เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ผมได้ดูวีดีโอธรรมรายการ ข้อคิดรอบตัวของรายการ DMC สำนักพระสงค์ โดยมีพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ เป็นคนสอนข้อคิดต่างๆ
แล้ว เรื่องมันก็เข้าหูครับ พระอาจารย์พูดถึงตอนที่ว่า หากคนเรากำลังตาย หากจิตเราไปอยู่ที่ ดีเราก็จะไปสวรรค์ หากจิตเราไปในทางที่มืดหมองเราก็จะดึ่งลงนรกภูมิ แล้วพระอาจารย์ก็บอกอีกว่า หากคนคิดที่จะไม่ทำความดีอะไรเลย ถึงก่อนตายคิดว่าได้ไปสวรรค์ ก็ได้ไปน่ะ แต่จากที่เค้าอยู่กัน 1000 ปี เราก็อยู่ได้แค่กุศลที่เราทำ อาจจะไม่ 1000 ปีแต่อาจจะ 2-3 ปีตามบุญกรรมที่เรากระทำมา พอเรารับผลบนสวรรค์ของกุศล
หมดครบแล้วเราก็จะดึ่งลง นรกเพื่อชดกรรมที่ได้กระทำต่อไป
ประเด็นอยู่ที่ว่า สมมุติว่าหากเราทําบุญทํากุศลไว้มาก เข้าวัดเข้าวาอย่างสม่ำเสมอ แต่หากตอนเรากำลังตาย เราเผลอไปคิดเรื่องที่เศร้าหมอง
เช่น แฟนทิ้ง,วันนี้เราเผลอต่อยคน,วันนี้เราเห็นคนพิการแต่ไม่ช่วย,วันนี้เราเผลอไปเถียงพ่อแม่โดยไม่ได้ตั่งใจ เมื่อสิ่งนี้ที่ทำให้ใจเราหมอง
เมื่อเราตาย เราก็จะดึ่งลง นรกภูมิ อย่างเดียวและชดใช้ก่อน ที่จะได้ขึ้นสวรรค์ หรือเปล่าครับ หรือเราก็จะไม่มีโอกาสได้ขึ้นสวรรค์เลยครับ
ถ้าก่อนตายเรา คิดไปในทางที่ไม่ดี เราจะได้ไปที่นั้นใช่ไหม
แล้ว เรื่องมันก็เข้าหูครับ พระอาจารย์พูดถึงตอนที่ว่า หากคนเรากำลังตาย หากจิตเราไปอยู่ที่ ดีเราก็จะไปสวรรค์ หากจิตเราไปในทางที่มืดหมองเราก็จะดึ่งลงนรกภูมิ แล้วพระอาจารย์ก็บอกอีกว่า หากคนคิดที่จะไม่ทำความดีอะไรเลย ถึงก่อนตายคิดว่าได้ไปสวรรค์ ก็ได้ไปน่ะ แต่จากที่เค้าอยู่กัน 1000 ปี เราก็อยู่ได้แค่กุศลที่เราทำ อาจจะไม่ 1000 ปีแต่อาจจะ 2-3 ปีตามบุญกรรมที่เรากระทำมา พอเรารับผลบนสวรรค์ของกุศล
หมดครบแล้วเราก็จะดึ่งลง นรกเพื่อชดกรรมที่ได้กระทำต่อไป
ประเด็นอยู่ที่ว่า สมมุติว่าหากเราทําบุญทํากุศลไว้มาก เข้าวัดเข้าวาอย่างสม่ำเสมอ แต่หากตอนเรากำลังตาย เราเผลอไปคิดเรื่องที่เศร้าหมอง
เช่น แฟนทิ้ง,วันนี้เราเผลอต่อยคน,วันนี้เราเห็นคนพิการแต่ไม่ช่วย,วันนี้เราเผลอไปเถียงพ่อแม่โดยไม่ได้ตั่งใจ เมื่อสิ่งนี้ที่ทำให้ใจเราหมอง
เมื่อเราตาย เราก็จะดึ่งลง นรกภูมิ อย่างเดียวและชดใช้ก่อน ที่จะได้ขึ้นสวรรค์ หรือเปล่าครับ หรือเราก็จะไม่มีโอกาสได้ขึ้นสวรรค์เลยครับ