จากสิริชาดก
ว่าด้วยนายหัตถาจารย์ ผู้ดูแลอุปัถฐากพระดาบส
ได้เป็นพระราชาด้วยอำนาจแห่งบุญนั้น
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=451
พระศาสดาเมื่อตรัสสิริชาดกอยู่ ได้ทรงกล่าวพระคาถาดังนี้
"ดูก่อนคฤหบดี ชื่อว่าบ่อเกิดอย่างอื่นเช่นกับบุญของสัตว์เหล่านี้ ย่อมไม่มี
เพราะว่ารัตนะทั้งหลายย่อมเกิดขึ้นแก่คนผู้มีบุญ แม้ในที่อันมิใช่บ่อเกิดทั้งหลาย"
แล้วทรงแสดงพระธรรมเทศนานี้ว่า :-
"ขุมทรัพย์คือบุญนี้ ให้สมบัติ อันน่าใคร่ทั้งปวง
แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมปรารถนาผลใด
ย่อมได้ผลนั้นทั้งหมดด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ความเป็นผู้มีผิวพรรณงาม ๑ ความเป็นผู้มีเสียงไพเราะ ๑
ความเป็นผู้มีทรวดทรงงาม ๑ ความเป็นผู้มีรูปสวย ๑
ความเป็นอธิบดี ๑ ความเป็นผู้มีบริวาร ๑
ผลทั้งหมดนี้ อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ความเป็นเจ้าประเทศราช ๑ ความเป็นผู้มีอิสริยยศ ๑
ความสุขของพระเจ้าจักรพรรดิอันเป็นที่รัก ๑ ความเป็นราชาแห่งเทวดาในเทวโลก ๑
ผลทั้งหมดนี้ อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
สมบัติอันเป็นของมนุษย์ ๑ ความรื่นรมย์ยินดีในเทวโลก ๑ นิพพานสมบัติ ๑
ผลทั้งหมดนี้ อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ผลทั้งหมดคือความที่บุคคลอาศัยมิตตสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยมิตร
แล้วประกอบความเพียรด้วยอุบายอันแยบคาย ได้เป็นผู้ชำนาญในวิชชาและวิมุตติ
อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ปฏิสัมภิทา ๑ วิโมกข์ ๑ สาวกบารมี ๑ ปัจเจกโพธิ ๑ พุทธภูมิ ๑
ผลทั้งหมดนี้ อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ปุญญสัมปทา คือความถึงพร้อมด้วยบุญนี้ ให้ความสำเร็จผลอันใหญ่ยิ่งอย่างนี้
เพราะฉะนั้น บัณฑิตผู้เป็นนักปราชญ์ทั้งหลาย
จึงสรรเสริญความเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้ ดังนี้."
บุญย่อมให้ผลได้แม้ในที่ๆคาดไม่ถึง
ว่าด้วยนายหัตถาจารย์ ผู้ดูแลอุปัถฐากพระดาบส
ได้เป็นพระราชาด้วยอำนาจแห่งบุญนั้น
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=451
พระศาสดาเมื่อตรัสสิริชาดกอยู่ ได้ทรงกล่าวพระคาถาดังนี้
"ดูก่อนคฤหบดี ชื่อว่าบ่อเกิดอย่างอื่นเช่นกับบุญของสัตว์เหล่านี้ ย่อมไม่มี
เพราะว่ารัตนะทั้งหลายย่อมเกิดขึ้นแก่คนผู้มีบุญ แม้ในที่อันมิใช่บ่อเกิดทั้งหลาย"
แล้วทรงแสดงพระธรรมเทศนานี้ว่า :-
"ขุมทรัพย์คือบุญนี้ ให้สมบัติ อันน่าใคร่ทั้งปวง
แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมปรารถนาผลใด
ย่อมได้ผลนั้นทั้งหมดด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ความเป็นผู้มีผิวพรรณงาม ๑ ความเป็นผู้มีเสียงไพเราะ ๑
ความเป็นผู้มีทรวดทรงงาม ๑ ความเป็นผู้มีรูปสวย ๑
ความเป็นอธิบดี ๑ ความเป็นผู้มีบริวาร ๑
ผลทั้งหมดนี้ อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ความเป็นเจ้าประเทศราช ๑ ความเป็นผู้มีอิสริยยศ ๑
ความสุขของพระเจ้าจักรพรรดิอันเป็นที่รัก ๑ ความเป็นราชาแห่งเทวดาในเทวโลก ๑
ผลทั้งหมดนี้ อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
สมบัติอันเป็นของมนุษย์ ๑ ความรื่นรมย์ยินดีในเทวโลก ๑ นิพพานสมบัติ ๑
ผลทั้งหมดนี้ อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ผลทั้งหมดคือความที่บุคคลอาศัยมิตตสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยมิตร
แล้วประกอบความเพียรด้วยอุบายอันแยบคาย ได้เป็นผู้ชำนาญในวิชชาและวิมุตติ
อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ปฏิสัมภิทา ๑ วิโมกข์ ๑ สาวกบารมี ๑ ปัจเจกโพธิ ๑ พุทธภูมิ ๑
ผลทั้งหมดนี้ อันเทวดาและมนุษย์ย่อมได้ด้วยขุมทรัพย์คือบุญนี้.
ปุญญสัมปทา คือความถึงพร้อมด้วยบุญนี้ ให้ความสำเร็จผลอันใหญ่ยิ่งอย่างนี้
เพราะฉะนั้น บัณฑิตผู้เป็นนักปราชญ์ทั้งหลาย
จึงสรรเสริญความเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้ ดังนี้."