คือตอนแรก App Track & Trace ของไปรษณีย์ไทยแจ้งเตือนมาแล้วว่าเตรียมการนำจ่ายเมื่อบ่ายกว่าๆ ไอ่เราก้รอ ว่าจะออกไปข้างนอก
ก็ตัดสินใจไม่ไป เพราะจะรอรับ จะได้ไม่ต้องออกใบนำจ่าย แต่แล้วคุณไปรษณีย์ไทยก็แจ้งมาอีกว่า "นำจ่ายใหม่ งานมีมาก" เอ่อ คือไม่ได้จะสักแต่ด่านะ
แต่เคยมีครั้งนึง บุรุษไปรษณีย์ท่านโทรมาบอกว่า "อยู่หน้าหมู่บ้านครับ รบกวนออกมารับพัสดุได้ไหม เพราะ ผมรีบ" --"
อันนี้ต้องโทษบุรุษไปรษณีย์หรือโทษระบบการจัดการของไปรษณีย์ไทย คือส่วนตัวคิดว่า ถ้าคุณรู้ว่างานมีมาก ก้จัดระบบดีๆสิคะ
ทำให้มันครอบคลุมไปในทางเดียวกัน อย่างเช่น มีของต้องส่ง 1000 ชิ้น คำนวนแล้วส่งไม่หมดแน่ๆ ก้แจ้งนำจ่ายแค่ ครึ่งนึง หรือ 3/4 ก็ว่าไป
แล้ววันรุ่งขึ้นก็รับนำส่งในส่วนที่เหลือจากเมื่อวาน ไม่ใช่ฝ่ายข้อมูลนำจ่ายก็คีย์ๆเลขของเข้าไป บุรุษไปรษณีย์จะส่งทันไม่ทันช่างหัวมัน .. ที่ออกมาพูดไม่ใช่เจอครั้งแรกแล้วออกมาพูด
แต่ส่วนตัวเจอมาหลายกรณีแล้ว อย่างเช่น
- ปกติที่บ้านแม่จะอยู่คอยรอรับพัสดุให้ หรือไม่ก็คนข้างบ้าน คอยช่วยเหลือกัน เพราะเราก็ต้องไปเรียน แล้วช่วงนั้นแม่มีธุระบ่อยไม่ค่อยอยู่บ้าน
คุณบุรษไปรษณีย์เข้ามาไม่เจอ ประมาน 2 - 3 ครั้ง (ของคนละชิ้นนะคะ ไม่ใช่ชิ้นเดียวนางมาส่ง 2 - 3 ครั้ง) พอของรอบหลังสุด นางโทรมาถาม
อยู่บ้านไหมครับ ไม่อยู่จะได้ไม่เข้าไป (กรณีนี้จะเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ท่านหนึ่ง ท่านเดียว) คือส่วนตัวคิดว่า การที่คุณเลี้ยวรถเข้ามา
ซึ่งบ้านเราก็ไม่ได้อยู่ลึกอะไร กับการที่คุณเสียเวลาจอดรถโทรมาหา อันไหนเสียเวลากว่ากัน ?
- ทางบุรุษไปรษณีย์โทรมาแจ้งว่า ไม่ส่งนะครับ ออกใบแจ้งให้มารับที่ทำการ เนื่องจาก หมาเยอะ หมาเห่าเสียงดัง ... เอ่อ คือที่ไหนๆก็มีหมาป้ะค้ะ ?
หมาข้างถนนในหมู่บ้านนี่แทบไม่มี ส่สวนหมาที่บ้านก็ปิดประตูรั้วขังอย่างดี เรื่องหมาเห่า ขอโทษนะคะ หมาที่ไหนไม่เห่าเมื่อเห็นคนแปลกหน้าคะ?
ข้างบ้านรอบข้าง ไม่เคยมีประวัติว่า หมาเห่าน่ารำคาน ถ้าเกิดสมมุดเคยมีคนมาด่าว่าหมาเห่าน่ารำคาน อันนี้พอเข้าใจว่า เค้าอาจแจ้งคุณให้ไม่ต้อง
เข้ามาส่ง เพราะเข้ามา หมาบ้านเราเห่า เสียงดังรบกวน อีกอย่าง รอบข้างทุกบ้านเลี้ยงหมาหมดคะ
- ได้รับการแจ้งเตือนจาก App อีกเช่นกันว่า ของส่งถึงผู้รับแล้ว เราก็งง นี่เราอยู่บ้านทั้งวัน ยังไม่ได้รับอะไร แต่มีลายเซ็นรับแล้ว ซึ่งเป็นลายเซ็นใครไม่รู้
ก็ไปตามถามเพื่อนบ้าน ก็ไม่มีใครรับแทนให้ ก็เริ่มตกใจ พอวันรุ่งขึ้น บุรุษไปรษณีย์มาส่งของที่บ้าน ไอ่เราก็อ่าว แล้วที่แจ้งเตือนมาใน app คือไร ?
(การที่คุณสร้าง App ขึ้นมาเพื่อให้ตรวจสอบสถานะพัสดุได้ แล้วคุณแจ้งมาว่าเตรียมการนำจ่าย
แล้วสรุปไม่นำจ่ายวันนั้น คุณจะทำ App ขึ้นมาทำไม เปลืองงบเปล่าๆไหม ?)
คือเข้าใจนะคะว่ามันพึ่งหยุดยาวมา ของค้างส่งมีเยอะ ก็เข้าคำพูดเดิม ถ้าคุณจัดระบบดีๆ ปัญหาคงไม่มากมายเท่านี้
อีกอย่าง ตัวเราเองเป็นแม่ค้าออนไลน์ เวลาส่งของให้ลูกค้า จะแนะนำต่อตลอดว่าให้โหลด App นี้มา เพราะเป็น app ฟรี และสามารถตรวจเช็คสถานะ
ของพัสดุได้ ว่าถึงตรงไหนแล้ว ที่สำคัญ คุณไปรษณีย์ไทยรู้ไหมคะ ไม่ใช่ทุกคนนะคะที่จะเข้าใจว่าการทำงานของคุณมันแย่แค่ไหน
บางทีให้เลข Tracking ไป ไม่ตรวจไม่เช็ค พอของถึงช้า เค้าโวยวายใคร ? โวยวายแม่ค้าสิค้ะ ทั้งๆที่แม่ค้าก็ส่งตามระบบการจัดการของร้านนั้นๆ
แต่พวกคุณเองที่ทำงานไม่เป็นระบบ ส่งของช้า โยนของ ทำให้ของเสียหาย แล้วถามว่า ใครคือผู้เสียหายและใครต้องรับผิดชอบ ?
ก็เป็นแม่ค้าอีกที่ต้องรับทั้งหมด ทั้งๆที่ความผิดพลาดเกิดจากบุคลากรในองค์กรของคุณ
คุณดีแต่ โฆษณาพูดให้ตัวเองดูดี ส่งด่วน ส่งเร็ว โน้นนี่นั้น คุณวิเคราะห์จากอะไรคะ ถึงได้ออกมาโฆษณาได้แบบนี้
คุณเคยสอบถามความเห็นของผู้ได้รับบริการจริงๆบ้างไหม ว่าเค้ารู้สึกอย่างไร เจอความบกพร่องตรงไหนในการบริการของคุณ
เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปปรับปรุงองค์กร และ บุคลากร คุณเคยทำไหม ? เพราะส่วนตัวเรียน AD & PR มา รู้กระบวนการก่อนจะพูดหรือโฆษณา
อะไรให้แก่องค์กรใด องค์กรหนึ่ง ว่าควรทำอย่างไรบ้าง ไม่ใช่สักแต่ว่า อยากพูดอะไร อยากโฆษณาตัวเองให้ดูดียังไงก็ทำ ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้
เป็นอย่างที่คุณพูดหรือโฆษณาเลย
ฝากนิดนึงนะคะ อาจเป็นเสียงเล็กๆ แต่ก็เป็นเสียงจากผู้ใช้บริการจริงจากองค์กรของคุณ
อันนี้ต้องโทษบุรุษไปรษณีย์หรือโทษระบบการจัดการของไปรษณีย์ไทย
ก็ตัดสินใจไม่ไป เพราะจะรอรับ จะได้ไม่ต้องออกใบนำจ่าย แต่แล้วคุณไปรษณีย์ไทยก็แจ้งมาอีกว่า "นำจ่ายใหม่ งานมีมาก" เอ่อ คือไม่ได้จะสักแต่ด่านะ
แต่เคยมีครั้งนึง บุรุษไปรษณีย์ท่านโทรมาบอกว่า "อยู่หน้าหมู่บ้านครับ รบกวนออกมารับพัสดุได้ไหม เพราะ ผมรีบ" --"
อันนี้ต้องโทษบุรุษไปรษณีย์หรือโทษระบบการจัดการของไปรษณีย์ไทย คือส่วนตัวคิดว่า ถ้าคุณรู้ว่างานมีมาก ก้จัดระบบดีๆสิคะ
ทำให้มันครอบคลุมไปในทางเดียวกัน อย่างเช่น มีของต้องส่ง 1000 ชิ้น คำนวนแล้วส่งไม่หมดแน่ๆ ก้แจ้งนำจ่ายแค่ ครึ่งนึง หรือ 3/4 ก็ว่าไป
แล้ววันรุ่งขึ้นก็รับนำส่งในส่วนที่เหลือจากเมื่อวาน ไม่ใช่ฝ่ายข้อมูลนำจ่ายก็คีย์ๆเลขของเข้าไป บุรุษไปรษณีย์จะส่งทันไม่ทันช่างหัวมัน .. ที่ออกมาพูดไม่ใช่เจอครั้งแรกแล้วออกมาพูด
แต่ส่วนตัวเจอมาหลายกรณีแล้ว อย่างเช่น
- ปกติที่บ้านแม่จะอยู่คอยรอรับพัสดุให้ หรือไม่ก็คนข้างบ้าน คอยช่วยเหลือกัน เพราะเราก็ต้องไปเรียน แล้วช่วงนั้นแม่มีธุระบ่อยไม่ค่อยอยู่บ้าน
คุณบุรษไปรษณีย์เข้ามาไม่เจอ ประมาน 2 - 3 ครั้ง (ของคนละชิ้นนะคะ ไม่ใช่ชิ้นเดียวนางมาส่ง 2 - 3 ครั้ง) พอของรอบหลังสุด นางโทรมาถาม
อยู่บ้านไหมครับ ไม่อยู่จะได้ไม่เข้าไป (กรณีนี้จะเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์ท่านหนึ่ง ท่านเดียว) คือส่วนตัวคิดว่า การที่คุณเลี้ยวรถเข้ามา
ซึ่งบ้านเราก็ไม่ได้อยู่ลึกอะไร กับการที่คุณเสียเวลาจอดรถโทรมาหา อันไหนเสียเวลากว่ากัน ?
- ทางบุรุษไปรษณีย์โทรมาแจ้งว่า ไม่ส่งนะครับ ออกใบแจ้งให้มารับที่ทำการ เนื่องจาก หมาเยอะ หมาเห่าเสียงดัง ... เอ่อ คือที่ไหนๆก็มีหมาป้ะค้ะ ?
หมาข้างถนนในหมู่บ้านนี่แทบไม่มี ส่สวนหมาที่บ้านก็ปิดประตูรั้วขังอย่างดี เรื่องหมาเห่า ขอโทษนะคะ หมาที่ไหนไม่เห่าเมื่อเห็นคนแปลกหน้าคะ?
ข้างบ้านรอบข้าง ไม่เคยมีประวัติว่า หมาเห่าน่ารำคาน ถ้าเกิดสมมุดเคยมีคนมาด่าว่าหมาเห่าน่ารำคาน อันนี้พอเข้าใจว่า เค้าอาจแจ้งคุณให้ไม่ต้อง
เข้ามาส่ง เพราะเข้ามา หมาบ้านเราเห่า เสียงดังรบกวน อีกอย่าง รอบข้างทุกบ้านเลี้ยงหมาหมดคะ
- ได้รับการแจ้งเตือนจาก App อีกเช่นกันว่า ของส่งถึงผู้รับแล้ว เราก็งง นี่เราอยู่บ้านทั้งวัน ยังไม่ได้รับอะไร แต่มีลายเซ็นรับแล้ว ซึ่งเป็นลายเซ็นใครไม่รู้
ก็ไปตามถามเพื่อนบ้าน ก็ไม่มีใครรับแทนให้ ก็เริ่มตกใจ พอวันรุ่งขึ้น บุรุษไปรษณีย์มาส่งของที่บ้าน ไอ่เราก็อ่าว แล้วที่แจ้งเตือนมาใน app คือไร ?
(การที่คุณสร้าง App ขึ้นมาเพื่อให้ตรวจสอบสถานะพัสดุได้ แล้วคุณแจ้งมาว่าเตรียมการนำจ่าย
แล้วสรุปไม่นำจ่ายวันนั้น คุณจะทำ App ขึ้นมาทำไม เปลืองงบเปล่าๆไหม ?)
คือเข้าใจนะคะว่ามันพึ่งหยุดยาวมา ของค้างส่งมีเยอะ ก็เข้าคำพูดเดิม ถ้าคุณจัดระบบดีๆ ปัญหาคงไม่มากมายเท่านี้
อีกอย่าง ตัวเราเองเป็นแม่ค้าออนไลน์ เวลาส่งของให้ลูกค้า จะแนะนำต่อตลอดว่าให้โหลด App นี้มา เพราะเป็น app ฟรี และสามารถตรวจเช็คสถานะ
ของพัสดุได้ ว่าถึงตรงไหนแล้ว ที่สำคัญ คุณไปรษณีย์ไทยรู้ไหมคะ ไม่ใช่ทุกคนนะคะที่จะเข้าใจว่าการทำงานของคุณมันแย่แค่ไหน
บางทีให้เลข Tracking ไป ไม่ตรวจไม่เช็ค พอของถึงช้า เค้าโวยวายใคร ? โวยวายแม่ค้าสิค้ะ ทั้งๆที่แม่ค้าก็ส่งตามระบบการจัดการของร้านนั้นๆ
แต่พวกคุณเองที่ทำงานไม่เป็นระบบ ส่งของช้า โยนของ ทำให้ของเสียหาย แล้วถามว่า ใครคือผู้เสียหายและใครต้องรับผิดชอบ ?
ก็เป็นแม่ค้าอีกที่ต้องรับทั้งหมด ทั้งๆที่ความผิดพลาดเกิดจากบุคลากรในองค์กรของคุณ
คุณดีแต่ โฆษณาพูดให้ตัวเองดูดี ส่งด่วน ส่งเร็ว โน้นนี่นั้น คุณวิเคราะห์จากอะไรคะ ถึงได้ออกมาโฆษณาได้แบบนี้
คุณเคยสอบถามความเห็นของผู้ได้รับบริการจริงๆบ้างไหม ว่าเค้ารู้สึกอย่างไร เจอความบกพร่องตรงไหนในการบริการของคุณ
เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปปรับปรุงองค์กร และ บุคลากร คุณเคยทำไหม ? เพราะส่วนตัวเรียน AD & PR มา รู้กระบวนการก่อนจะพูดหรือโฆษณา
อะไรให้แก่องค์กรใด องค์กรหนึ่ง ว่าควรทำอย่างไรบ้าง ไม่ใช่สักแต่ว่า อยากพูดอะไร อยากโฆษณาตัวเองให้ดูดียังไงก็ทำ ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้
เป็นอย่างที่คุณพูดหรือโฆษณาเลย
ฝากนิดนึงนะคะ อาจเป็นเสียงเล็กๆ แต่ก็เป็นเสียงจากผู้ใช้บริการจริงจากองค์กรของคุณ