ถามธนาคารสีเขียว

ถามว่า ที่เขากล่าวหา  เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ



"ชูวิทย์" โพสต์เตือนคน "ซื้อบ้านพ่วงประกัน" ระวัง"แบงก์สีเขียวๆ กับ บ.ประกันยักษ์" ให้ดี!
16 ธ.ค. 2557 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2557 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กผ่านเพจ "ชูวิทย์ I′m No.5" ถึงอุทาหรณ์การซื้อบ้านพ่วงประกัน และเมื่อผ่อนบ้านหมดก็ยังไม่ได้โฉนด ซึ่งเป็นเพียงบางธนาคาร โดยระบุว่า

ผ่อนบ้านหมด ยังอดได้โฉนด

เขียนเรื่องการเมืองมาเสียนาน ขอเรื่องที่เป็นอุทธาหรณ์ให้กับประชาชนคนผ่อนบ้านบ้าง

เดี๋ยวนี้ธนาคารร่วมมือกับบริษัทประกัน (ในเครือ) หากิน โดยใช้วิธีการดังนี้

เมื่อลูกค้าต้องการกู้เงินผ่อนบ้าน ธนาคารจะตั้งเงื่อนไขว่า ในระหว่างผ่อนบ้าน หากผู้กู้เสียชีวิตก็จะทำให้ธนาคารเสียหาย จึงผลักภาระมาให้ผู้กู้ โดยให้ผู้กู้ทำประกันเงินกู้ไว้ เผื่อว่าตายไปจะได้เอาเงินประกันมาชำระหนี้ค่าบ้านที่ค้างอยู่

เรียกง่ายๆว่า "ซื้อบ้านพ่วงประกัน" เป็นการประกันว่าธนาคารจะต้องได้ตังค์แน่นอน

ยกตัวอย่าง หากผู้กู้ต้องการผ่อน 25 ปี ในระหว่างผ่อน ผู้กู้อาจเป็นคนขยันทำมาหากิน หาเงินชำระเงินกู้ได้ก่อนกำหนด หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "โปะ" ปลดหนี้ที่ค้างไว้กับธนาคาร

แต่แทนที่จ่ายเงินกู้บ้านกับธนาคารครบแล้วจะได้โฉนดออกมา ปรากฎว่ายังคงต้องชำระค่าประกันที่ยังค้างอยู่ด้วย เท่ากับผู้กู้ยังมีภาระต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน แม้ว่าไม่เหลือหนี้ค่าบ้านแล้ว

การกระทำแบบนี้เท่ากับธนาคารสมคบคิดกับบริษัทประกันในเครือ หาเงินจากความรู้ไม่เท่าทัน และต้องการเงินกู้ไปจ่ายค่าบ้านหรือคอนโด โดยมีชาวบ้านจำนวนมากร้องเรียนมาที่ผม

ผู้ที่ซื้อบ้านจะต้องระมัดระวัง ตอนอยากได้เงินกู้ก็เซ็นไป เพราะธนาคารอ้างว่า ถ้าไม่ทำประกันพ่วงก็จะไม่ให้เงินกู้

ส่วนมากที่เจอเป็นธนาคารสีเขียวๆ กับบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ย่านรัชดา หากินด้วยวิธีพิสดารกับความต้องการบ้านของประชาชน

ร้องไปที่ สคบ. ก็งั้นๆ สงสัยต้องไปลงที่ คสช.

ประเทศไทยมันก็อย่างนี้แหละครับ คนจนก็จนไป ส่วนคนรวยอย่างธนาคารมันก็หน้าด้านคิดวิธีหาเงินได้ทุกรูปแบบจริงๆ




ความเห็นผม เมื่อชำระหนี้หมด ภาระการจำนองย่อมสิ้นสุดลง ไม่น่าจะมีการยึกยักไม่ให้ไถ่ถอนจำนอง

เรื่องประกันก็เป็นอีกเรื่อง ไม่น่าจะเกี่ยวกับการจำนอง

รบกวนเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เขากล่าวถึง ช่วยตอบให้ด้วยครับ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ตามที่ได้มีข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการเสนอขายประกันพร้อมสินเชื่อบ้าน ธนาคารขอเรียนชี้แจงว่า ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ หรือที่เราเรียกกันว่า MRTA นั้น เป็นบริการเสริมที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้กู้ ว่าภาระหนี้จะไม่ตกอยู่กับครอบครัว กรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น และหากเกิดเหตุการณ์ในช่วงที่ทุนประกันคุ้มครองมีสัดส่วนสูงกว่าภาระหนี้ ผู้รับมรดกก็จะได้เงินส่วนต่างกลับไปเช่นกันค่ะ

โดยปกติหากลูกค้าประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อดังกล่าว ลูกค้าจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเต็มจำนวนตั้งแต่วันที่เริ่มใช้วงเงินสินเชื่อ โดยจะได้รับความคุ้มครองทันทีค่ะ แต่ธนาคารมีทางเลือกผ่อนชำระยาวสูงสุดเท่ากับงวดผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน เพื่อบรรเทาภาระหนี้ให้ลูกค้า คล้ายกับการกู้เพิ่มเติมเพื่อตกแต่งบ้านซึ่งใช้บ้านหลังเดียวกันเป็นหลักประกัน     ซึ่งเมื่อมีการผ่อนชำระสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่ใช้บ้านเป็นหลักประกันจนครบจำนวน ก็เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของลูกค้าที่จะสามารถไถ่ถอนโฉนดได้ตามปกติค่ะ

ทั้งนี้การทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อดังกล่าว อาจทำให้ลูกค้าจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงตาม Marketing Campaign ของธนาคาร และถ้าทำประกันเกิน 10 ปี ยังสามารถนำไปขอลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่