมกับลูกค้าต้องกลับดึก แต่กลับมาอยู่ในที่อโคจรแบบนี้... คนอย่างมันที่ปากบอกว่า 'คุณนั่นแหละคิดไปเอง ผมจะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ไหนก็เรื่องของผม'... คนอย่างมันที่ปากบอกว่าพ่อรักลูกที่สุด และพ่อจะไม่มีวันทำแม่เสียใจ...
เรื่องสั้น "ฮีโร่"
"ส่งกระเป๋าตังมา!" ผมตะคอก...
มันล้วงมืออ้วนๆสั่นงนงกเข้าไปในกระเป๋าหลัง ยื่นกระเป๋าตังมาให้ ผมหยิบบัตรประชาชนออกมาและโยนกระเป๋าทิ้ง
"นพดล! ใครตั้งชื่อให้มุง"
"พะ-พะ-พ่อ" มันคางสั่น
"มุงฟังกูให้ดีนพดล ฟังทุกๆคำพูดของกูอย่าให้พลาดแม้แต่คำเดียวแล้วมุงจะรอดคืนนี้ไปได้... หลับตา... กูสั่งให้มุงหลับตา!"
มันสะดุ้ง รีบหลับตาปี๋
"นึกถึงหน้าของคนที่มุงรักที่สุดในชีวิตมาสองคน... " ผมจี้กระบอกปืนเข้าไปกระตุ้นให้สมองมันรีบทำงาน "นึกได้รึยัง!" มันผงกหัวงกๆ "มุงพูดชื่อออกมา"
"แนน... แนนกับ กวาง" น้ำตามันเริ่มไหล
"สองคนนี้เป็นใคร"
"เมีย-เมียกับลูกสาว... ผมขอร้อง ปล่อยผมไปเถอะ ผมมีลูกมีเมียแล้ว ผมมีครอบครัวที่ต้องดูแล"
ผมฟาดด้ามปืนใส่ท้ายทอย ยั้งมือ เตือนสติให้มันรู้ว่ามันอยู่ในฐานะไหน
"มุงฟัง และไม่ต้องพูด -- กูจะให้มุงเลือก คนใดคนหนึ่งระหว่างสองคนนี้ คนที่มุงเลือกจะต้องตาย แล้วอีกคนจะรอด -- มุงฟังให้ดี และคิดให้ดีๆ คำพูดต่อไปที่จะออกจากปากมุง จะต้องเป็น แนน ไม่ก็ กวาง ถ้าเป็นคำอื่น... คนที่จะต้องตายคือมุง"
ลมหวนยามราตรีพัดโชยเข้ามาในซอกตึกเปลี่ยวร้างแห่งนี้ ผมยืนจ่ออาวุธพิฆาตใส่ศีรษะของชายวัยห้าสิบร่างอ้วนคนนี้ ยืนฟังเสียงร้องไห้โอดครวญเหมือนหมูของมัน มันอ้าปากกำลังจะพูด
"ผ---"
"มุงคิดให้ดีนะ ก่อนมุงจะพูดอะไร... คำอื่นที่นอกจากแนนหรือกวาง มุงตาย..."
มันทิ้งตัวทรุดลงกับพื้น ร้องไห้ไม่ได้สติ พ่นเสียงฮือ ฮือ ฮือน่าสมเพชออกมาผ่านรูจมูก
"หนึ่ง!" ผมร้องเตือน มันดีดตัวขึ้น ปาดน้ำหูน้ำตา "สอง!" มันสูดหายใจและรีบตั้งสติ "ส-"
"กวาง!!" มันตะโกนอย่างกล้าหาญ กลบเสียงลมและเสียงยามค่ำจนหมดสิ้น วินาทีต่อมามันก็ทิ้งตัวร้องไห้เป็นบ้าอีกรอบ
"ดี" ผมขานรับ
"มุงโทรหากวาง ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ เปิดลำโพงให้กูได้ยิน"
ตัวมันสั่นเป็นเจ้าเข้า ลุกลี้ลุกลนล้วงไอโฟนในกระเป๋าออกมา น้ำตาที่เปื้อนมือทำให้มันสไลด์เปิดเครื่องไม่ได้ มันพยายามเช็ดน้ำตากับเสื้อ...
สไลด์...
กดเลขทีละปุ่มด้วยมือสั่นเทา...
รั้งมืออยู่ที่ปุ่มโทรออก...
"ดี -- ทีนี้มุงฟังกูให้ดี คำพูดเดียวที่มุงจะพูดกับกวางได้คือ ขอโทษ แค่ขอโทษ... คำเดียวเท่านั้น... ถ้ามีคำอื่นหรือเสียงอื่นเล็ดรอดออกมา มุงตาย... กดโทร" ผมสั่ง
มันทำตามอย่างว่างาย ผมกับมันยืนรอฟังเสียงสัญญาณดังทีละครั้ง... ทีละครั้ง... และปลายสายก็รับ
"ฮัลโหลคะคุณ" เป็นเสียงผู้หญิงมีอายุ ฟังดูร่าเริง จับน้ำเสียงได้ว่าดีใจที่มันโทรไป
มันยังไม่พูดคำที่ผมสั่ง... มันแหงนหน้ากลับมามองผม... สายตาเปี่ยมด้วยความโกรธแค้น... มันกัดฟัน... กัดริมฝีปาก... ผมแค่มองมันกลับผ่านหน้ากากคลุมศีรษะด้วยสายตาแน่นิ่ง... มันก้มหน้ากลับไปที่โทรศัพท์...
"กวาง... ผมขอโทษ"
"คุณพูด--" มันกดวางสายตามที่ผมสั่งไว้
ผมถอนปืนออกจากท้ายทอยมัน มันดูจะโล่งใจขึ้นเยอะ
"ดีใจมั้ย" ผมถามมัน "มุงรอดแล้ว"
มันค้อนตามองผมอย่างโกรธเกรี้ยว ผมยกปืนขึ้นจ่อหน้าผากมัน
"กูถามว่า มุงดีใจมั้ย"
มันกัดฟันกรอด "เป็นมุง... มุงจะรู้สึกยังไงละ"
ผมหัวเราะ
"กูจะรู้สึกผิด... รู้สึกบาป... รู้สึกว่ากูมันเลว... ชั่ว... ขี้ขลาด... สมควรตาย... มุงกำลังรู้สึกแบบนี้ใช่มั้ย"
มันไม่ตอบ เอาแต่จ้องตาผม
"กูจะให้โอกาสมุงอีกรอบ... ไถ่บาปตัวเอง... กูจะให้มุงเลือกว่าจะตายตรงนี้... หรือจะกลับบ้านไปหาเมียมุง... นอนกอดเมียมุงเป็นครั้งสุดท้าย... ไปเล่าให้เมียมุงฟังว่า มีโจรมาจี้มุง และบังคับให้มุงเลือกว่าจะให้ใครตาย ระหว่างเมียมุง.. กับลูกสาวมุง... ไปบอกให้เมียมุงฟังว่ามุงเลือกให้เค้าตาย"
"ไอ้เหี้-!... ไอ้สั-!... ไอ้ชั่-!... มุงคิดว่ากูจะอายเหรอที่เลือกแบบนี้... มุงให้ทางเลือกกูแค่สองทาง... เป็นมุงมุงจะเลือกใคร... พ่อแม่ที่ไหนก็ต้องรักลูกอยู่แล้ว... กูรู้ว่าเมียกูจะเข้าใจ... กูรู้ว่าเค้าจะให้อภัย"
"กูให้ทางเลือกมุงสามทาง... หนึ่งเมียมุง... สองลูกมุง... สาม... ตัวมุงเอง... มุงมัวแต่คิดว่าจะเอาตัวรอดยังไง... กูไม่ได้บังคับให้มุงพูดชื่อแนนหรือกวาง... มันเป็นสิทธิ์ของมุง... มุงจะไม่พูดอะไร หรือพูดคำอื่นให้กูยิงมุงก็ได้... แต่มุงเลือก... มุงเลือกที่จะฆ่ากวาง ฆ่าเมียของมุง! และมุงยังจะมีหน้าโทรไปบอกว่าขอโทษอีก! ไอ้สั-! มุงนั้นแหละเหี้-! มุงมันขี้ขลาด! ลูกเมียตัวเองยังไม่กล้าปกป้อง... กูให้โอกาสมุงตั้งสองรอบ! สองรอบ! ตอนที่กูบอกให้มุงโทรไปขอโทษ... มุงจะพูดคำอื่นให้กูยิงมุงก็ได้และเมียมุงก็จะรอด... แต่มุงยังจะพูด... ทำไม... ทำไมมุงถึงพูด... เพราะมันง่ายไง... ขอโทษมันง่าย... ขอโทษเสร็จมุงก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว... ไอ้เหี้-!"
ผมตะคอกใส่มัน มันเข่าทรุดลงกับพื้นเพราะรับความจริงไม่ได้... ความจริงที่ว่ามันเลือกฆ่าเมียตัวเอง... ความจริงที่ว่ามันไม่มีความดีพอจะปกป้องคนอื่น... ผมคุกเข่าลงตรงหน้ามัน... ลดระดับเสียงลงและพูดกับมันดีๆ
"กูให้โอกาสมุงครั้งสุดท้าย... ให้มุงแก้ตัว..." ผมสอดปืนเข้าไปในช่องปากมัน ดึงมือสองข้างของมันมาจับไกปืนไว้... "มุง... หรือคนที่มุงรักที่สุด"
มันร้องไห้... แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ด้วยความกลัว... แต่เป็นความเสียใจ สำนึกผิดในบาปที่มันทำ... ปืนสั่นกรอกแกรกอยู่ในปากมัน... มันหลับตา... ผมสัมผัสได้ถึงแรงบีบที่มันกดลงบนไกหนักๆ... น้ำตาไหลพราก... มันบีบสุดแรง... และ...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
.
.
.
.
.
ผมดึงปืนออกจากปากมัน... หันหลังเดินกลับไป...
ได้ยินเสียงมันร้องไห้โฮยังกับเด็กแรกเกิด...
ผมไม่เคยใส่กระสุนไว้ในปืน...
และคืนนี้ยังมีคนต้องการบทเรียนนี้อยู่อีกหลายคน...
...คนอย่างมันที่ปากบอกว่าวันนี้ประชุมกับลูกค้าต้องกลับดึก แต่กลับมาอยู่ในที่อโคจรแบบนี้... คนอย่างมันที่ปากบอกว่า 'คุณนั่นแหละคิดไปเอง ผมจะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ไหนก็เรื่องของผม'... คนอย่างมันที่ปากบอกว่าพ่อรักลูกที่สุด และพ่อจะไม่มีวันทำแม่เสียใจ...