มานั่งคุยกันในศาลาผีครับ


วันนี้ในที่สุดบรรยากาศทำร้ายกระเพาะปัสสาวะของแฟนบอลแมนยูไนเต็ดก็กลับมาอีกครั้ง
หลังจากที่ได้ฉี่กันสบายๆแค่นัดเดียว  ลุ้นเยี่ยวเหนียวกันยันนาทีสุดท้ายอีกแล้วครับทั่น
โชคดีที่เกิดปาฏิหาริย์องค์เทพแสดงอิทธิฤทธิ์ให้แฟนบอลประจักษ์กับตากัน ไม่เช่นนั้นวันนี้โดนเหยียบจมดินแน่

การลงเล่นสองนัดในช่วงสามวัน เป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งที่ทีมใหญ่ๆควรจะต้องทำให้ได้
ยิ่งเป็นสองเกมส์ที่เจอกับทีมเล็กกว่ามาก ก็ควรจะยิ่งต้องทำให้ได้หกแต้ม หายไปแม้แต้มนึงก็ถือว่าเฟลเลย
ไลน์อัพวันนี้ น่าแปลกใจอย่างเดียวก็คือการไม่มีชื่อของเวย์น เพราะก่อนหน้านี้ข่าวออกมาชัดเจนว่า หมูลงไหว
วันนี้หาย ไม่มีแม้กระทั่งชื่อในทีมสำรอง ก็ค่อนข้างแปลกใจนิดนึง
แต่ก็ถือเป็นโอกาสดีมากๆของมิดฟิลด์4ตัวที่ได้คุมเกมส์กันอย่างเต็มที่
มาต้า - คาริค - เฟลลี่ - เอเรร่า  ได้ลงพร้อมหน้ากันสลอนเลย และยิ่งเล่นยิ่งเข้าขากันขึ้นเรื่อยๆ

หน้าคู่เป็น RVP กับ วิลสันที่ได้โอกาสนี้มาแบบเต็มๆ
ก่อนแข่งผมก็คาดหวังไว้ไม่ต่างจากแฟนๆคนอื่นหรอกครับ อยากให้ไอ้หนูนี่ยิงได้
ส่วนกองหลัง เป็นสองตัวที่ฟอร์มกำลังดียืนคู่กลาง โรโฮ + สมอลลิ่ง  
วิงแบ็คสองข้างก็ตัวเดิม แอชลีย์ ยัง กับ วาเลนเซีย
คือถ้ารูนไม่เจ็บ นี่แทบจะเป็นทีมเดิมทั้งทีมจากเมื่อสามวันที่แล้วเลย  
และผมก็เชื่อว่า ถ้าเป็นคนอื่นก็ต้องจัดแบบนี้แน่ๆ เพราะฟอร์มกำลังมา
ความมั่นใจน่าจะกำลังเต็มที่  บางครั้ง ฟุตบอลของจริงมันก็ไม่ใช่เกมส์ที่จะใช้ตรรกะอะไรง่ายๆอย่างที่ว่า
นักเตะเพิ่งเล่นมา เหนื่อย พัก
แล้วก็โรเตชั่น กลับกัน การได้ลงสนามเป็นตัวจริงซ้ำ  
บางครั้งสิ่งที่ทดแทนมาคือความมั่นใจ และบอลที่มีทรงที่แข็งแกร่งมากขึ้น
เพราะถ้าเกิดนัดนี้  ฟานกัลบ้าจี้เอาเฟลทเชอร์ หรือ ยานาไซ ลงมาแทนตัวที่กำลังดีๆอย่างคาริค หรือมาต้านี่  สงสัยศพไม่สวยแน่ๆ

ก่อนแข่ง พวกเราคาดหวังกันไว้ว่า นัดนี้คงจะไม่ต้องลุ้นเยี่ยวเหนียวมั้ง ดูกันชิลๆ มีความสุขเหมือนนัดที่แล้ว
จริงๆมันก็ควรจะชิลละครับ คือถ้าดูเฉพาะฟอร์มการเล่น  
เอาจริงๆแล้วไม่มีอะไรน่าห่วงนะ  
แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในเกมส์  
ความไม่เด็ดขาด การใช้โอกาสเปลืองบางครั้ง มันทำให้เราต้องลุ้นยาวยันจบเกมส์กันเหนื่อยเลย

พูดถึงแผงมิดฟิลด์ก่อน
วันนี้ ผมขอพูดถึงนักเตะที่ ผมให้แมนออฟเดอะแมตช์เค้าก่อน .. ฮวน มาต้า

วันนี้ผมนั่งดูการเล่นของมาต้าแบบเต็มๆ บอกได้เลยว่า นักเตะที่มีเบสิคและเซนส์บอลขนาดนี้
ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะต้องนั่งก้นด้านอยู่ข้างสนาม
การจับบอลแรกที่เนียนยิ่งกว่าฟองเบียร์บนปุยเมฆ จับปุ๊บพลิกปั๊บ
จากหันหลังกลายเป็นหันหน้าเข้าประตูได้ภายในวิเดียว
โดยที่ฝ่ายรับยังวิ่งเข้ามาบล็อคไม่ถึงเลย อันนี้เนียนตามาก คือนักฟุตบอลที่เล่นมิดฟิลด์ที่เป็นสายรุกนั้น
สมควรที่จะมานั่งศึกษาการเล่นของมาต้ามากๆ
นอกจากนี้ การออกบอลแต่ละครั้ง เป็นการออกบอลที่ฉลาดและแม่นยำที่สุด คือทิศทางน้ำหนัก มาครบถ้วน
ทั้งเกมส์ผมเห็นมาต้าพลาดแค่ครั้งเดียวเอง นอกนั้น ต่อให้โดนบีบถึงตัวขนาดไหน
มาต้าก็ยังออกบอลไม่พลาด แถมจินตนาการดี หูตาไว
วันนี้เนียนมากจริงๆ ผมให้ MoMเลย

เฟลไลนี่ ลูกที่วิ่งมาโขกเป็นประตู น่าทึ่งมากๆ วิ่งมาจากไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า อากาศเบื้องบน คือพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของเฟลไลนี่อย่างแท้จริง
โขกได้แน่นอนและสะใจสุดๆ นอกจากนี้จังหวะอื่นๆในเกมส์ เฟลลี่ก็เอาอยู่หมดเช่นเคย  คอนโทรลลูกบอลที่ลอยมาได้นิ่งมาก
ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ  ยิ่งเล่นยิ่งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่ว่า ตอนนี้เขาเป็นฝันร้ายของทีมตรงข้ามทุกทีมที่เจอยูไนเต็ดแล้ว
ผมนั่งดูเกมส์นี้  รู้สึกได้เลย เหมือนกับว่า  "สนามนี้เป็นของข้า"
เหมือนเฟลลี่เป็น หัวโจกเด็กน้อย ที่ของเล่นทุกอย่างเป็นของกรูหมด
ใครมาเล่นไม่ได้ ไม่ให้  เหมือนกับลูกบอลนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของเค้าคนเดียว  เยี่ยมยอดมากๆ

คาริค ยังคงเป็นคนปิดทองหลังพระที่ แลดูเหมือนแกกินผลควันเข้าไป ทำตัวเป็นควันได้แนบเนียนมาก  นิ่งๆ ไม่หวือหวา
แต่สำคัญทุกลูก  อย่างที่บอก เซ็นเตอร์สองคนนี่ต้องมาขอบคุณคาริคจริงๆที่แกเป็นตัวเชื่อมบอลจากหลังที่ดีมากๆ
ผมสังเกตดู  สิ่งที่คาริคทำได้  คือการที่ทำให้กองหลังสองตัวไม่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ลำบาก
เซ็นเตอร์นั้นเป็นตำแหน่งเสมอตัวที่ พลาดคือโดนทันที  การจ่ายบอลคืนบอลให้กองหลัง  เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าอะไร
ถ้าเพื่อนออกบอลมาให้เล่นลำบาก หรือน้ำหนักไม่ดี  มีสิทธิ์โดนกองหน้าตรงข้ามมาpressingสูง แล้วเสียบอลได้ง่ายๆ
แต่สิ่งที่คาริคทำ คือทำให้ โรโฮกับสมอลลิ่งเล่นได้ง่ายๆ  แถมมาช่วยรับบอลเวลาหาคนเปิดไม่เจอ
ทำให้ไม่ต้องเปิดโยนยาวแบบมั่วๆให้มันเสียของ
นอกจากนี้  คาริคยังมีเซนส์การเล่นภาคเกมส์รับที่ดีอยู่อีกอย่าง คือการช่วยรองบอลให้กองหลังได้
เวลาที่เซ็นเตอร์เสียตำแหน่งไปแล้ว หรือแม้กระทั่งแบ็ค  ตัวพวกนี้หายไป
คนที่ขยับมาแทนที่แบบเนียนๆ คือคาริค  วันนี้ก็มีจังหวะที่สมอลลิ่งหลุดไปแล้ว คาริคลงมาซับแทนให้
เวลาเล่นบอล คนที่เป็นตัวรับ เวลาเพื่อนเข้าไปชิดตัว หรือเสียจังหวะไปแล้ว  ทีมเวิร์คที่สำคัญที่สุดคือ
ตัวรับคนอื่นต้องรู้หน้าที่ตัวเองที่จะวิ่งเข้าไปทดแทนตำแหน่งเพื่อน
หรือแม้กระทั่งไปคอยดักเก็บให้หากโกล์ออกไปพลาด
คาริค คือจิ๊กซอว์ตัวนั้น  วันนี้เยี่ยมมากจริงๆ

เอเรร่า ครึงแรกเล่นเสียเยอะมาก จนแทบจะได้เขียนด่าอยู่แล้ว แต่ครึ่งหลังพัฒนาขึ้นมา กลายเป็นคนละคน
ดังนั้นเลยไม่มีอะไรจะเขียนถึง (555)  ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนแดนกลางที่ดีเหมือนเดิม คล่อง ไว
เสียดายจังหวะเหน่งๆนั้น  โล่งกว่าNzonziซะอีก แต่ยิงไม่เข้า น่าเบิ๊ดกะโหลกมาก
ดีที่ครึ่งหลังมาแก้ตัวด้วยการทำเกมส์ที่ดีได้ ไม่งั้นถ้าผลเกมส์นี้แย่กว่านี้ มีหวังโดนสวดแน่นอน  
ปรับปรุงด้วยนะแคร๊บน้องอาราเร่

กองหน้าสองตัว RVP กับ วิลสัน .. และ ฟัลเกา
RVP แม้จะไม่ได้เร็วแรงเหมือนตอนเป็นหนุ่มกระทง แต่ส่วนตัวผมชอบนะ
เพอร์ฟอร์มแมนซ์ที่ออกมา แสดงให้เห็นว่า
แกพยายามแล้ว พยายามไล่บอล มีส่วนร่วมกับเกมส์
ทดแทนในส่วนที่ไอ่หมูมันหายไปได้ดีทีเดียว
หลายจังหวะมีปั๊มมีอัด  ต่อบอลให้เพื่อน ไม่ได้รอยิงเป้าอย่างเดียว เพราะมีน้องเจมส์มาแล้ว
ดังนั้นพี่บิ้นวันนี้ผมให้ผ่านฉลุยเรื่องทัศนคติการเล่น

ส่วน วิลสัน เด่นที่ความสดจริงๆ เป็นกองหน้าที่วิ่งเร็วที่สุดตอนนี้ของทีมเราแล้วล่ะ (เหมือนเวลเบ็คเมื่อก่อน)
ความดีความชอบคือ การกล้าเล่น  แต่ข้อเสียน่าโดนด่าคือ กล้าเล่นมากเกินไป จนกลายเป็นเห็นแก่ตัว
เข้าใจว่าอยากพิสูจน์ตัวเอง โอกาสมีน้อย  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากลูกหลุดเดี่ยวนั้น ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่สมควร
ต่อให้เป็นกองหน้าที่อยากได้ประตู อยากได้โอกาสขนาดไหน  หลุดขึ้นไปพร้อมกันสองคนแบบนั้น
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ยังไงก็ต้องจ่าย ต่อให้เป็นรูนหรือฟัลเกา สองคนนั้นจ่ายแน่นอน
แต่ด้วยประสบการณ์น้องที่ยังไม่เยอะมาก  ตัดสินใจไม่ดีอย่างแรง  มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
และคนเราก็มักจะจดจำความผิดพลาดที่เด่นชัดมากกว่าผลงานที่ทำดีมาตลอดเกมส์ซะด้วย
.. วันนี้ถือว่าให้เสมอตัวไป รอดตัวไป เพราะจังหวะที่ได้นั้น น้องมันก็เป็นคนกระชากมาได้ดี
จังหวะสปีด จังหวะกระชาก ความกล้าเล่น ความสด มีให้เห็นหลายดอก  
อันนี้คือข้อดี ที่ผมไม่อยากจะด่ามาก
ถ้าเอาไปหักล้างกับลูกที่ไม่ยอมจ่ายลูกนั้น
และก็การเคลื่อนที่ไปในจุดหรือตำแหน่งที่ทำให้ทีมไม่ได้เปรียบ ถือว่าเสมอตัวไป

โรโฮ กับ สมอลลิ่ง วันนี้เป็นวันที่สองคนนี้เล่นได้ดีมากจริงๆ ขอชมเป็นแพ็คคู่เลย
เริ่มจาก เซ็นเตอร์อาเจนไตน์ก่อนที่เริ่มที่จะมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ดูสภาพแล้วไม่น่าจะบู๊เก่งเพราะตัวเล็กนิดเดียว
เทียบกันแล้ว แลดูชอว์ครอสเด็กเก่าเรา ยังแลดูน่ากลัวกว่าเลย ตัวบะเริ่ม แต่วันนี้โรโฮทำได้ดีมากๆ
ไม่นับลูกขี้ตู่เป็นประตูลูกนั้น  ฟอร์มโดยรวมทั่วไปดีเลย ป้องกันดี  แถมมีลูกหนัก ลูกบี้ให้เห็นมากขึ้น
ใช้เป็นตัวชนได้ดีเลย  สมอลลิ่งเลยเก็บกินสบายๆ  วันนี้เล่นเด่นมากจริงๆโรโฮ ดีกว่าเกมส์ที่แล้ว
ส่วนสมอลลิ่ง ก็เพราะอย่างที่บอก เพื่อนเก็บให้เยอะแล้ว สมอลลิ่งเลยงานหนักน้อยกว่าเดิมหน่อย
แต่ลูกที่พี่คิงของเราต้องทำ  ก็ทำได้ จังหวะเดี่ยวๆกับกองหน้า จังหวะโหม่งสกัด  
ลูกสำคัญๆ สมอลลิ่งทำได้ดีเหมือนเดิม
อันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่กองหลังเราพัฒนาฟอร์มขึ้นมาได้สะแด่วแห้วเหลือเกิน ..
(ศัพท์รุ่นพี่เต๋าพี่มอส เด็กๆสมัยนี้อาจงงเล็กน้อย - -*)
ถ้าจับคู่กันไปเรื่อยๆ แล้วฟอร์มแบบนี้  สงสัยตัวที่เจ็บอยู่ได้ก้นด้านยาวๆ  
ฟิลโจนส์นี่เจ็บลืมโลก น่าเป็นห่วงว่าฟอร์มการเล่นจะหยุดชะงัก
ส่วนน้องอีฟ ที่เป็นเซ็นเตอร์ตัวความหวัง  เจอคู่หู(เจเค)"โรลิ่ง" โรโฮ สมอลลิ่ง  รับรองมีหนาว

นายทวารยังหวานอยู่ .. เกือบจะได้ไปแจ้งความคนหายสองนัดติดแล้ว
อยู่ดีๆได้โชว์หล่อซะงั้น เมื่อท้ายเกมส์โดนดี สโต๊คมาส่องแล้วส่องอีกกันสนุกเท้าเลย - -*
ถ้าไม่ได้น้องเดเซฟหลายดอกนี่  รับรองว่ากระทู้นี้ได้กลายเป็นศาลาผีเศร้าแน่นอน
ยังคงสำคัญอยู่เสมอ และนี่แหละคือสิ่งที่ คนเล่นโกล์ จะต้องรับต้องเจอกับมัน
ทั้งเกมส์อาจจะไม่ได้แตะบอลเลยสักลูก  แต่ถึงเวลาลูกชี้เป็นชี้ตาย  คุณต้องเอาให้อยู่
และนี่เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า เลเวลของเดเกอา มันอัพขึ้นมาอยู่แนวหน้าแล้วจริงๆ
ไม่งั้นผมว่า โดนตีเสมอแน่นอนเกมส์นี้ .. ขอบคุณน้องเดจริงๆ ลูกเซฟนี้ล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำอีก
ส่วนประตูที่เสีย ก็คงต้องทำใจว่ามันเกินแรงจริงๆ
จุดผิดพลาดลูกที่เสีย คือกองหลังไม่รักษาตำแหน่ง + คนสกรีนหน้าแผงนอนเจ็บคออยู่ท้ายป่าช้านู่นนน
คือเจออีน้องหนูบ่ยั่นลากมาคนเดียว พวกพี่วิ่งตามกันไปหมดเลย  เทกันหมดแผงยังกะยาพาราแบ่งขายงั้นแหละ
คือโดนบุกมาฝั่งซ้าย  กองหลังเทมาฝั่งซ้าย  เดเกอาขยับเยื้องมาปิดมุมขวา
พอบอลมันเด้งกลับมาตรงกลาง น้องเดกลับมายืนตำแหน่งช้าไปประมาณ สองวิได้  ถ้ายืนกลางกว่านี้อาจจะบินเซฟทัน
เพราะงั้น ลูกนี้  ถือเป็น"ความรับผิดชอบร่วม" ของแผงหลัง ไม่ใช่ความผิดโกล์  ดังนั้นไม่ใช่เรื่องต้องตำหนิอะไร

ที่สุดของความสยอง..วิงแบ็คสองข้าง .. เริ่มจาก
AV25 ยังคงมาตรฐานเดิม  ตอนแรกก็เกือบจะได้ด่าแล้วเหมือนกัน
แต่ดันพัฒนาขึ้นมาในช่วงครึ่งหลัง เลยไม่รู้จะด่าอะไร- -
คือแกยังคงทำได้แค่เป็นตัวเชื่อมเกมส์ด้านหลังขวา ธรรมดาๆเท่านั้น  
ยังไม่มีลูกสกัด ลูกป้องกันอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากวิ่งประคอง
ซึ่ง โอเค อาจจะตามแทคติกก็ได้ ให้วิ่งประคองตัวรุกฝั่งนู้น
แต่บางที  ลูกสกัดๆหนักๆ ก็จำเป็นสำหรับคนเล่นแบ็คเหมือนกันนะ
เป็นการสกรีนงานให้เซ็นเตอร์ด้วย  บางทีจะหวังให้สมอลลิ่งมันสกัดได้ทุกลูก มันเป็นไปไม่ได้หรอก
ส่วนเรื่องการเอาตัวรอด การบุก ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่รู้ทำไม AVถึงฟอร์มตกในเรื่องนี้
คือเป็นอดีตปีก ที่ไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้เลย  ไม่สามารถพาบอลไปกับตัวเองได้  
ทำดีสุดคือ แปะคืนหลัง หรือแปะเข้ากลาง
มันน่าประหลาดใจมากๆ  ยังดีที่ช่วงครึ่งหลังมา แกทำได้ดีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ มีจังหวะกระชาก
จังหวะแตะ หลุดออกทางขวาแบบเห็นๆหลายลูก
ดังนั้น ถือว่า ทำผลงานได้ดีเยี่ยมขึ้นมาจากครึ่งแรกเยอะ เกมส์นี้จึงเป็นอีกเกมส์ที่ เสมอตัว ..
แต่เรื่องการบุกนี้ ยังไม่ได้น้ำได้เนื้อเท่าที่ควร
AVคนเดิมตอนที่เพิ่งย้ายมา เปิดเข้าหัวรูนบ่อยๆนี่  หายไปไหนแล้ว - -"""

และ ที่สุดของที่สุดสำหรับค่ำคืนนี้ .. แอชลีย์ ยัง
ยังเป็นคนที่ย้ายมาเล่นวิงแบ็คแล้ว เล่นดีซะยังงั้น  เด่นกว่าฝั่งขวาที่เป็นAVเยอะมาก
วันนี้คะแนนให้เยอะเลยจริงๆ  สมมติว่า ตัดลูกเซฟสุดท้ายไป ผมก็ยังจะชมเค้าอยู่ดี
คือมีส่วนร่วมกับเกมส์เยอะมาก  ทำเรื่องดีๆเยอะมาก
แต่ทำเรื่องXXXก็มีหลายดอกเหมือนกัน
เรื่องการป้องกันนี่ ผมว่าเค้าพยายามนะ แล้วก็ทำได้ดี  มีพลาดนิดหน่อยไม่ว่ากัน
แต่สิ่งที่เด่นคือ เค้าเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ และบาร์ดสลีย์เด็กเก่าเราวันนี้ โดนเทพเผาเครื่องซะไหม้เลย
ทั้งเรื่องการเซฟช็อตสุดท้าย ที่ติดตราตรึงใจเราไปอีกนานแน่นอน แม้จะไม่มีดอกนี้ผมก็ชมเค้าอยู่ดีเกมส์นี้

แฟนผีทุกท่านโปรดสดุดี..

แอชลีย์ยัง เดอะวิงออฟก็อด