สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ขอแชร์นะคะ เคยกลัวการมีลูกแล้ว ลูกดื้อ ลูกซนมาก จนแทบไม่อยากมีลูกเพราะเป็นคนใจร้อน
แต่ พอมีแฟน ใหม่(ฝรั่ง) เขาช่วยเรื่องการปรับพฤติกรรมเด็ก ได้ดีมากๆ จากที่เคยกลัว ตอนนี้เสียดายที่มีอีกไม่ได้แล้ว(สามีเป็นหมันตั้งแต่เด็ก)
ตอนลูก สองขวบกว่าๆ เขาก้อเริ่มดื้อเริ่มซน ตามประสาเด็ก ตอนนั้นยังเลี้ยงลูกคนเดียว ก้อใช้วิธี ดุด้วยคำพูดบ้าง(พูดเสียงดัง) มีถือไม้ขู่บ้าง
และตีมือเบาๆถ้าเขาทำผิด แต่นิสัยนี้ก้อไม่หาย มีแต่จะแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง สามีมาช่วยปรับพฤติกรรม ดังนี้ค่ะ
-เราทั้งคู่ คุยกันและตกลงกันก่อนว่า ต้อง ฝึกเขาให้มีระเบียบวินัย( กิน เล่น ดูทีวี อาบน้ำและเข้านอนเป็นเวลา)
-จะมีการลงโทษ โดยการ หามุมให้เขานั่ง บนเก้าอี้(ไม่ใช่มุมมืด หรือขังในห้อง ต้องเป็นที่ๆปลอดภัยและเรามองเห็นได้ เช่นมุมห้องนั่งเล่น)
ข้อนี้สำคัญมาก เพราะแน่นอนว่า ช่วงแรกๆ ลูกต้องโดนทำโทษบ่อยๆ แล้วเขาก้อไม่ยอมนั่งที่มุมที่เราจัดให้ แต่ สามีไม่ให้ ใจอ่อน และไม่ให้อธิบายหลายครั้ง บอกเขาครั้งเดียวว่าทำผิดอะไร แล้วให้นั่งตรงนั้นจนกว่าจะยอมรับว่าผิดแล้วมาขอโทษ ตอนนั้นจึงจะอธิบายกับเขาดีๆ ข้อนี้ยากมาก แต่ต้องใจเย็นๆ ช่วงแรก ต้องทำเป้น สิบๆครั้ง คือเขาลุก ก้อจับเขาไปนั่งอีก อย่าดึงด อย่ากระชาก จับหรืออุ้มให้กลับไปนั่ง จนกว่าเขาจะเหนื่อยและยอมแพ้ สามีบอกว่า ข้อนี้จะเป็นตัวกำหนดขอบเขตให้ลูกรู้ว่า ใครมีอำนาจในบ้าน และลูกมีขอบเขตแค่ไหน ในการทำอะไรก้อตาม
เราเห็นลูกร้อง ช่วงแรกสงสารเขามาก จนจะทะเลาะ กับสามี แต่ ก้ออยากเห็นลูกเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่ายก้อเลย อดทน ตรงนี้ต้องระวังอย่าเถียงกันให้ลูกเห็นไม่เช่นนั้น เขาจะจับจุดเราได้ว่า ใครจะช่วยเขา แล้วมันจะไม่สำเร็จ
อีกอย่าง อันนี้ก้อสำคัญ เวลาคุยกับลูกให้ คุกเข่า ลงแล้ว มองตาลูกหรือจับเขามานั่งบนขา อย่ามองแบบโกรธ อย่าพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ พูดแบบนุ่มนวล อธิบาย ชัดๆว่าเขาผิดอะไร ตรงนี้เป็นจิตวิทยา อย่างนึงว่าทำให้เด็กรู้สึกว่า เราเท่ากับเขา อย่าทำให้เขากลัวเราแต่ทำให้เขาไว้ใจเรา และเชื่อใจเรา สามีและเราเล่นกับลูก เหมือนวัยเดียวกับเขา(เวลาเล่น ด้วยกัน เช่นเล่นซ่อนแอบบ้าง ขี่ม้า เล่นเจ้าหญิง เจ้าชาย และอื่นๆ บางทีก้อขำตัวเอง ทำไปได้ แต่เพื่อลูกน่ะนะ)
การให้ลูกมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆ มอบหน้าที่เล็กน้อยๆ ให้เขาทำเป้นประจำทุกวันเป็นการฝึกให้เขารู้จักหน้าที่และการรับผิดชอบ และปล่อยให้เขาเล่นซน บ้างตามประสาเขา อย่าห้ามทุกอย่างถ้าสิ่งนั้นไม่ทำให้เกิดอันตราย แต่อาจเลอะเทอะบ้าง ก้อปล่อย เพราะนี่คือ พฤติกรรมของเด็ก น้ำหก นมหก ทำความสะอาดได้ ไม่เป็นไร อ้อ แล้วควรฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองในหลายๆด้าน ถึงแม้เขาจะยังทำได้ไม่ดีพอก้อไม่เป็นไร เช่น กินข้าวเอง ใส่เสื้อผ้าเองเป็นต้น และอย่าเลี้ยงลูกให้กลัวเจ็บ หกล้ม เลือดออกนิดหน่อย เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กต้องเรียนรู้การเจ็บปวด แล้วเขาจะรู้เองว่า ต่อไปเขาจะไม่ทำอีก
หลังจากนั้นผ่านไป ประมาณ สองเดือน ลูกเรามีพฤติกรรม ดีขึ้นมาก สองขวบครึ่ง แยกห้องนอน นอนคนเดียวได้ เข้าห้องน้ำเองได้ ทุกอย่างเป็นระบบ แต่ทุก สามถึงสี่เดือน ก้อจะมีอาการดื้อ หลุดออกมาให้เห็นบ้าง แบบเรางง เลยว่าอ้าว อยู่ดีๆ วันนี้กลับ ดื้อแบบ หลุดโลกอีกแล้ว ร้องกรี๊ดๆ แต่ ก้อ กลับไปจุดเริ่มต้นใหม่ คือ นั่งมุมห้อง อีก จับกันเป็นสิบรอบเหมือนเดิม (ตรงนี้แฟนอธิบายว่า เป็นตามวัยของเขา เขารู้สึกว่าเขาโตขึ้น เขาควรจะมีขอบเขตมากกว่านี้ เขาก้อจะแสดงพฤติกรรมนี้เพื่อหาขอบเขต ว่าเขาทำอะไรได้มากแค่ไหน แบบว่า พ่อกับแม่ จะยอมเขาแค่ไหน)
และพฤติกรรมนี้ จะวนเวียน เกิดขึ้นแบบนี้แหละ ประปราย จนครั้งสุดท้าย ตอนเขาประมาณ ห้าขวบ ครึ่ง จากนั้น ก้อห่างมาก เจอปีละ ครั้งได้มั้ง จน ตอนนี้ จำได้ว่า ตั้งแต่เจ็ดขวบมา ไม่มีแล้ว ใช้แค่วิธี นั่งคุยกัน เขาก้อเข้าใจ ยอมรับว่า เราใจอ่อนหลายครั้งที่เห็นลูกร้องไห้ เคยทะเลาะกับสามีหลายครั้ง ด้วยคนเป็นแม่ อะนะ เห็นลูกร้องมากๆก้อสงสาร บางครั้ง เราคิดว่าเรื่องแค่นี้เอง(เช่น ลูกขอเข้านอน ช้าสักชั่วโมง) แต่สามีจะบอกว่า กฎก้อคือกฎ เวลาเขาเป็นเด็กดี ก้อพาเที่ยวทำกิจกรรมที่เขาชอบ แต่ไม่เน้น ของเล่นแพงๆนะ พาไปเที่ยวมากกว่าถือว่าเป็นรางวัลให้เขา
อีกอันนึงคือ ถ้ามีปู่ย่าตายาย อยู่ด้วยต้องคุยกันให้เข้าใจว่า เวลาทำโทษ อย่าเปลี่ยนกฏ ต้องทำเหมือนกัน ไม่เช่นนั้น จะยากมากๆ
และอย่า ตีลูก อย่าใช้กำลัง อันนี้ คือกฎเหล็ก การใช้ความรุนแรง กับเด็ก มีแต่ผลเสีย และเพิ่มแรงกดดันให้เขายอมเพราะกำลัง เด็กจะกลายเป็นคนโมโห ร้าย และไม่ดีต่อพฤติกรรมด้านอื่นๆ
ทุกวันนี้ภูมิใจ ในตัวลูกมากค่ะ แปดขวบแล้ว เป็นเด็ก ดี รู้จักหน้าที่และมีความรับผิดชอบ ตามวัย เข้านอน เป็นเวลา อ่านหนังสือทำการบ้าน ซ้อมไวโอลิน ทุกอดย่างเป้นระบบหมดเลย
แชร์ให้ฟังเผื่อจะนำไปปรับใช้ค่ะ สามีไม่เคยมีลูกมาก่อน แต่เขาบอกว่า เขาแค่ เอาใจเขาไปใส่ในใจลูกและคิดว่า ถ้าเขาเป็นเด็กวัยเท่าลูก เขาจะคิดอะไรและต้องการอะไร ที่สำคัญเขาให้ความอบอุ่น และความรักแก่ลูก มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะตอนเด็กมันคือสิ่งที่เขาโหยหามาตลอด เขาจึงทดแทนสิ่งนี้ให้ลูกค่ะ
แต่ พอมีแฟน ใหม่(ฝรั่ง) เขาช่วยเรื่องการปรับพฤติกรรมเด็ก ได้ดีมากๆ จากที่เคยกลัว ตอนนี้เสียดายที่มีอีกไม่ได้แล้ว(สามีเป็นหมันตั้งแต่เด็ก)
ตอนลูก สองขวบกว่าๆ เขาก้อเริ่มดื้อเริ่มซน ตามประสาเด็ก ตอนนั้นยังเลี้ยงลูกคนเดียว ก้อใช้วิธี ดุด้วยคำพูดบ้าง(พูดเสียงดัง) มีถือไม้ขู่บ้าง
และตีมือเบาๆถ้าเขาทำผิด แต่นิสัยนี้ก้อไม่หาย มีแต่จะแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง สามีมาช่วยปรับพฤติกรรม ดังนี้ค่ะ
-เราทั้งคู่ คุยกันและตกลงกันก่อนว่า ต้อง ฝึกเขาให้มีระเบียบวินัย( กิน เล่น ดูทีวี อาบน้ำและเข้านอนเป็นเวลา)
-จะมีการลงโทษ โดยการ หามุมให้เขานั่ง บนเก้าอี้(ไม่ใช่มุมมืด หรือขังในห้อง ต้องเป็นที่ๆปลอดภัยและเรามองเห็นได้ เช่นมุมห้องนั่งเล่น)
ข้อนี้สำคัญมาก เพราะแน่นอนว่า ช่วงแรกๆ ลูกต้องโดนทำโทษบ่อยๆ แล้วเขาก้อไม่ยอมนั่งที่มุมที่เราจัดให้ แต่ สามีไม่ให้ ใจอ่อน และไม่ให้อธิบายหลายครั้ง บอกเขาครั้งเดียวว่าทำผิดอะไร แล้วให้นั่งตรงนั้นจนกว่าจะยอมรับว่าผิดแล้วมาขอโทษ ตอนนั้นจึงจะอธิบายกับเขาดีๆ ข้อนี้ยากมาก แต่ต้องใจเย็นๆ ช่วงแรก ต้องทำเป้น สิบๆครั้ง คือเขาลุก ก้อจับเขาไปนั่งอีก อย่าดึงด อย่ากระชาก จับหรืออุ้มให้กลับไปนั่ง จนกว่าเขาจะเหนื่อยและยอมแพ้ สามีบอกว่า ข้อนี้จะเป็นตัวกำหนดขอบเขตให้ลูกรู้ว่า ใครมีอำนาจในบ้าน และลูกมีขอบเขตแค่ไหน ในการทำอะไรก้อตาม
เราเห็นลูกร้อง ช่วงแรกสงสารเขามาก จนจะทะเลาะ กับสามี แต่ ก้ออยากเห็นลูกเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่ายก้อเลย อดทน ตรงนี้ต้องระวังอย่าเถียงกันให้ลูกเห็นไม่เช่นนั้น เขาจะจับจุดเราได้ว่า ใครจะช่วยเขา แล้วมันจะไม่สำเร็จ
อีกอย่าง อันนี้ก้อสำคัญ เวลาคุยกับลูกให้ คุกเข่า ลงแล้ว มองตาลูกหรือจับเขามานั่งบนขา อย่ามองแบบโกรธ อย่าพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ พูดแบบนุ่มนวล อธิบาย ชัดๆว่าเขาผิดอะไร ตรงนี้เป็นจิตวิทยา อย่างนึงว่าทำให้เด็กรู้สึกว่า เราเท่ากับเขา อย่าทำให้เขากลัวเราแต่ทำให้เขาไว้ใจเรา และเชื่อใจเรา สามีและเราเล่นกับลูก เหมือนวัยเดียวกับเขา(เวลาเล่น ด้วยกัน เช่นเล่นซ่อนแอบบ้าง ขี่ม้า เล่นเจ้าหญิง เจ้าชาย และอื่นๆ บางทีก้อขำตัวเอง ทำไปได้ แต่เพื่อลูกน่ะนะ)
การให้ลูกมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆ มอบหน้าที่เล็กน้อยๆ ให้เขาทำเป้นประจำทุกวันเป็นการฝึกให้เขารู้จักหน้าที่และการรับผิดชอบ และปล่อยให้เขาเล่นซน บ้างตามประสาเขา อย่าห้ามทุกอย่างถ้าสิ่งนั้นไม่ทำให้เกิดอันตราย แต่อาจเลอะเทอะบ้าง ก้อปล่อย เพราะนี่คือ พฤติกรรมของเด็ก น้ำหก นมหก ทำความสะอาดได้ ไม่เป็นไร อ้อ แล้วควรฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองในหลายๆด้าน ถึงแม้เขาจะยังทำได้ไม่ดีพอก้อไม่เป็นไร เช่น กินข้าวเอง ใส่เสื้อผ้าเองเป็นต้น และอย่าเลี้ยงลูกให้กลัวเจ็บ หกล้ม เลือดออกนิดหน่อย เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กต้องเรียนรู้การเจ็บปวด แล้วเขาจะรู้เองว่า ต่อไปเขาจะไม่ทำอีก
หลังจากนั้นผ่านไป ประมาณ สองเดือน ลูกเรามีพฤติกรรม ดีขึ้นมาก สองขวบครึ่ง แยกห้องนอน นอนคนเดียวได้ เข้าห้องน้ำเองได้ ทุกอย่างเป็นระบบ แต่ทุก สามถึงสี่เดือน ก้อจะมีอาการดื้อ หลุดออกมาให้เห็นบ้าง แบบเรางง เลยว่าอ้าว อยู่ดีๆ วันนี้กลับ ดื้อแบบ หลุดโลกอีกแล้ว ร้องกรี๊ดๆ แต่ ก้อ กลับไปจุดเริ่มต้นใหม่ คือ นั่งมุมห้อง อีก จับกันเป็นสิบรอบเหมือนเดิม (ตรงนี้แฟนอธิบายว่า เป็นตามวัยของเขา เขารู้สึกว่าเขาโตขึ้น เขาควรจะมีขอบเขตมากกว่านี้ เขาก้อจะแสดงพฤติกรรมนี้เพื่อหาขอบเขต ว่าเขาทำอะไรได้มากแค่ไหน แบบว่า พ่อกับแม่ จะยอมเขาแค่ไหน)
และพฤติกรรมนี้ จะวนเวียน เกิดขึ้นแบบนี้แหละ ประปราย จนครั้งสุดท้าย ตอนเขาประมาณ ห้าขวบ ครึ่ง จากนั้น ก้อห่างมาก เจอปีละ ครั้งได้มั้ง จน ตอนนี้ จำได้ว่า ตั้งแต่เจ็ดขวบมา ไม่มีแล้ว ใช้แค่วิธี นั่งคุยกัน เขาก้อเข้าใจ ยอมรับว่า เราใจอ่อนหลายครั้งที่เห็นลูกร้องไห้ เคยทะเลาะกับสามีหลายครั้ง ด้วยคนเป็นแม่ อะนะ เห็นลูกร้องมากๆก้อสงสาร บางครั้ง เราคิดว่าเรื่องแค่นี้เอง(เช่น ลูกขอเข้านอน ช้าสักชั่วโมง) แต่สามีจะบอกว่า กฎก้อคือกฎ เวลาเขาเป็นเด็กดี ก้อพาเที่ยวทำกิจกรรมที่เขาชอบ แต่ไม่เน้น ของเล่นแพงๆนะ พาไปเที่ยวมากกว่าถือว่าเป็นรางวัลให้เขา
อีกอันนึงคือ ถ้ามีปู่ย่าตายาย อยู่ด้วยต้องคุยกันให้เข้าใจว่า เวลาทำโทษ อย่าเปลี่ยนกฏ ต้องทำเหมือนกัน ไม่เช่นนั้น จะยากมากๆ
และอย่า ตีลูก อย่าใช้กำลัง อันนี้ คือกฎเหล็ก การใช้ความรุนแรง กับเด็ก มีแต่ผลเสีย และเพิ่มแรงกดดันให้เขายอมเพราะกำลัง เด็กจะกลายเป็นคนโมโห ร้าย และไม่ดีต่อพฤติกรรมด้านอื่นๆ
ทุกวันนี้ภูมิใจ ในตัวลูกมากค่ะ แปดขวบแล้ว เป็นเด็ก ดี รู้จักหน้าที่และมีความรับผิดชอบ ตามวัย เข้านอน เป็นเวลา อ่านหนังสือทำการบ้าน ซ้อมไวโอลิน ทุกอดย่างเป้นระบบหมดเลย
แชร์ให้ฟังเผื่อจะนำไปปรับใช้ค่ะ สามีไม่เคยมีลูกมาก่อน แต่เขาบอกว่า เขาแค่ เอาใจเขาไปใส่ในใจลูกและคิดว่า ถ้าเขาเป็นเด็กวัยเท่าลูก เขาจะคิดอะไรและต้องการอะไร ที่สำคัญเขาให้ความอบอุ่น และความรักแก่ลูก มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะตอนเด็กมันคือสิ่งที่เขาโหยหามาตลอด เขาจึงทดแทนสิ่งนี้ให้ลูกค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ปราบลูกดื้อ ซน ใช้กำลัง ยังไงดีคะ
ควรทำยังไงดีคะ สุขภาพจิตแมแย่มากเลยตอนนี้