สถานการณ์การเมืองอันเนื่องมาจากการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ซึ่งที่ประชุม สปช.
ได้มีการพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆจำนวน 18 คณะ ไม่ใช่มีแค่สีสัน
ทางการเมือง แต่มีเงื่อนไขพิเศษทางการเมือง ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศในรูปแบบ
ใหม่อีกกระทอก

เดิมทีพิมพ์เขียว รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องการให้ลดอำนาจฝ่ายการเมือง เพิ่มการถ่วงดุล
และตรวจสอบฝ่ายการเมืองให้เข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น แต่ทำไปทำมาบานปลายไปจนถึง
ระบอบการปกครองประเทศ ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ระหว่างระบบรัฐสภากับระบบประธานาธิบดี

มีเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมและไม่เหมาะสม กับการนำระบบดังกล่าวมาใช้กับการ
ปกครองประเทศไทย ที่จะให้มีการ เลือกนายกฯ และ ครม.โดยตรง เพราะนอกจากจะเป็น
เรื่องใหม่สำหรับคนไทยแล้ว ยังเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลกระทบกับการตัดสิน
ใจของประชาชนเจ้าของประเทศ

ซึ่งถ้าหมากเกมนี้ ไม่มีการทำ ประชามติ ประชาพิจารณ์ หรือฟังความเห็นของชาวบ้าน ทางใด
ทางหนึ่งจะมีแรงต่อต้านที่รุนแรง ไม่แพ้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ที่ผ่านมา

จะมีวิกฤติการเมืองที่ซ้ำซ้อน

ด้วยเหตุที่การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องการที่จะให้เป็น รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปประเทศ ที่มีแนวคิด
นอกกรอบจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมๆ จึงตั้งใจที่จะพลิกโฉมให้แตกต่างจากรัฐธรรมนูญทุกฉบับ

เปิดโอกาสให้บรรดา นักประชาธิปไตย นักวิชาการ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นักคิด ที่กำลัง
ร้อนวิชา แสดงบทบาทของนักประชาธิปไตยกันเต็มที่

ลืมนึกไปว่า ประชาธิปไตยแบบไทยๆ เป็นประชาธิปไตยที่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและวิถีชีวิตของคนไทย
จะเปลี่ยนแปลง การปกครอง จากหน้ามือเป็นหลังมือ

เหมือนหักด้ามพร้าด้วยเข่า

วันนี้ จะได้ข้อสรุปจากที่ประชุม สปช. ถึงกรอบการร่างรัฐธรรมนูญที่จะ ยกร่างกัน ตั้งแต่ปลายเดือนนี้
เป็นต้นไป นับเวลาเริ่มต้น 120 วันแห่งการร่างรัฐธรรมนูญ ของผู้ร้อนวิชา

สถานการณ์ ทางการเมือง ที่สงบไปพักใหญ่จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง บวกกับ การชิงอำนาจทาง
การเมือง ที่ยังคุกรุ่น จะเป็นขนมผสมน้ำยา

เขย่าการเมืองให้ร้อนขึ้นมาอีกกระทอก.

หมัดเหล็ก

http://www.thairath.co.th/content/469335