ผ่อนบ้านหมด ยังอดได้โฉนด
เขียนเรื่องการเมืองมาเสียนาน ขอเรื่องที่เป็นอุทธาหรณ์ให้กับประชาชนคนผ่อนบ้านบ้าง
เดี๋ยวนี้ธนาคารร่วมมือกับบริษัทประกัน (ในเครือ) หากิน โดยใช้วิธีการดังนี้
เมื่อลูกค้าต้องการกู้เงินผ่อนบ้าน ธนาคารจะตั้งเงื่อนไขว่า ในระหว่างผ่อนบ้าน หากผู้กู้เสียชีวิตก็จะทำให้ธนาคารเสียหาย จึงผลักภาระมาให้ผู้กู้ โดยให้ผู้กู้ทำประกันเงินกู้ไว้ เผื่อว่าตายไปจะได้เอาเงินประกันมาชำระหนี้ค่าบ้านที่ค้างอยู่
เรียกง่ายๆว่า
"ซื้อบ้านพ่วงประกัน" เป็นการประกันว่าธนาคารจะต้องได้ตังค์แน่นอน
ยกตัวอย่าง
หากผู้กู้ต้องการผ่อน 25 ปี ในระหว่างผ่อน ผู้กู้อาจเป็นคนขยันทำมาหากิน หาเงินชำระเงินกู้ได้ก่อนกำหนด หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "โปะ" ปลดหนี้ที่ค้างไว้กับธนาคาร
แต่แทนที่จ่ายเงินกู้บ้านกับธนาคารครบแล้วจะได้โฉนดออกมา ปรากฎว่ายังคงต้องชำระค่าประกันที่ยังค้างอยู่ด้วย เท่ากับผู้กู้ยังมีภาระต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน แม้ว่าไม่เหลือหนี้ค่าบ้านแล้ว
การกระทำแบบนี้เท่ากับธนาคารสมคบคิดกับบริษัทประกันในเครือ หาเงินจากความรู้ไม่เท่าทัน และต้องการเงินกู้ไปจ่ายค่าบ้านหรือคอนโด โดยมีชาวบ้านจำนวนมากร้องเรียนมาที่ผม
ผู้ที่ซื้อบ้านจะต้องระมัดระวัง ตอนอยากได้เงินกู้ก็เซ็นไป เพราะธนาคารอ้างว่า ถ้าไม่ทำประกันพ่วงก็จะไม่ให้เงินกู้
ส่วนมากที่เจอเป็นธนาคารสีเขียวๆ กับบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ย่านรัชดา หากินด้วยวิธีพิสดารกับความต้องการบ้านของประชาชน
ร้องไปที่ สคบ. ก็งั้นๆ สงสัยต้องไปลงที่ คสช.
ประเทศไทยมันก็อย่างนี้แหละครับ คนจนก็จนไป ส่วนคนรวยอย่างธนาคารมันก็หน้าด้านคิดวิธีหาเงินได้ทุกรูปแบบจริงๆ
"จูกัดหลง"
ที่มา :
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418730873
✿ "ชูวิทย์" โพสต์เตือนคนซื้อบ้าน ให้ระวัง "แบงก์สีเขียวๆ" ให้ดี! ✿
เขียนเรื่องการเมืองมาเสียนาน ขอเรื่องที่เป็นอุทธาหรณ์ให้กับประชาชนคนผ่อนบ้านบ้าง
เดี๋ยวนี้ธนาคารร่วมมือกับบริษัทประกัน (ในเครือ) หากิน โดยใช้วิธีการดังนี้
เมื่อลูกค้าต้องการกู้เงินผ่อนบ้าน ธนาคารจะตั้งเงื่อนไขว่า ในระหว่างผ่อนบ้าน หากผู้กู้เสียชีวิตก็จะทำให้ธนาคารเสียหาย จึงผลักภาระมาให้ผู้กู้ โดยให้ผู้กู้ทำประกันเงินกู้ไว้ เผื่อว่าตายไปจะได้เอาเงินประกันมาชำระหนี้ค่าบ้านที่ค้างอยู่
เรียกง่ายๆว่า "ซื้อบ้านพ่วงประกัน" เป็นการประกันว่าธนาคารจะต้องได้ตังค์แน่นอน
ยกตัวอย่าง หากผู้กู้ต้องการผ่อน 25 ปี ในระหว่างผ่อน ผู้กู้อาจเป็นคนขยันทำมาหากิน หาเงินชำระเงินกู้ได้ก่อนกำหนด หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "โปะ" ปลดหนี้ที่ค้างไว้กับธนาคาร
แต่แทนที่จ่ายเงินกู้บ้านกับธนาคารครบแล้วจะได้โฉนดออกมา ปรากฎว่ายังคงต้องชำระค่าประกันที่ยังค้างอยู่ด้วย เท่ากับผู้กู้ยังมีภาระต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน แม้ว่าไม่เหลือหนี้ค่าบ้านแล้ว
การกระทำแบบนี้เท่ากับธนาคารสมคบคิดกับบริษัทประกันในเครือ หาเงินจากความรู้ไม่เท่าทัน และต้องการเงินกู้ไปจ่ายค่าบ้านหรือคอนโด โดยมีชาวบ้านจำนวนมากร้องเรียนมาที่ผม
ผู้ที่ซื้อบ้านจะต้องระมัดระวัง ตอนอยากได้เงินกู้ก็เซ็นไป เพราะธนาคารอ้างว่า ถ้าไม่ทำประกันพ่วงก็จะไม่ให้เงินกู้
ส่วนมากที่เจอเป็นธนาคารสีเขียวๆ กับบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ย่านรัชดา หากินด้วยวิธีพิสดารกับความต้องการบ้านของประชาชน
ร้องไปที่ สคบ. ก็งั้นๆ สงสัยต้องไปลงที่ คสช.
ประเทศไทยมันก็อย่างนี้แหละครับ คนจนก็จนไป ส่วนคนรวยอย่างธนาคารมันก็หน้าด้านคิดวิธีหาเงินได้ทุกรูปแบบจริงๆ
"จูกัดหลง"
ที่มา : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418730873