ว่าจะเขียนนานแล้วก็ไม่ได้มาเขียนซักที วันนี้มีเวลาเลยมาแชร์ทริกเล็กๆกันครับ ว่าแล้วก็เริ่มเลยดีกว่า..........
หลายท่านคงเคยไปรับสารพด.ชนิดต่างๆ จากกรมพัฒนาที่ดินมาใช้กันนะครับ และหลายท่านก็คงจะเคยรับพด.๓ มาใช้ แต่หลายท่านก็อาจจะไม่รู้ว่าในพด.๓ ประกอบด้วยอะไรบ้าง และทำอะไรได้บ้าง นอกจากแค่เอาไปใส่กองปุ๋ยอย่างที่ข้างซองบอก วันนี้ผมเลยมาแนะนำการใช้ประโยชน์เพิ่มเติมให้ครับ
ส่วนประกอบในพด.๓
๑.เชื้อราไตรโคเดอร์มา
๒.เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัสซับติลิส
วิธีเพาะเชื้อราไตรโคเดอร์มาจากพด.๓
หลายท่านคงเคยสั่งซื้อหัวเชื้อราไตรโคเดอร์มาไปเพาะเพื่อใช้งานกันแล้วนะครับ วันนี้ผมมาแนะนำวิธีเพาะจากพด.๓ เพื่อลดต้นทุนกัน
เนืองจากเชื้อที่อยู่ในซองเป็นเชื้อที่โดนน๊อกมาจึงไม่เหมาะที่จะนำไปใช้เลยเหมือนหัวเชื้อที่สั่งซื้อมา ซึ่งวิธีการก็ง่ายๆ ดังนี้
๑.นำน้ำตาลหรือกากน้ำตาลผสมน้ำสะอาดเล็กน้อยแล้วคนให้ละลายจนหมด (ประมาณ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ ๑ ลิตร)
๒.ฉีกซองแล้วเทลงไปเลย คนๆๆๆให้เข้ากัน แล้วปล่อยทิ้งไว้ ๓-๔ ชม. (ผมชอบทำตอนเย็นแล้วทิ้งไว้ทั้งคืนมากกว่า)
๓.ต้มข้าว(ข้าวสาร ข้าวเปลือก ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ฯลฯ) ให้เกือบสุก (ข้างนอกนิ่มข้างในยังเป็นไตแข็งๆ) แล้วกรองเอาแต่เนื้อใส่ถุงร้อนแล้วพับปากถุงไว้กันอากาศเข้า รอจนอุณหภูมิลดลงจนอุ่นๆ (ชนิดถือไว้ในมือได้)
๔.ตักเอาเนื้อที่นอนก้นเล็กน้อย(เท่าเม็ดข้าวโพด ๑-๒ เม็ด) ใส่ถุงข้าวที่เตรียมไว้ จากนั้นมัดปากถุงให้แน่นแล้วใช้เข็มเจาะให้ทั่วๆ ๒๐-๓๐ รู แล้วดึงถุงส่วนบนให้ลอยขึ้นมาให้เป็นพื้นที่อากาศ
๕.ทิ้งไว้ ๔-๕ วัน จะเห็นเชื้อเขียวๆ เกาะบนข้าว ก็ให้เขย่าให้เข้ากัน แล้วรออีกประมาณ ๑ สัปดาห์(หรืออาจนานกว่า) จะเห็นเชื้อเต็มถุงก็สามารถนำไปใช้ได้แล้วครับ
ปล.ต้องขออภัยตอนทำไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยไม่มีรูปให้ดูกันครับ
ปล.๒ วิธีรักษาโรคแคงเกอร์ในมะนาวด้วยชีววิธี
http://ppantip.com/topic/32688289
ปล.๓ การใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ หาได้จากกูเกิลนะครับ
ปล.๔ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเกษตรกรและคนรักต้นไม้ทุกท่านนะครับ
วิธีเพาะเชื้อราไตรโคเดอร์มาจากพด.๓
หลายท่านคงเคยไปรับสารพด.ชนิดต่างๆ จากกรมพัฒนาที่ดินมาใช้กันนะครับ และหลายท่านก็คงจะเคยรับพด.๓ มาใช้ แต่หลายท่านก็อาจจะไม่รู้ว่าในพด.๓ ประกอบด้วยอะไรบ้าง และทำอะไรได้บ้าง นอกจากแค่เอาไปใส่กองปุ๋ยอย่างที่ข้างซองบอก วันนี้ผมเลยมาแนะนำการใช้ประโยชน์เพิ่มเติมให้ครับ
ส่วนประกอบในพด.๓
๑.เชื้อราไตรโคเดอร์มา
๒.เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัสซับติลิส
วิธีเพาะเชื้อราไตรโคเดอร์มาจากพด.๓
หลายท่านคงเคยสั่งซื้อหัวเชื้อราไตรโคเดอร์มาไปเพาะเพื่อใช้งานกันแล้วนะครับ วันนี้ผมมาแนะนำวิธีเพาะจากพด.๓ เพื่อลดต้นทุนกัน
เนืองจากเชื้อที่อยู่ในซองเป็นเชื้อที่โดนน๊อกมาจึงไม่เหมาะที่จะนำไปใช้เลยเหมือนหัวเชื้อที่สั่งซื้อมา ซึ่งวิธีการก็ง่ายๆ ดังนี้
๑.นำน้ำตาลหรือกากน้ำตาลผสมน้ำสะอาดเล็กน้อยแล้วคนให้ละลายจนหมด (ประมาณ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ ๑ ลิตร)
๒.ฉีกซองแล้วเทลงไปเลย คนๆๆๆให้เข้ากัน แล้วปล่อยทิ้งไว้ ๓-๔ ชม. (ผมชอบทำตอนเย็นแล้วทิ้งไว้ทั้งคืนมากกว่า)
๓.ต้มข้าว(ข้าวสาร ข้าวเปลือก ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ฯลฯ) ให้เกือบสุก (ข้างนอกนิ่มข้างในยังเป็นไตแข็งๆ) แล้วกรองเอาแต่เนื้อใส่ถุงร้อนแล้วพับปากถุงไว้กันอากาศเข้า รอจนอุณหภูมิลดลงจนอุ่นๆ (ชนิดถือไว้ในมือได้)
๔.ตักเอาเนื้อที่นอนก้นเล็กน้อย(เท่าเม็ดข้าวโพด ๑-๒ เม็ด) ใส่ถุงข้าวที่เตรียมไว้ จากนั้นมัดปากถุงให้แน่นแล้วใช้เข็มเจาะให้ทั่วๆ ๒๐-๓๐ รู แล้วดึงถุงส่วนบนให้ลอยขึ้นมาให้เป็นพื้นที่อากาศ
๕.ทิ้งไว้ ๔-๕ วัน จะเห็นเชื้อเขียวๆ เกาะบนข้าว ก็ให้เขย่าให้เข้ากัน แล้วรออีกประมาณ ๑ สัปดาห์(หรืออาจนานกว่า) จะเห็นเชื้อเต็มถุงก็สามารถนำไปใช้ได้แล้วครับ
ปล.ต้องขออภัยตอนทำไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยไม่มีรูปให้ดูกันครับ
ปล.๒ วิธีรักษาโรคแคงเกอร์ในมะนาวด้วยชีววิธี http://ppantip.com/topic/32688289
ปล.๓ การใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ หาได้จากกูเกิลนะครับ
ปล.๔ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเกษตรกรและคนรักต้นไม้ทุกท่านนะครับ