ยกระดับ !
กลุ่มสตรียื่น สปช. ขอตีความ มติ มส.
"ขัดต่อรัฐธรรมนูญ"
กรณีห้ามบวชภิกษุณีในประเทศไทย
ถ้าชนะ ก็แสดงว่า มหาเถรสมาคม สิ้นอำนาจ
แต่ถ้าแพ้..งานนี้ ไม่รู้ว่าผู้ที่บวชภิกษุณีจะมีสถานะเป็นอะไร
หรือเป็นได้แค่เพียง..ภิกษุณีเถื่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อา..ร้อนฉ่าไปท้งมหาเถรสมาคมเลยล่ะทีนี้ นี่แหละคือฝีมือของ "ดร.ฉัตรสุมาลย์" เพราะถ้าไปบวชจากเมืองนอกมา ถือว่าไม่มีใครเห็น จึงเล่นของแรง ด้วยการนิมนต์พระสังฆราชศรีลังกามาบวชที่เมืองไทย จนจุดไฟในนาครได้ ใช้ดาราระดับ "สังฆราช" มาแสดง ไม่ดูภาพยนต์ไทยสายใหม่ สายพันธุ์ทาง ระหว่าง "ศรีลังกา-ไทย" ก็ให้มันรู้ไปสิ อิอิ !
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องพิจารณากันหลายยก สำคัญที่สุดก็คือ "มติของ สปช." ซึ่งอาจจะผ่านไปถึง "ศาลรัฐธรรมนูญ" อีกด้วย โดยนัยยะว่า ถ้า สปช. เสียงข้างมาก เห็นต่างจากมหาเถรสมาคม ก็จะสามารถผลักดันกฎหมาย "ให้ผู้ที่บวชภิกษุณีทั้งในและต่างประเทศเป็นนักบวชอย่างถูกต้อง" และ "รัฐต้องรับรอง" แต่ก็ต้องมองต่อไปว่า "จะให้ภิกษุณีอยู่ในการปกครองดูแลของใคร" เพราะมหาเถรสมาคมไม่รับรอง มหาเถรสมาคมรับรองเฉพาะ "ภิกษุ-สามเณร" รวมทั้งแม่ชีด้วยเท่านั้น นอกนั้นไม่รับรู้ แถมยังมีคำสั่งสมเด็จพระสังฆราช มติมหาเถรสมาคมอีกหลายวาระ ที่ห้ามไม่ให้ภิกษุรูปใดบวชภิกษุณีในประเทศไทย ใครฝ่าฝืนก็ถูกมหาเถรสมาคมลงโทษ
การเปิดกว้างของ สปช. ก็ต้องมองให้ดี อย่าคิดว่า "เปิดให้บวชเสรี" แล้วมันจะเสรีจริง ยังมีสิ่งที่ติดตามมาอีกมากมาย ขนาดคณะสงฆ์ไทยมีระเบียบการบวช ควบคุมทั้งเรื่องนิกาย วัด พระอุปัชฌาย์ และคุณสมบัติ อีกสารพัด แค่ไม่มีวัดอยู่เป็นหลักแหล่งก็จับสึกได้แล้ว แต่นี่จะเปิดให้บวชภิกษุณีโดยเสรี ทั้งๆ ที่ยังไม่มีอะไรเป็นมาตรการรองรับ นับว่าสุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายที่คาดไม่ถึง ถึงจะมองว่า "วิตกมากเกินไป ฯลฯ" แต่อย่างไรก็ต้อง..คิดให้รอบคอบ เพราะอำนาจที่หลุดมือไปแล้ว ย่อมไม่สามารถจะเรียกกลับคืนมา ไม่ว่ากรณีใดๆ
มองอีกมุมหนึ่งก็น่าเห็นใจ ภิกษุณีฉัตรสุมาลย์และภิกษุณีณัฐทิพย์ ทั้งสองท่าน ก็ล้วนแต่เป็น "ความหวัง" ของสตรีเพศทั่วประเทศไทย หวังว่าจะสามารถเรียกร้องสิทธิสตรีเพศเป็นภิกษุณีของไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้
แต่ถึงอย่างไร กรณีที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงว่า "ไม่ห้ามผู้ที่บวชภิกษุณีจากต่างประเทศมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย" นั่นถือว่าอันตราย เพราะการ "ไม่ห้าม" ก็คือการเปิดโอกาสโดยเสรี ซึ่งถ้ามีคนไม่มากก็คงไม่เท่าไหร่ แต่ปัจจุบัน เครือข่ายภิกษุณีผนวกเข้ากับองค์กรสตรีต่างๆ กระจายตัวไปทั่วประเทศ และสามารถได้รับการรับรองจากองค์กรต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปองค์กรเหล่านี้ก็สามารถจะ "ผนวกกัน" กลายเป็นพลังสำคัญที่มีเสียงดัง และอาจจะดังกว่ามหาเถรสมาคมด้วย อย่าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้
ที่มา... อลิตเติลบุดดะ.คอม
ภัยแบบนี้น่ากลัวที่สุดในบรรดาภัยที่มีต่อพระพุทธศาสนา เพราะมันเกิดจากภัยภายใน
กรณีห้ามบวชภิกษุณีในประเทศไทย
กลุ่มสตรียื่น สปช. ขอตีความ มติ มส.
"ขัดต่อรัฐธรรมนูญ"
กรณีห้ามบวชภิกษุณีในประเทศไทย
ถ้าชนะ ก็แสดงว่า มหาเถรสมาคม สิ้นอำนาจ
แต่ถ้าแพ้..งานนี้ ไม่รู้ว่าผู้ที่บวชภิกษุณีจะมีสถานะเป็นอะไร
หรือเป็นได้แค่เพียง..ภิกษุณีเถื่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อา..ร้อนฉ่าไปท้งมหาเถรสมาคมเลยล่ะทีนี้ นี่แหละคือฝีมือของ "ดร.ฉัตรสุมาลย์" เพราะถ้าไปบวชจากเมืองนอกมา ถือว่าไม่มีใครเห็น จึงเล่นของแรง ด้วยการนิมนต์พระสังฆราชศรีลังกามาบวชที่เมืองไทย จนจุดไฟในนาครได้ ใช้ดาราระดับ "สังฆราช" มาแสดง ไม่ดูภาพยนต์ไทยสายใหม่ สายพันธุ์ทาง ระหว่าง "ศรีลังกา-ไทย" ก็ให้มันรู้ไปสิ อิอิ !
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องพิจารณากันหลายยก สำคัญที่สุดก็คือ "มติของ สปช." ซึ่งอาจจะผ่านไปถึง "ศาลรัฐธรรมนูญ" อีกด้วย โดยนัยยะว่า ถ้า สปช. เสียงข้างมาก เห็นต่างจากมหาเถรสมาคม ก็จะสามารถผลักดันกฎหมาย "ให้ผู้ที่บวชภิกษุณีทั้งในและต่างประเทศเป็นนักบวชอย่างถูกต้อง" และ "รัฐต้องรับรอง" แต่ก็ต้องมองต่อไปว่า "จะให้ภิกษุณีอยู่ในการปกครองดูแลของใคร" เพราะมหาเถรสมาคมไม่รับรอง มหาเถรสมาคมรับรองเฉพาะ "ภิกษุ-สามเณร" รวมทั้งแม่ชีด้วยเท่านั้น นอกนั้นไม่รับรู้ แถมยังมีคำสั่งสมเด็จพระสังฆราช มติมหาเถรสมาคมอีกหลายวาระ ที่ห้ามไม่ให้ภิกษุรูปใดบวชภิกษุณีในประเทศไทย ใครฝ่าฝืนก็ถูกมหาเถรสมาคมลงโทษ
การเปิดกว้างของ สปช. ก็ต้องมองให้ดี อย่าคิดว่า "เปิดให้บวชเสรี" แล้วมันจะเสรีจริง ยังมีสิ่งที่ติดตามมาอีกมากมาย ขนาดคณะสงฆ์ไทยมีระเบียบการบวช ควบคุมทั้งเรื่องนิกาย วัด พระอุปัชฌาย์ และคุณสมบัติ อีกสารพัด แค่ไม่มีวัดอยู่เป็นหลักแหล่งก็จับสึกได้แล้ว แต่นี่จะเปิดให้บวชภิกษุณีโดยเสรี ทั้งๆ ที่ยังไม่มีอะไรเป็นมาตรการรองรับ นับว่าสุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายที่คาดไม่ถึง ถึงจะมองว่า "วิตกมากเกินไป ฯลฯ" แต่อย่างไรก็ต้อง..คิดให้รอบคอบ เพราะอำนาจที่หลุดมือไปแล้ว ย่อมไม่สามารถจะเรียกกลับคืนมา ไม่ว่ากรณีใดๆ
มองอีกมุมหนึ่งก็น่าเห็นใจ ภิกษุณีฉัตรสุมาลย์และภิกษุณีณัฐทิพย์ ทั้งสองท่าน ก็ล้วนแต่เป็น "ความหวัง" ของสตรีเพศทั่วประเทศไทย หวังว่าจะสามารถเรียกร้องสิทธิสตรีเพศเป็นภิกษุณีของไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้
แต่ถึงอย่างไร กรณีที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงว่า "ไม่ห้ามผู้ที่บวชภิกษุณีจากต่างประเทศมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไทย" นั่นถือว่าอันตราย เพราะการ "ไม่ห้าม" ก็คือการเปิดโอกาสโดยเสรี ซึ่งถ้ามีคนไม่มากก็คงไม่เท่าไหร่ แต่ปัจจุบัน เครือข่ายภิกษุณีผนวกเข้ากับองค์กรสตรีต่างๆ กระจายตัวไปทั่วประเทศ และสามารถได้รับการรับรองจากองค์กรต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปองค์กรเหล่านี้ก็สามารถจะ "ผนวกกัน" กลายเป็นพลังสำคัญที่มีเสียงดัง และอาจจะดังกว่ามหาเถรสมาคมด้วย อย่าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้
ที่มา... อลิตเติลบุดดะ.คอม
ภัยแบบนี้น่ากลัวที่สุดในบรรดาภัยที่มีต่อพระพุทธศาสนา เพราะมันเกิดจากภัยภายใน