http://www.ryt9.com/s/iq10/2041982
http://www.ryt9.com/s/prg/2019474
LOXLEY หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 1.7 หมื่นลบ. มั่นใจกำไรปกติดีกว่าปีก่อน ดัน'ล็อกซเล่ย์ ไวเลส' เข้า SET ใน Q1/58
Print
Email
DetailsCategory: บริษัทจดทะเบียน Published: 27 August 2014
LOXLEY หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 1.7 หมื่นลบ. มั่นใจกำไรปกติดีกว่าปีก่อน ดัน'ล็อกซเล่ย์ ไวเลส' เข้า SET ใน Q1/58
LOXLEY หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 1.7 หมื่นลบ. จาก 1.8 หมื่นลบ. ชี้การเมืองกระทบงานภาครัฐครึ่งปีแรก แต่ยังมี Backlog 9.4 พันลบ. รับรู้ปีนี้ 63% มั่นใจกำไรปกติปีนี้ดีกว่าปีก่อน หลังคุมค่าใช้จ่ายลดลง 10% ขณะที่กำไรสุทธิจะลดลง เหตุปี 56 มีรายการพิเศษ เผยเข้าประมูลโครงการทั้งใน-ตปท.ปีนี้ 3 หมื่นลบ. คาดได้งาน 50% ขณะที่คาดว่าจะยื่นไฟลิ่ง'ล็อกซเล่ย์ ไวเลส'ภายในปีนี้ หวังเข้าเทรด SET ใน Q1/58 และเตรียมปัดฝุ่นขาย PO ภายในปีนี้
นายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดเผยว่า ปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้เหลือ 1.7 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาทเนื่องจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากงานโครงการลงทุนของภาครัฐที่ไม่มีออกมาในครึ่งปีแรก โดยบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากงานภาครัฐถึง 61%
อย่างไรก็ตาม รายได้ในปีนี้ยังถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่มีรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังงานโครงการของภาครัฐจะกลับมาได้ปกติหลังมีรัฐบาลชุดใหม่ ประกอบกับปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 9,400 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ปีนี้ 63% ที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2559
นายเฉลิมโชค มั่นใจว่ากำไรปกติปีนี้จะดีกว่าปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 410 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายให้ลดลง 10%
ส่วนกำไรสุทธิในปีนี้จะปรับตัวลดลง เนื่องจากในปี 2556 มีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เพิ่มเข้ามาจำนวน 180 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯเข้าประมูลงานโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ราว 30,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้งานประมาณ 50% แบ่งเป็นธุรกิจงานโครงการ 22,346 ล้านบาท โดยหลัก ๆจะประกอบไปด้วย งานประมูลที่เกี่ยวกับสนามบิน 10,000 ล้านบาท งานดิจิทัลทีวี 3,780 ล้านบาท งานระบบไอซีที 1,787 ล้านบาท งานสายส่งไฟฟ้า 1,890 ล้านบาท งานสถานีไฟฟ้าย่อย 1,430 ล้านบาท และงานวัสดุก่อสร้างอีก 580 ล้านบาท
และยังมีงานโครงการกลุ่มประเทศ AEC ซึ่งปัจจุบันได้มีการศึกษาโครงการต่าง ๆในประเทศที่สำคัญ เช่น ในประเทศพม่า ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยจะเน้นโครงการด้านการสื่อสารที่ยังมีความต้องการสูง เพื่อรองรับการขยายตัวในประเทศ
ด้านกลุ่ม ล็อกซเล่ย์ อินเตอร์เทรด ได้เข้าไปลงทุนในเมืองกวางโจ ประเทศจีน และในกลุ่ม AEC ซึ่งได้แก่ ลาว เวียดนาม กัมพูชา และพม่า โดยจะเข้าไปขยายธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และเคมีภัณฑ์ กลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้าง กลุ่มอุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งในปัจจุบันได้เข้าไปสร้าง Thai Corner ในร้านค้าในสถานีน้ำมันของกลุ่ม ไซโนเปค เกือบ 600 สาขา และจัดจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรด เกือบ 100 ร้านค้า รวมทั้งในประเทศพม่าที่จะนำกลุ่มสินค้าในกลุ่มน้ำมันหล่อลื่น และกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์เข้าไป โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศพม่า นอกจากนี้ ยังมีงานธุรกิจบริการที่เน้นการรักษาความปลอดภัยครบวงจร โดยมี 2 ฐานลูกค้าหลัก คือลูกค้ากลุ่มสนามบิน และลูกค้าเอกชนทั่วไป
นายเฉลิมโชค กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการพลังงานลมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขนาด 7 เมกะวัตต์ โดยจะใช้งบลงทุน 60-70 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัทลูก คือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ ไวเลส จำกัด (มหาชน) ได้ภายในปีนี้ และหวังว่าจะเข้าเทรดใน SET ได้ในช่วงไตรมาส 1/2558 โดยมี บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 165 ล้านหุ้น คาดว่าจะเสนอขายได้ภายในปีนี้ เพื่อระดมทุนไปลงทุนขยายกิจการ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโครงการโรงไฟฟ้าจากเศษไม้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการขอขยายระยะเวลาแจกวอร์แรนต์ ที่จะขออนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 ก.ย. นี้
LOXLEY จะแจกวอร์แรนต์ให้กับผู้ที่จองซื้อหุ้น PO ในอัตรา 4 ต่อ 1 ซึ่งผู้ถือหุ้นอนุมัติตั้งแต่เดือน เม.ย. 2556 ซึ่งเกินกว่า 1 ปีแล้ว จึงต้องขออนุมัติขยายเวลาออกวอแรนต์ดังกล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
LOXLEY ลดเป้ารายได้ปีนี้แต่มั่นใจกำไรปกติสูงกว่าปีก่อน,ส่งบ.ย่อยเข้าตลาดหุ้น Q1/58
นายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์(LOXLEY) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ในปีนี้ลงเหลือ 1.7 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ทำให้งานภาครัฐส่วนใหญ่ชะลอออกไป โดยงานภาครัฐสร้างรายได้หลักในสัดส่วน 67% ของรายได้รวม แต่อย่างไรก็ตาม รายได้ในปีนี้ก็ยังเพิ่มขึ้นราว 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 15,962 ล้านบาท
แต่ในแง่ของกำไรปกติคาดว่าจะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 410 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน 180 ล้านบาท) เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายลงราว 10%
อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายลงไป ทำให้ขณะนี้เริ่มมีงานออกมาบ้างแล้ว บริษัทจึงเตรียมเข้าประมูลงานมูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง คาดหวังจะได้รับงานใหม่ราว 50% ของมูลค่างานทั้งหมด แบ่งเป็นงานโครงการมูลค่า 22,346 ล้านบาท ซึ่งงานหลักๆ ประกอบด้วย งานประมูลที่เกี่ยวกับสนามบิน 10,000 ล้านบาท,งานดิจิตอลทีวี 3,780 ล้านบาท งานระบบไอซีที 1,787 ล้านบาท งานสายส่งไฟฟ้า 1,890 ล้านบาท,งานสถานีไฟฟ้าย่อย 1,430 ล้านบาท และงานวัสดุก่อสร้างอีก 580 ล้านบาท รวมถึงธุรกิจการค้าและการบริการที่มีฐานรายได้ที่เป็นรายได้ประจำอีก 2,500 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทมีงานในมือ(backlog)อยู่แล้ว 9.4 หมื่นล้านบาทที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 63% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯถึงปี 59
ด้านกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเข้าขยายธุรกิจในพม่า ลาว เวียดนาม และจีน โดยเฉพาะจีน บริษัทได้เข้าไปสร้าง Thai corner ในสถานีน้ำมันของกลุ่มซิโนเปคเกือบ 600 สาขา และตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 2,000 สาขา รวมทั้งมีการจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรดกว่า 100 ร้านค้า ส่วนในพม่านำสินค้าในกลุ่มน้ำมันหล่อลื่นและกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์เข้าไปจำหน่าย โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำในท้องถิ่น
นายเฉลิมโชค กล่าวถึงแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ LOXLEY ให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 165 ล้านหุ้นว่า ก.ล.ต.อนุมัติเมื่อวันที่ 4 เม.ย.56 ซึ่งบริษัทฯจะมีการแจกใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrant) ให้กับผู้ที่ซื้อหุ้น PO ในอัตรา 4:1 ดังนั้น บรัทจึงจะขออนุมัติขยายระยะเวลา warrant ออกไปในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 12 ก.ย.57 เพื่อให้สอดคล้องกับการเสนอขายหุ้น PO
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นดังกล่าวได้ภายในปีนี้ เพื่อระดมทุนส่วนหนึ่งไปลงทุนขยายกิจการด้านพลังงาน เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และพลังงานไฟฟ้าจากเศษไม้ ซึ่งขณะนี้โรงไฟฟ้าพลังงานลมยังอยู่ระหว่างวัดระดับแรงลม หลังจากติดตั้งเสาแล้วใน 3 จังหวัด คือ นครราชสีมา นครศรีธรรมราช และระยอง คาดว่าจะเห็นที่นครศรีธรรมราชก่อนเป็นที่แรก ขนาดกำลังผลิตแห่งละ 7 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 60-70 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์
ส่วนแผนการนำ บมจ.ล็อกเลย์ ไวร์เลส (LW) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ภายในปีนี้ และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ไตรมาส 1/58
อินโฟเควสท์
http://www.loxley.co.th/news-event-detail.html/414#
LOXLEY ราคาลงมาต่ำมากๆ
http://www.ryt9.com/s/prg/2019474
LOXLEY หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 1.7 หมื่นลบ. มั่นใจกำไรปกติดีกว่าปีก่อน ดัน'ล็อกซเล่ย์ ไวเลส' เข้า SET ใน Q1/58
Print
Email
DetailsCategory: บริษัทจดทะเบียน Published: 27 August 2014
LOXLEY หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 1.7 หมื่นลบ. มั่นใจกำไรปกติดีกว่าปีก่อน ดัน'ล็อกซเล่ย์ ไวเลส' เข้า SET ใน Q1/58
LOXLEY หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 1.7 หมื่นลบ. จาก 1.8 หมื่นลบ. ชี้การเมืองกระทบงานภาครัฐครึ่งปีแรก แต่ยังมี Backlog 9.4 พันลบ. รับรู้ปีนี้ 63% มั่นใจกำไรปกติปีนี้ดีกว่าปีก่อน หลังคุมค่าใช้จ่ายลดลง 10% ขณะที่กำไรสุทธิจะลดลง เหตุปี 56 มีรายการพิเศษ เผยเข้าประมูลโครงการทั้งใน-ตปท.ปีนี้ 3 หมื่นลบ. คาดได้งาน 50% ขณะที่คาดว่าจะยื่นไฟลิ่ง'ล็อกซเล่ย์ ไวเลส'ภายในปีนี้ หวังเข้าเทรด SET ใน Q1/58 และเตรียมปัดฝุ่นขาย PO ภายในปีนี้
นายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดเผยว่า ปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้เหลือ 1.7 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาทเนื่องจากบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากงานโครงการลงทุนของภาครัฐที่ไม่มีออกมาในครึ่งปีแรก โดยบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากงานภาครัฐถึง 61%
อย่างไรก็ตาม รายได้ในปีนี้ยังถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่มีรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังงานโครงการของภาครัฐจะกลับมาได้ปกติหลังมีรัฐบาลชุดใหม่ ประกอบกับปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 9,400 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ปีนี้ 63% ที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2559
นายเฉลิมโชค มั่นใจว่ากำไรปกติปีนี้จะดีกว่าปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 410 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายให้ลดลง 10%
ส่วนกำไรสุทธิในปีนี้จะปรับตัวลดลง เนื่องจากในปี 2556 มีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เพิ่มเข้ามาจำนวน 180 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯเข้าประมูลงานโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ราว 30,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้งานประมาณ 50% แบ่งเป็นธุรกิจงานโครงการ 22,346 ล้านบาท โดยหลัก ๆจะประกอบไปด้วย งานประมูลที่เกี่ยวกับสนามบิน 10,000 ล้านบาท งานดิจิทัลทีวี 3,780 ล้านบาท งานระบบไอซีที 1,787 ล้านบาท งานสายส่งไฟฟ้า 1,890 ล้านบาท งานสถานีไฟฟ้าย่อย 1,430 ล้านบาท และงานวัสดุก่อสร้างอีก 580 ล้านบาท
และยังมีงานโครงการกลุ่มประเทศ AEC ซึ่งปัจจุบันได้มีการศึกษาโครงการต่าง ๆในประเทศที่สำคัญ เช่น ในประเทศพม่า ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยจะเน้นโครงการด้านการสื่อสารที่ยังมีความต้องการสูง เพื่อรองรับการขยายตัวในประเทศ
ด้านกลุ่ม ล็อกซเล่ย์ อินเตอร์เทรด ได้เข้าไปลงทุนในเมืองกวางโจ ประเทศจีน และในกลุ่ม AEC ซึ่งได้แก่ ลาว เวียดนาม กัมพูชา และพม่า โดยจะเข้าไปขยายธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และเคมีภัณฑ์ กลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้าง กลุ่มอุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งในปัจจุบันได้เข้าไปสร้าง Thai Corner ในร้านค้าในสถานีน้ำมันของกลุ่ม ไซโนเปค เกือบ 600 สาขา และจัดจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรด เกือบ 100 ร้านค้า รวมทั้งในประเทศพม่าที่จะนำกลุ่มสินค้าในกลุ่มน้ำมันหล่อลื่น และกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์เข้าไป โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศพม่า นอกจากนี้ ยังมีงานธุรกิจบริการที่เน้นการรักษาความปลอดภัยครบวงจร โดยมี 2 ฐานลูกค้าหลัก คือลูกค้ากลุ่มสนามบิน และลูกค้าเอกชนทั่วไป
นายเฉลิมโชค กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาโครงการพลังงานลมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขนาด 7 เมกะวัตต์ โดยจะใช้งบลงทุน 60-70 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัทลูก คือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ ไวเลส จำกัด (มหาชน) ได้ภายในปีนี้ และหวังว่าจะเข้าเทรดใน SET ได้ในช่วงไตรมาส 1/2558 โดยมี บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 165 ล้านหุ้น คาดว่าจะเสนอขายได้ภายในปีนี้ เพื่อระดมทุนไปลงทุนขยายกิจการ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโครงการโรงไฟฟ้าจากเศษไม้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการขอขยายระยะเวลาแจกวอร์แรนต์ ที่จะขออนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 ก.ย. นี้
LOXLEY จะแจกวอร์แรนต์ให้กับผู้ที่จองซื้อหุ้น PO ในอัตรา 4 ต่อ 1 ซึ่งผู้ถือหุ้นอนุมัติตั้งแต่เดือน เม.ย. 2556 ซึ่งเกินกว่า 1 ปีแล้ว จึงต้องขออนุมัติขยายเวลาออกวอแรนต์ดังกล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
LOXLEY ลดเป้ารายได้ปีนี้แต่มั่นใจกำไรปกติสูงกว่าปีก่อน,ส่งบ.ย่อยเข้าตลาดหุ้น Q1/58
นายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์(LOXLEY) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ในปีนี้ลงเหลือ 1.7 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ทำให้งานภาครัฐส่วนใหญ่ชะลอออกไป โดยงานภาครัฐสร้างรายได้หลักในสัดส่วน 67% ของรายได้รวม แต่อย่างไรก็ตาม รายได้ในปีนี้ก็ยังเพิ่มขึ้นราว 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 15,962 ล้านบาท
แต่ในแง่ของกำไรปกติคาดว่าจะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 410 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุน 180 ล้านบาท) เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายลงราว 10%
อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายลงไป ทำให้ขณะนี้เริ่มมีงานออกมาบ้างแล้ว บริษัทจึงเตรียมเข้าประมูลงานมูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง คาดหวังจะได้รับงานใหม่ราว 50% ของมูลค่างานทั้งหมด แบ่งเป็นงานโครงการมูลค่า 22,346 ล้านบาท ซึ่งงานหลักๆ ประกอบด้วย งานประมูลที่เกี่ยวกับสนามบิน 10,000 ล้านบาท,งานดิจิตอลทีวี 3,780 ล้านบาท งานระบบไอซีที 1,787 ล้านบาท งานสายส่งไฟฟ้า 1,890 ล้านบาท,งานสถานีไฟฟ้าย่อย 1,430 ล้านบาท และงานวัสดุก่อสร้างอีก 580 ล้านบาท รวมถึงธุรกิจการค้าและการบริการที่มีฐานรายได้ที่เป็นรายได้ประจำอีก 2,500 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทมีงานในมือ(backlog)อยู่แล้ว 9.4 หมื่นล้านบาทที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 63% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯถึงปี 59
ด้านกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเข้าขยายธุรกิจในพม่า ลาว เวียดนาม และจีน โดยเฉพาะจีน บริษัทได้เข้าไปสร้าง Thai corner ในสถานีน้ำมันของกลุ่มซิโนเปคเกือบ 600 สาขา และตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 2,000 สาขา รวมทั้งมีการจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรดกว่า 100 ร้านค้า ส่วนในพม่านำสินค้าในกลุ่มน้ำมันหล่อลื่นและกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และชิ้นส่วนรถยนต์เข้าไปจำหน่าย โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำในท้องถิ่น
นายเฉลิมโชค กล่าวถึงแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ LOXLEY ให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 165 ล้านหุ้นว่า ก.ล.ต.อนุมัติเมื่อวันที่ 4 เม.ย.56 ซึ่งบริษัทฯจะมีการแจกใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrant) ให้กับผู้ที่ซื้อหุ้น PO ในอัตรา 4:1 ดังนั้น บรัทจึงจะขออนุมัติขยายระยะเวลา warrant ออกไปในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 12 ก.ย.57 เพื่อให้สอดคล้องกับการเสนอขายหุ้น PO
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นดังกล่าวได้ภายในปีนี้ เพื่อระดมทุนส่วนหนึ่งไปลงทุนขยายกิจการด้านพลังงาน เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และพลังงานไฟฟ้าจากเศษไม้ ซึ่งขณะนี้โรงไฟฟ้าพลังงานลมยังอยู่ระหว่างวัดระดับแรงลม หลังจากติดตั้งเสาแล้วใน 3 จังหวัด คือ นครราชสีมา นครศรีธรรมราช และระยอง คาดว่าจะเห็นที่นครศรีธรรมราชก่อนเป็นที่แรก ขนาดกำลังผลิตแห่งละ 7 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 60-70 ล้านบาทต่อ 1 เมกะวัตต์
ส่วนแผนการนำ บมจ.ล็อกเลย์ ไวร์เลส (LW) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ภายในปีนี้ และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ไตรมาส 1/58
อินโฟเควสท์
http://www.loxley.co.th/news-event-detail.html/414#