ซีรีย์ ลาออกมารวย ช่วยด้วย!! ตูเจ๊ง จนสำเร็จ Part. Special Thank You
ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆของเพื่อนๆ pantip ทุกคนเลยนะครับ
ผมยังไม่เก่งพอ ไม่เข้มแข็งพอ ผมเอาเรื่องไม่สบายใจไปปรึกษาพี่เจ
รู้มั้ยครับ !! พี่เจว่าไง… แกหัวเราะเยาะผม แล้วพูดว่า “555+ ไอ้กระจอก!!”
อะไรวะไอ้พี่เจ (ผมคิดในใจ) แทนที่จะให้กำลังใจน้อง…
.
“การทำธุรกิจมันก็เหมือนกันนั่นแหละ
มันมีวันที่เรามีความสุขสุดๆและทุกข์โคตรๆ นายต้องหัดเรียนรู้”
.
ผม : แล้วพี่ตัดสินใจยังไงต่อ จาก Part 3 อ่ะครับ
พี่เจ : ก่อนที่พี่จะเล่าว่า พี่ตัดสินใจยังไง พี่อยากจะเล่าวิธีการให้นายฟังก่อนนะ
.
รู้มั้ย ? คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ เค้าทำยังไง…
เค้าใช้ 7 สูตรแห่งความสำเร็จ “7 Step Success Theory”
.
Step 1 : เป้าหมายชัดเจนในชีวิต (Goal Setting)
- ตอบตัวเองให้ได้ว่า “เป้าหมายในชีวิตเราคืออะไร”
- เราเป็นอย่างไร ไม่สำคัญเท่า เราอยากเป็นอย่างไร
- เหมือนสไนเปอร์ ส่อง เล็ง ยิง !!! Yes !! โดนเต็มๆ
- ว่าแต่นายหาคำตอบนั้นเจอรึยัง ?
- สองข้างทางที่นายจะเดินไปมันมีสิ่งล่อตาล่อใจเยอะ
- ไม่ว่าจะเป็น โอกาสรวยเงินล้าน , รวยไว , ว่างๆก็รวย
- นายต้องหนักแน่น แน่วแน่ ไม่หวั่นไหว
- ปิดหู เปิดตา แบบม้าศึก แล้วพุ่งไปที่เป้าหมายนายเท่านั้น
Step 2 : เขียนมันลงไป (Image)
- เหตุผลที่ต้องเขียน เพื่อให้มันเป็นรูปธรรม จับต้องได้
- ไม่ใช่พูดมาลอยๆ ความสำเร็จก็จะลอยผ่านไปเช่นกัน
- นายจำไว้นะ “เป้าหมายที่ไม่ได้เขียน ไม่เรียกเป้าหมาย”
- เค้าเรียก “ความใคร่ในเป้าหมายต่างหาก”
- เพราะฉะนั้นเขียนมันลงไป
- แน่ะ!! ยังๆ ยังอีก ไปหากระดาษ A4 มาเขียนได้แล้ว !!
Step 3 : สร้างเส้นตาย กำหนดเส้นชัย (Deadline)
- หาปฎิทินตั้งโต๊ะ ปฎิทินแขวนก็ได้
- กำหนดเส้นตายไปเลยว่า ไอ้เป้าหมายที่เราเขียนลงไปเนี่ย
- เราต้องการให้มันสำเร็จวันไหน เดือนไหน ปีไหน
- เช่น “ฉันสวย หุ่นดี ภายในวันที่ 5 พฤษภาคม 2558 ”
- เช่น “ผมมีเงินเก็บ 100,000 บาท ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558”
- ปฎิทินอย่างอื่นเช่น… “แม่โขง , ดารานางแบบ , Sexy Max”
- ก็ใช้ได้นะ “แต่พี่ว่ามันจะสำเร็จ เป้าหมายอย่างอื่นอะดิ เลยไม่แนะนำ”
Tip : ส่วนตัวพี่ พี่จะไม่ใส่คำที่เป็นคำสั่ง จิตใต้สำนึกพี่มันจะค้าน และไม่อยากทำทันที
เพราะใจเราไม่ชอบให้ใครมาสั่ง ถ้าเราจะทำ เพราะเราอยากทำมันเอง
เช่น ฉันจะต้อง , ต้องทำ , ต้องได้ , ต้องผอม , ฉันอยาก , ฉันจะ , ฉันจะต้อง , ฯลฯ
แต่พี่จะใส่คำที่สร้างพลังเชิงบวก และปลุกใจให้เราอยากทำมันให้สำเร็จแทน
Step 4 : ลิสต์รายการความสำเร็จ (Check List)
- เขียนกิจกรรมในแต่ละวัน (activity)
- ที่สนับสนุนให้เราเดินไปสู่เป้าหมายที่เราตั้งไว้
- กิจกรรมอะไรที่เรารัก เราชอบ และส่งเสริมให้เรา
- ทำเป้าหมายนั้นสำเร็จเร็วขึ้น มากขึ้น เขียนมันออกมา ให้มากที่สุด
- ถ้านึกไม่ออก ลองเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ให้รู้สึกผ่อนคลายที่สุด
- แล้วเขียนมันออกมา อะไรก็ตาม ที่มัน “ปิ๊ง ! แว๊ปเข้ามาในหัวตอนนั้นแหละ”
Tip : เพลงบรรเลงเพื่อผ่อนคลาย (พี่เตรียมไว้ให้แล้ว)
จำไว้ว่า “ผ่อนคลาย อะไรที่แว๊ปเข้ามาในหัว เขียนมันลงไปทันที !!!”
โดยยังไม่ต้องสนใจว่า ผิดหรือถูก ขอให้เขียนมันลงไปก่อน…
“หลับตา…ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ค้นหาคำตอบ ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจของเรา แล้วเขียนมันลงไป…”
https://www.youtube.com/watch?v=FOIjvHjK0Rw
เมื่อเราได้รายการความสำเร็จของเราแล้ว ที่นี้…ลองตัดรายการที่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ออก…
ขีดฆ่าออก ทีละข้อๆ จนเรามั่นใจว่า เหลือแต่รายการที่จะทำให้เรา ทำเป้าหมายนั้นสำเร็จ
แล้วพิมพ์ใหม่ หรือเขียนใหม่ รูปแบบตาราง ออกแบบตามใจเราปรารถนาเลย ลองดูนะ…
Step 5 : ลงมือทำตามเช็คลิสส์ทุกๆวัน (Just Do it)
- ทำไมเครื่องหมายการค้าของไนกี้ ถึงเป็นเครื่องหมาย “ถูก”
- Just Do it เพราะไม่ว่านายจะเลือกทำ หรือไม่ทำ มันก็ถูกเสมอ…
- ถูกยังไง ? ถ้าทำ ก็ถูกต้องที่นายจะได้ประสบการณ์ ได้ความรู้
- ได้ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จ ถ้าไม่ทำ ก็ถูกที่นายจะยืนอยู่ที่เดิม
- ทุกเส้นทางมักมีทางแยก ทุกอย่างเราเป็นผู้เลือกด้วยตัวเองเสมอ
- อยู่ที่ว่าเราจะ “เลือกทำ หรือ เลือกที่จะไม่ทำมัน” เท่านั้นเอง
- เพราะฉะนั้นลงมือทำตามเช็คลิสส์แห่งความสำเร็จของตัวเอง
- วันนี้เราทำได้ “ติ๊กถูก + 1 คะแนน”
- วันนี้เราไม่ได้ทำ “ติ๊กกากบาท – 1 คะแนน”
- ทำซ้ำ ซ้ำ และซ้ำๆ ทำคะแนนให้ได้มากที่สุดในแต่ละวัน
- จงอย่าหยุด ถ้ายังไม่ถึงเส้นชัย…
Step 6 : ค้นหาร่องรอย ความสำเร็จ (Role Model)
- พี่เชื่อเสมอว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่เราทำเป็นคนแรก
- แม้ว่าคนๆนั้นจะบอกว่า “เป็นคนแรกของโลกก็ตาม”
- ทุกๆอย่างในโลกล้วนเกิดจาก “ทำให้ดีกว่านี้อีกได้มั้ย”
- แล้วถ้ามันดีกว่านี้ละ ดีขึ้นได้อีกมั้ย อะไรที่เราสามารถเติมให้มันดีขึ้นได้อีกบ้าง
- ค้นหาร่องรอยความสำเร็จ เพราะความสำเร็จมักทิ้งร่อยรอยไว้เสมอ เชื่อพี่!
- เช่น ถ้าเราจะทำเป้าหมายของเราให้สำเร็จ
- หาเลย… ใครบ้างทำสำเร็จมาแล้วในโลก
- คนไทยหรือชาวต่างชาติ สำเร็จตอนอายุเท่าไหร่
- เค้าทำอะไรมาก่อน เค้าคิดยังไง เค้าเจออะไรบ้าง
- แล้วเราละ เราจะพัฒนาตัวเราเองยังไง เพื่อให้สำเร็จแบบเค้าบ้าง
- เมื่อเราหาคนๆนั้นเจอแล้ว หาหลักฐานประกอบ
- หา Google มีบทความเค้ามั้ย หา Youtube มี VDO ที่เค้าพูดมั้ย
- ที่สำคัญคือ… “จงเรียนรู้เส้นทางความสำเร็จ จากเค้าคนนั้นซะ”
Step 7 : จัดเลยน้อง !! (Go ahead)
- พี่เห็นบางคนไม่ใช่รู้น้อยเกินไป แต่รู้มากเกินไปจนไม่ได้ลงมือทำด้วยซ้ำ
- รู้น้อย > ลงมือทำ > ล้มเหลว > ปรับปรุง > แก้ไข > เรียนรู้ความผิดพลาด >สำเร็จ
- รู้มากเกินไป > คิดมาก > รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ > อย่าทำเลย เจ๊ง !> ทฤษฎีเยอะ เห็นเจ๊งมาแยะ >ไม่ได้ลงมือทำ> ล้มเหลว > ยืนอยู่ที่เดิม
- เพราะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ ไม่ศรัทธา ดูถูกความสามารถตัวเอง
- แล้วแบบนี้ความสำเร็จที่ไหนจะวิ่งไปหาคุณ เค้าวิ่ง ไปหาคนลงมือทำดีกว่า
- เพราะฉะนั้น เอาความรู้ เอาเครื่องมือ เอาทรัพยากรที่มี “จัดเต็มไปเลยน้อง !!”
“สมัยก่อน…พี่เคยคิดว่าตัวเองรู้ไม่พอ ยังไม่พร้อม แต่ในความเป็นจริงก็คือ…
เราทำไม่พอ ไม่เต็มที่กับมันมากกว่า และคำว่าพร้อม 100 % ไม่เคยมีอยู่จริง”
ถ้าอ่านมาทั้งหมดของ Part. Special Thank You แล้วยังไม่รู้ว่า… “เป้าหมายในชีวิตเราคืออะไร”
คลิปนี้มีคำตอบครับ…
https://www.youtube.com/watch?v=X8qxWthGb9I
ผม : พี่เจๆ… แล้วตกลง พี่ตัดสินใจยังไงอ่ะครับ จาก Part 3 อ่ะผมยังไม่ได้คำตอบเลย…
พี่เจ : ยิ้ม… ถ้านายมีเป้าหมายชีวิตแล้ว นายจะรู้คำตอบด้วยตัวเอง…”จงมีวิสัยทัศน์ชีวิตนะ”
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ…
โอกาสหน้า ผมจะมาแบ่งปันเรื่องราวดีๆแบบนี้อีก…
ส่วนพี่เจได้ข่าวว่าไปทำ “ซาลาเปา” แต่ก็เจ๊งอีก…กว่าจะสำเร็จ…
ถ้ามีโอกาสได้เจอพี่เจอีกเมื่อไหร่ จะนำมาเล่าให้ฟังนะครับ (^_____^)
ซีรีย์ ลาออกมารวย ช่วยด้วย!! ตูเจ๊ง จนสำเร็จ Part. Special Thank You
ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆของเพื่อนๆ pantip ทุกคนเลยนะครับ
ผมยังไม่เก่งพอ ไม่เข้มแข็งพอ ผมเอาเรื่องไม่สบายใจไปปรึกษาพี่เจ
รู้มั้ยครับ !! พี่เจว่าไง… แกหัวเราะเยาะผม แล้วพูดว่า “555+ ไอ้กระจอก!!”
อะไรวะไอ้พี่เจ (ผมคิดในใจ) แทนที่จะให้กำลังใจน้อง…
.
“การทำธุรกิจมันก็เหมือนกันนั่นแหละ
มันมีวันที่เรามีความสุขสุดๆและทุกข์โคตรๆ นายต้องหัดเรียนรู้”
.
ผม : แล้วพี่ตัดสินใจยังไงต่อ จาก Part 3 อ่ะครับ
พี่เจ : ก่อนที่พี่จะเล่าว่า พี่ตัดสินใจยังไง พี่อยากจะเล่าวิธีการให้นายฟังก่อนนะ
.
รู้มั้ย ? คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ เค้าทำยังไง…
เค้าใช้ 7 สูตรแห่งความสำเร็จ “7 Step Success Theory”
.
Step 1 : เป้าหมายชัดเจนในชีวิต (Goal Setting)
- ตอบตัวเองให้ได้ว่า “เป้าหมายในชีวิตเราคืออะไร”
- เราเป็นอย่างไร ไม่สำคัญเท่า เราอยากเป็นอย่างไร
- เหมือนสไนเปอร์ ส่อง เล็ง ยิง !!! Yes !! โดนเต็มๆ
- ว่าแต่นายหาคำตอบนั้นเจอรึยัง ?
- สองข้างทางที่นายจะเดินไปมันมีสิ่งล่อตาล่อใจเยอะ
- ไม่ว่าจะเป็น โอกาสรวยเงินล้าน , รวยไว , ว่างๆก็รวย
- นายต้องหนักแน่น แน่วแน่ ไม่หวั่นไหว
- ปิดหู เปิดตา แบบม้าศึก แล้วพุ่งไปที่เป้าหมายนายเท่านั้น
Step 2 : เขียนมันลงไป (Image)
- เหตุผลที่ต้องเขียน เพื่อให้มันเป็นรูปธรรม จับต้องได้
- ไม่ใช่พูดมาลอยๆ ความสำเร็จก็จะลอยผ่านไปเช่นกัน
- นายจำไว้นะ “เป้าหมายที่ไม่ได้เขียน ไม่เรียกเป้าหมาย”
- เค้าเรียก “ความใคร่ในเป้าหมายต่างหาก”
- เพราะฉะนั้นเขียนมันลงไป
- แน่ะ!! ยังๆ ยังอีก ไปหากระดาษ A4 มาเขียนได้แล้ว !!
Step 3 : สร้างเส้นตาย กำหนดเส้นชัย (Deadline)
- หาปฎิทินตั้งโต๊ะ ปฎิทินแขวนก็ได้
- กำหนดเส้นตายไปเลยว่า ไอ้เป้าหมายที่เราเขียนลงไปเนี่ย
- เราต้องการให้มันสำเร็จวันไหน เดือนไหน ปีไหน
- เช่น “ฉันสวย หุ่นดี ภายในวันที่ 5 พฤษภาคม 2558 ”
- เช่น “ผมมีเงินเก็บ 100,000 บาท ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558”
- ปฎิทินอย่างอื่นเช่น… “แม่โขง , ดารานางแบบ , Sexy Max”
- ก็ใช้ได้นะ “แต่พี่ว่ามันจะสำเร็จ เป้าหมายอย่างอื่นอะดิ เลยไม่แนะนำ”
Tip : ส่วนตัวพี่ พี่จะไม่ใส่คำที่เป็นคำสั่ง จิตใต้สำนึกพี่มันจะค้าน และไม่อยากทำทันที
เพราะใจเราไม่ชอบให้ใครมาสั่ง ถ้าเราจะทำ เพราะเราอยากทำมันเอง
เช่น ฉันจะต้อง , ต้องทำ , ต้องได้ , ต้องผอม , ฉันอยาก , ฉันจะ , ฉันจะต้อง , ฯลฯ
แต่พี่จะใส่คำที่สร้างพลังเชิงบวก และปลุกใจให้เราอยากทำมันให้สำเร็จแทน
Step 4 : ลิสต์รายการความสำเร็จ (Check List)
- เขียนกิจกรรมในแต่ละวัน (activity)
- ที่สนับสนุนให้เราเดินไปสู่เป้าหมายที่เราตั้งไว้
- กิจกรรมอะไรที่เรารัก เราชอบ และส่งเสริมให้เรา
- ทำเป้าหมายนั้นสำเร็จเร็วขึ้น มากขึ้น เขียนมันออกมา ให้มากที่สุด
- ถ้านึกไม่ออก ลองเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ให้รู้สึกผ่อนคลายที่สุด
- แล้วเขียนมันออกมา อะไรก็ตาม ที่มัน “ปิ๊ง ! แว๊ปเข้ามาในหัวตอนนั้นแหละ”
Tip : เพลงบรรเลงเพื่อผ่อนคลาย (พี่เตรียมไว้ให้แล้ว)
จำไว้ว่า “ผ่อนคลาย อะไรที่แว๊ปเข้ามาในหัว เขียนมันลงไปทันที !!!”
โดยยังไม่ต้องสนใจว่า ผิดหรือถูก ขอให้เขียนมันลงไปก่อน…
“หลับตา…ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ค้นหาคำตอบ ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจของเรา แล้วเขียนมันลงไป…”
https://www.youtube.com/watch?v=FOIjvHjK0Rw
เมื่อเราได้รายการความสำเร็จของเราแล้ว ที่นี้…ลองตัดรายการที่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ออก…
ขีดฆ่าออก ทีละข้อๆ จนเรามั่นใจว่า เหลือแต่รายการที่จะทำให้เรา ทำเป้าหมายนั้นสำเร็จ
แล้วพิมพ์ใหม่ หรือเขียนใหม่ รูปแบบตาราง ออกแบบตามใจเราปรารถนาเลย ลองดูนะ…
Step 5 : ลงมือทำตามเช็คลิสส์ทุกๆวัน (Just Do it)
- ทำไมเครื่องหมายการค้าของไนกี้ ถึงเป็นเครื่องหมาย “ถูก”
- Just Do it เพราะไม่ว่านายจะเลือกทำ หรือไม่ทำ มันก็ถูกเสมอ…
- ถูกยังไง ? ถ้าทำ ก็ถูกต้องที่นายจะได้ประสบการณ์ ได้ความรู้
- ได้ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จ ถ้าไม่ทำ ก็ถูกที่นายจะยืนอยู่ที่เดิม
- ทุกเส้นทางมักมีทางแยก ทุกอย่างเราเป็นผู้เลือกด้วยตัวเองเสมอ
- อยู่ที่ว่าเราจะ “เลือกทำ หรือ เลือกที่จะไม่ทำมัน” เท่านั้นเอง
- เพราะฉะนั้นลงมือทำตามเช็คลิสส์แห่งความสำเร็จของตัวเอง
- วันนี้เราทำได้ “ติ๊กถูก + 1 คะแนน”
- วันนี้เราไม่ได้ทำ “ติ๊กกากบาท – 1 คะแนน”
- ทำซ้ำ ซ้ำ และซ้ำๆ ทำคะแนนให้ได้มากที่สุดในแต่ละวัน
- จงอย่าหยุด ถ้ายังไม่ถึงเส้นชัย…
Step 6 : ค้นหาร่องรอย ความสำเร็จ (Role Model)
- พี่เชื่อเสมอว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่เราทำเป็นคนแรก
- แม้ว่าคนๆนั้นจะบอกว่า “เป็นคนแรกของโลกก็ตาม”
- ทุกๆอย่างในโลกล้วนเกิดจาก “ทำให้ดีกว่านี้อีกได้มั้ย”
- แล้วถ้ามันดีกว่านี้ละ ดีขึ้นได้อีกมั้ย อะไรที่เราสามารถเติมให้มันดีขึ้นได้อีกบ้าง
- ค้นหาร่องรอยความสำเร็จ เพราะความสำเร็จมักทิ้งร่อยรอยไว้เสมอ เชื่อพี่!
- เช่น ถ้าเราจะทำเป้าหมายของเราให้สำเร็จ
- หาเลย… ใครบ้างทำสำเร็จมาแล้วในโลก
- คนไทยหรือชาวต่างชาติ สำเร็จตอนอายุเท่าไหร่
- เค้าทำอะไรมาก่อน เค้าคิดยังไง เค้าเจออะไรบ้าง
- แล้วเราละ เราจะพัฒนาตัวเราเองยังไง เพื่อให้สำเร็จแบบเค้าบ้าง
- เมื่อเราหาคนๆนั้นเจอแล้ว หาหลักฐานประกอบ
- หา Google มีบทความเค้ามั้ย หา Youtube มี VDO ที่เค้าพูดมั้ย
- ที่สำคัญคือ… “จงเรียนรู้เส้นทางความสำเร็จ จากเค้าคนนั้นซะ”
Step 7 : จัดเลยน้อง !! (Go ahead)
- พี่เห็นบางคนไม่ใช่รู้น้อยเกินไป แต่รู้มากเกินไปจนไม่ได้ลงมือทำด้วยซ้ำ
- รู้น้อย > ลงมือทำ > ล้มเหลว > ปรับปรุง > แก้ไข > เรียนรู้ความผิดพลาด >สำเร็จ
- รู้มากเกินไป > คิดมาก > รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ > อย่าทำเลย เจ๊ง !> ทฤษฎีเยอะ เห็นเจ๊งมาแยะ >ไม่ได้ลงมือทำ> ล้มเหลว > ยืนอยู่ที่เดิม
- เพราะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ ไม่ศรัทธา ดูถูกความสามารถตัวเอง
- แล้วแบบนี้ความสำเร็จที่ไหนจะวิ่งไปหาคุณ เค้าวิ่ง ไปหาคนลงมือทำดีกว่า
- เพราะฉะนั้น เอาความรู้ เอาเครื่องมือ เอาทรัพยากรที่มี “จัดเต็มไปเลยน้อง !!”
“สมัยก่อน…พี่เคยคิดว่าตัวเองรู้ไม่พอ ยังไม่พร้อม แต่ในความเป็นจริงก็คือ…
เราทำไม่พอ ไม่เต็มที่กับมันมากกว่า และคำว่าพร้อม 100 % ไม่เคยมีอยู่จริง”
ถ้าอ่านมาทั้งหมดของ Part. Special Thank You แล้วยังไม่รู้ว่า… “เป้าหมายในชีวิตเราคืออะไร”
คลิปนี้มีคำตอบครับ… https://www.youtube.com/watch?v=X8qxWthGb9I
ผม : พี่เจๆ… แล้วตกลง พี่ตัดสินใจยังไงอ่ะครับ จาก Part 3 อ่ะผมยังไม่ได้คำตอบเลย…
พี่เจ : ยิ้ม… ถ้านายมีเป้าหมายชีวิตแล้ว นายจะรู้คำตอบด้วยตัวเอง…”จงมีวิสัยทัศน์ชีวิตนะ”
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ…
โอกาสหน้า ผมจะมาแบ่งปันเรื่องราวดีๆแบบนี้อีก…
ส่วนพี่เจได้ข่าวว่าไปทำ “ซาลาเปา” แต่ก็เจ๊งอีก…กว่าจะสำเร็จ…
ถ้ามีโอกาสได้เจอพี่เจอีกเมื่อไหร่ จะนำมาเล่าให้ฟังนะครับ (^_____^)