The Master: จุดสูงสุดจนถึงวันร่วงโรยของร้านแว่น แต่เป็นจุดกำเนิดความรุ่งโรจน์ของคนดูหนังเมืองไทย

หลายคนรับรู้ว่า The Master คือสารคดีที่พูดถึง "ร้านแว่นวีดีโอ" จนอาจจะเกิดคำถามในใจว่าถ้าเราไม่มีความผูกพันใด ๆ กับร้านขายหนังร้านนี้จะสามารถชมหนังสารคดีเรื่องนี้ได้หรือไม่ คำตอบคือ "ได้" อย่างแน่นอนครับ



แม้หน้าหนังจะหยิบเอานักวิจารณ์หนังและอาจารย์ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ตลอดจนผู้กำกับหนังของเมืองไทยมาสัมภาษณ์ปอกเปลือกถึงร้านแว่นวีดีโอ แต่ลึก ๆ แล้วสารที่พวกเขาสื่อออกมามันคือการพูดถึงวันดอกไม้ผลิบานของวงการหนังนอกกระแสเมืองไทย จากวันที่เรามีแต่หนังจากฮอลลีวูดให้ได้ชมกันในโรงภาพยนตร์ซ้ำไปซ้ำมา คนดูหนังจำนวนมากก็รู้จักหนังดีอยู่แค่หนังรางวัลออสการ์ The Deer Hunter สุดยอด Apocalypse Now สุดยอด พวกเขาไม่ได้หลุดพ้นจากอิทธิพลและวัฒนธรรมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ประเทศสหรัฐอเมริกา คนดูหนังต่างรู้จักหนังนอกกระแสแค่เพียงจากปลายปากกาของนักเขียนคอลัมน์นิตยสาร โดยที่ไม่รู้จะไปหาชมจากไหน จนกระทั่งการมาของร้านแว่นวีดีโอ

ความยากลำบากในการสรรหาหนังสักเรื่องมาชม มันค่อย ๆ ลดลงตามเทคโนโลยีที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงทุกยุคสมัย จากเดิมที่การชมหนังสักเรื่องจำกัดอยู่แค่การออกไปชมในโรงภาพยนตร์ จนกระทั่งการมาของโทรทัศน์ที่ก่อให้เกิดบทบาทของการนำหนังไปกระจายภาพและเสียงให้ผู้ชมสามารถชมในบ้าน เข้าสู่ยุคที่มีการบันทึกหนังเป็นม้วนวีดีโอที่ก๊อปปี้ได้ยากลำบาก ยิ่งเมื่อผนวกเข้ากับการมีสถานะเป็นหนังนอกกระแสยิ่งทำให้การจะหาหนังนอกฮอลลีวูดมาชมเป็นเรื่องที่ยากลำบากยิ่ง แต่ร้านแว่นวีดีโอจับตลาดกลุ่มนี้อยู่หมัดตั้งแต่ปีพ.ศ. 2540 ด้วยการสรรหาหนังนอกกระแสมาทำซับไทยขายในราคาไม่แพง



เราอาจจะสงสัยถึงสถานะของร้านแว่นวีดีโอว่าเขาเป็นพ่อพระของคนรักหนังหรือเปล่า ถึงแม้คำตอบมันเด่นชัดแต่แรกแล้วว่าเขาทำก๊อปปี้หนังวีดีโอเชิงพาณิชย์มาตั้งแต่ให้เช่าหนังจนถึงวันที่เริ่มเปิดร้านขายหนังเป็นจริงเป็นจัง ในแง่มุมหนึ่งเขาคือปีศาจร้ายที่สูบเลือดเนื้อคนโหยหาหนังนอกกระแส แม้คุณอาจจะเห็นแย้งในใจว่าราคาสินค้าของเขาเหมาะสมและจัดทำตัวสินค้าได้น่าซื้อ ทั้งการแปะชื่อผู้กำกับ รวมถึงบทวิจารณ์/รีวิวหนังสั้น ๆ หลังม้วนวีดีโอ แต่ในอีกแง่มุมเราก็ต้องยอมรับโดยดุษฎีว่าการถือกำเนิดปีศาจร้ายตนนี้ก่อให้เกิดยุคเฟื่องฟูของคนดูหนังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จนเราต้องวัดตราชั่งศีลธรรมในจิตใจว่าเขาคือปีศาจร้ายหรือพ่อพระสำหรับวงการหนังกันแน่

แน่นอนว่าสำหรับคนดูหนังที่โหยหาหนังนอกกระแสฮอลลีวูดและไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองย่อมมองว่าเขาคือพระผู้มาโปรดทางสว่าง เป็นพ่อค้าผู้เปิดโลกทัศน์ของการดูหนัง จากวันที่รู้จักแต่ The Godfather กับ The Sound of Music รู้จักผู้กำกับแค่ สตีเฟน สปีลเบิร์ก และ บิลลี่ ไวล์เดอร์ ก็ได้มารู้จักหนังยุโรปเช่น Breathless ได้ศึกษาการกำกับแนวทางใหม่ ๆ ของ ฌอง ลุค โกดาร์ด ได้ดูผลงานของ ฟรังซัวร์ ทรุฟโฟต์ ตลอดจนถึงการบูมของหนังหว่อง กา ไวและสตูดิโอจิบลิที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยด้วยการนำเข้าของร้านแว่นวีดีโอ



ถึงกระนั้นธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาลให้ร้านแว่นวีดีโอก็ต้องถึงจุดที่ปรับตัวทางการตลาดให้เปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยีไม่ทัน การมาของแผ่น DVD อาจจะทำให้ร้านแว่นวีดีโอก๊อปปี้หนังได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่เหรียญอีกด้านก็ทำให้ร้านอื่น ๆ ก๊อปปี้แผ่นหนังของร้านแว่นไปขายได้โดยง่ายเช่นกัน ยิ่งเมื่อรวมเข้ากับการพัฒนาความเร็วอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยยิ่งทำให้การหาหนังมาชมสักเรื่องเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งขึ้นเพียงแค่หาโหลดจากในเน็ต ซึ่งนำมาสู่การล่มสลายของร้านแว่นวีดีโอ

แต่คุณูปการที่ร้านแว่นวีดีโอได้ทิ้งเอาไว้แก่วงการหนังประเทศไทยก็คืออิทธิพลตลอดจนแรงบันดาลใจมากมาย ทั้งแก่นักวิจารณ์หนัง นักเรียนหนังที่ได้เริ่มต้นขวนขวายศึกษาหนังนอกกระแส คนดูหนังที่ได้ค้นหารสนิยมของตัวเองว่าแท้จริงแล้วอาจจะมีความชอบนอกเหนือไปจากหนังตลาดหรือหนังรางวัลออสการ์ แม้แต่ผู้กำกับหนังไทยยังรับอิทธิพลการกำกับหนังจากการดูหนังที่ร้านแว่นวีดีโอจัดจำหน่าย

มีต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่