เครียดจนเป็นโรค ทางออกคือจากไป

เรื่องมีอยู่ว่าพ่อเรามีธุรกิจอยู่สมัยหนุ่มๆ แล้วแต่งงานกับแม่ ธุรกิจไปได้สวย จากนั้นไม่นานก็ล้มละลายสาเหตุมาจากความฟุ่มเฟือยของพ่อ
(อันนี้ย่าเราเล่าให้ฟังตอนเราอยู่ประถม) แล้วย่าก็เล่าให้ฟังอีกว่าพ่อเราไปค้ำประกันกับคนๆนึง ซึ่งต้องจ่ายเงินให้เค้าหลายล้าน แต่คดีความ
ได้จบลงไปแล้ว พอคดีความจบปู่เราก็เสีย(ย่าเล่าอีกว่าเป็นเพราะพ่อเราทำให้ปู่ต้องหาเงินมาจ่ายให้) เราก็ได้ฟังมาตั้งแต่เด็กจนเราชิน
ชินกับการที่เราเครียดโดยไม่รู้ตัว เรารู้สึกว่าพยายามหาทางออกให้กับตัวเอง โดยการเรียนหนังสือเก่งๆ หวังว่าจะหาเงินมาให้พ่อกับแม่เรา
ลืมบอกค่ะ แม่เราเป็นพยาบาล ส่วนพ่อไม่ได้ทำงานอะไร มีรับส่งของบ้าง พอมาช่วงมัธยม2 เราก็เริ่มเล่นบ้างเพื่อนๆชวนเกเร แต่ไม่ได้ออก
นอกลู่นอกทาง แค่โดดเรียนบ้าง แต่โดดแล้วไปนั่งเม้ากันประสาผู้หญิง หรือในคาบไม่ตั้งใจฟังก็กินขนมกันไป ช่วงเวลานั้นเรารู้สึกว่าเราปล่อย
ให้การเรียนเราดรอปลงมาก จนกระทั่งเกรดออกเราได้น้อยลงจริงๆ (ขอไม่บอกรายละเอียดนะคะ) เราเครียดตั้งแต่เห็นเกรด
          

          แล้วพอขึ้นม.3 เราก็เป็นโรคซึมเศร้าทันที จริงๆก็เป็นตั้งแต่ปิดเทอมม.2แล้ว เราเป็นหนักมาก อาการมีทั้งปี พ่อกับแม่เราก็พาไปหาหมอ
ตอนนั้นยังดีที่แม่เป็นพยาบาลของรัฐบาลก็ยังเบิกได้บ้าง พอเริ่มขึ้นม.ปลาย เป้าหมายสำคัญคือมหาลัย ใจจริงเราก็อยากเข้าจุฬา แต่ท้ายที่สุด
ปัญหาเรื่องเงินก็ตามมา เราอยากเข้าภาคอินเตอร์ของจุฬา แต่การเข้านั้น ก็ต้องแลกมากับการเสียค่าเรียนพิเศษมหาศาล จริงๆป้าเราเป็นคนจ่าย
ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แต่ไม่ใช่แค่เรา ป้าเรายังต้องจ่ายให้พี่ และ เรา และ พ่อ... ที่ซึ่งไม่ควรจะต้องให้ ทุกเดือนๆละ10k บางทียังใช้เราเป็นนายหน้า
ไปขอตังป้ามาเพิ่ม ส่วนพี่เราก็ไม่ได้ดั่งใจ พอเข้ามหาลัยไปแล้วก็มัวแต่เที่ยวเล่น เกรดก็ไม่ตกหรอก แต่จริงๆคิดว่าเพราะพี่ไม่คิดจะเลี้ยงพ่อภายหลังมากกว่า- -


       สรุปเลยคือ เราต้องแบกรับภาระพ่อ ซึ่งเราเป็นลูกคนสุดท้องของตระกูล  ที่พี่ๆในตระกูลก็มีพ่อแม่ที่ดี แต่เรานับถือแม่นะ ว่าแม่เราพยายามหาเงิน
หาเช้ากลับค่ำทุกวัน แต่ก็ไม่ค่อยมีตังอยู่ดี เราไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่เราก็อยากมีครอบครัวมีสามีดีๆมีลูกที่น่ารัก อาจจะคิดไกลไปเพราะ
เราเพิ่ง 18 แต่ในกรณีเราๆว่ายกเว้นเถอะ เราให้พ่อไปรับไปส่งเพราะหวังว่าจะให้เค้าเห็นใจเรา แล้วไปหางานดีๆทำ เพราะเค้าก็บอกว่ารู้จัก
เพื่อนเป็นนู่นนี่ แต่เปล่าเลย ยังมามีข้ออ้างว่าเสียค่าแก๊สไปรับส่งเรา แล้วขอจากป้าเพิ่ม แล้วยังชอบซื้อมือถือ เปลี่ยนมือถือได้ว่าเล่น
สุดท้ายบางทีก็มาขอเรา บอกว่าเพื่อนยืมเงินไป แล้วมายืมเราเนี่ยนะ? เราเคยคิดว่าถ้าเค้ารักเราจริง เค้าน่าจะใช้เงินให้ประหยัดกว่านี้ และคิด
หาทางหาเงิน หรือไม่ก็ ถ้าชีวิตมันบั้นปลายสุดๆแล้ว น่าจะบวชไปตลอดเลย ให้กุศลย่าเราด้วยตอนนี้ย่าเราเป็นโรคอัลไซเมอร์


      ตอนนี้เรามีแฟนอายุมากกว่า 7 ปี เค้าทำงานแล้ว เราไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสเค้าหรอก แค่ชอบผู้ใหญ่เพราะมีความคิดมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน และเราไม่เคยขอให้เค้าเลี้ยงอะไร แต่กลับกันเราว่าเราเข้าใจและsupportเค้า เรื่องงาน เพราะบางอย่างเค้าไม่รู้ เช่นภาษาอังกฤษ

       เราเคยรู้สึกว่าเราได้รับความรักมาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมาตลอด อิจฉาเพื่อนๆบ้างที่มีพ่อแม่ที่น่ารัก แต่เราคิดว่าอย่างน้อยเราก็รู้วิธีการ express love มากกว่าพ่อแม่

        ตอนนี้เราเรียนอยู่มหาลัยรัฐบาลที่หนึ่ง ภาคอินเตอร์ แล้วอยากออกแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ เราไปเจอ online bachelor's degree ของ U.S.A. หรือ UK ก็มี เราอยากเรียนทางด้าน psychology สาขา human resource เพราะว่าชอบ inspire ผู้คน ถ้าเรียนเป็น online degree
เราน่าจะมีเวลามากขึ้น จะได้มาช่วยป้าหาเงินเพราะป้าเราก็เกษียณแล้ว

ปัจจุบันเรายังไม่หายขาดจากโรคซึมเศร้า รู้ว่ามีภาวะแทรกซ้อนเข้ามาบ้าง แต่ก็พยายามคุมตัวเองให้ดีที่สุด

แท็ก ปัญหาครอบครัว/ชีวิต เพราะอยากระบาย ช่วยชี้ทางให้กระรอกด้วยก็ได้นะคะ
แท็ก สุขภาพจิต จะทำอย่างไรดีคะให้อาการหายขาด
แท็ก การเรียน ถ้าเรียนเป็น online degree สมัยนี้ในไทยจะเปิดกว้างให้มั้ยคะ
แท็ก กฎหมายชาวบ้าน ในกรณีพ่อเราในเมื่อเค้าล้มละลายมานานแล้ว คดีมีอายุความน่าจะจบไปแล้วหรือเปล่าคะ
       ตอนนี้เค้า 58 ได้แล้ว หรือ เค้าโดน Blacklist อะไรหรือเปล่า ทำให้ไม่มีช่องทางหาเงิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่