สวัสดีครับคุณผู้ฟัง
วันนี้เรามีสายจากทางบ้าน โทรมามีเรื่องเล่าประสบการณ์สยองจาก คุณหนุ่ม
ที่จะมาเล่าเรื่องราวให้เราฟัง ประสบการณ์ที่ว่านี่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆเลย เมื่อวานนะครับตอนตีสาม
เรามาคุยกันกับคุณหนุ่มกันดีกว่าครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้คุณหนุ่มอยู่ในสายกับเราเรียบร้อยแล้ว
สวัสดีครับคุณหนุ่ม
หนุ่ม : แค่กๆ สวัสดีครับพี่ป๋อง
ป๋อง เดอะชัก: คุณหนุ่มเป็นอะไรครับ ไม่สบายรึเปล่า
หนุ่ม : อ๋อ ไม่มีอะไรครับ พอดีสำลักชัยชนะครับ ชนะติดกันมาหลายนัดแล้ว เริ่มชิน :3
ป๋อง เดอะชัก : แหม่ พี่นี่ก็อยากจะสำลักบ้างอะไรบ้าง (แต่เหมือนเวงเกอร์จะไม่เข้าใจ)
วันนี้คุณหนุ่มมีประสบการณ์อะไรจะมาเล่าให้เราฟังครับ
หนุ่ม : (อึกอักๆ) ถ้างั้นเล่าเลยนะครับ
คืองี้ครับ เมื่อคืนผมเพิ่งโดนผีหลอกมาสดๆร้อนๆเลยครับตอนตีสามตีสี่
ขนาดที่ว่าอีกฝ่ายเป็นคุณพระคุณเจ้า เป็นนักบุญก็ไม่เว้นเลยครับ
เรื่อวราวมันเป็นแบบนี้ครับ ผมขอมาถ่ายทอดให้กับรายการ
เดอะชัก โอ้ว้าว เป็นที่แรกเลยนะครับ
คือเริ่มจาก เมื่อคืนเรามีนัดดวลสำคัญนัดนึงของฤดูกาล เมื่อต้องไปเยือนเซาธ์แธมตัน
แต้มห่างกันแค่ปลายจมูก จะบอกว่าไปกลับ6แต้มก็คงได้ ใครชนะนี่แทบจะติดปีกเลย
แถมเป็นเหมือนการวัดศักยภาพทีมด้วยว่า ที่ผ่านมานี่ ของเก๊รึเปล่า ที่ชนะติดๆกันมา
คราวนี้มาเจอทีมระดับหัวตารางของแท้ ฟอร์มการเล่นจะเป็นยังไงบ้าง
ขอพูดถึงเกมส์รับก่อน เริ่มตั้งแต่คนแรกที่ยืนหลังสุด น้องเด ที่ทุกวันนี้ต้องบอกว่า
ช่วยไปอัพค่าเหนื่อยให้น้องมันเถอะครับท่านลอร์ดเอ็ด "วิ่งดิเอ๊ดดดวิ่ง" วูดเวิร์ด
มัดใจผู้เล่นระดับสูงแบบนี้ไว้ให้ได้ เดี๋ยวก็โดนทีมใหญ่เงินถึงเค้ามาคาบไปอีก
ฟอร์มการเล่นระดับนี้ สำคัญทุกนัด มีหายไปแค่เกมส์เดียว
คือเกมส์ที่แมนยูไนเต็ดเล่นดีแล้วคนดูนั่งดูกันสบายๆนี่แหละ นัดเดียวจริงๆ
(น่าเศร้านะนี่ เล่นกันดีๆให้มันสม่ำเสมอได้ม้ายยยยย- -*)
เดเคอา ถึงเวลาที่เป็นลูกชี้เป็นชี้ตาย โดนกระหน่ำแล้วกระหน่ำอีก
ยังคงไว้ใจได้เสมอ ผมมั่นใจว่าถ้าทุกวันนี้ไม่มีน้องเด อันดับเราไม่แจ่มแมวขนาดนี้แน่นอน
ด้วยลีลาการเล่นเกมส์รับที่น่าตื่นตาตื่นใจของกองหลังเรา
(ตื่นตาตื่นใจคือ เล่นแบบ กุต้องตื่นตระหนก ตื่นตกใจอยู่ตลอด ไม่รู้มันจะหลุดมาเมื่อไหร่)
ถ้าไม่มีน้องเด ทีมรับระดับล่กที่เล่นกันแบบนี้ อยู่กลางตารางก็หรูแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่า เราจะสามารถหาตัวแทนของฟานเดอซาร์มาได้เร็วขนาดนี้ โคตรโชคดี
ใช้เวลาปรับตัวแค่ฤดูกาลเดียวจริงๆ หลังจากนั้นมาฟอร์มติดปีกมาตลอด
ถ้าเค้าพูดกันว่ากองหลังปั้นๆ มันแลดูขำนะ แต่มันเป็นเรื่องจริง
เพราะหลังรั่วเราถึงได้เห็นน้องเดเซฟแบบโฉดๆให้ดูอยู่เป็นประจำ ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นเหมือนผม
เวลาแต่ละลูกที่หลุดมา หัวใจเราแทบตกไปตาตุ่ม เสี้ยววินาทีนึงทำใจไปแล้วว่า แมร่งโดนแน่ๆ
แต่เดเคอา เซฟลูกสำคัญๆให้เราตลอด
คือถ้ากองหน้าเป็นคนนำสามแต้มมาให้ทีม
คนที่สำคัญไม่แพ้กับคนยิงในแดนหน้า คือคนที่เซฟลูกสุดท้ายให้ทีมเราไม่เสียประตูนี่แหละ สำคัญไม่ต่างกัน
ถ้าคิดว่าพี่บิ้นหรือรูน คือหัวใจหลักและความหวัง เดเคอาบางทีเป็นยิ่งกว่านั้นอีก
เพราะการยิงได้ มันสำคัญพอๆกับการเซฟไม่ให้เสียประตูเลย
เมื่อคืนลูกที่เสียประตูนั่นมันสุดความสามารถแล้ว
ต่อให้ไปลากชไมเคิลบุฟฟอนเฟรย์ทัฟฟาเรลคัมโปสชิราเวิร์ตยั้นเลฟยาชินมา
โดนปืนใหญ่จ่อหัวระยะเผาขนแบบนั้น ให้ประตูเค้าไปเท้อ
แต่จังหวะอื่นที่สำคัญๆ น้องเดเก็บเรียบ ที่เห็นเลยคือยืนตำแหน่งดีมาก
เวลาลูกมันมาจึงอยู่ในขอบเขตที่สามารถเซฟได้ทัน หรือตรงตัวพอดี
ปฏิกิริยาตอบสนองเร็วสุดๆ ถ้าลูกไม่ได้แรงและพุ่งเล่นทางจริงๆ(เหมือนที่โดนยิงนัดที่แล้ว)
เดเคอาไม่เคยพลาดเลย ดังนั้น นี่เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมเราอย่างแท้จริง
แต่ถ้าจะให้ดี ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนอะไรนี่ ขอเป็นคนอื่นเถอะ อย่าให้น้องมันได้อีกเลย ฮือๆ
แผงกองหลัง อยากบอกว่าเป็นวันวินาศสันตะโรสุดๆ เมื่อเฮียใช้3-5-2อีกแล้ว
เวลาเล่นแผนแบบนี้ทีไร มีอะไรให้ลุ้นสนุกๆทุกที
คือถ้าคิดตามตรรกะธรรมดาแล้ว
ยิ่งมีกองหลังเยอะยิ่งเหนียว ช่วยกันตั้งรับ วิงแบ็คสองตัวลงมาบล็อคริมเส้นให้
ดูแล้วเหมือนจะแข็งปั้กกว่าสูตรแบ็คโฟร์ซะอีก
.. แต่มันไม่ได้เป็นไปตามนั้นน่ะสิ
ปัญหาสำคัญของการใช้แผนนี้คือ หลังสามตัวยังไม่สามารถทำหน้าที่ให้เข้าตามระบบได้อย่างแม่นยำ
สับสนไปหมด ใครเข้าบอลตรงไหน ใครชน ใครรอง ความเข้าใจในระบบยังน้อยอยู่มาก
แม้จะผ่านการเล่นแบบนี้มาตั้งแต่พรีซีซั่นแล้ว จนมาถึงนัดนี้ แฟนบอลก็ยังไม่สามารถไว้ใจแผนนี้ได้นัก
เพราะเหมือนผีเข้าผีออก ดีบ้าง มั่วบ้าง
เมื่อวานสามตัว ขอจิ้มรายตัวเลย เริ่มตั้งแต่น้องแมค
เมื่อวานน้องแมคก่อความผิดพลาด เล่นช้า และก็แลดูขาดความมั่นใจ
แล้วเป็นเกมส์ที่โดนบุกเยอะมาก มาทีนึงเป็นแผงเลย เรียกง่ายๆว่าโดนจนยุบน่ะ
ฟานกัลเห็นแล้วว่าคงเอาไม่อยู่แน่ๆ ถอดเลยทันที ไม่ต้องรอจบครึ่ง คิดแล้วทำเลย
ตรงนี้ผมชอบมากๆ เรื่องการปรับเกมส์แบบทันทีทันใดแบบนี้ ไม่ต้องรอแล้ว
ถ้าเป็นSir Alexก็นู่นครับ ให้โอกาสครึ่งหลังอีกแว้บนึง นาที60ค่อยเปลี่ยนไรงี้ ตามสูตร
มาร์กอสโรโฮ่โฮ่โฮ่โฮ่วววว
เอิ่ม.. คือเมื่อวานเป็นแผงหลังที่น่าตบกะโหลกหลุดที่สุดในโลกแล้ว ผมนี่สบถด่าขึ้นมาเลย
เวลาเล่นหลังสามทีไร โรโฮเป็นงี้ทุกที (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน) คือถ้ายืนเป็นเสาเซ็นเตอร์คู่เนี่ย เล่นดีนะ
แต่พอมาเป็นหลังสาม แกโฉ่งฉ่าง มั่วแบบนี้ทุกที
ผิดสักกี่ครั้งก็ไม่จำ ผิดอยู่อย่างน้านนนน ทรหมานนนน (โปรดเปิดเพลงของTattooประกอบ)
คือเข้าบอลโฉ่งฉ่าง แถมสกัดไม่ขาดสักกะลูก - -*
พยายามจะเติมเกมส์ สร้างเกมส์ขึ้นไปด้วยตัวเอง
แต่คิดช้าจ่ายช้าไปหนึ่งจังหวะ โดนเข้าถึงตัว เสียบอลตลอด
คือตำแหน่งกองหลังถ้าสังเกตดีๆ มันควรเป็นตำแหน่งที่ จ่ายบอลออกบอลกันสบายสุด
ต้องมีพื้นที่เล่นที่ทิ้งระยะห่างกับกองหน้า หรือตัวที่เข้ามาบีบไว้ระยะนึงเลย
ไม่ควรจะเล่นเสี่ยงใดๆทั้งสิ้น ปกติมันควรจะเป็นแบบนั้น
แต่เมื่อคืน โรโฮพยายามจะพาบอลขึ้นมาด้วยตัวเอง และตัวเองก็คิดช้าทำช้า คุมบอลไม่ดี
มาเจอทีมที่เล่นpressingดีมากๆ เข้าถึงตัวในวินาทีที่โรโฮยังหาช่องหาคนที่จะมาจ่ายบอลไม่ได้
ซึ่งอันนี้เป็นปัญหาเวลาเล่นหลังสาม เพราะถ้าเกิดใช้เป็นหลังสอง แล้วมีกลางตัวต่ำคนนึงถอยลงมาช่วย
ปัญหานี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย แต่เมื่อวานใช้เป็นระนาบหลังสามตัวเท่ากันหมด
แล้วกองกลางสองตัวไม่ค่อยมารับบอลต่อจากกองหลัง
ส่งผลให้กองหลังต้องพยายามเล่นเอง ทั้งแมค ทั้งโรโฮ
สุดท้าย การเชื่อมต่อระหว่างกองหลังกับกองกลาง มันเล่นลำบาก
เพราะตัวเชื่อมไม่มี + ตัวเล่นสูงของเซาธ์เล่นดีมาก บี้ยังกะเป็นเกมส์สุดท้ายในชีวิต
แถมมากันทั้งทีม สนามแดนของแมนยู ยังกะสนามเด็กเล่นของเซาธ์แธมตัน
ไม่รู้มาจากไหนกันแดงพรึ่บไปหมด ขึ้นมากันเยอะมาก บีบจริงจังจนเกือบตาย
แถมกองหลังเราสกิลยิ่งดีๆกันอยู่(ประชด) เวลาเจอบีบหนักๆเยอะๆแบบนี้
ไม่เสียบอลไปโดนเดี่ยวกับโกล์ก็บุญมากแล้วเมื่อวาน
กองหลังเราไม่มีความสามารถเอาตัวรอดแบบนั้น สุดท้ายแล้ว คำตอบก็คือคาริคนั่นเอง
พอถอยคาริคไปเล่นเป็นตัวกลางตัวสุดท้าย ถึงหลุดออกจากการโดนเพรสแบบนั้นได้
วิธีแก้ไขการโดนโซนเพรสสูงแบบนี้ คือเพลเยอร์หนึ่งตัวที่มีเซนส์บอลที่สามารถจะเอาตัวรอดจากคู่แข่งที่มาบีบได้
(ถ้าใครเคยอ่านสแลมดังค์ น่าจะจำได้ รอบสองระดับประเทศ โชโฮคุเจอเทคโนซังโนบีบโซนเพรสต้นครึ่งหลังจนเกือบตาย
สุดท้ายต้องพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของมิยางิเลี้ยงกระชากหลุดมาเองคนเดียว ถึงจะทำลายโซนเพรสได้)
และนั่นแหละครับ คาริคจึงกลายเป็นคำตอบของเมื่อวานในแดนหลัง เดี๋ยวค่อยไปชมเฮียเจี๊ยบ
กลับมาด่าโรโฮต่อ
เมื่อวาน พอพยายามจะขึ้นบอลเอง แล้วเสียบอลแล้ว แทนที่จะเข็ด
แมร่มไม่เข็ดครับ - -* มาอีกประมาณสามสี่ครั้ง แล้วเสียบอล โดนจิ้มโดนอัดติดตัวทุกครั้ง
อุ๊แม่เจ้า ทำไมพี่พยายามขนาดนั้น - -"" แทนที่พอรู้แล้วว่าเค้าบีบเร็ว แล้วตัวเองเสียหลายลูกแล้ว
ควรจะเน้นเล่นง่าย หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้ตัวเองไม่ลำบาก อย่าเสียบอล ได้บอลมาก็รีบถ่ายไปง่ายๆ
แต่โรโฮพลาดแล้วพลาดอีก จนไม่รู้จะบอกกล่าวกันยังไง แถมจังหวะป้องกัน คุณพี่ก็เอาไม่ขาดสักกะลูก
ดังนั้นเมื่อวาน ตัวนี้คือหนึ่งในสองตัวที่ผมอยากจะด่าพ่อล่อแม่มากที่สุดตัวนึง - -'
จนถึงตอนนี้ ใกล้ๆจะครึ่งฤดูกาล ผมบอกตามตรงว่า โรโฮยังเป็นตัวที่ผมยังไว้ใจไม่ได้อยู่
ถ้าให้เล่นแบ็ค น่าจะดีกว่า(แต่ไปถามเทพแบคซ้ายเค้าก่อนนะ หึหึ)
หรืออย่างน้อยที่สุดเล่นเซ็นเตอร์ ตอนเล่นหลังตัวกลางสองคน ดูมีภาษีกว่านี้
ถ้าเป็นไปได้ โรโฮกับ จอนนี่อีแวนส์ สองคนนี้ควรจะต้องพัฒนาฟอร์มและแย่งตำแหน่งกันเองมากที่สุด
โดยมีสมอลลิ่งยืนเป็นตัวหลักในแผงหลังของเรา
คือไม่น่าเชื่อว่า เราจะเดินทางมาถึงวันที่สมอลลิ่งกลายเป็นกองหลังที่เราขาดไม่ได้ซะแล้ว
ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ดี ที่นักเตะที่เรามองว่าห่วยแตกไร้อนาคต จะขึ้นมาเป็นตัวที่เราวางใจมากที่สุดในแดนหลัง
ซึ่งจริงๆแล้ว ความผิดพลาดของกองหลัง มันเป็นสิ่งที่เห็นชัดมาก(เกินไป) ซึ่งบางทีมันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่
เพราะสมอลลิ่งที่ผ่านๆมาปีก่อน ก็เป็นนักเตะที่ บทจะดีก็เล่นดี จังหวะคาบลูกคาบดอก บอลโยน เจ้าหมอนี่เก็บดอกสำคัญๆประจำ
แต่พอพลาดที มันเห็นชัดมาก จ่ายบอลง่ายๆก็ไม่ตรง สกัดไม่ขาด เล่นโง่ๆ มันเด่นมากกว่าความดีความชอบที่ทำมาตลอด
มันเลยโดนกระหน่ำเยอะหน่อย แต่ตอนนี้ขาดไม่ได้จริงๆ
และเมื่อวานในที่สุดวันนั้นก็มาถึงจนได้
สมอลลิ่งเจ็บ อันนี้ถือเป็นวิบากกรรมอีกครั้งหนึ่งของแมนยูไนเต็ด สโมสรที่ผลประกอบการดีที่สุดสโมสรหนึ่งในโลก
แต่ไม่มีตังค์จ้างหมอผีหรือนิมนต์พระมาพรมน้ำมนต์ปัดเป่าอาถรรพ์หน่อย ขยันเจ็บกันเหลือเกิน
หรือพวกเอ็งบ้าคอสเพลย์ชุดนางพยาบาลกัน แหม่ สลับเรียงหน้ากันไปนอนทีเดียว โดยเฉพาะแผงหลัง
ก็ได้แต่ภาวนาว่า มันจะไม่หนัก และสมอลลิ่งที่กำลังฟอร์มดีมาก จะรีบกลับมาช่วยทีมได้ในเร็ววัน
น้องอีฟ จอนนี่อีแวนส์ ห่างหายจากเกมส์ไปนานมากเหมือนกัน เมื่อวานจึงยังขอไม่ตำหนิอะไรมาก
เพราะเรื้อสนามนาน หวังว่าจะกลับมาเล่นมั่นใจ และเคาะตะกรัน เคาะสนิมออกให้หมด
เราจะได้มีตัวเลือกแผงหลังที่ไว้ใจได้อีกหนึ่งคน
อีแวนส์มีความแข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ในฐานะกองหลังตัวกลางมาเยอะมากแล้ว
ได้แต่หวังว่า เขาจะกลับมาได้ในเร็ววัน ฟอร์มตอนนี้ก็แย่งตำแหน่งกับโรโฮไปก่อนละกันนะ
ดังนั้น จากที่ได้เห็นกันแล้วว่า แผงหลังของเรานรกลงตับกันขนาดนั้น
ทั้งแมคแนร์ โรโฮ อีฟ และคิงสมอลฯที่เจ็บออกไป
คนที่เป็นฮีโร่ของแผงหลังเมื่อวาน จึงกลายเป็นพี่เจี๊ยบ ไมเคิลคาร์ริก
ตอนแรกก็คิดว่า จะปรับแผนมาเล่นหลังสองคนเหมือนเดิม เห็นเปลี่ยนอาราเร่ลงมา
แต่กลายเป็นว่า ยังเล่นสูตรเดิมอยู่ แล้วโยกคาริคลงมายืนเป็นหลังตัวกลางคนสุดท้ายแทน
ซึ่งไปๆมาๆ คาริคกลายเป็นตัวสำคัญที่สุดของเมื่อวานเลยในเกมส์รับ
เพราะอย่างที่ผมเกริ่นไว้แล้ว กองหลังคนอื่นล่กมากเวลาเจอบีบ ไม่สามารถเอาชนะตัวประกบได้เลย
มีเพียงคาริคคนเดียวที่สามารถเอาตัวรอด และถ่ายบอลต่อให้กองกลางได้
ดังนั้นคนนี้คือหนึ่งในสามทรินิตี้นักเตะสุดสำคัญสามคนของเมื่อวานเลย
โซนเพรสของเซาธ์ พ่ายแพ้ให้กับคาริคคนนี้แหละที่ฉีกตัววิ่งไล่ของนักบุญเป็นชิ้นๆเลย
มาบีบกันไวขนาดไหนก็ชนะปลัดของพวกเราไม่ได้ เซนส์บอลดีมากๆจริงๆ
ปิดทองหลังพระของแท้
คือไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย จืดจางซะจนเกือบจะมองไม่เห็น
แต่ถ้าโฟกัสการเล่นของเค้าดีๆ ทุกการเคลื่อนไหว
การหาตำแหน่งรับบอลจากเพื่อน การออกบอลให้เพื่อนเล่นง่าย
มันสำคัญยิ่งกว่าอะไรในแดนหลังจริงๆ ไม่งั้นเราคงได้แต่เตะโด่งยาวๆสาดไปข้างหน้าแล้วลุ้นให้กองหน้าเก็บบอลให้ได้
คาริคไม่เคยวิ่งพล่านให้เราเห็น แต่เคลื่อนไหวเท่าที่จำเป็นไปอยู่ในตำแหน่งที่เป็นประโยชน์กับเพื่อน
เวลาเล่นบอลมีเพื่อนแบบนี้ รักตายเลย ตัวที่คอยหาตำแหน่งมารอรับบอลจากเราเสมอๆ
ดังนั้น 1ใน3นักเตะยอดเยี่ยมของแมตช์เมื่อวาน ผมให้คาริค
เล่าต่อเบรกหน้านะครับพี่ป๋อง
ศาลาผี ตอน วิหคเพลิงรัตติกาล กับลูกยิงสามานย์ทะลวงทวารคณะนักบุญ [Southampton 1 : 2 Manchester United ]
วันนี้เรามีสายจากทางบ้าน โทรมามีเรื่องเล่าประสบการณ์สยองจาก คุณหนุ่ม
ที่จะมาเล่าเรื่องราวให้เราฟัง ประสบการณ์ที่ว่านี่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆเลย เมื่อวานนะครับตอนตีสาม
เรามาคุยกันกับคุณหนุ่มกันดีกว่าครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้คุณหนุ่มอยู่ในสายกับเราเรียบร้อยแล้ว
สวัสดีครับคุณหนุ่ม
หนุ่ม : แค่กๆ สวัสดีครับพี่ป๋อง
ป๋อง เดอะชัก: คุณหนุ่มเป็นอะไรครับ ไม่สบายรึเปล่า
หนุ่ม : อ๋อ ไม่มีอะไรครับ พอดีสำลักชัยชนะครับ ชนะติดกันมาหลายนัดแล้ว เริ่มชิน :3
ป๋อง เดอะชัก : แหม่ พี่นี่ก็อยากจะสำลักบ้างอะไรบ้าง (แต่เหมือนเวงเกอร์จะไม่เข้าใจ)
วันนี้คุณหนุ่มมีประสบการณ์อะไรจะมาเล่าให้เราฟังครับ
หนุ่ม : (อึกอักๆ) ถ้างั้นเล่าเลยนะครับ
คืองี้ครับ เมื่อคืนผมเพิ่งโดนผีหลอกมาสดๆร้อนๆเลยครับตอนตีสามตีสี่
ขนาดที่ว่าอีกฝ่ายเป็นคุณพระคุณเจ้า เป็นนักบุญก็ไม่เว้นเลยครับ
เรื่อวราวมันเป็นแบบนี้ครับ ผมขอมาถ่ายทอดให้กับรายการ เดอะชัก โอ้ว้าว เป็นที่แรกเลยนะครับ
คือเริ่มจาก เมื่อคืนเรามีนัดดวลสำคัญนัดนึงของฤดูกาล เมื่อต้องไปเยือนเซาธ์แธมตัน
แต้มห่างกันแค่ปลายจมูก จะบอกว่าไปกลับ6แต้มก็คงได้ ใครชนะนี่แทบจะติดปีกเลย
แถมเป็นเหมือนการวัดศักยภาพทีมด้วยว่า ที่ผ่านมานี่ ของเก๊รึเปล่า ที่ชนะติดๆกันมา
คราวนี้มาเจอทีมระดับหัวตารางของแท้ ฟอร์มการเล่นจะเป็นยังไงบ้าง
ขอพูดถึงเกมส์รับก่อน เริ่มตั้งแต่คนแรกที่ยืนหลังสุด น้องเด ที่ทุกวันนี้ต้องบอกว่า
ช่วยไปอัพค่าเหนื่อยให้น้องมันเถอะครับท่านลอร์ดเอ็ด "วิ่งดิเอ๊ดดดวิ่ง" วูดเวิร์ด
มัดใจผู้เล่นระดับสูงแบบนี้ไว้ให้ได้ เดี๋ยวก็โดนทีมใหญ่เงินถึงเค้ามาคาบไปอีก
ฟอร์มการเล่นระดับนี้ สำคัญทุกนัด มีหายไปแค่เกมส์เดียว
คือเกมส์ที่แมนยูไนเต็ดเล่นดีแล้วคนดูนั่งดูกันสบายๆนี่แหละ นัดเดียวจริงๆ
(น่าเศร้านะนี่ เล่นกันดีๆให้มันสม่ำเสมอได้ม้ายยยยย- -*)
เดเคอา ถึงเวลาที่เป็นลูกชี้เป็นชี้ตาย โดนกระหน่ำแล้วกระหน่ำอีก
ยังคงไว้ใจได้เสมอ ผมมั่นใจว่าถ้าทุกวันนี้ไม่มีน้องเด อันดับเราไม่แจ่มแมวขนาดนี้แน่นอน
ด้วยลีลาการเล่นเกมส์รับที่น่าตื่นตาตื่นใจของกองหลังเรา
(ตื่นตาตื่นใจคือ เล่นแบบ กุต้องตื่นตระหนก ตื่นตกใจอยู่ตลอด ไม่รู้มันจะหลุดมาเมื่อไหร่)
ถ้าไม่มีน้องเด ทีมรับระดับล่กที่เล่นกันแบบนี้ อยู่กลางตารางก็หรูแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่า เราจะสามารถหาตัวแทนของฟานเดอซาร์มาได้เร็วขนาดนี้ โคตรโชคดี
ใช้เวลาปรับตัวแค่ฤดูกาลเดียวจริงๆ หลังจากนั้นมาฟอร์มติดปีกมาตลอด
ถ้าเค้าพูดกันว่ากองหลังปั้นๆ มันแลดูขำนะ แต่มันเป็นเรื่องจริง
เพราะหลังรั่วเราถึงได้เห็นน้องเดเซฟแบบโฉดๆให้ดูอยู่เป็นประจำ ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นเหมือนผม
เวลาแต่ละลูกที่หลุดมา หัวใจเราแทบตกไปตาตุ่ม เสี้ยววินาทีนึงทำใจไปแล้วว่า แมร่งโดนแน่ๆ
แต่เดเคอา เซฟลูกสำคัญๆให้เราตลอด
คือถ้ากองหน้าเป็นคนนำสามแต้มมาให้ทีม
คนที่สำคัญไม่แพ้กับคนยิงในแดนหน้า คือคนที่เซฟลูกสุดท้ายให้ทีมเราไม่เสียประตูนี่แหละ สำคัญไม่ต่างกัน
ถ้าคิดว่าพี่บิ้นหรือรูน คือหัวใจหลักและความหวัง เดเคอาบางทีเป็นยิ่งกว่านั้นอีก
เพราะการยิงได้ มันสำคัญพอๆกับการเซฟไม่ให้เสียประตูเลย
เมื่อคืนลูกที่เสียประตูนั่นมันสุดความสามารถแล้ว
ต่อให้ไปลากชไมเคิลบุฟฟอนเฟรย์ทัฟฟาเรลคัมโปสชิราเวิร์ตยั้นเลฟยาชินมา
โดนปืนใหญ่จ่อหัวระยะเผาขนแบบนั้น ให้ประตูเค้าไปเท้อ
แต่จังหวะอื่นที่สำคัญๆ น้องเดเก็บเรียบ ที่เห็นเลยคือยืนตำแหน่งดีมาก
เวลาลูกมันมาจึงอยู่ในขอบเขตที่สามารถเซฟได้ทัน หรือตรงตัวพอดี
ปฏิกิริยาตอบสนองเร็วสุดๆ ถ้าลูกไม่ได้แรงและพุ่งเล่นทางจริงๆ(เหมือนที่โดนยิงนัดที่แล้ว)
เดเคอาไม่เคยพลาดเลย ดังนั้น นี่เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมเราอย่างแท้จริง
แต่ถ้าจะให้ดี ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนอะไรนี่ ขอเป็นคนอื่นเถอะ อย่าให้น้องมันได้อีกเลย ฮือๆ
แผงกองหลัง อยากบอกว่าเป็นวันวินาศสันตะโรสุดๆ เมื่อเฮียใช้3-5-2อีกแล้ว
เวลาเล่นแผนแบบนี้ทีไร มีอะไรให้ลุ้นสนุกๆทุกที
คือถ้าคิดตามตรรกะธรรมดาแล้ว
ยิ่งมีกองหลังเยอะยิ่งเหนียว ช่วยกันตั้งรับ วิงแบ็คสองตัวลงมาบล็อคริมเส้นให้
ดูแล้วเหมือนจะแข็งปั้กกว่าสูตรแบ็คโฟร์ซะอีก
.. แต่มันไม่ได้เป็นไปตามนั้นน่ะสิ
ปัญหาสำคัญของการใช้แผนนี้คือ หลังสามตัวยังไม่สามารถทำหน้าที่ให้เข้าตามระบบได้อย่างแม่นยำ
สับสนไปหมด ใครเข้าบอลตรงไหน ใครชน ใครรอง ความเข้าใจในระบบยังน้อยอยู่มาก
แม้จะผ่านการเล่นแบบนี้มาตั้งแต่พรีซีซั่นแล้ว จนมาถึงนัดนี้ แฟนบอลก็ยังไม่สามารถไว้ใจแผนนี้ได้นัก
เพราะเหมือนผีเข้าผีออก ดีบ้าง มั่วบ้าง
เมื่อวานสามตัว ขอจิ้มรายตัวเลย เริ่มตั้งแต่น้องแมค
เมื่อวานน้องแมคก่อความผิดพลาด เล่นช้า และก็แลดูขาดความมั่นใจ
แล้วเป็นเกมส์ที่โดนบุกเยอะมาก มาทีนึงเป็นแผงเลย เรียกง่ายๆว่าโดนจนยุบน่ะ
ฟานกัลเห็นแล้วว่าคงเอาไม่อยู่แน่ๆ ถอดเลยทันที ไม่ต้องรอจบครึ่ง คิดแล้วทำเลย
ตรงนี้ผมชอบมากๆ เรื่องการปรับเกมส์แบบทันทีทันใดแบบนี้ ไม่ต้องรอแล้ว
ถ้าเป็นSir Alexก็นู่นครับ ให้โอกาสครึ่งหลังอีกแว้บนึง นาที60ค่อยเปลี่ยนไรงี้ ตามสูตร
มาร์กอสโรโฮ่โฮ่โฮ่โฮ่วววว
เอิ่ม.. คือเมื่อวานเป็นแผงหลังที่น่าตบกะโหลกหลุดที่สุดในโลกแล้ว ผมนี่สบถด่าขึ้นมาเลย
เวลาเล่นหลังสามทีไร โรโฮเป็นงี้ทุกที (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน) คือถ้ายืนเป็นเสาเซ็นเตอร์คู่เนี่ย เล่นดีนะ
แต่พอมาเป็นหลังสาม แกโฉ่งฉ่าง มั่วแบบนี้ทุกที
ผิดสักกี่ครั้งก็ไม่จำ ผิดอยู่อย่างน้านนนน ทรหมานนนน (โปรดเปิดเพลงของTattooประกอบ)
คือเข้าบอลโฉ่งฉ่าง แถมสกัดไม่ขาดสักกะลูก - -*
พยายามจะเติมเกมส์ สร้างเกมส์ขึ้นไปด้วยตัวเอง
แต่คิดช้าจ่ายช้าไปหนึ่งจังหวะ โดนเข้าถึงตัว เสียบอลตลอด
คือตำแหน่งกองหลังถ้าสังเกตดีๆ มันควรเป็นตำแหน่งที่ จ่ายบอลออกบอลกันสบายสุด
ต้องมีพื้นที่เล่นที่ทิ้งระยะห่างกับกองหน้า หรือตัวที่เข้ามาบีบไว้ระยะนึงเลย
ไม่ควรจะเล่นเสี่ยงใดๆทั้งสิ้น ปกติมันควรจะเป็นแบบนั้น
แต่เมื่อคืน โรโฮพยายามจะพาบอลขึ้นมาด้วยตัวเอง และตัวเองก็คิดช้าทำช้า คุมบอลไม่ดี
มาเจอทีมที่เล่นpressingดีมากๆ เข้าถึงตัวในวินาทีที่โรโฮยังหาช่องหาคนที่จะมาจ่ายบอลไม่ได้
ซึ่งอันนี้เป็นปัญหาเวลาเล่นหลังสาม เพราะถ้าเกิดใช้เป็นหลังสอง แล้วมีกลางตัวต่ำคนนึงถอยลงมาช่วย
ปัญหานี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย แต่เมื่อวานใช้เป็นระนาบหลังสามตัวเท่ากันหมด
แล้วกองกลางสองตัวไม่ค่อยมารับบอลต่อจากกองหลัง
ส่งผลให้กองหลังต้องพยายามเล่นเอง ทั้งแมค ทั้งโรโฮ
สุดท้าย การเชื่อมต่อระหว่างกองหลังกับกองกลาง มันเล่นลำบาก
เพราะตัวเชื่อมไม่มี + ตัวเล่นสูงของเซาธ์เล่นดีมาก บี้ยังกะเป็นเกมส์สุดท้ายในชีวิต
แถมมากันทั้งทีม สนามแดนของแมนยู ยังกะสนามเด็กเล่นของเซาธ์แธมตัน
ไม่รู้มาจากไหนกันแดงพรึ่บไปหมด ขึ้นมากันเยอะมาก บีบจริงจังจนเกือบตาย
แถมกองหลังเราสกิลยิ่งดีๆกันอยู่(ประชด) เวลาเจอบีบหนักๆเยอะๆแบบนี้
ไม่เสียบอลไปโดนเดี่ยวกับโกล์ก็บุญมากแล้วเมื่อวาน
กองหลังเราไม่มีความสามารถเอาตัวรอดแบบนั้น สุดท้ายแล้ว คำตอบก็คือคาริคนั่นเอง
พอถอยคาริคไปเล่นเป็นตัวกลางตัวสุดท้าย ถึงหลุดออกจากการโดนเพรสแบบนั้นได้
วิธีแก้ไขการโดนโซนเพรสสูงแบบนี้ คือเพลเยอร์หนึ่งตัวที่มีเซนส์บอลที่สามารถจะเอาตัวรอดจากคู่แข่งที่มาบีบได้
(ถ้าใครเคยอ่านสแลมดังค์ น่าจะจำได้ รอบสองระดับประเทศ โชโฮคุเจอเทคโนซังโนบีบโซนเพรสต้นครึ่งหลังจนเกือบตาย
สุดท้ายต้องพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของมิยางิเลี้ยงกระชากหลุดมาเองคนเดียว ถึงจะทำลายโซนเพรสได้)
และนั่นแหละครับ คาริคจึงกลายเป็นคำตอบของเมื่อวานในแดนหลัง เดี๋ยวค่อยไปชมเฮียเจี๊ยบ
กลับมาด่าโรโฮต่อ
เมื่อวาน พอพยายามจะขึ้นบอลเอง แล้วเสียบอลแล้ว แทนที่จะเข็ด
แมร่มไม่เข็ดครับ - -* มาอีกประมาณสามสี่ครั้ง แล้วเสียบอล โดนจิ้มโดนอัดติดตัวทุกครั้ง
อุ๊แม่เจ้า ทำไมพี่พยายามขนาดนั้น - -"" แทนที่พอรู้แล้วว่าเค้าบีบเร็ว แล้วตัวเองเสียหลายลูกแล้ว
ควรจะเน้นเล่นง่าย หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้ตัวเองไม่ลำบาก อย่าเสียบอล ได้บอลมาก็รีบถ่ายไปง่ายๆ
แต่โรโฮพลาดแล้วพลาดอีก จนไม่รู้จะบอกกล่าวกันยังไง แถมจังหวะป้องกัน คุณพี่ก็เอาไม่ขาดสักกะลูก
ดังนั้นเมื่อวาน ตัวนี้คือหนึ่งในสองตัวที่ผมอยากจะด่าพ่อล่อแม่มากที่สุดตัวนึง - -'
จนถึงตอนนี้ ใกล้ๆจะครึ่งฤดูกาล ผมบอกตามตรงว่า โรโฮยังเป็นตัวที่ผมยังไว้ใจไม่ได้อยู่
ถ้าให้เล่นแบ็ค น่าจะดีกว่า(แต่ไปถามเทพแบคซ้ายเค้าก่อนนะ หึหึ)
หรืออย่างน้อยที่สุดเล่นเซ็นเตอร์ ตอนเล่นหลังตัวกลางสองคน ดูมีภาษีกว่านี้
ถ้าเป็นไปได้ โรโฮกับ จอนนี่อีแวนส์ สองคนนี้ควรจะต้องพัฒนาฟอร์มและแย่งตำแหน่งกันเองมากที่สุด
โดยมีสมอลลิ่งยืนเป็นตัวหลักในแผงหลังของเรา
คือไม่น่าเชื่อว่า เราจะเดินทางมาถึงวันที่สมอลลิ่งกลายเป็นกองหลังที่เราขาดไม่ได้ซะแล้ว
ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ดี ที่นักเตะที่เรามองว่าห่วยแตกไร้อนาคต จะขึ้นมาเป็นตัวที่เราวางใจมากที่สุดในแดนหลัง
ซึ่งจริงๆแล้ว ความผิดพลาดของกองหลัง มันเป็นสิ่งที่เห็นชัดมาก(เกินไป) ซึ่งบางทีมันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่
เพราะสมอลลิ่งที่ผ่านๆมาปีก่อน ก็เป็นนักเตะที่ บทจะดีก็เล่นดี จังหวะคาบลูกคาบดอก บอลโยน เจ้าหมอนี่เก็บดอกสำคัญๆประจำ
แต่พอพลาดที มันเห็นชัดมาก จ่ายบอลง่ายๆก็ไม่ตรง สกัดไม่ขาด เล่นโง่ๆ มันเด่นมากกว่าความดีความชอบที่ทำมาตลอด
มันเลยโดนกระหน่ำเยอะหน่อย แต่ตอนนี้ขาดไม่ได้จริงๆ
และเมื่อวานในที่สุดวันนั้นก็มาถึงจนได้
สมอลลิ่งเจ็บ อันนี้ถือเป็นวิบากกรรมอีกครั้งหนึ่งของแมนยูไนเต็ด สโมสรที่ผลประกอบการดีที่สุดสโมสรหนึ่งในโลก
แต่ไม่มีตังค์จ้างหมอผีหรือนิมนต์พระมาพรมน้ำมนต์ปัดเป่าอาถรรพ์หน่อย ขยันเจ็บกันเหลือเกิน
หรือพวกเอ็งบ้าคอสเพลย์ชุดนางพยาบาลกัน แหม่ สลับเรียงหน้ากันไปนอนทีเดียว โดยเฉพาะแผงหลัง
ก็ได้แต่ภาวนาว่า มันจะไม่หนัก และสมอลลิ่งที่กำลังฟอร์มดีมาก จะรีบกลับมาช่วยทีมได้ในเร็ววัน
น้องอีฟ จอนนี่อีแวนส์ ห่างหายจากเกมส์ไปนานมากเหมือนกัน เมื่อวานจึงยังขอไม่ตำหนิอะไรมาก
เพราะเรื้อสนามนาน หวังว่าจะกลับมาเล่นมั่นใจ และเคาะตะกรัน เคาะสนิมออกให้หมด
เราจะได้มีตัวเลือกแผงหลังที่ไว้ใจได้อีกหนึ่งคน
อีแวนส์มีความแข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ในฐานะกองหลังตัวกลางมาเยอะมากแล้ว
ได้แต่หวังว่า เขาจะกลับมาได้ในเร็ววัน ฟอร์มตอนนี้ก็แย่งตำแหน่งกับโรโฮไปก่อนละกันนะ
ดังนั้น จากที่ได้เห็นกันแล้วว่า แผงหลังของเรานรกลงตับกันขนาดนั้น
ทั้งแมคแนร์ โรโฮ อีฟ และคิงสมอลฯที่เจ็บออกไป
คนที่เป็นฮีโร่ของแผงหลังเมื่อวาน จึงกลายเป็นพี่เจี๊ยบ ไมเคิลคาร์ริก
ตอนแรกก็คิดว่า จะปรับแผนมาเล่นหลังสองคนเหมือนเดิม เห็นเปลี่ยนอาราเร่ลงมา
แต่กลายเป็นว่า ยังเล่นสูตรเดิมอยู่ แล้วโยกคาริคลงมายืนเป็นหลังตัวกลางคนสุดท้ายแทน
ซึ่งไปๆมาๆ คาริคกลายเป็นตัวสำคัญที่สุดของเมื่อวานเลยในเกมส์รับ
เพราะอย่างที่ผมเกริ่นไว้แล้ว กองหลังคนอื่นล่กมากเวลาเจอบีบ ไม่สามารถเอาชนะตัวประกบได้เลย
มีเพียงคาริคคนเดียวที่สามารถเอาตัวรอด และถ่ายบอลต่อให้กองกลางได้
ดังนั้นคนนี้คือหนึ่งในสามทรินิตี้นักเตะสุดสำคัญสามคนของเมื่อวานเลย
โซนเพรสของเซาธ์ พ่ายแพ้ให้กับคาริคคนนี้แหละที่ฉีกตัววิ่งไล่ของนักบุญเป็นชิ้นๆเลย
มาบีบกันไวขนาดไหนก็ชนะปลัดของพวกเราไม่ได้ เซนส์บอลดีมากๆจริงๆ
ปิดทองหลังพระของแท้
คือไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย จืดจางซะจนเกือบจะมองไม่เห็น
แต่ถ้าโฟกัสการเล่นของเค้าดีๆ ทุกการเคลื่อนไหว
การหาตำแหน่งรับบอลจากเพื่อน การออกบอลให้เพื่อนเล่นง่าย
มันสำคัญยิ่งกว่าอะไรในแดนหลังจริงๆ ไม่งั้นเราคงได้แต่เตะโด่งยาวๆสาดไปข้างหน้าแล้วลุ้นให้กองหน้าเก็บบอลให้ได้
คาริคไม่เคยวิ่งพล่านให้เราเห็น แต่เคลื่อนไหวเท่าที่จำเป็นไปอยู่ในตำแหน่งที่เป็นประโยชน์กับเพื่อน
เวลาเล่นบอลมีเพื่อนแบบนี้ รักตายเลย ตัวที่คอยหาตำแหน่งมารอรับบอลจากเราเสมอๆ
ดังนั้น 1ใน3นักเตะยอดเยี่ยมของแมตช์เมื่อวาน ผมให้คาริค
เล่าต่อเบรกหน้านะครับพี่ป๋อง