เพิ่งกลับมาจากทัวร์เวียดนามครับ เจอบางอย่างหรือบางนโยบายดีกว่าบ้านเราก็ขอชม อย่างความพยายามผลักดันแหล่งท่องเที่ยวเช่นฮาลองเบย์ให้เป็นมรดกโลกหรือสิ่งมหัศจรรย์ของโลก (จากกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/32939550
แต่บางอย่างก็คงต้องขอติ เช่นสารพัดทริกที่คนเวียดนามพยายามล้วงเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวให้มากที่สุดโดยไม่คำนึงถึงอนาคตข้างหน้า
คราวนี้ไปเที่ยวฮานอยมาครับ แหล่งท่องเที่ยวในเมืองไม่ค่อยมีปัญหา สามารถเดิน ขึ้นรถเมล์ หรือแท็กซี่ไปเที่ยวเองได้ แต่แหล่งท่องเที่ยวไกลๆ ออกไปนี่ซิ ไปเองอาจลำบาก ไม่มีพาหะนะไปถึง หรือมีน้อย หรือหลายต่อ ทำให้เสียเวลา และค่าใช้จ่ายสูง การซื้อทัวร์ไปจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ทัวร์รอบหรือใกล้ฮานอยมีหลายทัวร์ แต่ที่ดังและคนไปกันเยอะมี 4 ทัวร์ คือซาปา ฮาลองเบย์ เจดีย์น้ำหอม และฮัวลู-ทามก็อก
ซาปาเคยไปมาแล้ว อีกทั้งไกลเกิน รอบนี้มีเวลาจำกัดเลยขอบาย เหลือ 3 ทัวร์ให้ตะลุยเต็มที่
มีคำกล่าวว่าใครไปเวียดนามแล้วไม่โดนหลอกไม่โดนทริกต้องเสียเงินก็ไม่ถึงเวียดนาม ผมเคยไปมาแล้ว 2 ครั้งก็ถึงเวียดนามทุกครั้งมากบ้างน้อยบ้าง ครั้งที่สามนี้ก็โดนอีกครับ
ถึงโรงแรมวันแรก เห็นป้ายราคาทัวร์ฮาลองเบย์ 2 วัน 1 คืนราคา 40-100 ดอลล่าร์ (โรงแรมส่วนใหญ่ในเวียตนามขายทัวร์ด้วย) เนื่องจากงบฯ มีจำกัด ก็เลยสนใจราคาต่ำสุดไว้ก่อน
ถามไปถามมาปรากฎว่าราคาดังกล่าวไม่รวมค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ซึ่งหากจะซื้อร่วมด้วยต้องจ่ายเพิ่มอีก 10 ดอลล่าร์ รวม 50 ดอลล่าร์ ส่วนเจดีย์น้ำหอมและฮัวลู-ทามก็อกเป็นทัวร์ 1 วัน ออกเช้าเย็นกลับ ราคา 20,22 ดอล
เมื่อเจอทริกเช่นนี้เลยถอยดึกว่า ลองเดินถามเคาน์เตอร์ทัวร์ทัวร์ซึ่งเปิดอยู่ทุกหัวถนน โดยเฉพาะเย่นต์เชื่อ Shinh Cafe มีมากที่สุด ปรากฎว่าแต่ละรายบอกราคาเปิดของแต่ละทริปแตกต่างกันมาก บางแห่งมากกว่าราคาที่โรงแรมเราพักเกือบครึ่ง เกือบเท่าตัว 2-3 เท่าตัวก็มี เรียกว่าหากหลงกลซื้อโดยไม่เช็กเจ้าอื่นๆ เปรียบเทียบเป็นต้องเอาหัวโขกกำแพงแน่
แต่ที่สุดก็เจอเจ้าหนึ่งเสนอต่ำสุดแล้ว คือไปฮาลองเบย์ 2 วัน คิด 45 ดอลล่าร์ ดัดสินใจซื้อ ก็เจอทริกที่สอง
ก่อนเซ็นสัญญาก้มมองใบเสร็จมี VAT บวกเข้าด้วยนี่ อย่างไปฮาลองเบย์เดิมบอกไว้ 40 เหรียญ บวก VAT แล้ว เกือบๆ 50 เหรียญ แทบไม่ต่างจากราคาที่โรงแรมบอกมา ก็เลยลังเลจะไม่เอาดีไหม แม่ค้าเห็นเราลังเล เลยชี้ให้ดูโบรชัวร์ ซึ่งเป็นตัวหนังสือเล็กๆ ห้อยท้ายว่า Exclude VAT แล้วก็ยื่นข้อเสนอใหม่มาว่าไม่บวกแว็ตเพิ่มก็ได้ แต่ต้องซื้อทั้ง 3 ทัวร์ ในราคา 85 เหรียญ เราก็คิดแล้วคิดอีก ที่สุดก็ต้องยอมซื้อทั้ง 3 ทัวร์
รุ่งเช้าไกด์มารับที่โรงแรม แล้วพาตระเวณรับลูกทัวร์อื่นๆ ตามโรงแรมต่างๆ ทั่วเมือง กว่าจะเต็มรถใช้เวลาไปร่วมชั่วโมงครึ่ง เป็นทัวร์จอยที่ซื้อมาจากหลายร้าน เมื่อเจอกันก็อดถามราคาซื้อทัวร์กันมาไม่ได้ ปรากฎว่าราคาต่างกันมาก เช่นฮาลองเบย์ 2 วัน ราคาอยู่ที่ 40-100 ดอลล่าร์ ใครที่ซื้อมาแพงก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งเลย
ในรถคันเดียวกันนี้ทัวร์อยู่ 2 กลุ่ม คือ 2 วัน 1 คืน กับ 3 วัน 2 คืน โชคร้ายวันที่เราไปนั้นพายุเข้าพอดี ฝนตกทั้งวัน เป็นข้ออ้างก็ไกด์ตัดซะหลายโปรแกรม คนที่จองมา 2 วันก็เลยได้ดูถ้ำแค่แห่งเดียว ทั้งที่ตามกำหนดการต้องนำชม 2 แห่ง หมู่บ้านประมงและฟาร์มหอยมุกก็ดูจากเรือไกลๆ ไม่ได้เข้าใกล้ เรือคยัคก็ไม่ได้พายโดยไกด์บอกว่าไว้พายเช้าของอีกวัน ซึ่งก็ไม่ได้พายอีก ไกด์อ้างว่าเคาะประตูเรียกแล้วแต่ส่วนใหญ่ไม่ออกมาเอง
เนื่องจากไม่มึใครได้พายเรือคะยัคก็เลยไม่รู้ว่าไกด์จะใช้ทริกเรียกเงินเพิ่มจากบางคนอีกหรือเปล่าด้วยข้ออ้างไม่มีระบุไว้ในใบเสร็จว่ารวมคะยัคด้วย
ขณะอยู่บนเรือทุกคนไม่ว่าซื้อทัวร์ไหน ราคาเท่าไร ก็กินและพักห้องพักเหมือนๆ กัน แต่ต่างกันตรงเครื่องดื่ม บางคนได้รับเสิร์ฟเบียร์ วอสก้า บางคนรวมเราด้วยคนหนึ่งได้แต่นั่งมองคนอื่นดื่ม ด้วยข้ออ้างไม่ได้ซื้อเครื่องดื่มมาด้วย อยากดื่ม (รวมทั้งน้ำเปล่า) ก็ต้องซื้อเองบนเรือซึ่งแพงน่าดูและหากนำขึ้นมาจากฝั่ง บางคนก็โวยวายว่าทำไมไม่มีให้ดื่มฟรีทั้งที่ซื้อทัวร์มาแพงกว่าคนที่ได้ดื่มด้วยซ้ำ ไกด์ก็งัดใบเสร็จซึ่งไกด์ขอไปเก็บไว้ตั้งแต่ขึ้นรถมายืนยันว่าไม่รวมเครื่องดื่มด้วย
หลังเที่ยงของอีกวันเราก็กลับจากอาลองเบย์ชนิดไม่แฮปปี้นัก เพราะได้เที่ยวแค่ถ้ำเดียว เวลาส่วนใหญ่อยู่บนเรือกับวิวซ้ำซากน่าเบื่อ แต่นับว่าเสียอารมณ์น้อยกว่านักท่องเที่ยวบางคนที่ซื้อทัวร์มาแพงกว่าเรามาก แต่ได้รับการบริการแค่นี้ และนักท่องเที่ยวจากสวิตเซอร์แลนด์อีกคนเครียดที่สุด เพราะไกด์ซึ่งแยกไปกลุ่มทัวร์ 3 วัน 2 คืน เอาพาสปอร์ตของเธอไปด้วย โดยที่ถามใครก็ไม่มีใครรู้เรื่อง แต่ที่สุดเธอก็ได้รับก่อนขึ้นรถกลับฮานอย
ขอทัวร์ไทยอย่าทำทัวร์แบบฆ่าตัวตายแบบทัวร์เวียดนามเขาเลย
แต่บางอย่างก็คงต้องขอติ เช่นสารพัดทริกที่คนเวียดนามพยายามล้วงเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวให้มากที่สุดโดยไม่คำนึงถึงอนาคตข้างหน้า
คราวนี้ไปเที่ยวฮานอยมาครับ แหล่งท่องเที่ยวในเมืองไม่ค่อยมีปัญหา สามารถเดิน ขึ้นรถเมล์ หรือแท็กซี่ไปเที่ยวเองได้ แต่แหล่งท่องเที่ยวไกลๆ ออกไปนี่ซิ ไปเองอาจลำบาก ไม่มีพาหะนะไปถึง หรือมีน้อย หรือหลายต่อ ทำให้เสียเวลา และค่าใช้จ่ายสูง การซื้อทัวร์ไปจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ทัวร์รอบหรือใกล้ฮานอยมีหลายทัวร์ แต่ที่ดังและคนไปกันเยอะมี 4 ทัวร์ คือซาปา ฮาลองเบย์ เจดีย์น้ำหอม และฮัวลู-ทามก็อก
ซาปาเคยไปมาแล้ว อีกทั้งไกลเกิน รอบนี้มีเวลาจำกัดเลยขอบาย เหลือ 3 ทัวร์ให้ตะลุยเต็มที่
มีคำกล่าวว่าใครไปเวียดนามแล้วไม่โดนหลอกไม่โดนทริกต้องเสียเงินก็ไม่ถึงเวียดนาม ผมเคยไปมาแล้ว 2 ครั้งก็ถึงเวียดนามทุกครั้งมากบ้างน้อยบ้าง ครั้งที่สามนี้ก็โดนอีกครับ
ถึงโรงแรมวันแรก เห็นป้ายราคาทัวร์ฮาลองเบย์ 2 วัน 1 คืนราคา 40-100 ดอลล่าร์ (โรงแรมส่วนใหญ่ในเวียตนามขายทัวร์ด้วย) เนื่องจากงบฯ มีจำกัด ก็เลยสนใจราคาต่ำสุดไว้ก่อน
ถามไปถามมาปรากฎว่าราคาดังกล่าวไม่รวมค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ซึ่งหากจะซื้อร่วมด้วยต้องจ่ายเพิ่มอีก 10 ดอลล่าร์ รวม 50 ดอลล่าร์ ส่วนเจดีย์น้ำหอมและฮัวลู-ทามก็อกเป็นทัวร์ 1 วัน ออกเช้าเย็นกลับ ราคา 20,22 ดอล
เมื่อเจอทริกเช่นนี้เลยถอยดึกว่า ลองเดินถามเคาน์เตอร์ทัวร์ทัวร์ซึ่งเปิดอยู่ทุกหัวถนน โดยเฉพาะเย่นต์เชื่อ Shinh Cafe มีมากที่สุด ปรากฎว่าแต่ละรายบอกราคาเปิดของแต่ละทริปแตกต่างกันมาก บางแห่งมากกว่าราคาที่โรงแรมเราพักเกือบครึ่ง เกือบเท่าตัว 2-3 เท่าตัวก็มี เรียกว่าหากหลงกลซื้อโดยไม่เช็กเจ้าอื่นๆ เปรียบเทียบเป็นต้องเอาหัวโขกกำแพงแน่
แต่ที่สุดก็เจอเจ้าหนึ่งเสนอต่ำสุดแล้ว คือไปฮาลองเบย์ 2 วัน คิด 45 ดอลล่าร์ ดัดสินใจซื้อ ก็เจอทริกที่สอง
ก่อนเซ็นสัญญาก้มมองใบเสร็จมี VAT บวกเข้าด้วยนี่ อย่างไปฮาลองเบย์เดิมบอกไว้ 40 เหรียญ บวก VAT แล้ว เกือบๆ 50 เหรียญ แทบไม่ต่างจากราคาที่โรงแรมบอกมา ก็เลยลังเลจะไม่เอาดีไหม แม่ค้าเห็นเราลังเล เลยชี้ให้ดูโบรชัวร์ ซึ่งเป็นตัวหนังสือเล็กๆ ห้อยท้ายว่า Exclude VAT แล้วก็ยื่นข้อเสนอใหม่มาว่าไม่บวกแว็ตเพิ่มก็ได้ แต่ต้องซื้อทั้ง 3 ทัวร์ ในราคา 85 เหรียญ เราก็คิดแล้วคิดอีก ที่สุดก็ต้องยอมซื้อทั้ง 3 ทัวร์
รุ่งเช้าไกด์มารับที่โรงแรม แล้วพาตระเวณรับลูกทัวร์อื่นๆ ตามโรงแรมต่างๆ ทั่วเมือง กว่าจะเต็มรถใช้เวลาไปร่วมชั่วโมงครึ่ง เป็นทัวร์จอยที่ซื้อมาจากหลายร้าน เมื่อเจอกันก็อดถามราคาซื้อทัวร์กันมาไม่ได้ ปรากฎว่าราคาต่างกันมาก เช่นฮาลองเบย์ 2 วัน ราคาอยู่ที่ 40-100 ดอลล่าร์ ใครที่ซื้อมาแพงก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งเลย
ในรถคันเดียวกันนี้ทัวร์อยู่ 2 กลุ่ม คือ 2 วัน 1 คืน กับ 3 วัน 2 คืน โชคร้ายวันที่เราไปนั้นพายุเข้าพอดี ฝนตกทั้งวัน เป็นข้ออ้างก็ไกด์ตัดซะหลายโปรแกรม คนที่จองมา 2 วันก็เลยได้ดูถ้ำแค่แห่งเดียว ทั้งที่ตามกำหนดการต้องนำชม 2 แห่ง หมู่บ้านประมงและฟาร์มหอยมุกก็ดูจากเรือไกลๆ ไม่ได้เข้าใกล้ เรือคยัคก็ไม่ได้พายโดยไกด์บอกว่าไว้พายเช้าของอีกวัน ซึ่งก็ไม่ได้พายอีก ไกด์อ้างว่าเคาะประตูเรียกแล้วแต่ส่วนใหญ่ไม่ออกมาเอง
เนื่องจากไม่มึใครได้พายเรือคะยัคก็เลยไม่รู้ว่าไกด์จะใช้ทริกเรียกเงินเพิ่มจากบางคนอีกหรือเปล่าด้วยข้ออ้างไม่มีระบุไว้ในใบเสร็จว่ารวมคะยัคด้วย
ขณะอยู่บนเรือทุกคนไม่ว่าซื้อทัวร์ไหน ราคาเท่าไร ก็กินและพักห้องพักเหมือนๆ กัน แต่ต่างกันตรงเครื่องดื่ม บางคนได้รับเสิร์ฟเบียร์ วอสก้า บางคนรวมเราด้วยคนหนึ่งได้แต่นั่งมองคนอื่นดื่ม ด้วยข้ออ้างไม่ได้ซื้อเครื่องดื่มมาด้วย อยากดื่ม (รวมทั้งน้ำเปล่า) ก็ต้องซื้อเองบนเรือซึ่งแพงน่าดูและหากนำขึ้นมาจากฝั่ง บางคนก็โวยวายว่าทำไมไม่มีให้ดื่มฟรีทั้งที่ซื้อทัวร์มาแพงกว่าคนที่ได้ดื่มด้วยซ้ำ ไกด์ก็งัดใบเสร็จซึ่งไกด์ขอไปเก็บไว้ตั้งแต่ขึ้นรถมายืนยันว่าไม่รวมเครื่องดื่มด้วย
หลังเที่ยงของอีกวันเราก็กลับจากอาลองเบย์ชนิดไม่แฮปปี้นัก เพราะได้เที่ยวแค่ถ้ำเดียว เวลาส่วนใหญ่อยู่บนเรือกับวิวซ้ำซากน่าเบื่อ แต่นับว่าเสียอารมณ์น้อยกว่านักท่องเที่ยวบางคนที่ซื้อทัวร์มาแพงกว่าเรามาก แต่ได้รับการบริการแค่นี้ และนักท่องเที่ยวจากสวิตเซอร์แลนด์อีกคนเครียดที่สุด เพราะไกด์ซึ่งแยกไปกลุ่มทัวร์ 3 วัน 2 คืน เอาพาสปอร์ตของเธอไปด้วย โดยที่ถามใครก็ไม่มีใครรู้เรื่อง แต่ที่สุดเธอก็ได้รับก่อนขึ้นรถกลับฮานอย