มูลเหตุแห่งความรัก (อันนี้หมอเดาเอาเอง)

ใครคือเนื้อคู่แท้
.....พระพุทธเจ้า ทรงตรัสเป็นคาถารับรองไว้ในสาเกตชาดกว่า ปุพเพวะ   สันนิวาเสนะ     ปัจจุปปันเนนะ หิเตนะ วา เป็นต้น มีใจความว่า
         เหตุแห่งรัก ท่านชี้ว่ามีสอง    คือเคยครองร่วมรักสมัครสมาน
           ด้วยบุพเพนิยมมานมนาน    พอพบพานก็รักติดสนิทใจ
       ปัจจุบันหมั่นเกื้อเอื้อเฟื้อพร้อม   รักก็ย่อมงอกงามอย่าสงสัย
             เปรียบอุบลต้นกอลออใบ     งอกงามได้เพราะน้ำและเปลือกตม
    
...................... ความรักจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากปราศจากการเกื้อกูลเหตุปัจจัยทั้งอดีตและปัจจุบัน คนโบราณกล่าวไว้น่าคิดว่า “ ไม่ใช่ชาติ ไม่ใช่เชื้อ ก็เหมือนเนื้อในป่า ไม่ใช่ชาติ ไม่ใช่เชื้อ หากมีความเอื้อเฟื้อก็เหมือนเนื้อเดียวกัน ”                                    
อดีตที่ผ่าน ..เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา  เคยทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน ปลูกต้นไม้ร่วมต้น สร้างกุศลร่วมกัน
ปัจจุบันที่เป็นอยู่ ต้องมีความเพียรพยายามช่วยเหลือแบ่งปันไม่รู้หน่าย ไปมาหาสู่มิขาดสาย ถือตำราที่ว่า “ ต้องตาเมื่อเห็น เย็นใจเมื่อใกล้ ”    แล้วชีวิตก็จะสำราญ..เบิกบานในความรัก
    ภายใต้ความรัก ..มักจะมีความอกหักซ่อนอยู่เสมอ..อย่าลืมว่า..
คนเราใช้เวลาไม่กี่วินาที ในการตกหลุมรัก..แต่อาจใช้เวลาทั้งชีวิต..
เพื่อลืมใครสักคน..ดังนั้นแล้ว การทำปัจจุบันให้ดีที่สุดจึงสำคัญกว่าเด้อ...................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่