เกริ่นเรื่องสักนิดนึง ก่อนหน้านี้ทางดิฉันเคยตั้งคำถามหลายกระทู้ เกี่ยวกับการจัดการที่ดินที่เป็นมรดกของปู่ ตอนนี้ย่าของดิฉันได้เสียชิวิตไปแล้ว เมื่อเดือนก่อน โดยท่านเสียระหว่างเป็นผู้จัดการมรดกที่กรมที่ดินอยู่ เรื่องยังค้างอยู่ในกรมที่ดิน งานศพของย่าได้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ ทางทนายที่เคยทำเรื่องเป็นผู้จัดการมรดกให้ย่า แจ้งว่าต้องทำการเปิดพินัยกรรมที่ย่าทำไว้ก่อนหน้านี้ 1 ปี โดยแจ้งคร่าว ๆ ว่า ย่าให้ดิฉันเป็นผู้จัดการมรดกและทรัพย์สินส่วนที่เป็นสินสมรสของท่าน ท่านยกให้หลานๆ และให้ดิฉันจัดการแบ่งให้เท่ากันทุกคน โดยตัดสิทธิ์ในการรับมรดกของพ่อออก....ดิฉันกลุ้มใจมากเพราะก่อนหน้านี้ในงานศพ พ่อได้แจ้งให้ญาติ ๆ ทราบว่า ถ้าทางหลานๆ (ลูกของพ่อ) ไม่ทำการสู้พ่อ ท่านจะให้อาศัยอยู่ในที่ดินเดิม บ้านเดิมไป แต่ไม่ยกให้ แต่ถ้าคิดสู้เมื่อไรท่านจะขายที่ดินดังกล่าวให้หมด ก่อนหน้าที่ย่าจะเสีย ท่านเคยพูดกับดิฉันเป็นการส่วนตัวว่า "ที่ดินที่ย่ายกให้หลาน ย่าอยากให้หลานเก็บไว้ ถ้าวันหนึ่งพ่อสิ้นเนื้อบรรดาตัวกลับมา ขอให้หลาน ๆ ดูแลพ่อด้วย..." เป็นคำพูดที่ย่าบอกก่อนที่ท่านจะทำพินัยกรรม และก่อนหน้านี่ย่าได้ฝากเงินสดก้อนหนึ่งไว้กับดิฉัน เงินฝากที่เบี้ยประกันผู้สูงอายุ ซึ่งย่าให้ไ้เพื่อจัดงานศพ ดิฉันได้นำเงินทุกบาทของท่านทำอย่างที่ท่านต้องการ ยกเว้นเงินฝากยังจัดการไม่ได้ แต่ตั้งใจว่าเรียบร้อยเมื่อไร ดิฉันจะนำไปทำบุญเครื่องมือแพทย์ ที่ รพ.ที่ย่าเสียทั้งหมดไม่เก็บไว้ ตอนนี้ดิฉันรู้สึกสับสน
1.ดิฉันควรทำตามเจตนารมย์ของย่าดีมั้ย รับเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม แต่ดิฉันต้องทะเลาะกับพ่ออย่างแน่นอน
2. ครอบครัวของดิฉันเอง ตัวดิฉันเองสร้างเนื้อสร้างตัวกับสามีมา ไม่ร่ำรวยแต่ไม่ลำบากอะไร ดิฉันต้องต่อสู้เพื่อปกป้องพี่สาวกับน้องสาว ตนเอง แต่ดิฉันก็รู้สึกลำบากใจหลาย ๆ อย่าง พี่สาวดิฉันคอยดูแลย่าทุกวันจนถึงวาระสุดท้าย มาตลอดสามปีที่พ่อพาย่ามาทิ้งไว้ให้ ดิฉันคิดว่า ย่าห่วงพี่สาวคนนี้ที่สุด
3.ด้านการฟ้องร้องต่าง ๆ ดิฉันไม่รู้ว่า จะชนะหรือไม่ ตอนนี้แค่คิดว่าจะทำตามประสงค์ของย่าดี หรือ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป เลือกไม่ได้จริง ๆ
ทุกวันนี้ดิฉันกังวลและทุกข์ใจ ไม่มีความสุขทั้ง ๆ ที่ดิฉันปฏิบัติตนตามที่ย่าต้องการทุกอย่าง เหลือเพียงสิ่งสุดท้ายที่ย่าระบุไว้ ใครบอกคนมีทรัพย์สินมีความสุข สองสามปีมานี่ ดิฉันทุกข์ใจมากมาย ไม่สามารถปล่อยวางได้เลย ด้านหนึ่งก็ต้องปกป้องทรัพย์สินของแม่ ซึ่งพ่อทยอยเอาไปขายช่วงแม่ป่วยให้คีโม อีกด้านหนึ่งต้องคอยตอบเจ้าหนี้พ่อที่ทวงถามความกตัญญูจากดิฉัน พ่อเอาเงินเค้าไปใช้กับภรรยาใหม่ แล้วทำสัญญาขายที่ดินไว้กับทางเค้า....รู้สึกท้อเหลือเกินค่ะ
ขอคำปรึกษา+ระบาย จะเลือกทางไหนดีลูกกตัญญูหรือหลานกตัญญู
1.ดิฉันควรทำตามเจตนารมย์ของย่าดีมั้ย รับเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม แต่ดิฉันต้องทะเลาะกับพ่ออย่างแน่นอน
2. ครอบครัวของดิฉันเอง ตัวดิฉันเองสร้างเนื้อสร้างตัวกับสามีมา ไม่ร่ำรวยแต่ไม่ลำบากอะไร ดิฉันต้องต่อสู้เพื่อปกป้องพี่สาวกับน้องสาว ตนเอง แต่ดิฉันก็รู้สึกลำบากใจหลาย ๆ อย่าง พี่สาวดิฉันคอยดูแลย่าทุกวันจนถึงวาระสุดท้าย มาตลอดสามปีที่พ่อพาย่ามาทิ้งไว้ให้ ดิฉันคิดว่า ย่าห่วงพี่สาวคนนี้ที่สุด
3.ด้านการฟ้องร้องต่าง ๆ ดิฉันไม่รู้ว่า จะชนะหรือไม่ ตอนนี้แค่คิดว่าจะทำตามประสงค์ของย่าดี หรือ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป เลือกไม่ได้จริง ๆ
ทุกวันนี้ดิฉันกังวลและทุกข์ใจ ไม่มีความสุขทั้ง ๆ ที่ดิฉันปฏิบัติตนตามที่ย่าต้องการทุกอย่าง เหลือเพียงสิ่งสุดท้ายที่ย่าระบุไว้ ใครบอกคนมีทรัพย์สินมีความสุข สองสามปีมานี่ ดิฉันทุกข์ใจมากมาย ไม่สามารถปล่อยวางได้เลย ด้านหนึ่งก็ต้องปกป้องทรัพย์สินของแม่ ซึ่งพ่อทยอยเอาไปขายช่วงแม่ป่วยให้คีโม อีกด้านหนึ่งต้องคอยตอบเจ้าหนี้พ่อที่ทวงถามความกตัญญูจากดิฉัน พ่อเอาเงินเค้าไปใช้กับภรรยาใหม่ แล้วทำสัญญาขายที่ดินไว้กับทางเค้า....รู้สึกท้อเหลือเกินค่ะ