เราเกิดมาในครอบครัวของคนหาเช้ากินค่ำ พ่อของเราอายุ 56 ปีในปีนี้
ตลอดระยะเวลาที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัวไม่มีวันไหนที่พ่อจะไม่เมา หรือจะมีก็น้อยมาก 30 วันใน 1 เดือน พ่อเราเมา 25 วันเห็นจะได้
จนวันนึงเมื่อแม่เราเริ่มไม่กลับบ้าน เราสามคนพี่น้องใช้ชีวิตกันเพียงลพำพัง
เราต้องกู้เงินเรียนปากกัดตีนถีบรวมทั้งหาเงินส่งน้องทั้งสองคนเรียนด้วย หน้าที่พ่อแม่พี่สาวผู้ปกครองคนรับใช้ของบ้านถูกโยนมาทางเราหมด
เคยแม้กระทั่งไปลงทะเบียนเรียนส่วนของตัวเองเสร็จก็วิ่งไปอีกตึกเป็นผู้ปกครองเซ็นต์ใบผ่อนผันค่าเล่าเรียนของน้อง
ในที่สุดพ่อกับแม่เราก็เลิกกัน แม่ไปมีครอบครัวใหม่
ยอมรับว่าตอนนั้นมันเคว้งพอสมควร เรากับน้องกำลังยุ่งๆเรื่องทำปัญหาพิเศษก่อนจบการศึกษา
เคยแม้กระทั่งนั่งกินข้าว มองหน้ากันแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
หลังจากนั้นเราเรียนจบได้พักสองวัน อาจารย์ก็บอกว่าเพื่อนเค้าหาพนักงงานอยู่
เราวาดหวังเงินเดือนสวยหรู ตัดสินใจมาทำงานเพื่อหวังหาเงินส่งกลับบ้าน
แน่นอนภาระของเราสองคนพี่น้องคือต้องส่งให้ทั้งพ่อและแม่ และเงินเดือนของเราช่วงทดลองงานคือ 4500 บาท รวมกันสองคนคือ 9000 ค่าเช่าหอ 1700 บาท ค่ากินค่าน้ำค่าไฟอีก
เป็นเรื่องยากสำหรับเราสองคนมากที่ไปแบบไม่มีอะไรเลย เรามีเงินแค่พอซื้อหม้อหุงข้าวถูกๆ 1 ใบ และข้าวสารครึ่งถัง เรากินเพียงข้าวสุกคลุกกับผงมาม่าที่คนในแล็ปทิ้ง
เรายังคงกัดฟันส่งเงินกลับบ้านและกินอยู่อย่างอดๆอยากๆจนกระทั่งเงินเดือนขึ้นเป็นหกพันบาท แต่สุดท้าย หลังจากใช้ชีวิตอดอยากและใช้ร่างกายเปลือง((เราทำงานหนักมาก)) ในที่สุดเราก็ป่วยหนัก เราตัดสินใจโทรบอกแม่ว่าให้มารับเราหน้อย เราขยับร่างกายไม่ได้ เราจะกลับมาตายที่บ้าน
แม่และน้องาวคนเล็กมารับเรา เราได่กลับบ้านสมใจแต่เราไม่ตาย เรายังคงเจ็บปวดทรมานกับความเจ็บไข้ได้ป่วย เราเข้าๆออกๆโรงพยาบาลจนบางครั้งเราก็คิดว่า พอเถอะเลิกรักษาเถอะ ให้มันจบแค่นี้แหล่ะเราจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด
แต่คนที่คอยดูและและอยู่เคียงข้างเราตลอดก็คือแม่
วันที่เราเจ็บปวดเราไม่มีแม้แต่แรงจะหายใจแม่พูดว่าลุกสิ สู้สิ ถ้าไม่ลุกขึ้นเองแล้วใครจะช่วย
เราลุกขึ้นยืนด้วยขาของตัวเองได้อีกครั้งเพราะคำพูดแม่
แม้จะเจ็บป่วยเจียนตายยังไงก็ไม่มีใครมาดูแลเราได้ตลอดเวลา แม่ต้องไปขายของหาเงินสำหรับใช้จ่ายในบ้าน
หลายปีผ่านไปอาการดีทรุดแล้วแต่สถานการณ์ เราขายของได้หลังจากครึ่งปีอันแสนทรมานผ่านไป
ภาระในบ้านค่อยๆผลักมาให้เราอย่างเนียนๆ ในบ้านของเรามีคนอยู่หลายคนแต่ค่าช้จ่ายจะกลายเป็นเราจ่ายซะส่วนใหญ่
เราเริ่ใเรียนรู้ที่จะถักงานโครเชต์เพื่อหารายได้เสริมซึ่งก็มีลูกค้าสั่งมาเรื่อยๆ เวลามีเงินเข้าบัญชีเรามีความสุขมาก เราคาดหวังว่าเราจะได้ซื้ออะไรอร่อยๆกินบ้าง ซื้อของดีๆบำรุงตัวเอง
แต่มันไม่เคยจะได้สมดังใจหรอกพอเราได้เงินแม่ก็จะมีเหตุให้ต้องใช้เงินเช่น
ไฟแนนซ์โทรมาทวงค่ารถถ้าไม่เอาปจ่ายวันนั้นวันนี้มันจะมายึด
เงินที่เราวาดฝันถึงของอร่อยๆก็จะกลายเป็นเงินที่จ่ายไฟแนนซ์
รวมทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน บางทีขับรถไปตลาดเจอคนรู้จักแม่ เค้าเข้ามาถามหาแม่แล้วตบท้ายด้วยแม่ไปยืมเงินเขาเท่านั้นเท่านี้
บางทีก็เจอเจ้ามือหวย แม่ซื้อหวยไปเท่านั้นเท่านี้((หลักพัน))
เราโกรธแม่นะ
เฮ๊ย เราป่วยนะเว๊ย ทำไมคนในบ้านเอาแต่เอาเปรียบเรา เราก็อยากมีเงินเก็บสำหรับรักษาตัวเหมือนกันนะเว๊ย
ไม่ค่ะ อย่าคิดว่าความลำบากจะทำให้เราท้อ เราม่ท้อ แม้บางครั้งเราอยากจะวีนแม่ อยากจะว่าแม่แรงๆ แต่เราก็ไม่ทำ เราเลือกที่จะเงียบแล้วก้มหน้าก้มตาถักตุ๊กตาไป
ใครจะสั่งสั่งมาเลยจ้า ถักๆๆๆ วดข้อนั่งร้องไก้ก็ยังถัก เราอยากได้เงิน เราอยากมีเงินเก็บ
หลังๆเราเริ่มเขียนฟิคขายพวกแฟนคลับ
เรามีเงินเก็บสามหมื่นบาทจากการขายหนังสือ เราวาดหวังว่าเราจะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ไว้ทำงาน แต่เราก็ไม่ได้ซื้อ โรคเรากำเริบจนต้องเจาะไต เงินที่มีเก็บไว้หมดไปกับการเดินทางกินอยู่ในกรุงเทพระหว่างรักษาตัวที่ศิริราช
ไม่เป็นไรมันยังไม่ใช่วันของเราไม่ตายก็หาใหม่ได้
แต่จนถึงวันนี้เราก็ยังหาใหม่ไม่ได้ โชคดีที่คนรู้จักยกเน็ตบุ๊คเครื่องที่เค้าไม่ได้ใช้ให้เราไว้พิมพ์งานเราจึงมีคอมเล่นจนถึงปัจจุบันแม้แบตมันจะเสื่อมต้องชาร์ตตลอดเวลาแต่มันก็ยังใช้ได้
มาถึงแม่หลังๆแม่ไม่ค่อยอยุ่บ้านหลังจากแฟนเค้าตายผ่านไปหลายปีเค้าก็มีคนใหม่ แต่ตอนนี้เราไม่เห็นเค้าคุยโทรศัพท์เหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ มีความสงสัยว่าเลิกกันแล้ว แต่แม่ก็ทิ้งทุกอย่างให้เราอย่างสมบูรณ์ ภาระทุกอย่างประดังเข้าหาเราที่ป่วย กลายเป็นว่าเราเป็นคนแบกทุกสิ่งอย่าง
เราโกรธนะแต่เราไม่เคยแช่งให้แม่ไปตาย
เพราะว่าเรามีแม่แค่คนเดียว ตายแล้วหาแม่มาเปลี่ยนไม่ได้
ถึงแม้แม่จะชอบขโมยเงินเรา เราก็ไม่เคยอยากให้แม่ตาย เพราะว่าแม่มีแค่คนเดียว ตายไปหาแม่ใหม่แทนไม่ได้
บางครั้งเราก็เบิ่อนะที่แม่เอาแต่สร้างภาระให้เรา เราอยากให้แม่คิดบ้างว่าเราเหนื่อยเราอยากพักผ่อนแบบคนป่วยคนอื่นบ้าง
ทุกวันนี้เราตั้งนั่งถักตุ๊กตาหลังขดหลังแข็งนอนตีสามตื่นหกโมงแทบทุกวันเพื่อที่จะหาเงินมาถมทะเลที่ไม่เคยเต็มของแม่
เราเหนื่อย แต่เราก็ไม่อยากให้แม่เราตาย เพราะแม่เรามีแค่คนเดียว ถึงจะโกรธบางครั้งก็เหมือนจะเกลียดแต่ความรักที่เรามีให้แม่มันก็มากกว่าความรู้สึกพวกนั้น
วันที่เราเกิดแม่เลี้ยงเรามาเช็ดอึเช็ดฉี่ป้อนข้าวป้อนน้ำ ตอนนี้เรากำลังจ่ายค่าแรงส่วนนั้นให้แม่อยู่
วันที่โรงเรียนเปิดเทอมค่ากระเป๋าเสื้อผ้าค่าเทอมมันคือทองหนักสองบาทที่แม่ถอดออกขายให้พวกเราสามคนได้เรียน เงินที่จ่ายใช้หนี้ให้แม่ในตอนนี้คือค่าทองเส้นนั้น
ตอนที่เราป่วยเข้าโรงพยาบาลนานนับเดือน คนที่คอยเข็นลูกสาวอ้วนๆเข้าห้องน้ำ เช็ดอึเช็ดฉี่ที่เราอั้นไม่อยู่ เช็ดเนื้อเช็ดตัวทำความสะอาด อดหลับอดนอนเฝ้าเราคือแม่ เงินที่เราจ่ายทุกอย่างในบ้านตอนนี้ค่าค่าจ้างเฝ้าไข้ในตอนนั้น
ถึงแม่เราจะไม่ดี ปากจัด พูดอะไรไม่คิด ชอบหลงไปกับแสงสีและคำพูดยุแหย่ของใคร แต่เราก็ไม่อยากให้แม่ตาย
เรายังอยากให้เค้ามานอนบ่นไม่มีเงินให้เราฟังอยู่
เพราะโลกนี้ของเรามีแค่แม่...
เจ็บได้แต่แม่อย่าเพิ่งตายนะ...
อย่าเป็นอะไรไปก่อนหนู...
เพราะโลกของหนูมันมีแค่แม่ถึงโลกของแม่จะมีคนมากมายก็ตาม...
แม่ของเรากำลังจะอายุ 54 ปี ในวันที่ 24 ธันวาคม
แม่ของเราเป็นผู้หญิงจู้จี้ขี้บ่านและน่ารำคาญที่สุด
บางครั้งเวลาแม่พูดมากเราก็อยากจะบอกให้แม่หุบปากไปซะแต่เวลาที่แม่ไม่อยู่ บ้านเรามันเงียบมากแม่รุ้มั๊ย
ถึงแม่จะชอบขโมยเงินหนู แต่มันก็ยังดีกว่าวันนึงต่อให้วางเงินไว้เป็นแวนแต่ไม่มีแม่มาคอยถามว่าเงินค่าอะไรใช้ได้มั๊ย
แม่..หนูกำลังพยายามอยู่นะ
บ้านของเราไม่มีหม้อหุงข้าว เราก็พยายามเก็บเงินอยู่ สำหรับคนอื่นเงินแค่พันกว่าบาทอาจไม่มากแต่สำหรับเรามันเยอะนะ เราบอกกับแม่ไว้ว่าถ้ามีคนสั่งตุ๊กตาได้เงินช่วงปีใหม่เราไปเลือกซื้อหม้อหุงข้าวกันนะ
บ้านของเราไม่มีตู้เย็น เราบอกแม่ว่า รออีกหน่อยนะแม่ตู้เย็นมันหลายพัน ต้องเก็บเงินนานเลย
ถึงบ้านเราจะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรนอกจากคอมเก่าๆกับทีวีเก่าๆ แต่แค่มีแม่มันก็ไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาอำนวยความสะดวกมากมายนัก
แค่มีแม่ คนเดียวก็พอ
อย่าตายก่อนหนูนะแม่นะ ให้หนูตายก่อน
หนูรักแม่อยากให้แม่มีความสุขที่สุดที่มีหนูเป็นลูกนะ
สำหรับเราแม่ไม่ใช่ภาระแต่เป็นพระที่มีไว้ให้ทำบุญได้ในบ้าน
เพียงแต่ว่าพระของเราต้องการปัจจัยเยอะพอสมควร 55555555
ถึงแม้แม่เราจะสร้างปัญหาและภาระมาให้ตลอดเวลา แต่เราก็รักแม่ของเราที่สุดในโลก
ตลอดระยะเวลาที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัวไม่มีวันไหนที่พ่อจะไม่เมา หรือจะมีก็น้อยมาก 30 วันใน 1 เดือน พ่อเราเมา 25 วันเห็นจะได้
จนวันนึงเมื่อแม่เราเริ่มไม่กลับบ้าน เราสามคนพี่น้องใช้ชีวิตกันเพียงลพำพัง
เราต้องกู้เงินเรียนปากกัดตีนถีบรวมทั้งหาเงินส่งน้องทั้งสองคนเรียนด้วย หน้าที่พ่อแม่พี่สาวผู้ปกครองคนรับใช้ของบ้านถูกโยนมาทางเราหมด
เคยแม้กระทั่งไปลงทะเบียนเรียนส่วนของตัวเองเสร็จก็วิ่งไปอีกตึกเป็นผู้ปกครองเซ็นต์ใบผ่อนผันค่าเล่าเรียนของน้อง
ในที่สุดพ่อกับแม่เราก็เลิกกัน แม่ไปมีครอบครัวใหม่
ยอมรับว่าตอนนั้นมันเคว้งพอสมควร เรากับน้องกำลังยุ่งๆเรื่องทำปัญหาพิเศษก่อนจบการศึกษา
เคยแม้กระทั่งนั่งกินข้าว มองหน้ากันแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
หลังจากนั้นเราเรียนจบได้พักสองวัน อาจารย์ก็บอกว่าเพื่อนเค้าหาพนักงงานอยู่
เราวาดหวังเงินเดือนสวยหรู ตัดสินใจมาทำงานเพื่อหวังหาเงินส่งกลับบ้าน
แน่นอนภาระของเราสองคนพี่น้องคือต้องส่งให้ทั้งพ่อและแม่ และเงินเดือนของเราช่วงทดลองงานคือ 4500 บาท รวมกันสองคนคือ 9000 ค่าเช่าหอ 1700 บาท ค่ากินค่าน้ำค่าไฟอีก
เป็นเรื่องยากสำหรับเราสองคนมากที่ไปแบบไม่มีอะไรเลย เรามีเงินแค่พอซื้อหม้อหุงข้าวถูกๆ 1 ใบ และข้าวสารครึ่งถัง เรากินเพียงข้าวสุกคลุกกับผงมาม่าที่คนในแล็ปทิ้ง
เรายังคงกัดฟันส่งเงินกลับบ้านและกินอยู่อย่างอดๆอยากๆจนกระทั่งเงินเดือนขึ้นเป็นหกพันบาท แต่สุดท้าย หลังจากใช้ชีวิตอดอยากและใช้ร่างกายเปลือง((เราทำงานหนักมาก)) ในที่สุดเราก็ป่วยหนัก เราตัดสินใจโทรบอกแม่ว่าให้มารับเราหน้อย เราขยับร่างกายไม่ได้ เราจะกลับมาตายที่บ้าน
แม่และน้องาวคนเล็กมารับเรา เราได่กลับบ้านสมใจแต่เราไม่ตาย เรายังคงเจ็บปวดทรมานกับความเจ็บไข้ได้ป่วย เราเข้าๆออกๆโรงพยาบาลจนบางครั้งเราก็คิดว่า พอเถอะเลิกรักษาเถอะ ให้มันจบแค่นี้แหล่ะเราจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด
แต่คนที่คอยดูและและอยู่เคียงข้างเราตลอดก็คือแม่
วันที่เราเจ็บปวดเราไม่มีแม้แต่แรงจะหายใจแม่พูดว่าลุกสิ สู้สิ ถ้าไม่ลุกขึ้นเองแล้วใครจะช่วย
เราลุกขึ้นยืนด้วยขาของตัวเองได้อีกครั้งเพราะคำพูดแม่
แม้จะเจ็บป่วยเจียนตายยังไงก็ไม่มีใครมาดูแลเราได้ตลอดเวลา แม่ต้องไปขายของหาเงินสำหรับใช้จ่ายในบ้าน
หลายปีผ่านไปอาการดีทรุดแล้วแต่สถานการณ์ เราขายของได้หลังจากครึ่งปีอันแสนทรมานผ่านไป
ภาระในบ้านค่อยๆผลักมาให้เราอย่างเนียนๆ ในบ้านของเรามีคนอยู่หลายคนแต่ค่าช้จ่ายจะกลายเป็นเราจ่ายซะส่วนใหญ่
เราเริ่ใเรียนรู้ที่จะถักงานโครเชต์เพื่อหารายได้เสริมซึ่งก็มีลูกค้าสั่งมาเรื่อยๆ เวลามีเงินเข้าบัญชีเรามีความสุขมาก เราคาดหวังว่าเราจะได้ซื้ออะไรอร่อยๆกินบ้าง ซื้อของดีๆบำรุงตัวเอง
แต่มันไม่เคยจะได้สมดังใจหรอกพอเราได้เงินแม่ก็จะมีเหตุให้ต้องใช้เงินเช่น
ไฟแนนซ์โทรมาทวงค่ารถถ้าไม่เอาปจ่ายวันนั้นวันนี้มันจะมายึด
เงินที่เราวาดฝันถึงของอร่อยๆก็จะกลายเป็นเงินที่จ่ายไฟแนนซ์
รวมทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน บางทีขับรถไปตลาดเจอคนรู้จักแม่ เค้าเข้ามาถามหาแม่แล้วตบท้ายด้วยแม่ไปยืมเงินเขาเท่านั้นเท่านี้
บางทีก็เจอเจ้ามือหวย แม่ซื้อหวยไปเท่านั้นเท่านี้((หลักพัน))
เราโกรธแม่นะ
เฮ๊ย เราป่วยนะเว๊ย ทำไมคนในบ้านเอาแต่เอาเปรียบเรา เราก็อยากมีเงินเก็บสำหรับรักษาตัวเหมือนกันนะเว๊ย
ไม่ค่ะ อย่าคิดว่าความลำบากจะทำให้เราท้อ เราม่ท้อ แม้บางครั้งเราอยากจะวีนแม่ อยากจะว่าแม่แรงๆ แต่เราก็ไม่ทำ เราเลือกที่จะเงียบแล้วก้มหน้าก้มตาถักตุ๊กตาไป
ใครจะสั่งสั่งมาเลยจ้า ถักๆๆๆ วดข้อนั่งร้องไก้ก็ยังถัก เราอยากได้เงิน เราอยากมีเงินเก็บ
หลังๆเราเริ่มเขียนฟิคขายพวกแฟนคลับ
เรามีเงินเก็บสามหมื่นบาทจากการขายหนังสือ เราวาดหวังว่าเราจะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ไว้ทำงาน แต่เราก็ไม่ได้ซื้อ โรคเรากำเริบจนต้องเจาะไต เงินที่มีเก็บไว้หมดไปกับการเดินทางกินอยู่ในกรุงเทพระหว่างรักษาตัวที่ศิริราช
ไม่เป็นไรมันยังไม่ใช่วันของเราไม่ตายก็หาใหม่ได้
แต่จนถึงวันนี้เราก็ยังหาใหม่ไม่ได้ โชคดีที่คนรู้จักยกเน็ตบุ๊คเครื่องที่เค้าไม่ได้ใช้ให้เราไว้พิมพ์งานเราจึงมีคอมเล่นจนถึงปัจจุบันแม้แบตมันจะเสื่อมต้องชาร์ตตลอดเวลาแต่มันก็ยังใช้ได้
มาถึงแม่หลังๆแม่ไม่ค่อยอยุ่บ้านหลังจากแฟนเค้าตายผ่านไปหลายปีเค้าก็มีคนใหม่ แต่ตอนนี้เราไม่เห็นเค้าคุยโทรศัพท์เหมือนตอนจีบกันใหม่ๆ มีความสงสัยว่าเลิกกันแล้ว แต่แม่ก็ทิ้งทุกอย่างให้เราอย่างสมบูรณ์ ภาระทุกอย่างประดังเข้าหาเราที่ป่วย กลายเป็นว่าเราเป็นคนแบกทุกสิ่งอย่าง
เราโกรธนะแต่เราไม่เคยแช่งให้แม่ไปตาย
เพราะว่าเรามีแม่แค่คนเดียว ตายแล้วหาแม่มาเปลี่ยนไม่ได้
ถึงแม้แม่จะชอบขโมยเงินเรา เราก็ไม่เคยอยากให้แม่ตาย เพราะว่าแม่มีแค่คนเดียว ตายไปหาแม่ใหม่แทนไม่ได้
บางครั้งเราก็เบิ่อนะที่แม่เอาแต่สร้างภาระให้เรา เราอยากให้แม่คิดบ้างว่าเราเหนื่อยเราอยากพักผ่อนแบบคนป่วยคนอื่นบ้าง
ทุกวันนี้เราตั้งนั่งถักตุ๊กตาหลังขดหลังแข็งนอนตีสามตื่นหกโมงแทบทุกวันเพื่อที่จะหาเงินมาถมทะเลที่ไม่เคยเต็มของแม่
เราเหนื่อย แต่เราก็ไม่อยากให้แม่เราตาย เพราะแม่เรามีแค่คนเดียว ถึงจะโกรธบางครั้งก็เหมือนจะเกลียดแต่ความรักที่เรามีให้แม่มันก็มากกว่าความรู้สึกพวกนั้น
วันที่เราเกิดแม่เลี้ยงเรามาเช็ดอึเช็ดฉี่ป้อนข้าวป้อนน้ำ ตอนนี้เรากำลังจ่ายค่าแรงส่วนนั้นให้แม่อยู่
วันที่โรงเรียนเปิดเทอมค่ากระเป๋าเสื้อผ้าค่าเทอมมันคือทองหนักสองบาทที่แม่ถอดออกขายให้พวกเราสามคนได้เรียน เงินที่จ่ายใช้หนี้ให้แม่ในตอนนี้คือค่าทองเส้นนั้น
ตอนที่เราป่วยเข้าโรงพยาบาลนานนับเดือน คนที่คอยเข็นลูกสาวอ้วนๆเข้าห้องน้ำ เช็ดอึเช็ดฉี่ที่เราอั้นไม่อยู่ เช็ดเนื้อเช็ดตัวทำความสะอาด อดหลับอดนอนเฝ้าเราคือแม่ เงินที่เราจ่ายทุกอย่างในบ้านตอนนี้ค่าค่าจ้างเฝ้าไข้ในตอนนั้น
ถึงแม่เราจะไม่ดี ปากจัด พูดอะไรไม่คิด ชอบหลงไปกับแสงสีและคำพูดยุแหย่ของใคร แต่เราก็ไม่อยากให้แม่ตาย
เรายังอยากให้เค้ามานอนบ่นไม่มีเงินให้เราฟังอยู่
เพราะโลกนี้ของเรามีแค่แม่...
เจ็บได้แต่แม่อย่าเพิ่งตายนะ...
อย่าเป็นอะไรไปก่อนหนู...
เพราะโลกของหนูมันมีแค่แม่ถึงโลกของแม่จะมีคนมากมายก็ตาม...
แม่ของเรากำลังจะอายุ 54 ปี ในวันที่ 24 ธันวาคม
แม่ของเราเป็นผู้หญิงจู้จี้ขี้บ่านและน่ารำคาญที่สุด
บางครั้งเวลาแม่พูดมากเราก็อยากจะบอกให้แม่หุบปากไปซะแต่เวลาที่แม่ไม่อยู่ บ้านเรามันเงียบมากแม่รุ้มั๊ย
ถึงแม่จะชอบขโมยเงินหนู แต่มันก็ยังดีกว่าวันนึงต่อให้วางเงินไว้เป็นแวนแต่ไม่มีแม่มาคอยถามว่าเงินค่าอะไรใช้ได้มั๊ย
แม่..หนูกำลังพยายามอยู่นะ
บ้านของเราไม่มีหม้อหุงข้าว เราก็พยายามเก็บเงินอยู่ สำหรับคนอื่นเงินแค่พันกว่าบาทอาจไม่มากแต่สำหรับเรามันเยอะนะ เราบอกกับแม่ไว้ว่าถ้ามีคนสั่งตุ๊กตาได้เงินช่วงปีใหม่เราไปเลือกซื้อหม้อหุงข้าวกันนะ
บ้านของเราไม่มีตู้เย็น เราบอกแม่ว่า รออีกหน่อยนะแม่ตู้เย็นมันหลายพัน ต้องเก็บเงินนานเลย
ถึงบ้านเราจะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรนอกจากคอมเก่าๆกับทีวีเก่าๆ แต่แค่มีแม่มันก็ไม่จำเป็นต้องมีอะไรมาอำนวยความสะดวกมากมายนัก
แค่มีแม่ คนเดียวก็พอ
อย่าตายก่อนหนูนะแม่นะ ให้หนูตายก่อน
หนูรักแม่อยากให้แม่มีความสุขที่สุดที่มีหนูเป็นลูกนะ
สำหรับเราแม่ไม่ใช่ภาระแต่เป็นพระที่มีไว้ให้ทำบุญได้ในบ้าน
เพียงแต่ว่าพระของเราต้องการปัจจัยเยอะพอสมควร 55555555